อธิษฐานสลับรัก
ณิชารีย์ สาวอวบเกินพิกัด เธอทำงานอยู่ในบริษัทกาแฟลดน้ำหนักที่มีแต่สาวๆ หุ่นดี ผอมเพรียวด้วยกันทั้งนั้น
ขณะที่เธอกับเพื่อนซี้ เป็นจุดด้อยของบริษัท
วันหนึ่งเมื่อเพื่อนรัก ชวนกันไปที่ศาลเจ้าแม่มุ่ยเฮียง
คำอธิษฐานแบบส่งๆ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น เธอกลายเป็นสาวสวยหุ่นดี
พรแบบพิลึกๆ จะช่วยทำให้เธอได้พบกับเนื้อคู่ตัวจริงได้หรือไม่ มาลองลุ้นกัน
ขณะที่เธอกับเพื่อนซี้ เป็นจุดด้อยของบริษัท
วันหนึ่งเมื่อเพื่อนรัก ชวนกันไปที่ศาลเจ้าแม่มุ่ยเฮียง
คำอธิษฐานแบบส่งๆ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น เธอกลายเป็นสาวสวยหุ่นดี
พรแบบพิลึกๆ จะช่วยทำให้เธอได้พบกับเนื้อคู่ตัวจริงได้หรือไม่ มาลองลุ้นกัน
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ ๒ หัวหน้าคนใหม่ 70%
บทที่ ๒ หัวหน้าคนใหม่
การประชุมวาระพิเศษของบริษัทเป็นไปอย่างเคร่งเครียด แม้กาแฟสลิมเชพจะเป็นกาแฟลดน้ำหนักยี่ห้อแรกที่ก้าวเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยและได้รับความนิยมสูงสุด แต่ตอนนี้ธุรกิจกาแฟไม่ได้มีแค่บริษัทเดียว
ในตลาดมีกาแฟลดน้ำหนักยี่ห้อต่างๆ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด หลายบริษัทแข่งกันลดราคา แข่งกันหาโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย สลิมเชพเปิดตัวสะท้านวงการเมื่อหกปีก่อน ตามด้วยการเพิ่มขึ้นของยอดขายมากว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ในหกเดือนแรกที่เปิดตัว ก็มีกาแฟเลียนแบบเกิดขึ้นอีกหลายชนิด
กาแฟลดน้ำหนักทุกชนิดล้วนแต่มีจุดประสงค์ให้ผู้บริโภคกินแล้วหุ่นดี ผอมเพรียวและที่สำคัญต้องผอมนานและไม่มีการกระเด้งคืนของน้ำหนักที่เรียกว่า โยโย่เอฟเฟค ณิชารีย์รู้ดีว่า การที่คนๆ หนึ่งจะลดน้ำหนักได้นั้น คงไม่ได้มาจากการดื่มกาแฟแต่เพียงอย่างเดียวแน่
ร่างกายคนเราก็เหมือนกล่องหนึ่งใบ ในแต่ละวันจะมีการใช้พลังงานไปในการทำกิจวัตรประจำวันไปเป็นจำนวนคงที่ ถ้าเราบริโภคอาหารได้แคลอรี่เท่ากับที่ใช้ น้ำหนักก็จะคงที่แต่ถ้ามากกว่าก็จะมีส่วนเกินสะสมเกิดขึ้นแน่นอน
ดังนั้นผู้หญิงที่ต้องการจะลดน้ำหนักต้องมีการคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันและจำกัดอาหารเพื่อให้ได้แคลอรี่เพียงพอแต่ไม่เกิน อีกทั้งยังต้องหาทางเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกาย มีการศึกษาพบว่า การเสริมสร้างกล้ามเนื้อจะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มมากขึ้นในช่วงพัก แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนทำงานในออฟฟิศ ขาดการออกกำลังกายและบริโภคแต่อาหารจานด่วนทำให้ปริมาณไขมันพุ่งทะลุเพดานส่งผลให้เกิดโรคอ้วนตามมา
กาแฟลดน้ำหนักเข้ามาตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องการทางลัดเพื่อให้ผอม โดยสลิมเชพเป็นเจ้าแรกในตลาด โดยมีต้นกำเนิดมาจากคุณพริตาซึ่งได้สูตรกาแฟลดน้ำหนักมาจากญาติคนหนึ่ง อาศัยสมุนไพรจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ผนวกกับสารสกัดบางอย่างเพื่อลดการดูดซึมและดักจับไขมันทำให้ผู้ที่ดื่มกาแฟมีน้ำหนักลดลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอาศัยการควบคุมอาหารร่วมด้วย
ณิชารีย์เข้ามาทำงานในบริษัทเมื่อห้าปีก่อน เพราะชื่นชอบในทัศนคติของซีอีโอของบริษัท ที่แม้ว่า จะเจอกับคู่แข่งหลายยี่ห้อ แต่ไม่เคยลดคุณภาพของกาแฟลง อีกทั้งยังไม่เติมส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างที่หลายบริษัทนิยมทำกัน ตลอดเวลาที่ทำงานพริตาเป็นผู้บริหารที่รับฟังความเห็นของลูกน้องทำให้ได้ใจณิชารีย์ไปเต็มๆ หล่อนจึงใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท
แคมเปญแรกเริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว สลิมเชพท้าให้ผู้บริโภคร่วมแข่งขันลดน้ำหนักภายในสองเดือนโดยมอบกาแฟให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดยี่สิบคนได้ทดลองฟรี หลังจากนั้นก็ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละคนผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนโพสต์โชว์ความผอมเพรียวทางเฟซบุ๊กของบริษัท ส่งผลให้คนหันมาสนใจกาแฟที่คุณภาพมากกว่า ราคาถูก
หลังจากจบแคมเปญยอดขายก็พุ่งขึ้นสูงกว่าเดิมเท่าตัว สลิมเชพไม่ยอมหยุดนิ่ง ปล่อยโครงการสำหรับคุณแม่อายุสามสิบอัพ หลังคลอดบุตรและต้องการลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน ผลการตอบรับดีเยี่ยมอีกเช่นเคย แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของสาวร่างอวบแทบทั้งสิ้น
“อย่างที่ทุกคนคงทราบกันว่า ไตรมาสที่ผ่านมายอดขายของสลิมเชพลดลงมาก ในขณะที่ยอดขายของเนเจอร์สลิมเพิ่มขึ้นหลายเท่า”
ต้นเหตุเป็นเพราะบริษัทเนเจอร์สลิมได้มีโปรโมชั่นล่าสุด คือ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งออกมาทำให้ลูกค้าแห่กันไปซื้อ เป็นที่รู้กันว่า ของแถมกับของราคาถูกเป็นที่นิยมในสังคมไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คำเปรยของพริตาทำให้พนักงานในฝ่ายเซลล์มาร์เก็ตติ้งพากันสะดุ้ง โดยเฉพาะณิชารีย์ซึ่งรู้ดีว่า การที่ประธานบริษัทพูดด้วยน้ำเสียงอย่างนี้บอกถึงความไม่พอใจอย่างมากและต้องการแผนสำหรับแก้ไข
“คงเป็นเฉพาะเดือนนี้เท่านั้นค่ะ เพราะทางเนเจอร์สลิมเพิ่งจัดโปรโมชั่น แต่อีกไม่นานคนก็จะเบื่อ” พริ้มเพรารุ่นพี่ในแผนกพูดขึ้น
“แต่เราจะนิ่งนอนใจไม่ได้นะคะ พี่อยากให้ทุกคนดูข้อมูล ว่า ตอนนี้เรากำลังเสียเปรียบให้คู่แข่ง”
กราฟแสดงอัตราการเติบโตของตลาดกาแฟลดน้ำหนักในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อ และพบว่า ยอดขายของกาแฟคู่แข่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ นั่นหมายถึงว่า ส่วนแบ่งในการตลาดถูกปันออกไป
“ทุกคนจะเห็นว่า ตอนนี้เนเจอร์สลิมเริ่มจับตลาดลูกค้าระดับล่าง พี่จึงอยากให้เราทุกคนคิดแผนรับมือกับเรื่องนี้ เราต้องแย่งส่วนแบ่งในตลาดคืนมาให้ได้ หวังว่า คงมีคนให้คำตอบดีๆ กับพี่ได้นะ ไม่อย่างนั้นบริษัทเราอาจจะไม่มีเงินพอจะจ่ายโบนัสปลายปีให้กับทุกคน”
เสียงอื้ออึงดังขึ้นในห้องประชุมเมื่อพริตานำเรื่องโบนัสขึ้นมาขู่ ส่งผลให้พนักงานทุกคนต่างเคร่งเครียด
“คุณแพมคะ คือว่า ดิฉันอยากจะนำเสนอ”
ณิชารีย์ยกมือในห้องประชุม พริตาหันไปยิ้มให้
“ว่าไงนิด พูดมาสิ พี่คิดอยู่แล้วว่า นิดต้องมีไอเดียดีๆ ที่จะช่วยบริษัทของเราให้รอดพ้นวิกฤตครั้งนี้”
“ค่ะ รายละเอียดดิฉันถ่ายเอกสารมาให้ทุกคนแล้ว อยากให้ลองดูในแฟ้มเริ่มจากหน้าแรก”
ลำดวนทำหน้าที่นำเอกสารทั้งหมดมาแจกให้กับสมาชิกในห้องประชุมทั้งหมด พริตาพลิกดูรายละเอียด ขณะที่ณิชารีย์กดคลิกไฟล์ตรงเดสก์ท๊อปของคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดพาวเวอร์พอยท์ที่เตรียมเอาไว้เพื่อพรีเซนต์ออกมา
“ตอนนี้กาแฟบริษัทคู่แข่งกำลังหาทางครอบครองพื้นที่ตลาดผู้บริโภคชั้นกลางและระดับล่าง ดิฉันจึงขอเสนอให้จัดแคมเปญในสาวโรงงาน”
“สาวโรงงานเนี่ยนะ แล้วจะมีกำลังซื้อหรือ แค่เงินเดือนยังไม่พอยาไส้ด้วยซ้ำ”
พริ้มเพราซึ่งอยู่แผนกเดียวกับณิชารีย์แทรกขึ้น หล่อนอายุมากกว่าสองปี โดยตำแหน่งเข้ามาทำงานก่อนแต่มักจะกินแรงคนอื่นอยู่เรื่อย ยามว่างก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์เกือบทั้งวัน ครั้นพอลูกน้องมีผลงานเจ้าตัวก็รีบขโมยเอาไปเสนอพริตาเพื่อเอาหน้า
“จริงค่ะ แซลลี่กลัวว่า จะทำให้เสียภาพพจน์ของบริษัท แต่ไหนแต่ไรเราเป็นกาแฟสำหรับผู้หญิงยุคใหม่นะคะ” ศรัญรัชต์มีสีหน้าเคร่งเครียด
“ไม่เลยค่ะตรงกันข้าม เราจะได้ลูกค้ากว้างขึ้น อย่าลืมสิคะว่า กาแฟของเรา มีสโลแกนว่า กินแล้ว สวยหุ่นดี เป๊ะ กระชับ และเท่าที่นิดไปรวบรวมข้อมูลมา พบว่า สาวโรงงานส่วนใหญ่ก็ดื่มกาแฟ แต่เพื่อแก้ง่วงด้วยเนื่องจากต้องทำงานเป็นกะ บางครั้งควบกะหามรุ่งหามค่ำ ปกติกาแฟเราจะมีคาเฟอีนเป็นส่วนผสมในปริมาณน้อย แต่เน้นที่แอลคานิทีนและถั่วขาวรวมถึงสมุนไพรสูตรพิเศษเพื่อช่วยลดการดูดซึมของไขมัน แต่ถ้าเราเพิ่มสัดส่วนคาเฟอีนเข้าไปอีกนิด จะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากขึ้น”
“นิดหมายถึง เราจะทำกาแฟตัวใหม่หรือ”
“ใช่ค่ะ นิดลองปรึกษากับทางอาร์ดี ที่ทำวิจัยผลิตภัณฑ์แล้ว เขาบอกว่า มีทางเป็นไปได้ ต้นทุนการผลิตจะเพิ่มอีกเพียงหนึ่งบาทต่อซอง แต่เราจะได้ลูกค้ากว้างขึ้น นิดลองติดต่อซัพพลายเออร์เพื่อหากาแฟที่ราคาต้นทุนต่ำแต่คุณภาพดี และได้ผลตามที่เราต้องการ มีหลายเจ้าที่ต้องการร่วมมือกับเรา”
“แต่จะทำให้ผู้บริโภคสับสนไปเปล่าๆ สลิมเชพของเราเดิมก็ดีอยู่แล้ว” พริ้มเพราแย้ง
“ใช่ค่ะ แซลลี่ก็ว่า มันสิ้นเปลือง เผลอๆ คนจะเปลี่ยนไปซื้อยี่ห้ออื่นเลย” ศรัญรัชต์ค้าน
“พริ้มว่า เราควรจะใช้กาแฟตัวเดิมไม่ใช่ไปคิดค้นตัวใหม่ออกมา แต่หาทางเพิ่มยอดขายให้เพิ่มขึ้น จริงไหมทุกๆ คน ช่วยกันแสดงความคิดเห็นได้นะ บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน ต้องช่วยกันคิดเพื่อความอยู่รอด”
ในห้องประชุมเงียบกริบโดยเฉพาะพริตาที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างใช้ความคิด ณิชารีย์ไม่ยอมแพ้ หล่อนเตรียมการเรื่องนี้มาหลายสัปดาห์แล้วจึงพูดต่อ
“ทุกคนอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ดิฉันอยากให้ลองดูเอกสารแผ่นถัดไป ดิฉันลองทำตารางเปรียบเทียบ ความเป็นไปได้ และความคุ้มทุน การจะเป็นผู้นำตลาดได้เราต้องกล้าเสี่ยง ถึงจะก้าวนำเนเจอร์สลิม”
“แต่พริ้มไม่เห็นด้วย”
“ทำไมคะพี่พริ้ม ไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ นิดศึกษามาอย่างดีแล้ว และทางอาร์ดีก็เห็นด้วย ทางโปรดักส์เมเนเจอร์ก็บอกแล้วว่า เป็นไปได้แถมยังช่วยดีไซน์แบบผลิตภัณฑ์ใหม่มาคร่าวๆ แล้วด้วย”
“เหลวไหลทั้งเพ ทำกาแฟยี่ห้อใหม่ มีแต่ทำให้บริษัทขาดทุน ชื่อของเราติดตลาดอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไมให้คนสับสน”
“ทำไมจะไม่ได้”
“มันก็ไม่ได้ยังไงล่ะ”
ณิชารีย์หน้าบึ้งตึง ทั้งสองต่างจ้องตากันโดยมีพริตามองตาม
“พอเถอะทั้งสองคน อย่าเถียงกันเลย”
พริตาพูดแทรกขึ้น สีหน้าลำบากใจ ณิชารีย์กับพริ้มเพราจำต้องเงียบเพราะเกรงใจซีอีโอที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเงียบ ทุกคนต่างรอฟังว่า พริตาจะพูดอะไร
“พี่เห็นด้วยกับพริ้มนะ บางทีการทำกาแฟตัวใหม่ออกมาตอนนี้ อาจยังเร็วเกินไป”
ณิชารีย์หน้าซีดเผือด หล่อนกำปากกาในมือแน่น ภายในห้องประชุมมีเสียงซุบซิบ หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความสะใจในแววตาทุกคู่ที่มองมาที่หล่อน
“แต่ดิฉันอยากให้คุณแพมลองพิจารณาดูอีกครั้ง”
“เอาเถอะๆ พี่รับปากว่า จะเก็บข้อมูลของนิดไปพิจารณาอีกครั้ง บางทีตอนนี้ทุกคนอาจจะยังคิดไม่ออก เอาเป็นว่า พี่ฝากการบ้านทุกคนไปคิดมาแล้วให้คำตอบอาทิตย์หน้าแล้วกัน”
พริตารีบตัดบทเปลี่ยนหัวข้อทันที พนักงานแผนกอื่นจึงนำเสนอหัวข้อการประชุมถัดไป แต่สำหรับณิชารีย์แล้ว แทบฟังไม่รู้เรื่อง หล่อนชำเลืองมองเจ้านายที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาร้อนผ่าวจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทุกคนประชุมกันต่อจนครบทุกหัวข้อ ท่ามกลางสีหน้าที่ดูตั้งอกตั้งใจของทุกคน แต่ณิชารีย์ต่างหากที่เบื่อ
หล่อนนั่งหน้าซังกะตาย มือหมุนปากกาเล่น จนกระทั่งการประชุมดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย จู่ๆ พริตาก็ลุกขึ้น
“เรื่องสุดท้ายที่จะแจ้งทุกคนในที่ประชุมวันนี้คงเป็นเรื่องที่ทุกคนกำลังรออยู่ คือ การตั้งหัวหน้าแผนกเซลล์มาร์เก็ตติ้ง แทนพัชราภาที่ลาออกไป หลังจากปรึกษากับกรรมการบริษัทแล้ว พี่เห็นสมควรเลื่อนเราคนหนึ่งในที่นี้ขึ้นแทนตำแหน่งที่วางลง คนๆ นั้นได้แก่....”
พริตาลากเสียงยาวนาน แต่สำหรับณิชารีย์แล้วกลับรู้สึกเหมือนจะขาดใจ มือกำแน่นเหงื่อชุ่มตามฝ่ามือ
“ขอให้ทุกคนปรบมือแสดงความยินดีกับหัวหน้าเซลล์มาร์เก็ตติ้งคนใหม่อย่างพริ้มเพราด้วยนะ ขอให้ตั้งใจทำงาน”
สาวอวบอ้าปากค้างมองคนตรงหน้า สมองเหมือนพร่าเลือนไปชั่วขณะมันเหมือนราวกับว่า ฝันหวานอาทิตย์ของหล่อนกำลังพังทลายลงจนไม่มีเหลือ นี่นะหรือข่าวดี สำหรับหล่อนแล้ว มันคือ ข่าวร้ายที่สุดในชีวิต....
หญิงสาวไม่แน่ใจว่า ผิดหวังอะไรมากกว่า ระหว่างการที่พริ้มเพราที่ไม่เคยทำงานทำการอะไรเลยกลับได้เลื่อนตำแหน่ง กับเรื่องโครงการที่อุตส่าห์คิดมาอย่างยากลำบากถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แต่เมื่อประชุมเสร็จ พนักงานทุกคนต่างก็แยกย้ายกันลงไปรับประทานอาหารเที่ยง คงเหลือเพียงณิชารีย์ที่นั่งหมดอาลัยตายอยากในห้องประชุม
รอบโต๊ะซึ่งเป็นรูปตัวยู มีเอกสารที่หล่อนเพิ่งถ่ายเอกสารแจกถูกพับเป็นจรวดทิ้งอยู่โดยรอบ แถมบางแผ่นยังมีการ์ตูนวาดเอาไว้เพื่อล้อเลียนณิชารีย์อีกด้วย รูปที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าเป็นรูปการ์ตูน ทั้งหมูเอย ตุ่มเอย หรือแม้แต่ช้าง ยิ่งเห็นณิชารีย์ก็ยิ่งอยากจะขยำมันทิ้งและจุดไฟเผาจนเป็นจุลให้รู้แล้วรู้รอด
พริตาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่เพราะอะไร หรือว่า หล่อนทำอะไรผิดหรือเผลอล่วงเกินเจ้านายโดยไม่รู้ตัว เจ้านายถึงได้ไม่สนใจใยดีกับความคิดที่หล่อนเสนอในครั้งนี้ มือของเพื่อนรักเอื้อมมาตบบ่า
“ไม่เป็นไรนะนิด อย่าคิดมากเลยนะ คุณแพมอาจจะอารมณ์ไม่ดีก็ได้”
ซีอีโอบริษัทไม่เคยเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว หรือว่า พริตาจะโกรธที่หล่อนทำงานข้ามหน้า เอาเรื่องไปปรึกษาแผนอาร์ดีกับ แผนกโปรดักส์ก่อน หรือว่า ไอเดียของหล่อนไม่ดี และอีกสารพัดที่ณิชารีย์กำลังหาเหตุผลให้กับความผิดหวังของตนในครั้งนี้
“ฉันไม่เข้าใจ เพราะอะไร”
“ที่ว่า ไม่เข้าใจคือ เรื่องโปรเจกต์หรือว่า เรื่องพี่พริ้ม”
“ทั้งสองนั้นล่ะ เธอก็รู้ว่า พี่พริ้มไม่เคยทำอะไรเลย วันๆ เคยทำงานที่ไหนเอาแต่เล่นเกมในมือถือ หรือไม่ก็หลบเข้าห้องน้ำแอบแชตกับหนุ่มๆ”
แม้พริ้มเพราจะอายุสามสิบเจ็ดปีแล้วแต่ก็ยังมีใบหน้าราวกับสาววัยเบญจเพสนั่นก็เพราะเจ้าตัว พึ่งบริการคลินิกเสริมความงามอยู่เป็นประจำ ไหนจะฉีดโบท๊อกซ์ ร้อยไหมและฉีดฟิลเลอร์ หน้าอกหน้าใจไม่ได้เป็นของแม่ให้มา แต่ผ่านการ เสริม ดึง ยก กระชับมาหมดแล้ว หล่อนเปลี่ยนคู่ควงแทบทุกเดือน
“ฉันรู้ แต่คุณแพมอาจจะไม่รู้ ก็เห็นๆ อยู่ว่า พี่พริ้มพรีเซนต์ตัวดีขนาดไหน”
งานที่ไปเสนอล้วนแต่เป็นฝีมือของรุ่นน้องที่หลังขดหลังแข็งทำให้ ส่วนพริ้มเพราก็มีหน้าที่ขโมยผลงานไปเสนอให้เข้าตาเจ้านายเท่านั้น
“ฉันงงไปหมดแล้ว ฉันจะทำยังไงดี”
“ปล่อยวางเสีย ถือเสียว่า บริษัทไม่ใช่ของเรา แล้วก็ไปกินข้าวขาหมูของโปรดเธอกันดีกว่า”
ยามพักเที่ยงสองสาวมักจะไปกินข้าวขาหมูในตรอกข้างบริษัท อาเฮียเจ้าของร้านชอบณิชารีย์เป็นอย่างมากถึงกับแถมคากิกับไส้หมูให้เป็นประจำ
“ฉันไม่อยากกินข้าวขาหมู”
“งั้นก็เป็นข้าวมันไก่ ดีไหม ตบท้ายด้วยน้ำแข็งใสสักหน่อย หรือถ้าชอบแบบเกาหลีข้างๆ ร้านข้าว มีบิงซูเจ้าใหม่มาขายด้วยนะ กินของหวานประเดี๋ยวก็อารมณ์ดีขึ้น”
“ฉันกินอะไรไม่ลงหรอก มันตื้อไปหมด” ณิชารีย์ยกมือกุมขมับ งานครั้งนี้หล่อนเตรียมการมาอย่างดี หวังอย่างยิ่งว่า พริตาจะชอบไอเดียนี้ แต่เปล่าเลย ทุกอย่างสูญเปล่า
“งั้นไปกินผัดไทย เพิ่งเปิดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง คิวแน่นมาก เดินต่อไปอีกสองซอย วันก่อนฉันเดินผ่านและตรงข้างหน้ามีตลาดนัดด้วย จะได้ซื้อขนมขบเขี้ยวมากินเล่นตอนบ่าย”
“ฉันไม่อยากกินจริงๆ เธอไปเถอะ”
“เฮ้ย...ได้ไง ต้องไปด้วยกันสิ ไปเถอะนะนิด เธอไม่กินข้าวเดี๋ยวผอมไม่รู้นะ เสียชื่อ ณิชารีย์หมด” ลำดวนยังคะยั้นคะยอ
“ฉันอยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำอะไรเลย”
“เอาอย่างนี้ งั้นเราสองคนลางานดีกว่า ถ้าไม่กินข้าวแถวนี้ก็ไปหาอะไรกินแถวนครปฐมกัน เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
“ลางานหรือ”
คนอย่างณิชารีย์ร้อยวันพันปีไม่เคยเกเรมาก่อน แต่วันนี้หล่อนอยู่ในโหมดเซ็งสุดขีด แค่เปิดประตูออกไปคงไม่แคล้วได้ยินเสียงนินทาของคนทั้งบริษัท ถ้าเป็นเรื่องหุ่นหญิงสาวชินเสียแล้ว แต่ถ้าเรื่องที่หล่อนเหลวไม่เป็นท่าวันนี้คงรับไม่ได้
“เออสิ...วันนี้คนอื่นคงไม่ทำงานอะไรหรอก แค่ประชุมก็หมดพลังแล้ว แถมยังเป็นเย็นวันศุกร์ด้วย พอสี่โมงก็เตรียมเก็บของกลับบ้านกันแล้ว”
“เอางั้นหรือ”
“เอาน่า ไม่แน่นะ การไปศาลเจ้าครั้งนี้อาจจะทำให้เธอได้พบอะไรใหม่ๆ ในชีวิตก็เป็นได้”
มาต่อตอนใหม่แล้วนะคะ ขออภัยในความล่าช้า เมื่อวานนี้ยุ่งมากกลับถึงบ้านหลับปุ๋ยเลยค่ะ จะพยายามลงให้ต่อเนื่องนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ และเพื่อนที่เข้ามาทักทายนะคะ ตอบไม่ค่อยเก่ง แต่แค่ได้อ่านเม้นท์ก็ดีใจแล้วค่ะ
การประชุมวาระพิเศษของบริษัทเป็นไปอย่างเคร่งเครียด แม้กาแฟสลิมเชพจะเป็นกาแฟลดน้ำหนักยี่ห้อแรกที่ก้าวเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยและได้รับความนิยมสูงสุด แต่ตอนนี้ธุรกิจกาแฟไม่ได้มีแค่บริษัทเดียว
ในตลาดมีกาแฟลดน้ำหนักยี่ห้อต่างๆ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด หลายบริษัทแข่งกันลดราคา แข่งกันหาโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย สลิมเชพเปิดตัวสะท้านวงการเมื่อหกปีก่อน ตามด้วยการเพิ่มขึ้นของยอดขายมากว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ในหกเดือนแรกที่เปิดตัว ก็มีกาแฟเลียนแบบเกิดขึ้นอีกหลายชนิด
กาแฟลดน้ำหนักทุกชนิดล้วนแต่มีจุดประสงค์ให้ผู้บริโภคกินแล้วหุ่นดี ผอมเพรียวและที่สำคัญต้องผอมนานและไม่มีการกระเด้งคืนของน้ำหนักที่เรียกว่า โยโย่เอฟเฟค ณิชารีย์รู้ดีว่า การที่คนๆ หนึ่งจะลดน้ำหนักได้นั้น คงไม่ได้มาจากการดื่มกาแฟแต่เพียงอย่างเดียวแน่
ร่างกายคนเราก็เหมือนกล่องหนึ่งใบ ในแต่ละวันจะมีการใช้พลังงานไปในการทำกิจวัตรประจำวันไปเป็นจำนวนคงที่ ถ้าเราบริโภคอาหารได้แคลอรี่เท่ากับที่ใช้ น้ำหนักก็จะคงที่แต่ถ้ามากกว่าก็จะมีส่วนเกินสะสมเกิดขึ้นแน่นอน
ดังนั้นผู้หญิงที่ต้องการจะลดน้ำหนักต้องมีการคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันและจำกัดอาหารเพื่อให้ได้แคลอรี่เพียงพอแต่ไม่เกิน อีกทั้งยังต้องหาทางเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกาย มีการศึกษาพบว่า การเสริมสร้างกล้ามเนื้อจะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มมากขึ้นในช่วงพัก แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนทำงานในออฟฟิศ ขาดการออกกำลังกายและบริโภคแต่อาหารจานด่วนทำให้ปริมาณไขมันพุ่งทะลุเพดานส่งผลให้เกิดโรคอ้วนตามมา
กาแฟลดน้ำหนักเข้ามาตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องการทางลัดเพื่อให้ผอม โดยสลิมเชพเป็นเจ้าแรกในตลาด โดยมีต้นกำเนิดมาจากคุณพริตาซึ่งได้สูตรกาแฟลดน้ำหนักมาจากญาติคนหนึ่ง อาศัยสมุนไพรจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ผนวกกับสารสกัดบางอย่างเพื่อลดการดูดซึมและดักจับไขมันทำให้ผู้ที่ดื่มกาแฟมีน้ำหนักลดลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอาศัยการควบคุมอาหารร่วมด้วย
ณิชารีย์เข้ามาทำงานในบริษัทเมื่อห้าปีก่อน เพราะชื่นชอบในทัศนคติของซีอีโอของบริษัท ที่แม้ว่า จะเจอกับคู่แข่งหลายยี่ห้อ แต่ไม่เคยลดคุณภาพของกาแฟลง อีกทั้งยังไม่เติมส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างที่หลายบริษัทนิยมทำกัน ตลอดเวลาที่ทำงานพริตาเป็นผู้บริหารที่รับฟังความเห็นของลูกน้องทำให้ได้ใจณิชารีย์ไปเต็มๆ หล่อนจึงใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท
แคมเปญแรกเริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว สลิมเชพท้าให้ผู้บริโภคร่วมแข่งขันลดน้ำหนักภายในสองเดือนโดยมอบกาแฟให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดยี่สิบคนได้ทดลองฟรี หลังจากนั้นก็ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละคนผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนโพสต์โชว์ความผอมเพรียวทางเฟซบุ๊กของบริษัท ส่งผลให้คนหันมาสนใจกาแฟที่คุณภาพมากกว่า ราคาถูก
หลังจากจบแคมเปญยอดขายก็พุ่งขึ้นสูงกว่าเดิมเท่าตัว สลิมเชพไม่ยอมหยุดนิ่ง ปล่อยโครงการสำหรับคุณแม่อายุสามสิบอัพ หลังคลอดบุตรและต้องการลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน ผลการตอบรับดีเยี่ยมอีกเช่นเคย แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของสาวร่างอวบแทบทั้งสิ้น
“อย่างที่ทุกคนคงทราบกันว่า ไตรมาสที่ผ่านมายอดขายของสลิมเชพลดลงมาก ในขณะที่ยอดขายของเนเจอร์สลิมเพิ่มขึ้นหลายเท่า”
ต้นเหตุเป็นเพราะบริษัทเนเจอร์สลิมได้มีโปรโมชั่นล่าสุด คือ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งออกมาทำให้ลูกค้าแห่กันไปซื้อ เป็นที่รู้กันว่า ของแถมกับของราคาถูกเป็นที่นิยมในสังคมไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คำเปรยของพริตาทำให้พนักงานในฝ่ายเซลล์มาร์เก็ตติ้งพากันสะดุ้ง โดยเฉพาะณิชารีย์ซึ่งรู้ดีว่า การที่ประธานบริษัทพูดด้วยน้ำเสียงอย่างนี้บอกถึงความไม่พอใจอย่างมากและต้องการแผนสำหรับแก้ไข
“คงเป็นเฉพาะเดือนนี้เท่านั้นค่ะ เพราะทางเนเจอร์สลิมเพิ่งจัดโปรโมชั่น แต่อีกไม่นานคนก็จะเบื่อ” พริ้มเพรารุ่นพี่ในแผนกพูดขึ้น
“แต่เราจะนิ่งนอนใจไม่ได้นะคะ พี่อยากให้ทุกคนดูข้อมูล ว่า ตอนนี้เรากำลังเสียเปรียบให้คู่แข่ง”
กราฟแสดงอัตราการเติบโตของตลาดกาแฟลดน้ำหนักในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อ และพบว่า ยอดขายของกาแฟคู่แข่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ นั่นหมายถึงว่า ส่วนแบ่งในการตลาดถูกปันออกไป
“ทุกคนจะเห็นว่า ตอนนี้เนเจอร์สลิมเริ่มจับตลาดลูกค้าระดับล่าง พี่จึงอยากให้เราทุกคนคิดแผนรับมือกับเรื่องนี้ เราต้องแย่งส่วนแบ่งในตลาดคืนมาให้ได้ หวังว่า คงมีคนให้คำตอบดีๆ กับพี่ได้นะ ไม่อย่างนั้นบริษัทเราอาจจะไม่มีเงินพอจะจ่ายโบนัสปลายปีให้กับทุกคน”
เสียงอื้ออึงดังขึ้นในห้องประชุมเมื่อพริตานำเรื่องโบนัสขึ้นมาขู่ ส่งผลให้พนักงานทุกคนต่างเคร่งเครียด
“คุณแพมคะ คือว่า ดิฉันอยากจะนำเสนอ”
ณิชารีย์ยกมือในห้องประชุม พริตาหันไปยิ้มให้
“ว่าไงนิด พูดมาสิ พี่คิดอยู่แล้วว่า นิดต้องมีไอเดียดีๆ ที่จะช่วยบริษัทของเราให้รอดพ้นวิกฤตครั้งนี้”
“ค่ะ รายละเอียดดิฉันถ่ายเอกสารมาให้ทุกคนแล้ว อยากให้ลองดูในแฟ้มเริ่มจากหน้าแรก”
ลำดวนทำหน้าที่นำเอกสารทั้งหมดมาแจกให้กับสมาชิกในห้องประชุมทั้งหมด พริตาพลิกดูรายละเอียด ขณะที่ณิชารีย์กดคลิกไฟล์ตรงเดสก์ท๊อปของคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดพาวเวอร์พอยท์ที่เตรียมเอาไว้เพื่อพรีเซนต์ออกมา
“ตอนนี้กาแฟบริษัทคู่แข่งกำลังหาทางครอบครองพื้นที่ตลาดผู้บริโภคชั้นกลางและระดับล่าง ดิฉันจึงขอเสนอให้จัดแคมเปญในสาวโรงงาน”
“สาวโรงงานเนี่ยนะ แล้วจะมีกำลังซื้อหรือ แค่เงินเดือนยังไม่พอยาไส้ด้วยซ้ำ”
พริ้มเพราซึ่งอยู่แผนกเดียวกับณิชารีย์แทรกขึ้น หล่อนอายุมากกว่าสองปี โดยตำแหน่งเข้ามาทำงานก่อนแต่มักจะกินแรงคนอื่นอยู่เรื่อย ยามว่างก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์เกือบทั้งวัน ครั้นพอลูกน้องมีผลงานเจ้าตัวก็รีบขโมยเอาไปเสนอพริตาเพื่อเอาหน้า
“จริงค่ะ แซลลี่กลัวว่า จะทำให้เสียภาพพจน์ของบริษัท แต่ไหนแต่ไรเราเป็นกาแฟสำหรับผู้หญิงยุคใหม่นะคะ” ศรัญรัชต์มีสีหน้าเคร่งเครียด
“ไม่เลยค่ะตรงกันข้าม เราจะได้ลูกค้ากว้างขึ้น อย่าลืมสิคะว่า กาแฟของเรา มีสโลแกนว่า กินแล้ว สวยหุ่นดี เป๊ะ กระชับ และเท่าที่นิดไปรวบรวมข้อมูลมา พบว่า สาวโรงงานส่วนใหญ่ก็ดื่มกาแฟ แต่เพื่อแก้ง่วงด้วยเนื่องจากต้องทำงานเป็นกะ บางครั้งควบกะหามรุ่งหามค่ำ ปกติกาแฟเราจะมีคาเฟอีนเป็นส่วนผสมในปริมาณน้อย แต่เน้นที่แอลคานิทีนและถั่วขาวรวมถึงสมุนไพรสูตรพิเศษเพื่อช่วยลดการดูดซึมของไขมัน แต่ถ้าเราเพิ่มสัดส่วนคาเฟอีนเข้าไปอีกนิด จะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากขึ้น”
“นิดหมายถึง เราจะทำกาแฟตัวใหม่หรือ”
“ใช่ค่ะ นิดลองปรึกษากับทางอาร์ดี ที่ทำวิจัยผลิตภัณฑ์แล้ว เขาบอกว่า มีทางเป็นไปได้ ต้นทุนการผลิตจะเพิ่มอีกเพียงหนึ่งบาทต่อซอง แต่เราจะได้ลูกค้ากว้างขึ้น นิดลองติดต่อซัพพลายเออร์เพื่อหากาแฟที่ราคาต้นทุนต่ำแต่คุณภาพดี และได้ผลตามที่เราต้องการ มีหลายเจ้าที่ต้องการร่วมมือกับเรา”
“แต่จะทำให้ผู้บริโภคสับสนไปเปล่าๆ สลิมเชพของเราเดิมก็ดีอยู่แล้ว” พริ้มเพราแย้ง
“ใช่ค่ะ แซลลี่ก็ว่า มันสิ้นเปลือง เผลอๆ คนจะเปลี่ยนไปซื้อยี่ห้ออื่นเลย” ศรัญรัชต์ค้าน
“พริ้มว่า เราควรจะใช้กาแฟตัวเดิมไม่ใช่ไปคิดค้นตัวใหม่ออกมา แต่หาทางเพิ่มยอดขายให้เพิ่มขึ้น จริงไหมทุกๆ คน ช่วยกันแสดงความคิดเห็นได้นะ บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน ต้องช่วยกันคิดเพื่อความอยู่รอด”
ในห้องประชุมเงียบกริบโดยเฉพาะพริตาที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างใช้ความคิด ณิชารีย์ไม่ยอมแพ้ หล่อนเตรียมการเรื่องนี้มาหลายสัปดาห์แล้วจึงพูดต่อ
“ทุกคนอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ดิฉันอยากให้ลองดูเอกสารแผ่นถัดไป ดิฉันลองทำตารางเปรียบเทียบ ความเป็นไปได้ และความคุ้มทุน การจะเป็นผู้นำตลาดได้เราต้องกล้าเสี่ยง ถึงจะก้าวนำเนเจอร์สลิม”
“แต่พริ้มไม่เห็นด้วย”
“ทำไมคะพี่พริ้ม ไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ นิดศึกษามาอย่างดีแล้ว และทางอาร์ดีก็เห็นด้วย ทางโปรดักส์เมเนเจอร์ก็บอกแล้วว่า เป็นไปได้แถมยังช่วยดีไซน์แบบผลิตภัณฑ์ใหม่มาคร่าวๆ แล้วด้วย”
“เหลวไหลทั้งเพ ทำกาแฟยี่ห้อใหม่ มีแต่ทำให้บริษัทขาดทุน ชื่อของเราติดตลาดอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไมให้คนสับสน”
“ทำไมจะไม่ได้”
“มันก็ไม่ได้ยังไงล่ะ”
ณิชารีย์หน้าบึ้งตึง ทั้งสองต่างจ้องตากันโดยมีพริตามองตาม
“พอเถอะทั้งสองคน อย่าเถียงกันเลย”
พริตาพูดแทรกขึ้น สีหน้าลำบากใจ ณิชารีย์กับพริ้มเพราจำต้องเงียบเพราะเกรงใจซีอีโอที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเงียบ ทุกคนต่างรอฟังว่า พริตาจะพูดอะไร
“พี่เห็นด้วยกับพริ้มนะ บางทีการทำกาแฟตัวใหม่ออกมาตอนนี้ อาจยังเร็วเกินไป”
ณิชารีย์หน้าซีดเผือด หล่อนกำปากกาในมือแน่น ภายในห้องประชุมมีเสียงซุบซิบ หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความสะใจในแววตาทุกคู่ที่มองมาที่หล่อน
“แต่ดิฉันอยากให้คุณแพมลองพิจารณาดูอีกครั้ง”
“เอาเถอะๆ พี่รับปากว่า จะเก็บข้อมูลของนิดไปพิจารณาอีกครั้ง บางทีตอนนี้ทุกคนอาจจะยังคิดไม่ออก เอาเป็นว่า พี่ฝากการบ้านทุกคนไปคิดมาแล้วให้คำตอบอาทิตย์หน้าแล้วกัน”
พริตารีบตัดบทเปลี่ยนหัวข้อทันที พนักงานแผนกอื่นจึงนำเสนอหัวข้อการประชุมถัดไป แต่สำหรับณิชารีย์แล้ว แทบฟังไม่รู้เรื่อง หล่อนชำเลืองมองเจ้านายที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาร้อนผ่าวจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทุกคนประชุมกันต่อจนครบทุกหัวข้อ ท่ามกลางสีหน้าที่ดูตั้งอกตั้งใจของทุกคน แต่ณิชารีย์ต่างหากที่เบื่อ
หล่อนนั่งหน้าซังกะตาย มือหมุนปากกาเล่น จนกระทั่งการประชุมดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย จู่ๆ พริตาก็ลุกขึ้น
“เรื่องสุดท้ายที่จะแจ้งทุกคนในที่ประชุมวันนี้คงเป็นเรื่องที่ทุกคนกำลังรออยู่ คือ การตั้งหัวหน้าแผนกเซลล์มาร์เก็ตติ้ง แทนพัชราภาที่ลาออกไป หลังจากปรึกษากับกรรมการบริษัทแล้ว พี่เห็นสมควรเลื่อนเราคนหนึ่งในที่นี้ขึ้นแทนตำแหน่งที่วางลง คนๆ นั้นได้แก่....”
พริตาลากเสียงยาวนาน แต่สำหรับณิชารีย์แล้วกลับรู้สึกเหมือนจะขาดใจ มือกำแน่นเหงื่อชุ่มตามฝ่ามือ
“ขอให้ทุกคนปรบมือแสดงความยินดีกับหัวหน้าเซลล์มาร์เก็ตติ้งคนใหม่อย่างพริ้มเพราด้วยนะ ขอให้ตั้งใจทำงาน”
สาวอวบอ้าปากค้างมองคนตรงหน้า สมองเหมือนพร่าเลือนไปชั่วขณะมันเหมือนราวกับว่า ฝันหวานอาทิตย์ของหล่อนกำลังพังทลายลงจนไม่มีเหลือ นี่นะหรือข่าวดี สำหรับหล่อนแล้ว มันคือ ข่าวร้ายที่สุดในชีวิต....
หญิงสาวไม่แน่ใจว่า ผิดหวังอะไรมากกว่า ระหว่างการที่พริ้มเพราที่ไม่เคยทำงานทำการอะไรเลยกลับได้เลื่อนตำแหน่ง กับเรื่องโครงการที่อุตส่าห์คิดมาอย่างยากลำบากถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แต่เมื่อประชุมเสร็จ พนักงานทุกคนต่างก็แยกย้ายกันลงไปรับประทานอาหารเที่ยง คงเหลือเพียงณิชารีย์ที่นั่งหมดอาลัยตายอยากในห้องประชุม
รอบโต๊ะซึ่งเป็นรูปตัวยู มีเอกสารที่หล่อนเพิ่งถ่ายเอกสารแจกถูกพับเป็นจรวดทิ้งอยู่โดยรอบ แถมบางแผ่นยังมีการ์ตูนวาดเอาไว้เพื่อล้อเลียนณิชารีย์อีกด้วย รูปที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าเป็นรูปการ์ตูน ทั้งหมูเอย ตุ่มเอย หรือแม้แต่ช้าง ยิ่งเห็นณิชารีย์ก็ยิ่งอยากจะขยำมันทิ้งและจุดไฟเผาจนเป็นจุลให้รู้แล้วรู้รอด
พริตาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่เพราะอะไร หรือว่า หล่อนทำอะไรผิดหรือเผลอล่วงเกินเจ้านายโดยไม่รู้ตัว เจ้านายถึงได้ไม่สนใจใยดีกับความคิดที่หล่อนเสนอในครั้งนี้ มือของเพื่อนรักเอื้อมมาตบบ่า
“ไม่เป็นไรนะนิด อย่าคิดมากเลยนะ คุณแพมอาจจะอารมณ์ไม่ดีก็ได้”
ซีอีโอบริษัทไม่เคยเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว หรือว่า พริตาจะโกรธที่หล่อนทำงานข้ามหน้า เอาเรื่องไปปรึกษาแผนอาร์ดีกับ แผนกโปรดักส์ก่อน หรือว่า ไอเดียของหล่อนไม่ดี และอีกสารพัดที่ณิชารีย์กำลังหาเหตุผลให้กับความผิดหวังของตนในครั้งนี้
“ฉันไม่เข้าใจ เพราะอะไร”
“ที่ว่า ไม่เข้าใจคือ เรื่องโปรเจกต์หรือว่า เรื่องพี่พริ้ม”
“ทั้งสองนั้นล่ะ เธอก็รู้ว่า พี่พริ้มไม่เคยทำอะไรเลย วันๆ เคยทำงานที่ไหนเอาแต่เล่นเกมในมือถือ หรือไม่ก็หลบเข้าห้องน้ำแอบแชตกับหนุ่มๆ”
แม้พริ้มเพราจะอายุสามสิบเจ็ดปีแล้วแต่ก็ยังมีใบหน้าราวกับสาววัยเบญจเพสนั่นก็เพราะเจ้าตัว พึ่งบริการคลินิกเสริมความงามอยู่เป็นประจำ ไหนจะฉีดโบท๊อกซ์ ร้อยไหมและฉีดฟิลเลอร์ หน้าอกหน้าใจไม่ได้เป็นของแม่ให้มา แต่ผ่านการ เสริม ดึง ยก กระชับมาหมดแล้ว หล่อนเปลี่ยนคู่ควงแทบทุกเดือน
“ฉันรู้ แต่คุณแพมอาจจะไม่รู้ ก็เห็นๆ อยู่ว่า พี่พริ้มพรีเซนต์ตัวดีขนาดไหน”
งานที่ไปเสนอล้วนแต่เป็นฝีมือของรุ่นน้องที่หลังขดหลังแข็งทำให้ ส่วนพริ้มเพราก็มีหน้าที่ขโมยผลงานไปเสนอให้เข้าตาเจ้านายเท่านั้น
“ฉันงงไปหมดแล้ว ฉันจะทำยังไงดี”
“ปล่อยวางเสีย ถือเสียว่า บริษัทไม่ใช่ของเรา แล้วก็ไปกินข้าวขาหมูของโปรดเธอกันดีกว่า”
ยามพักเที่ยงสองสาวมักจะไปกินข้าวขาหมูในตรอกข้างบริษัท อาเฮียเจ้าของร้านชอบณิชารีย์เป็นอย่างมากถึงกับแถมคากิกับไส้หมูให้เป็นประจำ
“ฉันไม่อยากกินข้าวขาหมู”
“งั้นก็เป็นข้าวมันไก่ ดีไหม ตบท้ายด้วยน้ำแข็งใสสักหน่อย หรือถ้าชอบแบบเกาหลีข้างๆ ร้านข้าว มีบิงซูเจ้าใหม่มาขายด้วยนะ กินของหวานประเดี๋ยวก็อารมณ์ดีขึ้น”
“ฉันกินอะไรไม่ลงหรอก มันตื้อไปหมด” ณิชารีย์ยกมือกุมขมับ งานครั้งนี้หล่อนเตรียมการมาอย่างดี หวังอย่างยิ่งว่า พริตาจะชอบไอเดียนี้ แต่เปล่าเลย ทุกอย่างสูญเปล่า
“งั้นไปกินผัดไทย เพิ่งเปิดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง คิวแน่นมาก เดินต่อไปอีกสองซอย วันก่อนฉันเดินผ่านและตรงข้างหน้ามีตลาดนัดด้วย จะได้ซื้อขนมขบเขี้ยวมากินเล่นตอนบ่าย”
“ฉันไม่อยากกินจริงๆ เธอไปเถอะ”
“เฮ้ย...ได้ไง ต้องไปด้วยกันสิ ไปเถอะนะนิด เธอไม่กินข้าวเดี๋ยวผอมไม่รู้นะ เสียชื่อ ณิชารีย์หมด” ลำดวนยังคะยั้นคะยอ
“ฉันอยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำอะไรเลย”
“เอาอย่างนี้ งั้นเราสองคนลางานดีกว่า ถ้าไม่กินข้าวแถวนี้ก็ไปหาอะไรกินแถวนครปฐมกัน เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
“ลางานหรือ”
คนอย่างณิชารีย์ร้อยวันพันปีไม่เคยเกเรมาก่อน แต่วันนี้หล่อนอยู่ในโหมดเซ็งสุดขีด แค่เปิดประตูออกไปคงไม่แคล้วได้ยินเสียงนินทาของคนทั้งบริษัท ถ้าเป็นเรื่องหุ่นหญิงสาวชินเสียแล้ว แต่ถ้าเรื่องที่หล่อนเหลวไม่เป็นท่าวันนี้คงรับไม่ได้
“เออสิ...วันนี้คนอื่นคงไม่ทำงานอะไรหรอก แค่ประชุมก็หมดพลังแล้ว แถมยังเป็นเย็นวันศุกร์ด้วย พอสี่โมงก็เตรียมเก็บของกลับบ้านกันแล้ว”
“เอางั้นหรือ”
“เอาน่า ไม่แน่นะ การไปศาลเจ้าครั้งนี้อาจจะทำให้เธอได้พบอะไรใหม่ๆ ในชีวิตก็เป็นได้”
มาต่อตอนใหม่แล้วนะคะ ขออภัยในความล่าช้า เมื่อวานนี้ยุ่งมากกลับถึงบ้านหลับปุ๋ยเลยค่ะ จะพยายามลงให้ต่อเนื่องนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ และเพื่อนที่เข้ามาทักทายนะคะ ตอบไม่ค่อยเก่ง แต่แค่ได้อ่านเม้นท์ก็ดีใจแล้วค่ะ
tangtangmeow
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ย. 2559, 21:28:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ย. 2559, 21:29:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 1182
<< บทที่ 1 ศาลเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์ | บทที่ ๓ หัวหน้าคนใหม่ 100% >> |
แว่นใส 16 พ.ย. 2559, 07:38:22 น.
ปัจจุบันก็เป็นอย่างนี้แหละ คนทำงานไม่ได้เลื่อนขั้น แต่คนพรีเซ้นท์ตัวเองดีได้ทุกงาน น่าสงสารองค์กรและประเทศชาติเนอะ
ปัจจุบันก็เป็นอย่างนี้แหละ คนทำงานไม่ได้เลื่อนขั้น แต่คนพรีเซ้นท์ตัวเองดีได้ทุกงาน น่าสงสารองค์กรและประเทศชาติเนอะ
tangtangmeow 21 พ.ย. 2559, 20:51:40 น.
เคยได้ยินน้องๆ เล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะ อย่างนี้คนที่ตั้งใจทำงานจริง ๆก็แอบเซ็งเลย
เคยได้ยินน้องๆ เล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะ อย่างนี้คนที่ตั้งใจทำงานจริง ๆก็แอบเซ็งเลย
Zephyr 3 ธ.ค. 2559, 10:55:07 น.
เข้าใจอารมณ์เซ็งของนางเลย
เข้าใจอารมณ์เซ็งของนางเลย