คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 6 [2]


..........เพชรน้ำหนึ่งไม่ลืมสิ่งที่ตนตั้งใจทำ คือไปหาซื้อพวกขนมขบเคี้ยวและของแห้งที่ใช้ทำกับข้าว จำพวกไว้สำหรับทำต้มจืดวุ้นเส้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วลิสงกับน้ำตาลทรายสำหรับทำของหวาน ...ใช้เวลาไม่นานเมื่อเลือกซื้อของที่ร้านขายของชำ ตรงหน้าปากทางเข้าสลัมเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงเดินกลับทางเดิมเพื่อไปที่บ้านของมะเฟือง ระหว่างทางเดินได้ยินเสียงเอะอะ และมีคนมาทุบตีทำร้ายเด็กหญิงที่นั่งวาดรูปอยู่เมื่อสักครู่

“เพียะ เพียะ เพียะ...” เสียงฝ่ามือของหญิงท้วมวัยกลางคนตีลงบนแขนเล็กนิดเดียวของเด็กหญิง พร้อมเสียงก่นด่า “ไม่ยอมช่วยทำอะไรเลย ทั้งวันเอาแต่นั่งวาดเขียน มันกินเข้าไปได้ไหม ขี้เกียจสันหลังยาวนะอีนี่”

“แง๊ แง... โฮ...” เสียงเด็กหญิงร้องไห้จ้า...

เพชรน้ำหนึ่งเห็นใจและเข้าใจ รู้ว่าเด็กหญิงตัวน้อยคงเจ็บมากจากการโดนตีอย่างแรง ไม่มีปรานีเลยด้วยน้ำมือผู้หญิงใจร้ายคนนั้น

“หยุดทำร้ายร่างกายเด็กเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจจับข้อหาทำร้ายร่างกายทารุณกรรมเด็ก”

“ใครวะ มึงเป็นใคร” หญิงวัยกลางคนตวาดถาม

“แล้วแกเป็นใคร ถืออำนาจบาตรใหญ่อะไรมาทุบตีเด็กตาเล็กไม่มีเมตตาสงสาร ไอ้คนไร้มนุษยธรรม” เพชรน้ำหนึ่งโต้ตอบเสียงแข็งกร้าว

“กูเป็นแม่มันทำไมจะตีสั่งสอนลูกไม่ได้ ผิดกฎหมายข้อไหน มึงอย่าเสือกเรื่องคนอื่น”

“โกหกตอแหล แม่ประเภทไหนตีลูกอย่างกับโกรธแค้นเป็นศัตรูคู่อาฆาต ตีเอาตีเอาไม่ยั้ง” เพชรน้ำหนึ่งเหลืออด ความโกรธแล่นขึ้นหน้าจึงขึ้นเสียงดังด่าว่าอย่างไม่สุภาพออกไป

“แม่ผมเคยบอกว่าหนึ่งสุภาพเรียบร้อย อย่างนี้มันไม่ใช่อย่างที่แม่ผมว่าเลย” ยุติกระซิบป้องปากคุยกับภาสกร ...นินทากันซึ่งหน้า

แต่ภาสกรไม่ได้สนใจยุติ เขาเป็นห่วงกลัวจะมีเรื่องบานปลายใหญ่โต จึงต้องห้ามไว้ก่อน

“เอ่อ... คุณหนึ่ง เขาเป็นแม่ลูกกันจริงครับ ใครใครเขารู้ว่าบ้านนี้ชอบตีลูกเป็นประจำ เขาเห็นจนชินกันหมดแล้ว” ภาสกรเข้ามากระซิบบอก

“เห็นเด็กถูกทำร้ายแล้วไม่มีใครช่วยเหลือ ทำไมช่างพากันนิ่งดูดายอย่างนี้ทำไม่ถูก อย่านิ่งเฉยชาชินสิ ต้องช่วยเหลือกัน”

“เขาไม่อยากมีเรื่องกัน แม่มันปากจัดจะตาย”

“จะปากจัดยังไงไม่สน ถ้าตีเด็กทำร้ายเด็กต้องติดคุก ผิดกฎหมายคุ้มครองเด็กและสตรี กระทำความรุนแรงในครอบครัว”

“คุณหนึ่ง... อย่ามีเรื่องเลยครับ” ภาสกรขอร้องเจ้านายสาวกลัวจะจบไม่สวย เขาเคยเห็นแม่ของเด็กหญิงคนนี้ตบตีกับเพื่อนบ้านถึงขั้นปากแตกเลือดอาบ... นั่นทำให้เขาห่วงใยจากใจเป็นที่สุด

“หรือมึงอยากมีเรื่องกับกู ได้... กูจัดให้” หญิงกลางคนปรี่ตรงเข้ามา โดยหารู้ไม่ว่าตัวเองอาจชะตาขาดได้ถ้าต่อสู้อยู่กับอดีตนักมวยไทยหญิงชิงแชมป์เปี้ยน

“หยุด... หยุดครับ จะมีเรื่องกันทำไมในเมื่อผู้หญิงคนนี้เข้ามาช่วยเด็กไม่ให้โดนทำร้าย ถ้าคุณเป็นแม่ที่จิตใจดีมีคุณธรรม ควรรู้ว่าต้องไม่เอาแต่ตีลูก ควรพูดอบรมสั่งสอนเขาอย่างดี เขายังเด็กและเป็นลูกนะครับ ไม่ใช่สัตว์ประเภทวัวควาย ตีเขาทำไมหรือเขาไม่ใช่ลูกแท้จริง ผมว่าถ้าคุณเป็นแม่อย่างนี้เรียกได้ว่าเป็นแม่ใจร้าย หยุดทำร้ายเด็กเล็กที่น่าสงสารเถอะครับ” ยุติพูดทำน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนตอนขึ้นเวทีร้องเพลง

เจอคนหล่อพูดพร้อมส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ ...เท่านั้นเหมือนโดนมนต์สะกดให้สงบศึกได้ บรรยากาศตึงเครียดก่อนหน้านี้ดูจะคลี่คลายไปได้อย่างน่าแปลกใจ เมื่อมารดาของเด็กหญิงมองหน้ายุติด้วยสีหน้างุนงง...

“อ๊ะ! คุณ?... ดูคุ้นตามากเลยนะ หน้าตาดีอย่างนี้ดาราใช่เปล่า? หล่อ... หล่อมาก...”

“ผมเป็นนักดนตรีครับ ทั้งร้องทั้งเต้นด้วย” ยุติยิ้มกว้างรับคำชม ปลื้มที่มีคนทักอย่างนั้น ถึงจะถูกทักผิดยังไงยังเป็นปลื้ม เพราะอานุภาพความหล่อของตนนั้นมันช่างร้ายแรงล้นเหลือ

“อ๋อ... มิน่าถึงว่าคุ้นหน้า คงเคยออกรายการโทรทัศน์” มารดาของเด็กหญิงเริ่มเย็นลง ใบหน้าบึ้งตึงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม เพราะหล่อนหลงใหลได้ปลื้มดาราโดยเฉพาะหนุ่มหล่อพระเอกหนังนักร้องนักดนตรีนี่ถือเป็นขวัญใจเลยทีเดียว

“ฉันเหมือนเป็นผู้จัดการดาราคนนี้” เพชรน้ำหนึ่งจึงฉวยโอกาสผสมโรงด้วย

เล่นเอายุติมองหน้าเพชรน้ำหนึ่งอย่างงงสุดขีด ตามอารมณ์กันไม่ทันเมื่อเธอเปลี่ยนท่าทีเป็นพูดดีและยิ้มให้คู่กรณี

“เราเห็นแววลูกสาวของคุณ เขาวาดรูปสวยดี อยากจะขอซื้อ ว่าจะเอาไปประดับฉาก และอยากสนับสนุนส่งเสริมให้วาดรูปต่อไป รูปวาดสมัยนี้ขายได้ มีแกเลอรี่ที่เขารับซื้อไปขายต่อ”

“รูปวาดอย่างนี้นะเหรอขายได้?” ผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงถามด้วยความสงสัย ไม่เคยรู้มาก่อนว่ารูปวาดฝีมือลูกสาวตนนั้นสามารถขายได้

“ใช่... ฉันให้ราคาห้าร้อย ขอซื้อรูปที่วาดอยู่นี้”

“ถ้าขายไปหนูคงไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว ...เสียดาย” เด็กหญิงกล่าวอย่างอาลัยอาวรณ์ สำหรับเด็กเล็กแล้วเรื่องเงินนั้นไม่ใช่ที่สุดของหัวใจปรารถนา

“เขามาขอซื้อก็ขายเขาไปซี่... ได้เงินนะไม่ต้องเสียดายน่า เดี๋ยวค่อยวาดใหม่ยังได้” มารดาของเด็กหญิงบอกกับลูก หล่อนคิดแต่เรื่องเงินทองขึ้นสมองหรือคือ... งกนั่นเอง

“พี่จะเอารูปนี้ไปสแกนเข้าคอมพิวเตอร์ แล้วจะส่งมาให้หนูเก็บไว้ดูเป็นประวัติผลงานด้วย ส่วนตัวจริงจะนำไปใส่กรอบแล้วส่งไปโชว์ที่แกลเลอรี่ ถ้าหากมีคนซื้อที่ให้ราคาสูงกว่าพี่ พี่จะนำเงินมาให้เพิ่ม ขายรูปนี้ให้พี่นะ พิมพ์ใจ” เพชรน้ำหนึ่งบอกอย่างนั้น เด็กหญิงจึงยอมตกลงขายให้

“เซ็นชื่อที่มุมภาพให้ด้วยอย่างที่พี่บอก” แล้วเธอถึงได้รูปวาดมา พร้อมส่งเงินให้เด็กหญิงไป

“หนูยังไม่เคยขายรูปวาดของตัวเองเลย” บอกพร้อมมองตามรูปวาดตาละห้อย ใจดวงน้อยยังคงไม่วายเสียดายเมื่อมันได้ไปอยู่ในมือของคนอื่นแล้ว

“นี่เป็นรูปแรกของหนูที่ขายได้ ต่อไปวาดรูปอีกนะ พี่จะแนะนำสถานที่ที่ส่งไปขายให้”

“ขอบคุณนะคะคุณผู้จัดการดารา” มารดาของเด็กหญิงกล่าวยิ้มแย้ม ท่าทีเปลี่ยนไปเป็นมิตรต่อผู้ให้ผลประโยชน์และเชื่อว่าเป็นผู้จัดการดารานักร้องที่น่าเป็นมิตรด้วยที่สุด

“ต่อไปอย่าตีลูกอีกนะคะพูดกันให้ดี เขาต้องมีอาชีพที่เขาถนัดและเขารักเขาชอบใจ อยากให้คนเป็นแม่เข้าใจและช่วยส่งเสริมสนับสนุน อย่าบังคับให้เขาทำอาชีพตามพ่อแม่ ถ้าเขาไม่ชอบมันไม่ช่วยให้เจริญขึ้นมาหรอก”

“รู้อย่างนี้ฉันไม่ตีแล้ว ต่อไปจะพูดดีกับลูก”

“พิมพ์ใจ... ต่อไปขอให้ตั้งใจวาดรูป อย่าหยุดสร้างสรรค์และพัฒนาฝีมือตัวเองนะ เอาไว้พี่จะหาหนังสือสอนเทคนิคการวาดสีน้ำ แต่เป็นภาษาอังกฤษมาให้ ถ้าหนูหัดเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง ต่อไปจะได้อ่านออก แต่ว่าแค่ดูรูปคงพอเข้าใจเป็นแนวทางได้” เธอกล่าวอย่างเมตตา และพูดปลุกระดมความคิดบางอย่างที่ก่อให้เกิดพลังใจให้ลุกขึ้นสู้กับชีวิต “รู้ไหมพิมพ์ใจ จิตใจของคนที่รักศิลปะนั้นอ่อนโยนและสวยงาม เรารักความสงบสุข แต่เราต้องไม่หวั่นกลัวต้องเข้มแข็ง ขอให้ฉลาดรู้ตัวว่าถ้าเราไม่ผิดอย่ายอมถูกลงโทษทำร้าย ไม่ว่าอย่างไรต้องให้ใครเขาเห็นว่าเราเป็นคนเหมือนกัน เชิดหน้าชูตาของเราขึ้นมา กล้าพูดกล้ายืนหยัดต่อสู้ในสิ่งถูกต้อง ต่อไปถ้ามีปัญหาไม่เข้าใจกับแม่ หนูต้องฉลาดพูดให้แม่เขาเข้าใจ อย่าเอาแต่ร้องไห้ไม่พูดไม่จา ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเข้าใจหรอกถ้าเราไม่กล้าแม้แต่จะพูดให้เขารู้ รู้ไหมคะ”

“ค่ะ...” เด็กหญิงพยักหน้ารับ

“ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณสองคนเลย” มารดาของเด็กหญิงเอ่ยถามหลังจากเกิดเรื่องราวยืดยาวต่อกันมา...

“นักดนตรีหนุ่มหล่อคนนี้ ชื่อ ‘ยูตี้’ ค่ะ ส่วนฉันชื่อ... ‘นนนี่’” เพชรน้ำหนึ่งยิ้มเก๋ไก๋ประกอบคำตอบด้วย



..........ระหว่างที่จะกลับบ้าน เข้ามานั่งพร้อมหน้ากันในรถส่วนตัวแล้ว ยุติถึงหัวเราะเสียงดัง

“ฮะ ฮะ ฮะ... หนึ่งพูดไปได้ ‘ผู้จัดการดารา’ ชื่อนนนี่... ส่วนพี่เพิ่งรู้ตัวนะว่าตัวเองชื่อยูตี้... ขำจะตายไปอำเขา เดี๋ยวสักวันความแตก เพราะจะมาหาน้องที่วาดรูปคนนี้อีกใช่ไหมล่ะ”

“เปล่านี่... ความจริงพี่ยุติเป็นนักดนตรีตัวจริง หล่อเหมือนดารานั่นเป็นความจริง ส่วนเรื่องไม่จริงที่ว่าเคยออกโทรทัศน์นั่นเขาเป็นคนพูดเอง เราไม่ได้พูดโกหก และหนึ่งบอก ‘เหมือนเป็น’ ผู้จัดการดารา ไม่ได้บอกสักคำว่า ‘เป็น’ ใช่ไหม? โกหกตรงไหน”

“แล้วชื่อพี่ที่โกหกล่ะ ...ยูตี้”

“อ้าว... ถ้าบอกชื่อจริงว่า ‘ยุติ’ มันจะเหมือนดาราไหม อีกอย่างชื่อพี่ยุติถ้าลองตะโกนเรียกลากเสียงยาวจะได้ยินว่า ‘ยูตี้...’ จริงนะถ้าไม่เชื่อพี่ยุติลองตะโกน แล้วฟังเสียงจากที่ห่างไกลสิ”

“หนึ่งนี่เอาเข้าจริงก็ลื่นเป็นปลาไหลใส่สเก็ต ดำน้ำไปได้ใสแจ๋ว ใครจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเลย” ยุติว่ายิ้มขำขัน

“ดีที่พี่ยุติช่วยห้ามแม่ของเด็กคนนั้นกับหนึ่ง ถ้าไม่มีพี่ยุติห้ามไว้อาจเกิดเรื่องใช้กำลังกันแน่ หนึ่งใจร้อนต้องต่อสู้ป้องกันตัว เพราะแม่ของเด็กคนนั้นตัวโตกว่าหนึ่งมาก ขอบคุณจริง ๆ ค่ะพี่ยุติ” เพชรน้ำหนึ่งกล่าว

ยุติไม่พูดอะไรนอกจากยิ้ม... ส่งสายตาอ่อนหวานอย่างผู้ชายที่มีเสน่ห์

เลยทำให้เธอเผลอเขินอาย ชม้ายชายตาเลี่ยงหลบ ไม่สบสายตากับเขา






ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ธ.ค. 2559, 19:51:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ธ.ค. 2559, 19:51:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 877





<< ตอน 6 [1]   ตอน 7 [1] >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account