คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 7 [2]


ยุติร้องเพลงให้เพชรน้ำหนึ่งฟังถือเป็นการปลอบใจ เป็นเพลงแบบว่าเธอจากไปแล้ว แต่ฉันยังจมอยู่กับความหลัง...

“เพลงที่ร้องจบไปนี่เศร้าเกินไป ต่อด้วยเพลงนี้ดีกว่า เพลงจีบสาว เป็นเพลงเก่าต้นฉบับคนร้องเพลงนี้คงตายไปนานแล้ว แต่เพลงนี้เพราะดีความหมายดีด้วย บุพเพสันนิวาส”

เขาร้องเพลงให้ฟังอีก ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้ว สนใจฟังเพลงของเขามากกว่า

“เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้ ถ้าเคยทำบุญร่วมไว้ถึงจะยังไงก็ต้องเจอะกัน... ฯลฯ”

เขาร้องจนจบเพลงแล้วเอ่ยถาม

“เชื่อเรื่องเนื้อคู่ไหม ต่อให้อยู่กันแสนห่างไกลเพียงไหน ในที่สุดจะได้มาอยู่เป็นคู่กัน คนที่เป็นเนื้อคู่กัน เขาว่าเคยทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน เหมือนพี่กับหนึ่งสงสัยเราอาจเป็นเนื้อคู่กัน เพราะเคยทำบุญร่วมกัน ตักบาตรร่วมขัน”

“อ๋อที่เขาว่าตักบาตรร่วมขันหนึ่งเคยได้ยิน นั่นหมายถึงคู่บ่าวสาวทำบุญใส่บาตรในพิธีแต่งงาน ใครเคยเป็นเนื้อคู่กันเมื่อชาติปางก่อน ชาตินี้จะได้กลับมาเป็นคู่กันอีก แต่หนึ่งไม่รู้ว่าชาติก่อนหนึ่งมีเนื้อคู่ไหม รู้แต่ว่าชาตินี้ไม่มีแล้ว” เธอทำน้ำเสียงเศร้าสร้อยลงอีก

“อย่าเศร้าไปเลย บางทีเนื้อคู่ของหนึ่งอาจมีจริง เพียงแต่เขาไม่ใช่คนรักของหนึ่งคนนั้น แต่เขาอาจเป็นคนอีกคนที่รักหนึ่งและหนึ่งก็รักเขาด้วย อาจจะได้เจอกันในอนาคตข้างหน้า” ยุติพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนประโลมใจ

“ดีนะที่พี่พูดปลอบใจหนึ่งอย่างนี้ แต่ตอนนี้หนึ่งไม่มีอารมณ์จะรักใครหรอก อยากให้ชีวิตเป็นอิสระ อยากจะผ่านพ้นทุกข์ใจในตอนนี้ไปให้ได้”

“ชีวิตไม่ได้มีแต่วันนี้อยู่ยาวนานหรอก วันหนึ่งมันจะผ่านพ้นไป พี่อยากให้เราดีต่อกันเหมือนอย่างนี้ทุกวันเรื่อยไป พี่คิดอย่างนั้นนะ” เขาพูดไปอย่างที่คิด ยิ้มให้เธออย่างมีความสงบสุขอิ่มอาบซาบซึ้งใจ...



..........ในเวลารับประทานอาหารค่ำของบ้านอมตนครา บรรยากาศเงียบเชียบวังเวงวิเวกนัก

“สงสัยมื้อนี้คงมีแค่เราสองคน คุณพ่อมีนัดกับเพื่อน คุณลูกลิตมีเลี้ยงฉลองกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ส่วนยุติต้องรีบไปซ้อมดนตรี”

“งั้นตั้งโต๊ะกันเลยไหมคะน้าเพ็ญพิศ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นชืดเสียรส” เพชรน้ำหนึ่งบอก ทั้งสองคนจึงไปช่วยกันในครัว ลำเลียงข้าวปลาอาหารมาตั้งบนโต๊ะ

“สวัสดีค่ะน้าประยุทธ์ มาพอดีทันเวลาอาหารค่ำ ทานข้าวมาหรือยังคะ” เพชรน้ำหนึ่งเอ่ยทักเจ้าของบ้านที่เพิ่งกลับเข้าบ้าน

“ยังเลย วันนี้มีอะไรกินบ้าง” คุณประยุทธ์ตอบ พร้อมรอยยิ้มทักทายเพชรน้ำหนึ่งแขกสาวคนสวยประจำบ้าน

“อ้าว... พ่อมาพอดี แล้วนัดกับเพื่อนไม่ไปแล้วหรือคะ” คุณเพ็ญพิศเอ่ยถามสามีตน

“เพื่อนเก่าสมัยเรียนมันโทรมาขอเลื่อนนัด ไม่ได้มีธุระสำคัญอะไรหรอก พ่อเลยกลับมากินข้าวบ้านดีกว่า”

“กำลังจะทานข้าวกันพอดี ให้ผมร่วมวงด้วยคนสิ” ยุติพูด เมื่อโผล่หน้าเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร “พ่อ สวัสดีครับ” เขากล่าวทักทาย และยกมือไหว้บิดาอันเป็นมารยาทประจำที่เขาถือปฏิบัติเสมอมา

“นั่งเลยลูกจะได้กินข้าวด้วยกัน”

“อ้าว... ยุติ ไม่ค่อยเห็นมาทานข้าวเย็นที่บ้านเลย เย็นนี้มาได้ แล้วไม่รีบไปซ้อมดนตรีเหรอ” คุณเพ็ญพิศถามลูกชาย

“ซ้อมทุกวันอยู่แล้ว วันนี้ไปซ้อมช้าบ้างคงไม่เป็นไร เอ้อแม่... ไม่เห็นลิตเลยไม่อยู่เหรอ”

“มีกินเลี้ยงกับพวกเพื่อนที่มหาวิทยาลัย หมู่นี้เกือบทุกคืนเลยกลับบ้านดึกดื่น”

“ดีแล้วปล่อยมันเถอะแม่ให้มันได้ไปเจอเพื่อนฝูง พอเรียนจบอีกหน่อยจะเหงาไม่ค่อยได้เจอเพื่อนเหมือนตอนเรียนหรอก” เขาพูดอย่างนั้น แต่ในใจคิด...

‘น้องชายเราคงไม่คิดจีบหนึ่ง นั่นแสดงว่าคำพูดใส่ร้ายป้ายสีที่เคยพูดเกี่ยวกับหนึ่งมีผลทำให้ลิตเปลี่ยนใจไม่จีบหนึ่งได้ แต่เพื่อความแน่ใจชัดเจนต้องลองถามแม่อีกทีดีกว่า’

ยุติเห็นเพชรน้ำหนึ่งเข้าไปในครัวแล้วจึงแอบเข้าไปกระซิบถามแม่ ซึ่งกำลังยืนจัดโต๊ะอาหารอยู่

“ลิตไม่ค่อยอยู่กินข้าวเย็นด้วยอย่างนี้หนึ่งคงเหงาแย่สิ ลิตไม่คิดจะจีบหนึ่งแล้วเหรอแม่”

“อืม... หมู่นี้ท่าทางลิตเฉยชากับหนึ่งยังไงไม่รู้ แม่เดาใจไม่ออก”

คำตอบของแม่ทำให้เขายิ้มออกมาได้ สักครู่เขาเห็นเธอเดินออกมาจากในครัวพร้อมจานผลไม้ จึงรีบผละออกห่างจากแม่ของตนด้วยไม่อยากถูกเห็นว่ากำลังแอบนินทาเธออยู่ เดินมานั่งประจำที่โต๊ะรับประทานอาหาร

“ความจริงผมกินข้าวกับตายายมานิดหน่อยแล้ว ผมคงกินได้อีกไม่เยอะ แต่เห็นกับข้าวที่นี่น่ากินเลยขอกินซะหน่อย” เขาบอก พร้อมกันนั้นได้ลงนั่งเคียงข้างเพชรน้ำหนึ่ง สาวเจ้าจึงปรนนิบัติเอาใจตักข้าวใส่จานให้เขา ต่อจากนั้นคุณเพ็ญพิศถึงตักข้าวให้สามีของตนบ้าง

“พี่ยุติกินพะแนงเนื้อไหม เดี๋ยวหนึ่งตักใส่ถ้วยแบ่งให้”

“กินสิตักมาเลย” เขาตอบพยักหน้ารับ

เธอจึงตักแกงใส่ถ้วยเล็กนำมาตั้งวางให้ข้างจานของเขา

“ขอบใจนะหนึ่ง แหม... หนึ่งช่างเอาใจพี่นะแบบนี้พี่ชอบ” เขาบอก “หนึ่งกินทอดมันไหม เดี๋ยวพี่ตักให้” เขาถาม เห็นเธอพยักหน้ารับ จึงตักชิ้นทอดมันมาใส่จานให้ พร้อมกับตักแตงกวาในน้ำจิ้มทอดมันให้ด้วย

“ชอบกินแตงกวา” เธอบอกแค่นั้น

แค่นั้นเขาก็เข้าใจ จึงตักแตงกวามาใส่จานให้อีกเพียบ

“พอก่อนพี่ยุติเดี๋ยวแตงกวาหมดถ้วยน้ำจิ้ม คุณน้าทั้งสองคนไม่ได้กินกัน”

“ไม่ต้องเผื่อพ่อกับแม่หรอก หนูหนึ่งชอบกินอะไรกินเข้าไปเลย พ่อว่าหนูหนึ่งผอมไปนะกินให้เยอะเถอะ” คุณประยุทธ์บอก แล้วทุกคนจึงกินข้าวกันไปอีกครู่หนึ่ง

“อ้าวพี่ยุติทานน้อยจัง อิ่มแล้วเหรอ”

“พี่อิ่มข้าวแล้ว กินอย่างอื่นดีกว่า”

“ต่อด้วยผลไม้ไหม? มีทั้งเงาะ แตงโม แล้วนี่สับประรด”

“ว้า... เงาะมีเม็ด แตงโมยิ่งมีเม็ดเยอะกว่าอีก สับประรดนี่เปรี้ยวไป เข็ดฟันสงสัยกินไม่ไหว” เขาพูดแบบเป็นคนเรื่องเยอะ

“เงาะไม่มีเม็ดเลย เพราะว่าหนึ่งคว้านเม็ดออกหมดทุกลูก ส่วนแตงโมหนึ่งแคะเม็ดออกแล้ว พี่ยุติกินได้อย่างสบาย ส่วนสับประรดนี่ไม่เปรี้ยวนะกำลังสุกหวานฉ่ำ ถ้าพี่ยุติกลัวเปรี้ยวให้จิ้มกินกับพริกกะเกลือ หนึ่งทำไว้ให้จิ้มแกล้มกันแล้วล่ะ เดี๋ยวหนึ่งตักให้นะพี่ยุติลองกินดู” ว่าแล้วจึงตักมาใส่จานของเขาทุกอย่างที่ว่ามา

“แตงโมยังมีเม็ดเหลืออยู่”

“งั้นพี่ยุติคายเม็ดแตงโมใส่กระดาษทิชชู่ ทิ้งในชามใส่เศษอาหารข้างหนึ่งนี่ก็ได้ค่ะ” เธอบอกยกจานใส่เศษอาหารมาให้เขาทิ้ง

แล้วเขาจึงกินแตงโมชิ้นต่อไป เห็นเธอมองดูเขาอยู่ทั้งทำตาแป๋วแล้วกระพริบ ...กระพริบ

“มันยังมีเม็ดอยู่อีกไหมพี่ยุติ”

“ชิ้นนี้ไม่มีแล้วล่ะ หนึ่งนี่น่ารักจังพี่ชอบหน้าตอนนี้ของหนึ่งจัง แล้วอาหารที่หนึ่งทำนี่อร่อยถูกใจพี่หมดเลย” เขาเอ่ยชมด้วยในใจพี่ปลื้มเธอแบบสุดจิตสุดใจ สายตาที่มองเธอในตอนนี้บ่งบอกเช่นเดียวกันกับถ้อยคำที่บอกไป

“อะแฮ่ม! อาหารนี่แม่ทำด้วย มีหนึ่งเป็นผู้ช่วย ไม่เห็นชมฝีมือแม่บ้างเลย” คุณเพ็ญพิศแกล้งพูดขัดจังหวะบุตรชายคนโตด้วยเห็นว่าบุตรชายส่งสายตามองสาวสวยข้างกายเป็นประกายหวานหยาดเยิ้มย้อยหยดราวมดจะขึ้น... ส่งผลให้คุณแม่อายเขินแทนจนทนมองดูอยู่เฉยไม่ไหว

“แหม... แม่ทำอาหารอร่อยเป็นประจำอยู่แล้วน่า ไม่เห็นต้องให้ใครคอยสรรเสริญเยินยอเลย”

“น้าเพ็ญพิศ... น่องไก่ทอดนี่หนึ่งตักให้ค่ะ” เธอตักส่งใส่จานให้คุณเพ็ญพิศบ้าง กลัวใครจะหาว่าลำเอียงที่บริการอยู่แต่ยุติ

“ขอบใจจ้าหนูหนึ่ง” ในระหว่างรับประทานอาหาร ทุกคนต่างสนใจกับการกิน ไม่ค่อยมีเสียงพูดคุยอะไร เพชรน้ำหนึ่งใช้ช้อนส้อมจิ้มน่องไก่ทอดมาใส่จานตนเอง และฉีกด้วยช้อนส้อมกินส่วนเนื้อไก่ไป จนเหลือแต่กระดูกกับเอ็น ตั้งใจจะหยิบกระดูกขึ้นมาแทะแต่เกรงจะเปื้อนมือ จึงมองหากล่องกระดาษเช็ดหน้าซึ่งวางอยู่ข้างกายของยุติ

“หาทิชชู่เหรอ เอ้านี่พี่หยิบให้” เขาส่งให้เธอ นำไปพันกระดูกไก่ ช่วยให้เธอกินไก่ได้หมดเกลี้ยง เหลือแต่เศษกระดูกเปล่า โดยไม่รู้ตัวว่าซอสมะเขือเทศน้ำจิ้มไก่ได้เลอะเป็นรอยเลยริมฝีปากลงมาถึงคาง “เลอะแล้วพี่เช็ดปากให้หนึ่ง” เขาหยิบกระดาษเช็ดหน้าจะเช็ดให้จริงจัง

“ไม่เป็นไร หนึ่งเช็ดเอง” เธอเอื้อมมือจะแย่งหยิบจากมือเขา แต่เขากลับยกมือหนีไม่ยอมปล่อยให้

“ไม่ให้เช็ดเอง เธอมองไม่เห็นหน้าตัวเองตอนนี้ ให้พี่ทำให้ดีกว่า”

เมื่อเขามีเหตุผลเช่นนั้นเธอจึงยอมปล่อยให้เขาทำให้ไม่ยื้อแย่งอีก พยายามจะไม่มองหน้าของเขา แต่เห็นว่าเขาเหลียวมองดูแม่ของเขาแวบหนึ่ง ซึ่งกำลังอมยิ้มอยู่

“ยิ้มอะไรเหรอคุณเพ็ญพิศ” คุณประยุทธ์ถามภรรยาขึ้นมา

“เปล่าหรอกค่ะ เห็นหนุ่มสาวเขาปรนนิบัติเอาใจกันดูน่ารักดี” คุณเพ็ญพิศตอบสามี

ส่วนคนที่ตกเป็นเป้าสายตาทั้งสองเกิดอาการเขินขึ้นมา จึงพูดเฉไฉ

“เขาทำตามมารยาทกันหรอกแม่ ผมออกจะเป็นสุภาพบุรุษ” ยุติบอกอมยิ้มให้เธอ

ได้มองตากันเพียงแวบเดียว แล้วเธอรีบหลบตาเขา ได้แต่นึกว่าคำพูดของเขาช่างตรงกับในใจที่เธอคิดจะพูดออกไปพอดี

“หนึ่งก็อยากจะพูดอย่างที่พี่ยุติว่านั่นแหละ”





ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ธ.ค. 2559, 21:04:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ธ.ค. 2559, 21:04:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 912





<< ตอน 7 [1]   ตอน 8 [1] >>
ไตรติมา 7 ธ.ค. 2559, 21:07:26 น.
อีบุ๊กมี 2 เล่มจบค่ะ ช่วยอุดหนุนดาวน์โหลดกันนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=51053


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account