คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 15 [1]


..........ในห้องนอนของวิชุดา มีไทธรรพ์นอนแนบข้าง ทั้งสองอยู่บนเตียงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

เรือนร่างเปล่าเปลือยด้วยกันทั้งคู่ แล้วเธอใช้โทรศัพท์มือถือเซลฟี่ถ่ายรูปคู่กัน

“ถ่ายรูปทำไมเหรอ”

“อยากเก็บไว้ดูแก้คิดถึงถ้าเกิดวันหนึ่งเราต้องห่างกัน”

“อ้าว... ทำไมเราต้องห่างกันล่ะ”

“ไทธรรพ์ไม่กลับไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเหรอ เห็นว่าต้องเข้ามหาวิทยาลัยใช่ไหม”

“ใช่... ไปอยู่ญี่ปุ่นกับผมนะ ผมจะขออนุญาตป๋าให้คุณครูเปิดค่ายมวยไทยที่โน่นด้วย”

“ถ้าได้ไปญี่ปุ่นฉันอยากเรียนต่อปริญญาโทนะ ตอนนี้ฉันอยู่ปีสามเรียนอีกปีกว่าจะจบปริญญาตรี ความฝันของฉันไม่ได้อยู่ที่ค่ายมวยนี่ไปตลอดหรอก ที่ทำทุกวันนี้เพื่อช่วยพ่ออย่างลูกกตัญญูคนหนึ่งเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อ แต่ฉันมีความฝันของฉัน ฉันชอบแฟชั่นเสื้อผ้า ฉันอยากทำธุรกิจประเภทนี้มากกว่า”

“อย่างนั้นเหรอ น่าเสียดายนะ”

“เสียดายทำไมล่ะ”

“ผมฝันอยากทำค่ายมวยไทยที่ญี่ปุ่น ทำให้มวยไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อยากเดินตามรอยความฝันของพ่อแท้จริงของผม พ่อเป็นครูมวยทุ่มเทแรงกายแรงใจสั่งสอนลูกศิษย์มากมาย”

“ครูเป็นหนึ่ง... เป็นครูมวยที่ยิ่งใหญ่แท้จริง มุ่งมั่นสั่งสอนและให้กำลังใจลูกศิษย์ ตอนที่เจอลูกศิษย์ยากจนไม่มีจะกินคุณครูสู้อุตส่าห์หุงหาข้าวปลาอาหารให้กิน พาไปชกมวยจนได้เงินค่าตัวมาเลี้ยงชีวิตได้ ถึงจะมีบางคนหันเหไปชกมวยสากลบ้าง แต่พวกเขายังเคารพครู ไม่มีใครลืมบุญคุณของครูเลย”

“ผมอยากให้คุณครูช่วยผม ช่วยกันทำค่ายมวยไทยที่ญี่ปุ่น”

“ไม่ไหวล่ะไทธรรพ์ ฉันบอกตามตรงฉันเบื่อค่ายมวย อยากเจอสิ่งสวยงามแฟชั่นสีสันมีนางแบบสวยนายแบบหนุ่มหล่อ ไม่อยากเจอกลิ่นเหงื่อเหม็นฉุน นักมวยไม่ใส่เสื้อร่างกายฟกช้ำเปื้อนเลือดไม่ใช่ภาพน่าดู พอเถอะเลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า” เธอตัดบท ออกอาการบ่งบอกว่าเบื่อหน่ายจริง

ไทธรรพ์ได้แต่นิ่งเงียบ ...ครุ่นคิด



..........ค่ายมวยในตอนเย็น

“ขอบคุณพี่ไทธรรพ์ กาแฟเย็นใส่นมเยอะนี่อร่อยดี คุกกี้นี่ก็อร่อย อิ่มแล้วค่อยไปซ้อมมวย” เพชรน้ำหนึ่งบรรยายไปพร้อมปากขบเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

ตรงกันข้ามกับไทธรรพ์ ท่าทีหงอยเหงาเศร้า

“เฮ้อ...” ไทธรรพ์ถอนหายใจยาวโดยไม่พูดจา ทำเป็นไม่สนใจเพชรน้ำหนึ่ง

“อ้าว... เป็นไรไป ดูไร้อารมณ์พิกล”

“ขาดคนร่วมฝัน”

“หือ? มีเรื่องอะไรกับคุณครูหรือเปล่า”

“เปล่าหรอก” ไทธรรพ์ตอบด้วยท่าทางเซ็ง “หนึ่งมีความฝันไหมแบบที่อยากมีอยากเป็น โตขึ้นอยากเป็นอะไร”

“อ๋อ... หนึ่งอยากเป็นนักมวยหญิงชิงแชมป์เปี้ยน แล้วมีชื่อเสียงเด่นดังที่สุด แล้วก็... ยังมีความฝันอื่นอีกเยอะแยะ”

“ความฝันของหนึ่งมีอะไรบ้างบอกมาอีกสิ พี่อยากฟัง”

“หนึ่งฝันอยากแต่งงานกับผู้ชายรวย ความจริงมีผู้หญิงหลายคนคิดฝันแบบนี้กันเยอะนะ”

“ใช่... ผู้หญิงอยากอยู่อย่างสุขสบาย มีเงินใช้เยอะแยะและได้ไปช้อปปิ้ง”

“แต่หนึ่งไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งหรอก ถ้าหนึ่งได้แต่งงานกับผู้ชายรวยหนึ่งจะช่วยทำให้เขารวยยิ่งขึ้นไปอีก จากเศรษฐีธรรมดากลายเป็นมหาเศรษฐี เหมือนเสือธรรมดาหนึ่งจะติดปีกให้เสือ เสือจะบินได้ไม่ใช่เสือธรรมดาอีกต่อไป เพราะหนึ่งจะเป็นปีกให้เสือล่ะ” เธอว่า

ไทธรรพ์ฟังไปยิ้มไป เห็นเป็นเรื่องขำขันกับเด็กสาวช่างฝัน

“ช่างเปรียบเทียบ เพ้อฝันแบบแปลกดี แต่พี่ชอบความคิดฝันของหนึ่งล่ะ”

“แล้วหนึ่งฝันอยากมีอาณาจักรของตัวเอง หนึ่งจะปกครองให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หนึ่งฝันอยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่แบบที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย แล้วความฝันของพี่ไทธรรพ์ล่ะ”

“พี่ฝันอยากทำค่ายมวยไทยที่ญี่ปุ่น สอนนักมวยให้เก่งเป็นแชมป์ ทำให้มวยไทยมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมจนคนทั่วไปรู้จัก”

“ขอให้มีมวยหญิงด้วยนะพี่ไทธรรพ์ หนึ่งขอสมัครเป็นนักมวยหญิงคนแรกของค่าย หนึ่งจะช่วยทำให้ค่ายมวยของพี่ไทธรรพ์โด่งดังมีคนรู้จักมากมาย เอ... อย่างนั้นหนึ่งต้องไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยสิ เอ่อ... หนึ่งพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เป็น”

“ไม่เห็นยาก พี่จะส่งให้เรียนภาษาญี่ปุ่น ฉลาดอย่างหนึ่งไม่นานคงพูดญี่ปุ่นได้”

“แต่ค่าเรียนภาษาญี่ปุ่นมันแพงมากนะ กว่าจะเรียนจนพูดได้คงหมดเงินโข”

“งั้นพี่ออกเงินให้หนึ่งเอง ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินที่บ้านพี่รวยมากมีเงินเยอะแยะ ป๋าของพี่เป็นมหาเศรษฐีมีเงินมากมายหลายพันล้าน อาจจะถึงหมื่นล้านได้มั้ง” ไทธรรพ์คุยโอ้อวด

ส่วนเพชรน้ำหนึ่งมองตาค้าง แต่ยังไม่เชื่อถือนัก

“จริงเหรอ... พี่ไทธรรพ์ไม่ได้โม้?”



..........เหมือนวันธรรมดาทุกวัน เพชรน้ำหนึ่งมาถึงค่ายมวยตั้งแต่หัววัน แต่ไม่ทำอะไรเลยหลังจากดื่มน้ำและกินขนมแล้ว ยังคงนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ไม่เลิก

“เมื่อไรจะโตนะนี่เรา เอาแต่อ่านหนังสือการ์ตูนผู้หญิง ยังไม่ไปซ้อมอีก”

“แหม... เดี๋ยวก่อนซี่ขอแป๊บหนึ่ง เรื่องนี้กำลังสนุก”

“หน้าตาไม่แต่ง ปากแห้งไม่รู้จักทาลิปมันบ้าง เห็นแล้วทนดูไม่ได้ พี่เลยซื้อมาให้ใช้ นี่...” ไทธรรพ์วางลิปมันลงต่อหน้า

“อ๋อ... ขอบคุณค่ะ” เพชรน้ำหนึ่งกล่าวขอบคุณตามมารยาท หันมองดูหน่อยหนึ่ง แล้วจดจ่อกับการอ่านการ์ตูนต่อไปอีก

“ไม่รู้จักแต่งตัวเอาเสียเลย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะโตเป็นสาวมีฟงมีแฟนกับเขาเสียที”

“ปล่อยหนึ่งไปสักคนเถอะ ตอนนี้หนึ่งยังเด็ก อยากเล่นซนเป็นลิงเป็นค่างอยู่ ยังไม่อยากมีแฟน ไม่อยากโตเป็นชะนีร้องหา... นั่นแหละ” เธอกล่าว ออกจะเขินไม่กล้าเอ่ยคำบางคำออกไป

แต่ไทธรรพ์รู้ดีถึงคำเรียกที่เด็กสาวอายไม่กล้าเอ่ย

“เป็นชะนีร้องหาผัว ผัว ผัว...” เขาช่วยพูดให้ ตามประสาคนที่มีนิสัยขี้เล่น ได้เห็นท่าทีเขินอายของสาวน้อยแล้วอดนึกเอ็นดูไม่ได้ เลยพลอยทำให้เธอหัวเราะตามไปด้วย

“นี่... ลองทาลิปมันที่พี่ให้ดูสิ มันเปลี่ยนสีได้เป็นสีชมพูอ่อน พี่ว่าเหมาะกับหนึ่งดี” ว่าแล้วเห็นเธอยังคงเฉย ไม่สนใจไม่ทำตามจึงแกล้งดุว่า...

“ทาลิปมันเดี๋ยวนี้พี่อยากเห็น ยัง... ยังไม่ยอมทาอีก งั้นพี่ทาให้เองเดี๋ยวสวยแน่”

และพร้อมกันนั้นเขาได้หยิบลิปมันขึ้นมา จับคางเพชรน้ำหนึ่งนิ่งไว้ แล้วทาลิปมันให้อย่างว่ามาทั้งที่เธอยังอ่านหนังสือการ์ตูนไม่ยอมวาง

“อืม... เข้าท่า ดูกระจกซิ” ไทธรรพ์เอ่ยชม แล้วไปหยิบกระจกอันเล็กมาให้

เธอส่องดูแบบขอไปที แล้วกลับทำตาเบิกโต...

“เอ๋... มันเปลี่ยนสีได้จริงด้วยกลายเป็นสีชมพูอ่อน ...สวยจัง ขอบคุณนะพี่ไทธรรพ์” เธออุทาน แปลกใจเล็กน้อย แต่ชื่นชม...

“เห็นไหมล่ะเป็นเด็กสาวแค่แต่งนิดเดียว ไม่ต้องเยอะ แค่นี้ก็สวย...” เขากล่าวและยิ้มให้ จ้องมองอย่างพินิจแถมชื่นชมอีกนิด “ริมฝีปากอิ่มนะหนึ่ง อย่างนี้เรียกว่าปากน่าจูบ” เขาแค่พูดหยอกเย้าเล่นโดยไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจัง

เพียงแค่นั้นเพชรน้ำหนึ่งกลับอายมากจนเก็บอาการไม่อยู่ ดวงตาราวกับลูกกวางน้อยตื่นเต้นตกใจ มองจ้องเขาแวบหนึ่ง! แล้วซ่อนหน้าหนีหลบ... โดยการยกหนังสือการ์ตูนให้สูงขึ้นมาบังใบหน้าตน แกล้งทำเป็นอ่าน... ทำไม่สนใจ

นั่นทำให้ไทธรรพ์สะดุดใจ...

‘เด็กในวันนี้ต้องโตเป็นสาวในวันหน้า ดูมาดูไป... ถ้าโตเป็นสาวคงสวยไม่ใช่เล่น’

นึกได้อย่างนั้น จู่ ๆ หัวใจเกิดเต้นแรง... พลอยอายเขินขึ้นมาด้วยเหมือนกัน จึงไม่กล้าจ้องหน้าเด็กสาวตรงหน้าอีก

...ตกดึกคืนนั้น ไทธรรพ์กลับมานอนไม่หลับ ในหัวใจหวามไหวและไม่อยากจะหลับนอน

‘ดวงตาคู่นั้นเหมือนมีมนต์ดลใจ ทำไมต้องหวั่นไหว ในใจนึกเห็นแต่หน้าเด็กคนนั้น’



..........วันหยุดสุดสัปดาห์คราวนี้เป็นวันที่พิเศษสำหรับเพชรน้ำหนึ่ง เมื่อไทธรรพ์พาคุณครูวิชุดามาเที่ยวถึงบ้านสวน

ทั้งคุณตาคุณยายให้การต้อนรับอย่างดี โดยเฉพาะคุณยายตั้งใจจะทำกับข้าวไม่ธรรมดา จากท้ายสวนมะพร้าวมีกอไผ่เริ่มแตกหน่อออกมามาก คุณยายตั้งใจจะไปขุดเอามาทำกับข้าวมื้อเย็นสำหรับเลี้ยงแขก

แต่งานนี้เพชรน้ำหนึ่งรับอาสาไปขุดหน่อไม้เอง ระหว่างกำลังก้มหน้าก้มตาขุดอยู่ได้ยินเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้น ในใจเธอนึกว่าเป็นเสียงของไทธรรพ์

“ทำอะไรอยู่เหรอหนึ่ง”

“ขุดหน่อไม้ให้ยายทำกับข้าว พี่ไทธรรพ์จะได้กินมื้อเย็นนี้ไง” เธอตอบ ขณะกำลังขะมักเขม้นขุดหน่อไม้ แต่นึกขึ้นได้ว่าคนที่ถามไม่น่าใช่ไทธรรพ์ เพราะเสียงนี้เหมือน... จึงชะงักมือแล้วหันหลังเหลือบไปมองแวบหนึ่ง

“อ้าว... พี่ยุติ” เอ่ยทักเพียงเท่านั้น เพราะเขาคือคนที่เธอไม่อยากเจอเลยสักนิดและไม่คิดจะคุยด้วย

“แหม... ไม่ค่อยได้เจอหน้าเจอตาหนึ่งเลยนะ เอาแต่เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ทั้งที่บ้านเราอยู่ติดกันพี่มาทีไรไม่เคยเจอเลย แต่วันนี้กลับเจอตัวได้” ยุติพูดจ้ออยู่คนเดียว “นี่... มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้ เอ... อยากจะช่วยหนึ่งขุดด้วย แต่ไม่มีอะไรใช้ขุดได้เลยแฮะ งั้นพี่ช่วยตอนขนหน่อไม้พวกนี้แล้วกัน” เขาบอก ยืนมองดู...

เธอเอาแต่ขุด... และขุดโดยไม่พูดจา ใช้ชะแรงกระแทกลงดิน แซะหน่อไม้ออกจากดินทีละหน่อ จนกองรวมกันได้สักสิบหน่อจึงวางชะแรง หายใจกระหือกระหอบเพราะเหนื่อย...

“อ้าว... เลิกขุดแล้วเหรอ ยังเห็นมีอีกหลายหน่อ ไม่ขุดอีกล่ะ”

“เหนื่อย... พอแล้ว” เธอตอบแบบห้วน มือจับหน่อไม้หยิบรวบรวมใส่กระสอบ แล้วใช้มือรวบปากกระสอบ ลากไปได้นิดหน่อย

หลังจากนั้นยุติรีบเข้ามาช่วย...

“เกือบเต็มกระสอบอย่างนี้ท่าทางจะหนักให้พี่ช่วยลากดีกว่า จับขอบกระสอบคนละข้าง แล้วช่วยกันหิ้วไป”

เธอทำตามไปอย่างนั้น ทั้งที่ใจจริงอยากลากกระสอบไปคนเดียวจะได้ไม่ต้องเดินคู่ไปกับเขา

“บ้านหนึ่งมีแขกเหรอ เป็นใครกันแนะนำให้พี่รู้จักบ้างสิ ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“เดี๋ยวแนะนำให้” เธอบอก แต่ในใจนึกรำคาญคนข้างบ้านคนนี้ เพราะเห็นว่าเขาจุ้นจ้านวุ่นวายมากเกินไป

แท้จริงแล้วยุติอยากจะทำตัวเป็นมิตรใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงให้มากกว่านี้ แต่ดูจากสีหน้าของเด็กสาวทำให้พอเดาใจได้ว่าเธอไม่เล่นด้วย





ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ม.ค. 2560, 19:04:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ม.ค. 2560, 19:04:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1027





<< ตอน 14 [2]   ตอน 15 [2] >>
ไตรติมา 9 ม.ค. 2560, 19:07:03 น.
โหลดอีบุ๊กกันค่ะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
โหลดฟรีอีบุ๊ก >> https://www.mebmarket.com/ebook-51222-คู่หมั้นคืนเหงาใจ-ฉบับพิเศษ
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
หมายเหตุ - ฉบับพิเศษ ไม่ใช่เนื้อเรื่องสรุปย่อนะคะ เป็นเพียงตอนหนึ่งในเนื้อเรื่องเท่านั้น ยังมีเนื้อเรื่องยาวทั้งหมด 54 ตอนจบค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account