ใต้รอยสวาท
เมื่อเรื่องราวในอดีต..ยังโลดแล่นลงทัณฑ์หัวใจทุกดวง
ความผิดพลาดใต้รอยสวาทนี้ จะมีบทลงเอยอย่างไร
..........................................................................
คนในอดีตย้อนกลับเข้ามาในชีวิต และหวังช่วงชิงแก้วตาดวงใจ เพื่อแก้แค้นเอาคืน
ลลนาจะทำเช่นไร เมื่อหล่อนไม่เคยรักพ่อของลูก แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นความรักปนแค้นที่เขาหยิบยื่นให้ หล่อนต้องสู้เพื่อลูก และผู้ชายอีกคนที่เข้ามาสอนให้หล่อนรู้จักความหมายของคำว่า 'รัก'
Tags: สวาท,รักร้าย,ซิงเกิ้ลมัม,ริษยา,นิยายรัก,ดราม่า

ตอน: บทที่ 6 ความคิดถึง

ข่าวประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าท้องทะเลจะมีคลื่นสูง และลมกรรโชกแรงจากพายุฤดูร้อนที่พัดผ่านทะเลฝั่งอ่าวไทย คัมภันจึงต้องหยุดออกเรือสักอาทิตย์ และกลับไปเข้างานที่รีสอร์ท วันนี้เขามาทำงานแต่เช้าตามสัญญาที่ให้ไว้กับเลศยา และมีขนมครกกับน้ำเต้าหู้ติดไม้ติดมือมาฝากอีกด้วย

“ลุงภันมาแล้ว”

เลศยาในชุดกางเกงลายมิกกี้เม้าส์สีแดงดำทักทายเสียงดังแล้ววิ่งมาหา กระโดดเหยงๆ บอกว่าคิดถึง คัมภันยิ้มกว้าง หัวใจพองโต นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ยินคำนี้

“ลุงซื้อขนมครกมาฝาก”

“ครกกินได้เหรอคะ”

คัมภันหัวเราะแล้วย่อตัวลงนั่ง เขายื่นขนมครกในกระทงใบตองให้เลศยาลองชิม พร้อมทั้งอธิบายให้หนูน้อยเข้าใจอย่างเป็นเรื่องเป็นราวว่าขนมครกคืออะไร ทำจากอะไร และต่างจากครกที่เลศยาเคยเห็นป้าแป๊ดใช้ตำส้มตำอย่างไร

ลลนาเดินตามมาสมทบ คัมภันจึงเอ่ยชวนร่วมวงขนมครกเจ้าอร่อย วันนี้เขาได้เห็นรอยยิ้มของลลนาแต่เช้า หล่อนเล่าให้ฟังว่าครอบครัวเป็ดที่เคยไปเลือกซื้อกันวันก่อนได้อยู่ในสวนสวยแล้วเรียบร้อย

“สวนเป็ดลุงภันค่ะ” เลศยาช่วยเสริม อวดอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนตั้งชื่อสวนสวยนั้นด้วยตัวเอง

“ชักอยากเห็นแล้วสิ พาลุงไปดูได้ไหมจ๊ะ”



ลลนาเดินตามหลัง มองภาพอบอุ่นของผู้ชายตัวโตจูงมือน้อยของลูกสาวหล่อนแล้วต้องอมยิ้ม เช้านี้เลศยาตื่นได้เองโดยที่แม่รันไม่ต้องปลุก หนูน้อยรีบอาบน้ำแต่งตัว และบอกอย่างตื่นเต้นว่าลุงภันสัญญาจะมาแต่เช้า ดีที่เขารักษาสัญญา เลศยาจึงไม่ผิดหวัง แต่ลลนาอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าวันใดวันหนึ่ง คัมภันมีครอบครัว และต้องห่างหายไปจากชีวิตของหล่อนและลูก สภาพจิตใจของเลศยาจะเป็นเช่นไร รวมถึงหล่อน กับความรู้สึกที่เป็นอยู่ในใจตอนนี้จะเป็นเช่นไร

“แม่รันคะ”

เลศยาหยุดเดินแล้วหันมากวักมือเรียก ส่วนคัมภันก็หันมายิ้มและมองหล่อนด้วยสายตาที่ชวนให้ใจสั่น ลลนาแสร้งมองไม่เห็นตากรุ้มกริ่มของคัมภัน หล่อนเดินไปจับมือลูกสาวที่ยื่นมารอ และเดินเคียงข้างไปด้วยกัน สามคน แม่เป็ด ลูกเป็ด และ.... พี่เลี้ยงลูกเป็ด



เลศยาคุยให้คัมภันฟังไม่หยุดว่าตนมีหน้าที่ใดในการสร้างสวนเป็ดลุงภันบ้าง ลูกสาวมีความสุขจนลืมไปเสียแล้วว่ายังมีแม่รันอีกคนนั่งมองอยู่ห่างๆ จะมีก็แต่สายตาของคัมภันที่เหลือบมาครั้งคราว เขาเหมือนมีบางอย่างจะพูดกับหล่อน แต่ถูกเลศยาแย่งซีนจนไม่มีโอกาสเลย กระทั่งพัทนีเดินออกมาจากบ้าน ป้าเอ่ยทักทายหลานตัวน้อย รับไหว้คัมภัน แล้วเดินมานั่งข้างลลนาบนม้านั่งตัวเดียวกัน

“วันหยุดนี้ พายายไลท์ไปเที่ยวสวนสนุกสิรัน ป้ามีบัตรอยู่สามใบ ถ้าไม่ไปก็น่าเสียดายนะ”

ลลนามองหน้าพัทนี แปลกใจเพราะอายุของป้าก็มากแล้ว ทำไมจึงมีบัตรผ่านประตูสวนสนุกได้

“ป้าเอามาจากไหนคะ”

“นนท์ช่วยจัดการให้ ถือเป็นของขวัญให้หลานก็แล้วกันนะ”

อาทิตย์หน้าคือวันเกิดครบรอบสี่ขวบของเลศยา ลลนาจึงคล้อยตามความคิดของพัทนีโดยง่าย เพราะวันก่อนเพิ่งถูกลูกสาวรบเร้าให้พาไปเที่ยวสวนสนุก แต่หล่อนยังเครียดเรื่องบดินทร์ฉัตรจึงผัดผ่อนออกไป

“นนท์ไปด้วยใช่ไหมคะ เพราะรันไม่รู้เส้นทางเลย”

“นนท์ไม่ว่างจ๊ะ แต่ป้าคุยกับพ่อภันให้แล้ว รันไม่ต้องห่วงนะ วันนี้ถ้ามีเวลาก็เตรียมตัวไว้ พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางแต่เช้า แต่อย่าเพิ่งบอกยายไลท์นะว่าจะพาไปไหน จะได้เซอร์ไพรส์”

ลลนาหันกลับไปมองลูกสาวที่กำลังหัวเราะกับคัมภัน เลศยาคงดีใจถ้าได้รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะไปสวนสนุก

“เขารู้เส้นทางใช่ไหมคะ”

“เห็นเขาว่างั้นนะ แต่รันช่วยดูจีพีเอสด้วยก็ดี ถนนหนทางสมัยนี้มันเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน”

ลลนาไม่ได้ซักอะไรต่อ เพราะความสุขของลูกสาวคือสิ่งแรกที่หล่อนต้องนึกถึง เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ทันสมัย การเดินทางไปในสถานที่ไม่คุ้นสักแห่งไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ยิ่งผู้ร่วมเดินทางคือคัมภัน ลลนายิ่งเชื่อมั่นว่าเขาจะพาหล่อนและลูกไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย



บดินทร์ฉัตรแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งเพราะหงุดหงิดกับข่าวใหม่ที่ได้รับ ถึงตัวเขาจะอยู่ที่เกาะพงัน แต่ใจยังผูกอยู่กับลลนาและลูกสาวที่ระยอง เขาสั่งให้ลูกน้องเฝ้าสังเกตและคอยรายงานสถานการณ์อยู่เป็นระยะ วันนี้คัมภันพาลูกสาวและอดีตภรรยาของเขา ออกเดินทางจากรีสอร์ทไปตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งไม่รู้ว่าไปที่ใด บดินทร์ฉัตรด่าลูกน้องที่ไม่เอาไหน อีกทั้งยังกลุ้มใจเพราะสมองมันวิ่งพล่านไปในทางที่ไม่ควร เขาเชื่อว่าลลนากับคัมภันมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เขายังหวงเรือนร่างงดงามของอดีตภรรยา ที่บัดนี้เขาไม่มีสิทธิ์แตะต้องเหมือนเคย

“พี่ฉัตรไม่ทานมื้อเช้าก่อนเหรอคะ”

ปาลิดารั้งไว้ก่อนที่เขาจะออกจากบ้าน และเพราะอารมณ์ยังฟุ้งจึงพลั้งเผลอถ้อยคำทำร้ายใจภรรยา

“ผมจะกินหรือไม่กินมันเรื่องของผม”

ปาลิดาหน้าถอดสียืนมองสามีหุนหันจากไป หล่อนไม่เข้าใจอารมณ์ขึ้นลงของบดินทร์ฉัตร ตั้งแต่กลับจากระยอง เขาหงุดหงิดบ่อยครั้ง และขึ้นเสียงใส่หล่อนอย่างไม่มีเหตุผล เขายังเห็นหล่อนเป็นภรรยา หรือไม่เคยมีหล่อนอยู่ในสายตาของเขาสักน้อย

“พี่ฉัตรไม่กินข้าวเหรอพี่ปัน รีบไปไหนแต่เช้า”

น้องชายเพิ่งลงมาจากชั้นบน ทันได้เห็นบดินทร์ฉัตรรีบร้อนออกไป โดยปกติเอกวิญช์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะติดซ้อมกีฬา แต่เพราะพี่สาวไม่สบาย อีกทั้งมีเรื่องหนักใจ เขาจึงขออนุญาตโค๊ชกลับบ้านสักสองสามวัน

“งานมีปัญหาน่ะ เราไปกินข้าวกันเถอะวิน พี่หิวแล้ว”

ปาลิดาปั้นหน้ายิ้มให้เป็นปกติ พรุ่งนี้เอกวิญช์ต้องกลับไปมหาวิทยาลัยแล้ว หล่อนไม่อยากให้น้องต้องทุกข์กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“เดี๋ยวสายๆ ผมจะไปบ้านแม่ พี่ปันไปด้วยกันนะครับ กินมื้อเที่ยงกับพ่อแม่ก่อน แล้วผมค่อยไปขึ้นเครื่อง”

“ได้สิ”

มื้อเช้าครื้นเครงเพราะความช่างคุยของเอกวิญช์ ทำให้ปาลิดาพอมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้บ้าง เขาเล่าเรื่องที่มหาวิทยาลัย รวมถึงเรื่องขำขันของพ่อแม่สับเปลี่ยนกันไป ตั้งแต่เรียนจบ แต่งงาน ปาลิดาก็ห่างหายจากกลุ่มเพื่อน จากเดิมมีเพื่อนน้อยอยู่แล้วก็แทบไม่เหลือให้ติดต่อกัน หล่อนจึงสนิทกับน้องชาย และเรื่องระหว่างหล่อนกับบดินทร์ฉัตร เอกวิญช์ก็ได้รู้มากกว่าพ่อและแม่ของหล่อนเสียอีก



สวนสนุกดรีมเวิลด์ มากมายด้วยเครื่องเล่นและการแสดงนานาชนิด รวมถึงสวนน้ำที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ดรีมเวิลด์เป็นที่พักผ่อนของครอบครัว เปรียบดังสนามเด็กเล่นยักษ์ใหญ่ของเด็กๆ วัยซน เลศยายังตื่นเต้นกับเซอร์ไพรส์ที่แม่รันและป้าพัทนีมอบให้ไม่หาย หนูน้อยจำป้ายยักษ์ใหญ่ทางเข้าสวนสนุกได้ติดตาจากรายการโทรทัศน์ ประสาเด็กได้รับสิ่งถูกใจ หนูน้อยตบไม้ตบมือ พาร่างป้อมวิ่งไปทั่วจนลลนาวิ่งตามเกือบไม่ทัน แม่รันจึงต้องสร้างเงื่อนไข และขู่นิดๆ ว่าหากลูกสาวไม่ฟังคำสั่งจะให้คัมภันพากลับบ้านทันที แค่ได้ยินว่าจะพากลับบ้าน เลศยาก็หยุดวิ่งซน และยอมอยู่ในโอวาทของแม่รันอีกครั้ง

“คุณรันใส่เสื้อคลุมด้วยดีกว่านะครับ แดดค่อนข้างแรง”

คัมภันยื่นเสื้อยีนของเขาให้เมื่อลลนาสวมเสื้อแขนยาวและหมวกสีหวานให้ลูกสาวเรียบร้อย หล่อนมองหน้าเขาและขมวดคิ้วราวกับว่าลังเล

“ฉันไม่ร้อนเท่าไหร่ค่ะ แบบนี้คล่องตัวกว่า คุณใส่เอาไว้เถอะ”

“ไม่ดีกว่าครับ อยู่กลางทะเลร้อนมากกว่านี้อีก”

คัมภันเก็บเสื้อคลุมของเขาไว้ในรถ สวมแค่หมวกแบบเดียวกันกับลลนาและลูก ซึ่งไม่ใช่แค่หมวกเท่านั้น เสื้อยืดสีกรมท่าลายสมอเรือจิ๋วที่เราทั้งสามคนสวมก็แบบเดียวกัน ต่างกันแค่ขนาดเท่านั้นเอง เป็นครั้งแรกที่คัมภันยอมใส่ชุดครอบครัว เขาอมยิ้มและคิดไปไกลอยู่ลำพัง แม้ลลนาจะให้เหตุผลว่าเป็นความต้องการของเลศยาก็ตาม เขามีความสุข และอิ่มเอมในหัวใจอย่างอธิบายไม่ถูกเลย

“คุณแน่ใจนะคะว่าจะสะพายเป้นี้”

ลลนาหันมามองเมื่อเขารับอาสาสะพายเป้สัมภาระสีหวานลายน่ารัก มันคงไม่เหมาะกับผู้ชายบึกบึนนัก แต่คัมภันไม่ได้สนสายตาของใครนอกจากความสะดวกสบายของลลนา

“ครับ คุณรันจะได้ดูแลน้องไลท์ได้สะดวก”

“ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกได้ไหมคะ”

คัมภันเสยผมแก้เก้อเมื่อลลนาหัวเราะ ก่อนจะอุ้มเลศยาขึ้นมาฉีกยิ้มถ่ายรูปกับป้ายขนาดใหญ่หน้าประตูทางเข้าที่พลุกพล่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่

‘สวนสนุก’ ความสุขได้เกิดขึ้นแล้วในหัวใจทั้งสามดวง คัมภันและลลนาช่วยกันดูแผนที่และอ่านกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจในแต่ละจุด รวมทั้งเลือกเครื่องเล่นที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับเลศยา ความใกล้ชิดเพิ่มความสนิทให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก วันนี้ลลนาหัวเราะและยิ้มได้กว้างกว่าทุกวัน คงเพราะลูกสาวมีความสุข คนเป็นแม่จึงสุขได้เสียยิ่งกว่า



.....................................................

บทหน้าก็ยังคงเต็มอิ่มกันอยู่ในสวนแห่งความสุขจ้า เติมเต็มแรงใจก่อนไปสู้รบปรบมือกับคนในอดีตอีกครั้ง

เป็นกำลังใจให้ลลนา และคัมภัน กันด้วยนะคะ ส่วนใครจะเชียร์ฝ่ายบดินทร์ฉัตร ก็ตามสบาย แต่ไรท์อยู่ข้างคัมภันค่ะ อิอิ แวะมาทักายพูดคุยให้กำลังใจกันบ้างน้า ขอบคุณจ้า



เนตรนที
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 มี.ค. 2560, 10:10:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 มี.ค. 2560, 10:10:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 892





<< บทที่ 5 พี่เลี้ยงลูกเป็ด   บทที่ 7 สวนสนุก >>
lovereason2 30 มี.ค. 2560, 20:51:09 น.
ปล่อยรันไปเถ้อะๆๆๆคุณฉัตร
หวงไปก็ไม่มีประโยชน์เนอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account