สายรัก(ษ์)
'เพราะ 'รัก' จึงปกปักษ์ พิทักษ์ (ใจ) เธอ'
คุณคิดว่าคนสายไหนน่ากลัวที่สุด
แต่ก่อนคุณจะตอบ ฉันจะบอกให้
ว่าไม่ว่าจะสายปาร์ตี้ สายธรรมะ สายเงียบ สายซึน
สายไหนๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่า สาย (ขึ้น) คาน!
คุณคิดว่าคนสายไหนน่ากลัวที่สุด
แต่ก่อนคุณจะตอบ ฉันจะบอกให้
ว่าไม่ว่าจะสายปาร์ตี้ สายธรรมะ สายเงียบ สายซึน
สายไหนๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่า สาย (ขึ้น) คาน!
Tags: แอบรัก,เพื่อนสนิท,หนีใจ
ตอน: บทที่ ๑ 1/4
“พรรษ!” ชุดาดึงมือที่แตะบ่านวพรรษกลับมาทันที เมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่เรียนปริญญาตรี จนกระทั่งทำงาน และสอบเป็นผู้สอบบัญชีด้วยกันมาสะดุ้งเฮือก และหันมาจ้องเธอเขม็ง เธอเผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เมื่อเจ้าของดวงหน้ารูปไข่นวลเนียนค่อนข้างมัน ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับไปมากกว่านี้
“แก...” เมื่อเรียกซ้ำ จึงเห็นว่าศีรษะทุยที่ปกคลุมด้วยกลุ่มผมยาวสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางหยักศกที่มัดรวบไว้ง่ายๆ สะบัดเล็กน้อย ส่วนดวงตาโตค่อนไปทางโศกสีเดียวกับสีผมกะพริบถี่ และริมฝีปากบางอิ่มได้รูปก็เม้มนิดๆ จมูกเล็กโด่งเป็นสันน่ามองขยับฟุดฟิดเหมือนคนเป็นหวัด
“เฮ้! คือ...” ชุดายังก้าวถอยหลังแม้จะเห็นนวพรรษรู้สึกตัวแล้ว “แบบว่าฉันเห็นแกเหม่อน่ะ แล้ว” เธอเลียริมฝีปาก ก่อนแบมือทั้งสองข้างยื่นออกไปข้างหน้า “ตรงนี้คือ นวพรรษ ไม่ใช่ใครใช่ไหม”
หญิงสาวพูดพลางกวาดตามองซ้ายขวาทั่วห้องทำงานขนาดกลาง ที่ผนังเต็มไปด้วยชั้นวางเอกสารบรรจุแฟ้มสีดำเรียงเต็ม หลังกลับเข้ามาจากคุยงานข้างนอกกับลูกค้า และพบว่าเพื่อนสนิทนั่งเหม่อเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน
“แบบว่าถ้าไม่ใช่ ก็ไปที่ชอบที่ชอบเถอะนะ”
เธอเอ่ยต่อ เขยิบออกห่างมากยิ่งกว่าเดิม ท่าทางเหมือนจะให้โต๊ะตัวเล็กตั้งเครื่องถ่ายเอกสารขนาดใหญ่ ที่ตั้งคั่นกลางระหว่างโต๊ะทำงานของเธอกับนวพรรษเป็นสิ่งกีดขวาง หากว่าผู้เป็นเพื่อนลุกพรวดพราดเข้าใส่
“เล่นใหญ่ไปไหม!”
นวพรรษแหวพลางกลอกตา เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางดึงสติกลับมาจากความฝันชวนสยองในคืนที่ผ่านมา ก่อนชี้มือเข้าหาตัวเอง
“แล้วสวยน่ารักขนาดนี้ แกคิดว่าไงล่ะ!”
ชุดาแสร้งพรูลมหายใจ ยกมือขึ้นทาบอก
“โล่งอก ก็นึกว่าแกถูกผีเข้า!” เธอบอกกลั้วหัวเราะ “แล้วนี่เป็นอะไร เรียกตั้งนานไม่ได้ยิน”
คนถูกถามถอนใจ “ก็เมื่อคืนฉันฝันว่าแต่งงานกับพี่ข้าวกล้า...” นวพรรษหยุดพูดทันควัน แต่ก็ไม่ทันเพราะชุดายิ่งหัวเราะลั่น ตาพราว
“ไหมล่ะ ฉันว่าแล้ว แกต้องยังคิดอะไรๆ กับคุณกฤษฎ์อยู่แน่!”
“ไม่ใช่นะยะ!” นวพรรษเถียงทันควัน เพราะผู้ชายที่ชื่อกฤษฎ์หรือข้าวกล้าที่กำลังพูดถึงกัน เขา-ไม่-ใช่-ผู้-ชาย! “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่ข้าวกล้ามาตั้งแต่มะโว้แล้ว อีกอย่างแกก็รู้ พี่ข้าวกล้ากับฉันเป็นได้แค่พี่สาวกับน้องสาวเท่านั้นแหละ!”
ชุดากลอกตาพลางโคลงศีรษะไปมา
“แกนี่มั่นใจมากเลยนะว่าเขาเป็นเกย์ ยัยพรรษ ฉันไม่รู้จะพูดยังไงกับแกดี แต่ก็เอาเหอะ ระวังเวลารู้ใจตัวเองจะได้มานั่งเช็ดน้ำตาตอนเสียเขาไป”
“ไม่มีทางย่ะ!” นวพรรษเชิดหน้ายกมือกอดอก ชุดาถอนใจและเลิกสนใจเพื่อนสนิท เธอเดินเปิดประตูออกไปจากห้อง โดยมีสายตาของนวพรรษมองตามหลัง แต่ไม่วายยังทิ้งท้าย
“แฟ้มบนโต๊ะดูด้วยเลย เดี๋ยวกลับมาคุย ปีนี้ต้องตรวจบัญชีเพิ่มอีกสามบริษัท วันนี้ฉันไปคุยมาปวดหัวเป็นบ้า”
นวพรรษเหล่ลงมองแฟ้มที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วเบ้หน้า
ใช่ นี่คืองานหลักของเธอ ผู้สอบบัญชีที่ต้องเจอหน้าสรรพากรปีละหลายๆ ครั้ง และที่นี่ก็คือออฟฟิศของพวกเธอ มันเป็นอาคารสามชั้นหนึ่งคูหาแถวชานเมืองของชุดาที่ลงมาแทนเงิน ส่วนนวพรรษลงหุ้นด้วยเงินเก็บที่มี
เราเป็นผู้สอบบัญชีเหมือนกัน อายุเท่ากัน แต่ที่ต่างก็คือ...
ชุดาเคยแต่งงานเมื่อสี่ปีที่แล้ว และเลิกราไปเมื่อต้นปีนี้เอง เหตุเพราะฝ่ายชายปันใจ ตอนนี้หล่อนมีลูกชายอายุหนึ่งขวบห้าเดือนให้ต้องดูแล และเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ นวพรรษยังนึกทึ่งในใจว่าทำไมชุดาจึงทำใจได้ ที่ต้องพบหน้ากับอดีตสามีอยู่เช่นนี้ เธอเคยถามและชุดาก็เคยตอบให้ฟังว่า
‘ก็เรายังเป็นเพื่อนกัน ที่สำคัญ เรายังมีหน้าพ่อแม่ที่ต้องทำ’
แต่นวพรรษดูก็รู้ ชุดายังรักอดีตสามีอยู่มาก ความรักก็เป็นแบบนี้ มีอิทธิพลมากจนน่ากลัว
‘Dear future husband,
Here’s a few things
You’ll need to know if you wanna be
My one and only all my life ’
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้น นวพรรษดึงตัวเองกลับมาจากภวังค์ เธอเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาหมายจะกดรับ แต่เมื่อเห็นชื่อผู้โทร.เข้ามา กลับถอนหายใจซ้ำ
แม่เจ้างานเข้า!
เธอต้องรับสายนี้แม้ไม่อยากรับก็ตามที แต่พอกดรับยังไม่ทันได้ทักปลายสายก็พูดขึ้นมาเสียก่อนแล้วว่า
“ฮัลโหล เยียะหยัง ตึ๋งฮับโทระสับน้าช้าก๋า!”
ใช่ นวพรรษเป็นคนพื้นเพทางเหนือ เธอเป็นลูกสาวคนเล็ก ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อแม่ พี่สาวคนกลาง และน้าสาวคนเดียวของเธอที่ยังโสด พ่อแม่ของเธอยึดการทำสวนลำไยเป็นอาชีพมาตั้งแต่รุ่นตายาย และเพิ่งเปิดเป็นโฮมเสตย์ให้แขกเข้าพักเมื่อไม่กี่ปีนี้ด้วย
“เฮ้อ! น้าเป๋นห่วง เทื่อหน้าเยียะฮับโทระสับช้าอีกเน่อ ฮับฮื่อโวยๆ”
นวพรรษยกมือขึ้นคลึงขมับ เมื่อน้าสาวของเธอตีความทุกอย่างเป็น ‘ช้า’ ถ้าเกินห้าวินาที!
“พรรษสุมาเต๊อะเจ้า พรรษยะการค้างอยู่กับเปื้อน ว่าแต่น้าจะยะหยังกับพรรษเจ้า ที่บ้านมีปัญหาก่อ ใครเป็นหยังเจ้า”
“บ่ได้มีใครเป็นหยัง” ปลายสายนิ่งไปพัก “มื้อได๋พรรษจะปิ๊กบ้านก๋า” คำถามมีมาก่อนมณฑาจะเข้าประเด็น “ฮู้ก่อ นางเอื้อยสวนถัดไปมันแต่งงานกับปลัดอำเภอ เปิ้นกับแม่มาแจกการ์ด คุยโวๆ ว่าวันไหนพรรษจะเอาผัว น้านี่หน้าชา เปิ้นว่าพรรษน่ะแก่แล้วนา ลูกเปิ้นอายุแค่ยี่สิบสี่ก็แต่งแล้ว แต่พรรษน่ะสามสิบแล้ว บ่แต่งงานจะเป็นสามเทื้อก๋า!”
‘สาวเทื้อ’ กระแทกใจนวพรรษจนมือที่ถือโทรศัพท์สั่น แต่...
“น้าเจ้า เรียกแฟนจะดีก่อ”
“จะผัวจะแฟนก็เหมือนกันนั่นแหละ ต่างกันตรงไหน นี่ๆ พรรษน้าฟังแล้วอยากจะด่าให้ แต่เกรงใจพ่อพรรษ เปิ้นดูถูกเฮาหนัก กะอีแค่ได้ลูกเขยเป็นปลัดอำเภอ พรรษอย่าไปยอมเน่อ ปิ๊กบ้านมาแต่งงานกับกำนันเอียด ถ้าบ่ถูกใจ๋ก็สารวัตรก้อง วันก่อนน้าได้คุยกับเปิ้นมา เปิ้นยังกี๊ดเติ่งหาพรรษเน่อ!”
ฟังแล้วนวพรรษถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2560, 08:53:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 เม.ย. 2560, 08:53:08 น.
จำนวนการเข้าชม : 1293
<< บทนำ | บทที่ ๑ 2/4 >> |
ดังปัณณ์ 7 เม.ย. 2560, 08:54:34 น.
พายัยพรรษมาส่งค่า ^O^
คุณแว่นใส ขอบคุณที่แวะมาทักกันน้าาาาา ว่าแต่ เขาล่ะ เขาๆๆๆๆ มาลุ้นกัน
และคุณๆ ที่เข้ามาอ่าน มาเยี่ยมกันนะคะ ขอบคุณที่แวะมาจ้า ไว้เจอกันตอนหน้าพรุ่งนี้น้า ^O^
พายัยพรรษมาส่งค่า ^O^
คุณแว่นใส ขอบคุณที่แวะมาทักกันน้าาาาา ว่าแต่ เขาล่ะ เขาๆๆๆๆ มาลุ้นกัน
และคุณๆ ที่เข้ามาอ่าน มาเยี่ยมกันนะคะ ขอบคุณที่แวะมาจ้า ไว้เจอกันตอนหน้าพรุ่งนี้น้า ^O^
kaelek 7 เม.ย. 2560, 12:12:41 น.
สาวเทื้อ!!!! อย่าว่าพรรษแบบน้านนนน คนอ่านปวดใจแทน ว่าแต่อยากเห็นหน้าพระเอกแล้วอ่าาาาา
สาวเทื้อ!!!! อย่าว่าพรรษแบบน้านนนน คนอ่านปวดใจแทน ว่าแต่อยากเห็นหน้าพระเอกแล้วอ่าาาาา
แว่นใส 7 เม.ย. 2560, 19:30:15 น.
โดนถามทุกทีทีากลับบ้านเหมือนกันนะ
โดนถามทุกทีทีากลับบ้านเหมือนกันนะ