ห้วงฝันวันรัก (ผ่านพิจารณาสนพ.)
กิรณา ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ได้เพียงไม่นาน แต่แล้วชีวิตกลับต้องพลิกผันเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง หล่อนได้ข้ามผ่านไปยังช่วงเวลาอนาคต!
ภายใต้ความลึกลับของกาลเวลาที่ชวนพิศวงนั้น ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการที่หญิงสาวต้องมารับรู้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของบุพการี โดยไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุ ดรัล ในฐานะเพื่อนบ้านที่แสนดี แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวข้างบ้านอย่างกิรณาตั้งแต่แรกพบเสียเท่าไหร่ แต่จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายเงื่อนงำที่เกิดขึ้น
อดีต ปัจจุบัน อนาคต...เหตุการณ์ในช่วงเวลาใดกันแน่ที่มีแต่ความหลอกลวง...
ภายใต้ความลึกลับของกาลเวลาที่ชวนพิศวงนั้น ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการที่หญิงสาวต้องมารับรู้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของบุพการี โดยไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุ ดรัล ในฐานะเพื่อนบ้านที่แสนดี แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวข้างบ้านอย่างกิรณาตั้งแต่แรกพบเสียเท่าไหร่ แต่จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายเงื่อนงำที่เกิดขึ้น
อดีต ปัจจุบัน อนาคต...เหตุการณ์ในช่วงเวลาใดกันแน่ที่มีแต่ความหลอกลวง...
Tags: เวลา ดราม่า ไซไฟ ฆาตกรรม หมอ บรรณารักษ์ สืบ อนาคต อบอุ่น เพื่อนบ้าน โรแมนติก
ตอน: บทที่ 2---50%
บทที่ 2 (ต่อ)
ทุกคนนั่งรวมตัวกันอยู่บริเวณส่วนห้องรับแขกของบ้าน โดยมีเมเปิ้ลซึ่งยังคงกอดพูเดิลตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน จ้องเขม็งมองคนบ้านกิรณาอย่างเอาเรื่อง ต่างฝ่ายต่างต้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์กันอยู่พักใหญ่ คนมาทีหลังอย่างกิรณากับดรัลถึงเพิ่งได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เมเปิ้ล...สาวบ้านฝั่งตรงข้ามเล่าให้ฟังว่า เจ้าหล่อนตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายแล้วเจอคนโยนอุจจาระสุนัขทิ้งไว้ในสวนหน้าบ้านอยู่หลายหย่อม ตอนนั้นจำรัสกำลังบังคับให้อรวีกวาดอุจจาระสุนัขกองโตที่หน้าบ้านไปทิ้งไว้ตรงหน้าบ้านเมเปิ้ลพอดี เมเปิ้ลเลยเหมารวมหาว่าอุจจาระในสวนหน้าบ้านตัวเองเป็นฝีมือของจำรัสกับอรวีด้วย
สำหรับกิรณาแล้วรู้จักบิดามารดาดีว่าไม่มีทางทำเรื่องอย่างหลังแน่ ขณะเดียวกันหล่อนก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บิดามารดาก็มีส่วนผิดที่เอาคืนอีกฝ่ายด้วยวิธีอย่างแรกนั้น จากที่ว่าเป็นคนกลางกิรณาเลยไม่รู้จะช่วยเคลียร์ยังไงให้จบลงด้วยดี เพราะหล่อนเองก็ฉุนอยู่ลึกๆ ที่อยู่ดีไม่ว่าดีเมเปิ้ลก็ลุกขึ้นมาทำลายข้าวของบ้านหล่อน แถมยังส่อเจตนาประทุษร้ายคนในบ้านให้เห็นชัดเจนเต็มสองตา !
จำรัสถึงขั้นขู่จะแจ้งความ เมเปิ้ลถึงได้ยอมออกจากบ้านไปพร้อมเจ้าพูเดิลในเวลาถัดมา
แต่กิรณายังเคืองไม่หายจะตามไปเอาเรื่องต่อ ดรัลซึ่งอยู่ข้างๆ เลยคว้าแขนหญิงสาวไว้ ส่งสายตามาเป็นทำนองว่าไม่อยากให้มีเรื่องกันอีก กิรณาจึงยอมหยุดไว้แค่นั้น
“พ่อกับแม่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะลูก” อรวีเอ่ยบอกลูกสาวอย่างอ่อนโยน
กิรณากลับไปนั่งเคียงข้างมารดาบนโซฟาเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีร่องรอยบาดแผลตรงไหน ขณะที่จำรัสนั้นยังคงมองตามเมเปิ้ลไปแล้วต้องส่ายหน้าระอาในพฤติกรรมนั้น
“เด็กสมัยนี้เหลือเกินจริงๆ ฉันว่าแกย้ายกลับไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมเถอะ จะได้ไม่ต้องคอยมานั่งปวดหัวกับเพื่อนบ้านเฮงซวยแบบนี้ เอ่อ...ผมยกเว้นคุณไว้คนแล้วกัน ถ้าวันนี้เจ้าลูกหว้าไม่ได้คุณช่วยก็คงแย่เหมือนกัน” ประโยคท้ายจำรัสหมายถึงดรัลเพราะหันไปสบตากับอีกฝ่ายเข้าพอดีเลยรีบเอ่ยแก้เกี้ยว
ผิดกับอรวีที่ซึ้งในน้ำใจของชายหนุ่มข้างบ้านด้วยใจจริงจึงหันไปพูดกับลูกสาวเป็นเชิงบังคับกรายๆ
“ขอบคุณพ่อดรัลเสียลูกหว้า เขาอุตส่าห์มาช่วยบ้านเราไว้ตั้งสองครั้งแล้ว ถ้าคราวนี้ลูกยังเสียมารยาทกับเขาอีก แม่โกรธจริงๆ ด้วย”
“โธ่...แม่คะ...” กลัวมารดางอนเสียก่อนลูกสาวเลยกอดประจบ
ครานั้น...เมื่อได้สัมผัสไออุ่นของมารดาอีกครั้ง กิรณากลับน้ำตารื้นขึ้นมา
ในยามแรกหญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำว่า หญิงมีอายุตรงหน้าคืออรวีมารดาของหล่อนจริงๆ ก็มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเย็นวานหล่อนกับญาติๆ เพิ่งไปร่วมงานศพของมารดามาเอง แล้วไหนจะยังจำรัสบิดาของหล่อนอีกล่ะที่ยังคงอยู่ในสภาพปกติบนรถเข็น ไม่ได้นอนไม่ได้สติเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างที่เห็นเมื่อวาน
แม้ความรู้สึกยังฝังจำ หากการที่จู่ๆ มารดาก็กลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้งหนึ่งทำให้ลูกสาวใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กอดมารดาแน่นกว่าเดิม ทำเอาอรวีจากที่ปรามลูกกลับใจตกไปที่ตาตุ่มกอดลูกสาวปลอบอย่างเสียไม่ได้
“อะไรกันยายลูกหว้า ร้องไห้เป็นเด็กๆ เชียว แม่ก็แค่ขู่เล่นเองลูก”
กิรณายังคงสะอื้นไห้ สัมผัสจากอ้อมกอดมารดา...อุ่นหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง
อรวีคงปล่อยให้ลูกสาวกอดอยู่อย่างนั้นถ้าไม่หันไปเห็นดรัล หญิงมีอายุเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนอยู่ในบ้านจึงค่อยๆ จับลูกสาวออกห่างกาย คนสะอื้นไห้ถึงได้สติกลับคืน ดวงตาที่เปียกชื้นด้วยน้ำตาสบโอกาสนั้นเหลือบมองชายหนุ่มหนึ่งเดียวในบ้านที่ยังคงยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าหญิงต่างวัยทั้งสองมองมาเลยกระแอมเล็กน้อยเอ่ยว่า
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมออกไปช่วยเก็บกวาดหน้าบ้านให้นะครับ”
“เดี๋ยวค่ะคุณดรัล ฉันไปด้วย” กลัวเขาหนีหายไปเสียก่อนสาวเจ้าเลยรีบปาดน้ำตาทิ้ง ลุกตามเขาออกมาจากบ้าน
พ้นสายตาบิดามารดาหล่อนมาได้ ดรัลก็ทำท่าจะเดินพ้นประตูรั้วออกจากบ้านไปท่าเดียว กิรณาเป็นฝ่ายตามเขาออกมาจะช่วยเก็บกวาดลานหน้าบ้านอีกแรง รู้สึกขัดใจไม่น้อย ก็หล่อนยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย
กิรณาพยายามเร่งฝีเท้าให้ทันเขาจะก้าวขวาง จังหวะนั้นเองที่ดรัลหันกลับมาพอดี แล้วต้องตกใจแทน !
“ระวังคุณ !”
ดรัลรีบดึงสาวเจ้าเข้าหา
ไม้กวาดซึ่งติดอยู่บนกิ่งไม้หล่นลงมาเฉี่ยวศีรษะกิรณาไปอย่างหวุดหวิด มันเป็นอาวุธที่จำรัสใช้ต่อกรกับสาวบ้านฝั่งตรงข้ามเมื่อครู่
“คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” ดรัลเอ่ยถาม
“ฉะ...ฉัน...เอ่อ...” กิรณาอ้ำอึ้ง หล่อนตกใจที่หันไปเห็นไม้กวาดอยู่เหมือนกัน แต่ยามนี้หล่อนตกอยู่ในอ้อมแขนเขา!
ดรัลยังคงเกี่ยวกอดกิรณาไว้อย่างลืมตัว ไออุ่นจากกายเขาบวกกับกลิ่นโคโลญจน์ที่เขาใช้ ทำให้หญิงสาวในอ้อมแขนเริ่มใจปั่นป่วน รู้สึกร้อนที่หน้าขึ้นมา หน้าแดงให้เห็น นั่นเองชายหนุ่มถึงเพิ่งรู้ตัวคลายอ้อมแขน กิรณาเลยรีบขยับกายออกห่างจากเขา
“ขอโทษค่ะ ฉะ...ฉันไม่ทันระวัง”
“ไม่เป็นไร” ดรัลบอกหญิงสาวแล้วกลับมาวางฟอร์มขรึม
“วันก่อนผมต้องขอโทษคุณด้วยที่ต่อว่าคุณเรื่องเมเปิ้ลโดยไม่ฟังเหตุผลของคุณสักคำ”
จู่ๆ ดรัลก็เอ่ยถึงเรื่องวันนั้นขึ้นมา กิรณากำลังเขินเขา ประหลาดใจเงยหน้าสบมอง
ภาพวันที่ดรัลห้ามศึกระหว่างหล่อนกับเมเปิ้ลที่หน้าบ้านเขา ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ ที่จริงกิรณาแทบลืมเรื่องวันนั้นไปแล้ว ที่หล่อนรีบตามดรัลออกมาช่วยเก็บกวาดลานหน้าบ้าน เพราะนอกจากจะขอบคุณเขาที่ช่วยเคลียร์ปัญหาเมื่อครู่ หล่อนอยากถามเขาเรื่องเมื่อวานด้วย ดรัลคือคนเดียวที่อยู่ด้วยกันกับหล่อนแทบทั้งวัน
พลันนั้นที่กิรณาได้สบตากับดรัล แววตาของเขาที่สบมองมาเช่นกัน หญิงสาวกลับรู้สึกว่านัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้น...ว่างเปล่า...แตกต่างจากดรัลคนเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง
คล้อยหลังช่วยชายหนุ่มข้างบ้านเก็บกวาดพื้นถนนหน้าบ้านเสร็จเรียบร้อย กิรณาก็กลับเข้ามาในบ้าน
จำรัสกับอรวีกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้วยกันในห้องรับแขก ลูกสาวเลยสบโอกาสนั้นหลบหายขึ้นมาชั้นบน
กิรณาเอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอน พยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายวันมานี้ หล่อนตื่นขึ้นมาเจอเรื่องแปลกประหลาดอยู่ตลอดเวลา ไหนจะเรื่องบิดามารดา ดรัล และยังรวมถึงตัวหล่อนเองด้วย จนหล่อนทั้งสับสนและมึนงงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กิรณาลองถามดรัลเรื่องเมื่อวานแล้ว แต่เขาดูงงๆ แถมตอบกลับมาทำนองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว กิรณาหวังว่าจะได้ความกระจ่างจากเขาเลยกลับกลายเป็นต้องถอยทัพกลับมาตั้งหลักด้วยตัวเอง
ค่ำคืนนั้นกิรณาฝืนความง่วงด้วยการนั่งซดกาแฟหลายต่อหลายแก้ว ควบคู่กับการถ่างตาดูรายการโทรทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย...หญิงสาวต้องการทำยังไงก็ได้เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองหลับเด็ดขาด !
******************
อะแฮ่มๆ มาแว้ววววว สั้นไปมั้ยไม่รู้ รู้แต่อยากอัพ5555555 ณ จุดนี้พยายามจะฟิน (นี่ก็ฟินแล้วนะ ฮา)
ขอบคุณนักอ่านที่กดถูกใจให้ในแต่ละตอนเช่นเคยจ้า
ทุกคนนั่งรวมตัวกันอยู่บริเวณส่วนห้องรับแขกของบ้าน โดยมีเมเปิ้ลซึ่งยังคงกอดพูเดิลตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน จ้องเขม็งมองคนบ้านกิรณาอย่างเอาเรื่อง ต่างฝ่ายต่างต้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์กันอยู่พักใหญ่ คนมาทีหลังอย่างกิรณากับดรัลถึงเพิ่งได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เมเปิ้ล...สาวบ้านฝั่งตรงข้ามเล่าให้ฟังว่า เจ้าหล่อนตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายแล้วเจอคนโยนอุจจาระสุนัขทิ้งไว้ในสวนหน้าบ้านอยู่หลายหย่อม ตอนนั้นจำรัสกำลังบังคับให้อรวีกวาดอุจจาระสุนัขกองโตที่หน้าบ้านไปทิ้งไว้ตรงหน้าบ้านเมเปิ้ลพอดี เมเปิ้ลเลยเหมารวมหาว่าอุจจาระในสวนหน้าบ้านตัวเองเป็นฝีมือของจำรัสกับอรวีด้วย
สำหรับกิรณาแล้วรู้จักบิดามารดาดีว่าไม่มีทางทำเรื่องอย่างหลังแน่ ขณะเดียวกันหล่อนก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บิดามารดาก็มีส่วนผิดที่เอาคืนอีกฝ่ายด้วยวิธีอย่างแรกนั้น จากที่ว่าเป็นคนกลางกิรณาเลยไม่รู้จะช่วยเคลียร์ยังไงให้จบลงด้วยดี เพราะหล่อนเองก็ฉุนอยู่ลึกๆ ที่อยู่ดีไม่ว่าดีเมเปิ้ลก็ลุกขึ้นมาทำลายข้าวของบ้านหล่อน แถมยังส่อเจตนาประทุษร้ายคนในบ้านให้เห็นชัดเจนเต็มสองตา !
จำรัสถึงขั้นขู่จะแจ้งความ เมเปิ้ลถึงได้ยอมออกจากบ้านไปพร้อมเจ้าพูเดิลในเวลาถัดมา
แต่กิรณายังเคืองไม่หายจะตามไปเอาเรื่องต่อ ดรัลซึ่งอยู่ข้างๆ เลยคว้าแขนหญิงสาวไว้ ส่งสายตามาเป็นทำนองว่าไม่อยากให้มีเรื่องกันอีก กิรณาจึงยอมหยุดไว้แค่นั้น
“พ่อกับแม่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะลูก” อรวีเอ่ยบอกลูกสาวอย่างอ่อนโยน
กิรณากลับไปนั่งเคียงข้างมารดาบนโซฟาเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีร่องรอยบาดแผลตรงไหน ขณะที่จำรัสนั้นยังคงมองตามเมเปิ้ลไปแล้วต้องส่ายหน้าระอาในพฤติกรรมนั้น
“เด็กสมัยนี้เหลือเกินจริงๆ ฉันว่าแกย้ายกลับไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมเถอะ จะได้ไม่ต้องคอยมานั่งปวดหัวกับเพื่อนบ้านเฮงซวยแบบนี้ เอ่อ...ผมยกเว้นคุณไว้คนแล้วกัน ถ้าวันนี้เจ้าลูกหว้าไม่ได้คุณช่วยก็คงแย่เหมือนกัน” ประโยคท้ายจำรัสหมายถึงดรัลเพราะหันไปสบตากับอีกฝ่ายเข้าพอดีเลยรีบเอ่ยแก้เกี้ยว
ผิดกับอรวีที่ซึ้งในน้ำใจของชายหนุ่มข้างบ้านด้วยใจจริงจึงหันไปพูดกับลูกสาวเป็นเชิงบังคับกรายๆ
“ขอบคุณพ่อดรัลเสียลูกหว้า เขาอุตส่าห์มาช่วยบ้านเราไว้ตั้งสองครั้งแล้ว ถ้าคราวนี้ลูกยังเสียมารยาทกับเขาอีก แม่โกรธจริงๆ ด้วย”
“โธ่...แม่คะ...” กลัวมารดางอนเสียก่อนลูกสาวเลยกอดประจบ
ครานั้น...เมื่อได้สัมผัสไออุ่นของมารดาอีกครั้ง กิรณากลับน้ำตารื้นขึ้นมา
ในยามแรกหญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำว่า หญิงมีอายุตรงหน้าคืออรวีมารดาของหล่อนจริงๆ ก็มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเย็นวานหล่อนกับญาติๆ เพิ่งไปร่วมงานศพของมารดามาเอง แล้วไหนจะยังจำรัสบิดาของหล่อนอีกล่ะที่ยังคงอยู่ในสภาพปกติบนรถเข็น ไม่ได้นอนไม่ได้สติเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างที่เห็นเมื่อวาน
แม้ความรู้สึกยังฝังจำ หากการที่จู่ๆ มารดาก็กลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้งหนึ่งทำให้ลูกสาวใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กอดมารดาแน่นกว่าเดิม ทำเอาอรวีจากที่ปรามลูกกลับใจตกไปที่ตาตุ่มกอดลูกสาวปลอบอย่างเสียไม่ได้
“อะไรกันยายลูกหว้า ร้องไห้เป็นเด็กๆ เชียว แม่ก็แค่ขู่เล่นเองลูก”
กิรณายังคงสะอื้นไห้ สัมผัสจากอ้อมกอดมารดา...อุ่นหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง
อรวีคงปล่อยให้ลูกสาวกอดอยู่อย่างนั้นถ้าไม่หันไปเห็นดรัล หญิงมีอายุเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนอยู่ในบ้านจึงค่อยๆ จับลูกสาวออกห่างกาย คนสะอื้นไห้ถึงได้สติกลับคืน ดวงตาที่เปียกชื้นด้วยน้ำตาสบโอกาสนั้นเหลือบมองชายหนุ่มหนึ่งเดียวในบ้านที่ยังคงยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าหญิงต่างวัยทั้งสองมองมาเลยกระแอมเล็กน้อยเอ่ยว่า
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมออกไปช่วยเก็บกวาดหน้าบ้านให้นะครับ”
“เดี๋ยวค่ะคุณดรัล ฉันไปด้วย” กลัวเขาหนีหายไปเสียก่อนสาวเจ้าเลยรีบปาดน้ำตาทิ้ง ลุกตามเขาออกมาจากบ้าน
พ้นสายตาบิดามารดาหล่อนมาได้ ดรัลก็ทำท่าจะเดินพ้นประตูรั้วออกจากบ้านไปท่าเดียว กิรณาเป็นฝ่ายตามเขาออกมาจะช่วยเก็บกวาดลานหน้าบ้านอีกแรง รู้สึกขัดใจไม่น้อย ก็หล่อนยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย
กิรณาพยายามเร่งฝีเท้าให้ทันเขาจะก้าวขวาง จังหวะนั้นเองที่ดรัลหันกลับมาพอดี แล้วต้องตกใจแทน !
“ระวังคุณ !”
ดรัลรีบดึงสาวเจ้าเข้าหา
ไม้กวาดซึ่งติดอยู่บนกิ่งไม้หล่นลงมาเฉี่ยวศีรษะกิรณาไปอย่างหวุดหวิด มันเป็นอาวุธที่จำรัสใช้ต่อกรกับสาวบ้านฝั่งตรงข้ามเมื่อครู่
“คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” ดรัลเอ่ยถาม
“ฉะ...ฉัน...เอ่อ...” กิรณาอ้ำอึ้ง หล่อนตกใจที่หันไปเห็นไม้กวาดอยู่เหมือนกัน แต่ยามนี้หล่อนตกอยู่ในอ้อมแขนเขา!
ดรัลยังคงเกี่ยวกอดกิรณาไว้อย่างลืมตัว ไออุ่นจากกายเขาบวกกับกลิ่นโคโลญจน์ที่เขาใช้ ทำให้หญิงสาวในอ้อมแขนเริ่มใจปั่นป่วน รู้สึกร้อนที่หน้าขึ้นมา หน้าแดงให้เห็น นั่นเองชายหนุ่มถึงเพิ่งรู้ตัวคลายอ้อมแขน กิรณาเลยรีบขยับกายออกห่างจากเขา
“ขอโทษค่ะ ฉะ...ฉันไม่ทันระวัง”
“ไม่เป็นไร” ดรัลบอกหญิงสาวแล้วกลับมาวางฟอร์มขรึม
“วันก่อนผมต้องขอโทษคุณด้วยที่ต่อว่าคุณเรื่องเมเปิ้ลโดยไม่ฟังเหตุผลของคุณสักคำ”
จู่ๆ ดรัลก็เอ่ยถึงเรื่องวันนั้นขึ้นมา กิรณากำลังเขินเขา ประหลาดใจเงยหน้าสบมอง
ภาพวันที่ดรัลห้ามศึกระหว่างหล่อนกับเมเปิ้ลที่หน้าบ้านเขา ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ ที่จริงกิรณาแทบลืมเรื่องวันนั้นไปแล้ว ที่หล่อนรีบตามดรัลออกมาช่วยเก็บกวาดลานหน้าบ้าน เพราะนอกจากจะขอบคุณเขาที่ช่วยเคลียร์ปัญหาเมื่อครู่ หล่อนอยากถามเขาเรื่องเมื่อวานด้วย ดรัลคือคนเดียวที่อยู่ด้วยกันกับหล่อนแทบทั้งวัน
พลันนั้นที่กิรณาได้สบตากับดรัล แววตาของเขาที่สบมองมาเช่นกัน หญิงสาวกลับรู้สึกว่านัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้น...ว่างเปล่า...แตกต่างจากดรัลคนเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง
คล้อยหลังช่วยชายหนุ่มข้างบ้านเก็บกวาดพื้นถนนหน้าบ้านเสร็จเรียบร้อย กิรณาก็กลับเข้ามาในบ้าน
จำรัสกับอรวีกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้วยกันในห้องรับแขก ลูกสาวเลยสบโอกาสนั้นหลบหายขึ้นมาชั้นบน
กิรณาเอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอน พยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายวันมานี้ หล่อนตื่นขึ้นมาเจอเรื่องแปลกประหลาดอยู่ตลอดเวลา ไหนจะเรื่องบิดามารดา ดรัล และยังรวมถึงตัวหล่อนเองด้วย จนหล่อนทั้งสับสนและมึนงงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กิรณาลองถามดรัลเรื่องเมื่อวานแล้ว แต่เขาดูงงๆ แถมตอบกลับมาทำนองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว กิรณาหวังว่าจะได้ความกระจ่างจากเขาเลยกลับกลายเป็นต้องถอยทัพกลับมาตั้งหลักด้วยตัวเอง
ค่ำคืนนั้นกิรณาฝืนความง่วงด้วยการนั่งซดกาแฟหลายต่อหลายแก้ว ควบคู่กับการถ่างตาดูรายการโทรทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย...หญิงสาวต้องการทำยังไงก็ได้เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองหลับเด็ดขาด !
******************
อะแฮ่มๆ มาแว้ววววว สั้นไปมั้ยไม่รู้ รู้แต่อยากอัพ5555555 ณ จุดนี้พยายามจะฟิน (นี่ก็ฟินแล้วนะ ฮา)
ขอบคุณนักอ่านที่กดถูกใจให้ในแต่ละตอนเช่นเคยจ้า
สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2560, 14:39:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2560, 14:39:38 น.
จำนวนการเข้าชม : 675
<< บทที่ 2---35% | บทที่ 2---75% >> |