รหัสรัก...รหัสหัวใจ
อิงลดา หญิงสาวที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ได้รับของขวัญประหลาดเป็นชายหนุ่มรูปงาม ดวงตาสีฟ้า มีชื่อเล่นแปลว่าน้ำแข็ง เขาบอกตัวตัวเองเป็นของขวัญ แต่สำหรับเธอ คิดว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ในคราบปีศาจร้ายที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากกว่า เพราะเพียงเริ่มได้รู้จักกัน ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปแบบที่เจ้าตัวไม่เคยคิดมาก่อน
Tags: สิรินดา, รหัสรักรหัสหัวใจ, นิยายรัก
ตอน: 20. เรื่องบังเอิญ
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เสียงกระดิ่งที่ติดไว้กับประตูร้านดังขึ้น
ฉันเหลือบตาขึ้นโดยอัตโนม้ติ แล้วก็ต้องนิ่งไปชั่ววินาที คนที่เดินเข้าร้านกาแฟเข้ามาเป็นหญิงสาวร่างเล็ก นุ่งกางเกงยีนขาสั้น เสื้อเชิ์ตสีขาว ผมยาวเหยียดตรง สิ่งที่สะดุดตาไม่ใช่รูปร่างสมส่วน ไม่ใช่ใบหน้าสวยหวานแต่เป็นเพราะว่า...ใบหน้านั่นคุ้นเคยเหลือเกินสำหรับฉัน ทั้ง ๆ ที่เคยเห็นหน้าเธอแต่ในรูปเท่านั้น
...รีบก้มหน้า เบี่ยงตัวโดยอัตโนมัติเพื่อให้หลบอยู่หลังชั้นวางหนังสือและของใช้กระจุกระจิกที่วางโชว์อยู่ พร้อมกับหยิบนิตยสารที่อยู่ใกล้โต๊ะขึ้นมาทำทีเป็นสนใจกับนิตยสารตรงหน้า
"รับอะไรดีครับคุณลูกค้า" เสียงของเจ้าของร้านเอ่ยทักผู้เข้ามาใหม่
เธอเดินมาที่เคาน์เตอร์ สั่งขนมและเครื่องดื่มก่อนจะเดินกลับไปนั่งมุมด้านหน้าของร้านซึ่งสามารถมองออกไปที่ถนนได้ นั่นทำให้เธอหันหลังให้ฉันโดยอัตโนมัติ
...เรื่องบังเอิญ หรือว่า เธอมีนัดกับใครอีกคน ที่ฉันรู้จักดี...
หญิงสาวคนนั้นไม่รู้สึกว่ากำลังถูกจับสังเกตอยู่ เธอหยิบอุปกรณ์แต่งหน้าขึ้นมา แล้วก็เริ่มเติมหน้าของตัวเอง โดยไม่สนใจผู้ที่เดินเข้ามาใหม่อีกสองคน ซึ่งเลือกที่นั่งกลางร้าน
มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญสินะ...ฉันลดหนังสือลง สมองคิดวุ่นวาย ถามตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรดี ใจหนึ่งอยากจะเดินออกจากร้าน อีกใจอยากไปแสดงตัวให้เธอรู้ว่าฉันนั่งอยู่ในร้านด้วย อยากรู้ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร
พอได้เห็นตัวจริง ก็พบว่า...ผู้หญิงคนนั้นสวย รูปร่างดี มองจากตรงนี้ บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่เทียบเธอได้เลย
"เอ่อ...ขอโทษครับ มีคนส่งนี้ไว้ให้คุณ" เจ้าของร้านเดินมาที่โต๊ะและวางซองจดหมายสีครีมซึ่งจ่าหน้าซองเป็นชื่อฉัน พร้อมกับกล่องกระดาษสีเหลี่ยมจตุรัสสีน้ำตาลขนาดเท่าผ่ามือ
"คะ"
"ฝากไว้เมื่อเช้า เขียนไว้ชัดว่าให้คุณ ...ตอนนี้ครับ"
ซองจดหมาย ลายมือไม่คุ้น
"ขอบคุณค่ะ แต่ว่า คนส่งเป็นใครคะ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฉัน" ฉันถามเสียงเบา ไม่อยากให้ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าของร้านได้ยินบทสนทนาของฉันกับเจ้าของร้าน
"มีคุณคนเดียวที่มาพร้อมสมุดบันทึก" เจ้าของร้านบอกยิ้มๆ
มิน่าเล่าวันนี้เจ้าของร้านถึงเอ่ยทักฉันราวกับรู้จักกันมาก่อน เขารอที่จะเอาของมาให้ฉันนี่เอง
"อ่านดูก่อนก็ได้ครับ ถ้าไม่ใช่ก็คืนผมมาแล้วกัน" เจ้าของร้านยิ้มให้ "คนส่งเขาใช้บริการบริษัทส่งของ คงมีใครสักคนอยากเซอร์ไพรส์คุณ"
บริษัทส่งของ....
"บรษัทที่เครื่องแบบสีเทาใช่ไหมคะ" ถ้าจำไม่ผิด บริษัทส่งของที่มาส่งไอแซค ก็ใส่ชุดสีนี้
เจ้าของร้านพยักหน้า
เขียนถึงผมนะ...แล้วผมจะเขียนถึงคุณ ประโยคนั้นลอยเข้ามาในความคิด ฉันรีบดึงกระดาษเล็กๆ ที่อยู่ในซองจดหมาย คลี่มันออก ก้มลงอ่านลายมือไม่คุ้นเคยนั้น
'ดีใจที่คุณกลับไปถึงอย่างปลอดภัย' เนื้อความมันเริ่มด้วยข้อความนั้น ไม่ทีคำขึ้นต้น ไม่มีรายละเอียดว่าคนเขียนเป็นใคร
'ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษที่ส่งตัวคุณกลับมาโดยที่ไม่บอกก่อน บอกตรงๆ นะ ผมทนการจากลาของเราไม่ได้
การเป็นหุ่นยนต์ เรามักตัดสินใจอะไรโดยใช้หลักการ ความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ และข้อมูลแวดล้อม ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังมากนัก ใช้เหตุผลเป็นหลัก
แต่กับเรื่องการกลับไปของคุณ ผมใช้เหตุผลข้อเดียว คือ ...คุณอยากกลับไปที่นั่น
ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณจะต้องพบกับอะไรที่ลำบากใจ ต้องเจอเรื่องไม่สบายใจหลายอย่าง และผมคงไม่มีโอกาสที่จะไปช่วยคุณได้อีกแล้ว
ผมจึงอยากจะเขียน และส่งเจ้าต้นไม้ที่อดทนที่สุดในโลกชนิดหนึ่งมาให้กำลังใจคุณ อยากให้คุณผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ...จำไว้นะครับ คุณสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองอีก ...ถ้าคุณไม่รักษาสัญญา ผมจะเสียใจมาก'
ฉันเปิดกล่องกระดาษ ข้าในเป็นกระถางต้นกระบองเพชรต้นเล็กๆ ซึ่่งกำลังออกดอกจิ๋วสีส้มสด มันเป็นต้นไม้ที่สวยราวกับไม่ใช่ของจริง
'พันธุ์ใหม่ ผมตั้งชื่อมันว่า-อิงลดา' มีข้อความสั้นๆ เขียนไว้ในนั้น
ความรู้สึกอบอุ่นลึกๆ แปลกประหลาดแล่นเข้ามาใจหัวใจ ฉันรู้สึกได้ว่ามีเป็นห่วงเป็นใย และความปรารถนาดีผ่านข้อความ และต้นไม้เล็กๆ ต้นนั้นมา
'ไอแซค ขอบคุณนะสำหรับต้นไม้ และสิ่งที่นายเขียนถึงฉัน...จดหมายของนายมาถึงในจังหวะที่ฉันอยากจะได้ข้อความจากใครสักคนมากที่สุดอยู่พอดี ตกลง ฉันยังไม่ฆ่าตัวตาย และยังไม่คิดถึงมัน ไม่ว่าในตอนนี้หรือตอนไหน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงมัน บางทีถึงเวลาที่ฉันควรจะมองชีวิตของตัวเองในมุมที่ต่างจากเดิมๆ แล้ว ฉันจะเข้มแข็ง...สัญญา'
ทั้งๆ ที่บอกว่าจะเข้มแข็ง แต่ระหว่างจรดปากกาก็ต้องกระพริบตาเพื่อไล่ความรู้สึกที่เอ่อขึ้นมาหลายครั้ง
'...นายเป็นอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย ฉันเป็นห่วง พ่อของนายบอกว่าจะจัดการกับนายหลังจากส่งฉันกลับมาแล้ว...เขาทำอะไรหรือเปล่า ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจ'
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ฉันมองไปที่หน้าจอ วางปากกาที่กำลังเขียนบันทึก และกดรับ
"ผมเก็บของเสร็จแล้วนะ" น้ำเสียงคนพูดห้วน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลายสายเป็นใคร
"...ค่ะ"
"ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน ผมอยากย้ำว่าคุณอย่าไประรานใครที่ที่ทำงานของผมอีก บอกกี่ครั้งก็ไม่เชื่อว่าผมไม่มีอะไรกับเขา หากคุณไปทำเรื่องอะไรอีก คราวนี้ผมจะอนุญาตให้เขาตอบโต้บ้าง"
มือกำโทรศัพท์แน่นขึ้นนิดหนึ่ง กัดริมฝีปากไว้ แสดงว่ารูปและข้อความที่ฉันอ่านมาก่อนทั้งหมด ฉันเข้าใจผิดไปเองสินะ
"ไม่มีอะไรพูดเลยหรือไง"
ปกติฉันต้องร้องไห้ฟูมฟาย และท้ายที่สุดก็ขอร้องให้เขากลับมา
"ไม่ค่ะ" ฉันตอบเสียงเบา "คุณว่าอะไรก็ตามนั้น"
"แปลกจัง นี่คุณอยู่ไหน"
จะไปแล้ว จะถามทำไม ฉันคิด แต่ยั้งปากตนเองเอาไว้
"....ไม่สำคัญหรอกค่ะ แค่นี้นะคะ" ฉันกดวางสาย บอกตัวเองว่า ไม่อยากฟังเสียงของอีกฝ่ายนานกว่านั้น เพราะใจยังไม่เข้มแข็งมากพอ
เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากนั้น ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าร้านก็รับสาย เสียงหวานใสของเธอตอบรับสายนั้นเบาๆ แต่พอที่ฉันจะได้ยิน เธอบอกคนที่ปลายสายว่าเธอนั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟหน้าปากซอย
"ไม่เอาค่ะ แก้วนั่งรอคุณเอกอยู่ที่ร้านกาแฟดีกว่า แก้วไม่อยากเจอเขา ผู้หญิงใจร้าย อารมร์ร้ายคนนั้น แก้วกลัวเขาจะทำร้ายแก้วเหมือนที่แล้วๆ มาอีกค่ะ เอาเป็นว่าคุณเอกรีบเก็บของให้เสร็จๆ แล้วรีบมานะคะ แก้วจะรอไปทานข้าวด้วยกัน อย่านานนะคะ แก้วหิวแล้วล่ะ..."
ลูกค้าสองคนเดินออกไปจากร้าน หลังจากรอให้เจ้าของร้านเก็บโต๊ะเรียบร้อย ฉันสูดหายใจเข้าปอด หยิบแก้วกาแฟของตัวเอง นิตยสารที่อ่านค้างไว้ และต้นกระบอกเพชรของไอซ์ เดินไปนั่งแทนที่สองคนนั่น
ที่นั่งซึ่งอยู่กลางร้าน ที่ซึ่งฉันเชื่อว่า คนที่กำลังจอดรถ และก้าวเข้ามาในร้านจะเห็นได้ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
.....
ฉันเหลือบตาขึ้นโดยอัตโนม้ติ แล้วก็ต้องนิ่งไปชั่ววินาที คนที่เดินเข้าร้านกาแฟเข้ามาเป็นหญิงสาวร่างเล็ก นุ่งกางเกงยีนขาสั้น เสื้อเชิ์ตสีขาว ผมยาวเหยียดตรง สิ่งที่สะดุดตาไม่ใช่รูปร่างสมส่วน ไม่ใช่ใบหน้าสวยหวานแต่เป็นเพราะว่า...ใบหน้านั่นคุ้นเคยเหลือเกินสำหรับฉัน ทั้ง ๆ ที่เคยเห็นหน้าเธอแต่ในรูปเท่านั้น
...รีบก้มหน้า เบี่ยงตัวโดยอัตโนมัติเพื่อให้หลบอยู่หลังชั้นวางหนังสือและของใช้กระจุกระจิกที่วางโชว์อยู่ พร้อมกับหยิบนิตยสารที่อยู่ใกล้โต๊ะขึ้นมาทำทีเป็นสนใจกับนิตยสารตรงหน้า
"รับอะไรดีครับคุณลูกค้า" เสียงของเจ้าของร้านเอ่ยทักผู้เข้ามาใหม่
เธอเดินมาที่เคาน์เตอร์ สั่งขนมและเครื่องดื่มก่อนจะเดินกลับไปนั่งมุมด้านหน้าของร้านซึ่งสามารถมองออกไปที่ถนนได้ นั่นทำให้เธอหันหลังให้ฉันโดยอัตโนมัติ
...เรื่องบังเอิญ หรือว่า เธอมีนัดกับใครอีกคน ที่ฉันรู้จักดี...
หญิงสาวคนนั้นไม่รู้สึกว่ากำลังถูกจับสังเกตอยู่ เธอหยิบอุปกรณ์แต่งหน้าขึ้นมา แล้วก็เริ่มเติมหน้าของตัวเอง โดยไม่สนใจผู้ที่เดินเข้ามาใหม่อีกสองคน ซึ่งเลือกที่นั่งกลางร้าน
มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญสินะ...ฉันลดหนังสือลง สมองคิดวุ่นวาย ถามตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรดี ใจหนึ่งอยากจะเดินออกจากร้าน อีกใจอยากไปแสดงตัวให้เธอรู้ว่าฉันนั่งอยู่ในร้านด้วย อยากรู้ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร
พอได้เห็นตัวจริง ก็พบว่า...ผู้หญิงคนนั้นสวย รูปร่างดี มองจากตรงนี้ บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่เทียบเธอได้เลย
"เอ่อ...ขอโทษครับ มีคนส่งนี้ไว้ให้คุณ" เจ้าของร้านเดินมาที่โต๊ะและวางซองจดหมายสีครีมซึ่งจ่าหน้าซองเป็นชื่อฉัน พร้อมกับกล่องกระดาษสีเหลี่ยมจตุรัสสีน้ำตาลขนาดเท่าผ่ามือ
"คะ"
"ฝากไว้เมื่อเช้า เขียนไว้ชัดว่าให้คุณ ...ตอนนี้ครับ"
ซองจดหมาย ลายมือไม่คุ้น
"ขอบคุณค่ะ แต่ว่า คนส่งเป็นใครคะ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฉัน" ฉันถามเสียงเบา ไม่อยากให้ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าของร้านได้ยินบทสนทนาของฉันกับเจ้าของร้าน
"มีคุณคนเดียวที่มาพร้อมสมุดบันทึก" เจ้าของร้านบอกยิ้มๆ
มิน่าเล่าวันนี้เจ้าของร้านถึงเอ่ยทักฉันราวกับรู้จักกันมาก่อน เขารอที่จะเอาของมาให้ฉันนี่เอง
"อ่านดูก่อนก็ได้ครับ ถ้าไม่ใช่ก็คืนผมมาแล้วกัน" เจ้าของร้านยิ้มให้ "คนส่งเขาใช้บริการบริษัทส่งของ คงมีใครสักคนอยากเซอร์ไพรส์คุณ"
บริษัทส่งของ....
"บรษัทที่เครื่องแบบสีเทาใช่ไหมคะ" ถ้าจำไม่ผิด บริษัทส่งของที่มาส่งไอแซค ก็ใส่ชุดสีนี้
เจ้าของร้านพยักหน้า
เขียนถึงผมนะ...แล้วผมจะเขียนถึงคุณ ประโยคนั้นลอยเข้ามาในความคิด ฉันรีบดึงกระดาษเล็กๆ ที่อยู่ในซองจดหมาย คลี่มันออก ก้มลงอ่านลายมือไม่คุ้นเคยนั้น
'ดีใจที่คุณกลับไปถึงอย่างปลอดภัย' เนื้อความมันเริ่มด้วยข้อความนั้น ไม่ทีคำขึ้นต้น ไม่มีรายละเอียดว่าคนเขียนเป็นใคร
'ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษที่ส่งตัวคุณกลับมาโดยที่ไม่บอกก่อน บอกตรงๆ นะ ผมทนการจากลาของเราไม่ได้
การเป็นหุ่นยนต์ เรามักตัดสินใจอะไรโดยใช้หลักการ ความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ และข้อมูลแวดล้อม ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังมากนัก ใช้เหตุผลเป็นหลัก
แต่กับเรื่องการกลับไปของคุณ ผมใช้เหตุผลข้อเดียว คือ ...คุณอยากกลับไปที่นั่น
ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณจะต้องพบกับอะไรที่ลำบากใจ ต้องเจอเรื่องไม่สบายใจหลายอย่าง และผมคงไม่มีโอกาสที่จะไปช่วยคุณได้อีกแล้ว
ผมจึงอยากจะเขียน และส่งเจ้าต้นไม้ที่อดทนที่สุดในโลกชนิดหนึ่งมาให้กำลังใจคุณ อยากให้คุณผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ...จำไว้นะครับ คุณสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองอีก ...ถ้าคุณไม่รักษาสัญญา ผมจะเสียใจมาก'
ฉันเปิดกล่องกระดาษ ข้าในเป็นกระถางต้นกระบองเพชรต้นเล็กๆ ซึ่่งกำลังออกดอกจิ๋วสีส้มสด มันเป็นต้นไม้ที่สวยราวกับไม่ใช่ของจริง
'พันธุ์ใหม่ ผมตั้งชื่อมันว่า-อิงลดา' มีข้อความสั้นๆ เขียนไว้ในนั้น
ความรู้สึกอบอุ่นลึกๆ แปลกประหลาดแล่นเข้ามาใจหัวใจ ฉันรู้สึกได้ว่ามีเป็นห่วงเป็นใย และความปรารถนาดีผ่านข้อความ และต้นไม้เล็กๆ ต้นนั้นมา
'ไอแซค ขอบคุณนะสำหรับต้นไม้ และสิ่งที่นายเขียนถึงฉัน...จดหมายของนายมาถึงในจังหวะที่ฉันอยากจะได้ข้อความจากใครสักคนมากที่สุดอยู่พอดี ตกลง ฉันยังไม่ฆ่าตัวตาย และยังไม่คิดถึงมัน ไม่ว่าในตอนนี้หรือตอนไหน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงมัน บางทีถึงเวลาที่ฉันควรจะมองชีวิตของตัวเองในมุมที่ต่างจากเดิมๆ แล้ว ฉันจะเข้มแข็ง...สัญญา'
ทั้งๆ ที่บอกว่าจะเข้มแข็ง แต่ระหว่างจรดปากกาก็ต้องกระพริบตาเพื่อไล่ความรู้สึกที่เอ่อขึ้นมาหลายครั้ง
'...นายเป็นอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย ฉันเป็นห่วง พ่อของนายบอกว่าจะจัดการกับนายหลังจากส่งฉันกลับมาแล้ว...เขาทำอะไรหรือเปล่า ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจ'
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ฉันมองไปที่หน้าจอ วางปากกาที่กำลังเขียนบันทึก และกดรับ
"ผมเก็บของเสร็จแล้วนะ" น้ำเสียงคนพูดห้วน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลายสายเป็นใคร
"...ค่ะ"
"ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน ผมอยากย้ำว่าคุณอย่าไประรานใครที่ที่ทำงานของผมอีก บอกกี่ครั้งก็ไม่เชื่อว่าผมไม่มีอะไรกับเขา หากคุณไปทำเรื่องอะไรอีก คราวนี้ผมจะอนุญาตให้เขาตอบโต้บ้าง"
มือกำโทรศัพท์แน่นขึ้นนิดหนึ่ง กัดริมฝีปากไว้ แสดงว่ารูปและข้อความที่ฉันอ่านมาก่อนทั้งหมด ฉันเข้าใจผิดไปเองสินะ
"ไม่มีอะไรพูดเลยหรือไง"
ปกติฉันต้องร้องไห้ฟูมฟาย และท้ายที่สุดก็ขอร้องให้เขากลับมา
"ไม่ค่ะ" ฉันตอบเสียงเบา "คุณว่าอะไรก็ตามนั้น"
"แปลกจัง นี่คุณอยู่ไหน"
จะไปแล้ว จะถามทำไม ฉันคิด แต่ยั้งปากตนเองเอาไว้
"....ไม่สำคัญหรอกค่ะ แค่นี้นะคะ" ฉันกดวางสาย บอกตัวเองว่า ไม่อยากฟังเสียงของอีกฝ่ายนานกว่านั้น เพราะใจยังไม่เข้มแข็งมากพอ
เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากนั้น ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าร้านก็รับสาย เสียงหวานใสของเธอตอบรับสายนั้นเบาๆ แต่พอที่ฉันจะได้ยิน เธอบอกคนที่ปลายสายว่าเธอนั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟหน้าปากซอย
"ไม่เอาค่ะ แก้วนั่งรอคุณเอกอยู่ที่ร้านกาแฟดีกว่า แก้วไม่อยากเจอเขา ผู้หญิงใจร้าย อารมร์ร้ายคนนั้น แก้วกลัวเขาจะทำร้ายแก้วเหมือนที่แล้วๆ มาอีกค่ะ เอาเป็นว่าคุณเอกรีบเก็บของให้เสร็จๆ แล้วรีบมานะคะ แก้วจะรอไปทานข้าวด้วยกัน อย่านานนะคะ แก้วหิวแล้วล่ะ..."
ลูกค้าสองคนเดินออกไปจากร้าน หลังจากรอให้เจ้าของร้านเก็บโต๊ะเรียบร้อย ฉันสูดหายใจเข้าปอด หยิบแก้วกาแฟของตัวเอง นิตยสารที่อ่านค้างไว้ และต้นกระบอกเพชรของไอซ์ เดินไปนั่งแทนที่สองคนนั่น
ที่นั่งซึ่งอยู่กลางร้าน ที่ซึ่งฉันเชื่อว่า คนที่กำลังจอดรถ และก้าวเข้ามาในร้านจะเห็นได้ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
.....
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มิ.ย. 2560, 11:41:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มิ.ย. 2560, 21:52:27 น.
จำนวนการเข้าชม : 1553
<< 19. กลับมา...ในโลกแห่งความเป็นจริง | 21.เรื่องที่ต้องแปลกใจ >> |
titirat 26 มิ.ย. 2560, 10:53:55 น.
สนุกค่ะ เรื่องนี้จะมีพิมพ์เป็นเล่ม หรืออีบุ๊ค คะ
สนุกค่ะ เรื่องนี้จะมีพิมพ์เป็นเล่ม หรืออีบุ๊ค คะ
สิรินดา 26 มิ.ย. 2560, 17:10:44 น.
มีทั้งสองแบบค่ะ (^__^)
มีทั้งสองแบบค่ะ (^__^)
คิมหันตุ์ 27 มิ.ย. 2560, 14:19:10 น.
คิดถึงไอซ์แย่แล้วค่าาาาา
คิดถึงไอซ์แย่แล้วค่าาาาา
สิรินดา 27 มิ.ย. 2560, 17:35:38 น.
จ้า รับทราบ (^__^)
จ้า รับทราบ (^__^)
lookpud 9 ก.ค. 2560, 21:33:10 น.
สนุก รออ่านคะ
สนุก รออ่านคะ