คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 19[2]


..........หลังจากไทธรรพ์พาเอมิโกะลับหลังไปเท่านั้น เสียงคำสั่งจากคุณอายูมิจึงดังขึ้น

“เพชรน้ำหนึ่งเธอต้องโดนลงโทษที่ทำกับแขกของฉันอย่างนั้น ไปรอที่ห้องนั่งเล่นเดี๋ยวนี้”

“ซวยล่ะหว่าเรา... ไม่น่าเลย” เพชรน้ำหนึ่งบ่นพึมพำกับตัวเอง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกหวั่นกลัวสลับร้อนสลับหนาวเป็นกังวล เดินไปที่ห้องนั่งเล่นของคุณอายูมิ และลงนั่งกับพื้นอย่างสงบเสงี่ยม

“เธอร้ายมากนะเพชรน้ำหนึ่ง ฉันต้องกำราบเธอ ให้รู้จักเกรงใจกันบ้าง ทำร้ายแขกของฉันได้ยังไง เธอทำความผิดนะ” คุณอายูมิว่า

ขณะที่เพชรน้ำหนึ่งก้มหัวโค้งคำนับรับผิด

“...” สาเหตุที่ต้องนอบน้อม เพราะนึกขึ้นได้

‘ถ้าขืนเถียงมีหวัง... ได้เรื่องเพิ่มมากขึ้นอีกหลายคดีมีเรื่องยืดยาวไม่รู้จบ...’

และไม่ควรมีอาการกระด้างกระเดื่องต่อผู้หลักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เป็นบุพการีของคนรัก

“เอาล่ะต่อไปนี้เธอต้องไปช่วยงานในครัว ช่วยป้ายาสุโอะแม่ครัวบ้านเราเป็นเวลาเจ็ดมื้อ เฉพาะมื้อเย็น เริ่มเย็นนี้เลย”

“ค่ะ” เด็กสาวโค้งคำนับรับคำ

“ฉันหมดธุระกับเธอแล้ว ...ไปได้” คุณผู้หญิงสั่งด้วยสีหน้าเรียบร้อย ไม่มีทีท่าโกรธเคืองเรื่องใด หนำซ้ำคำสั่งลงโทษสถานเบา แค่ให้ไปช่วยงานแม่ครัวเพียงเท่านั้น

หลังจากนั้นเพชรน้ำหนึ่งจึงออกจากห้องไป

ส่วนคุณยูตะเดินสวนเข้ามา เพื่อจะคุยกับคุณอายูมิ

“บทลงโทษของคุณไม่หนักหนาสาหัส ดูท่าทางคุณจะอารมณ์ดีด้วยนี่นา”

“ฉันไม่ได้คิดจะลงโทษร้ายแรงอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันได้รู้ผลคนที่อยู่คือเพชรน้ำหนึ่ง ยังดีกว่ายายเอมิโกะจอมวายร้ายนั่น”

“แสดงว่าคุณชอบเพชรน้ำหนึ่งมากกว่าเอมิโกะ”

“เปล่านี่... ฉันไม่ได้ชอบเพชรน้ำหนึ่ง แต่ฉันเกลียดยายเอมิโกะมากกว่า ได้รู้จากปากของไทธรรพ์ว่า เลิกรากับยายนั่นแน่นอนแล้วฉันค่อยสบายใจ”



..........ในห้องครัวเวลาทำอาหารมื้อเย็น คราวนี้มีเพชรน้ำหนึ่งเข้ามาช่วย สวมใส่ผ้ากันเปื้อนเรียบร้อยมาเดินดูตู้กระจก เห็นกุ้งตัวโตว่ายน้ำอยู่จึงอยากทักทายมัน เลยใช้นิ้วมือเคาะกระจกเล่นอย่างเอ็นดูกุ้งตัวโตในตู้

“ป้ายาสุโอะคะกุ้งมันกินอะไร เดี๋ยวหนึ่งจะช่วยให้อาหารมันเอง กุ้งตัวโตสวยดีนะคะ ในครัวมีตู้ปลาเลี้ยงไว้ดูเล่นด้วย”

“อ๋อ... นั่นกุ้งมังกร ไม่ต้องให้อาหารมันหรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวมันต้องมาเป็นอาหารของเราแล้ว”

“หา! นี่... ไม่ได้เลี้ยงไว้ดูเล่นเหรอ” อุทานเพิ่งรู้ว่าเข้าใจผิดคิดไปเอง

“คุณหนึ่งใช้สวิงที่ตักปลาวางหน้าตู้นั่นช้อนมันขึ้นมาใส่หม้อเลยค่ะ มื้อนี้จะทำกุ้งมังกรอบราดซอส” ป้ายาสุโอะแม่ครัวของบ้านเริ่มใช้งานเด็กสาว

“เอ่อ... คือว่า...” เธอพูดตะกุกตะกัก “หนึ่งไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ...มันบาป ฆ่ามันตายกลายเป็นศพกุ้ง หนึ่งทำไม่ลงจริงนะคะ ...สงสารมันค่ะ”

“บาปกรรมอะไรกันมันเป็นการทำอาหาร คุณหนึ่งนี่... ท่าทางจะทำอะไรไม่เป็นเลยสิท่า”

“มีอะไรเหรอยาสุโอะ” คุณอายูมิเข้ามาตรวจงานในครัว ใส่ผ้ากันเปื้อนด้วยเพื่อช่วยในครัวเช่นกัน

“คุณหนึ่งไม่ยอมทำกุ้งค่ะ บอกว่าไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ...กลัวบาป”

“หนึ่งทำไม่ได้จริงค่ะ ทำลายชีวิตเขาเพื่อมาหล่อเลี้ยงชีวิตเรา ความจริงกินเจหรือมังสวิรัติยังได้ ไม่ต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตด้วยกัน เขาเป็นเหมือนเพื่อนร่วมโลกเรา”

“ทำไม่ได้ไม่ต้องทำ อย่างนั้นมื้อนี้เธอไม่ต้องกินกุ้ง ไปทำอย่างอื่นไปโน่น... ไปล้างผักหั่นผัก ล้างผลไม้ด้วย” คุณอายูมิไล่ แต่ไม่ได้โกรธเคืองประการใด อมยิ้มให้... ติดจะขำด้วยเห็นเป็นเรื่องตลกของเพชรน้ำหนึ่ง



..........บนโต๊ะอาหารมื้อค่ำ มีผู้ร่วมรับประทานอาหารอยู่ครบทั้งสี่คน

“มื้อนี้กับข้าวของเธอคือผัดผักและข้าวห่อไข่กับผลไม้ ห้ามกินกุ้งมังกรอบราดซอส เพราะเธอไม่ยอมช่วยทำ” คุณอายูมิชี้แจงต่อเพชรน้ำหนึ่งบนโต๊ะอาหาร

“กุ้งตั้งเยอะแยะเดี๋ยวเหลือกินกันไม่หมด ทำไมห้ามหนึ่งกินล่ะครับ” ไทธรรพ์อดจะถามมารดาไม่ได้

“เพราะเด็กของไทธรรพ์ไม่ยอมทำกุ้ง บอกว่าไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ทำกับข้าวอะไรไม่เป็นเลยล่ะสิ แบบนี้จะเอามาเป็นลูกสะใภ้แม่ แม่คงต้องคิดหนักจะเลี้ยงดูไทธรรพ์ลูกแม่ได้ยังไง”

“แม่ครับผมทำกับข้าวเป็น ถึงหนึ่งทำไม่เป็นแต่ผมสามารถสอนให้ได้ครับ หรือผมเป็นคนทำกับข้าวให้หนึ่งกิน ไม่เห็นเป็นไรดีเสียอีกผมจะได้รับการยกย่อง เป็นหัวหน้าครอบครัวตัวอย่าง สมัยนี้ชายในฝันของสาวต้องทำอาหารเป็นนะครับ”

“ป๋าก็หัวสมัยใหม่ ผู้หญิงทำกับข้าวไม่เป็นเราปล่อยให้ทำหน้าที่อย่างอื่นไป สมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน ผู้หญิงทำงานนอกบ้าน ผู้ชายอยู่เป็นพ่อบ้านทำงานบ้านก็ได้ ไทธรรพ์ชอบอย่างนั้นใช่ไหมลูก” คุณยูตะพูดเอาใจลูกเลี้ยง

“ครับ... ป๋านี่รู้ใจผมมากกว่าแม่ซะอีก”

“แหม... ตามใจลูกเกินไปแล้วนะคะคุณยูตะ”

“คนที่บ้านของหนึ่งเป็นชาวพุทธเขาทำบุญใส่บาตรกันทุกวัน คุณตาคุณยายวันพระถือศีลกินเจ เขาไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ขนาดมีปลาช่อนเอยปลานิลเอยอยู่ในบึง พวกมันยังไม่เคยถูกจับมาทำเป็นอาหารเลยสักตัว” ไทธรรพ์เล่าให้ฟัง

“แปลกดีนะบ้านเพชรน้ำหนึ่งนี่” คุณยูตะกล่าว โดยส่วนตัวแล้ว ออกจะนึกเมตตาเพชรน้ำหนึ่งอยู่ไม่น้อย



..........คุณอายูมิมองดูคนงานกำลังลำเลียงอุปกรณ์ฟิตเนสเข้ามาในห้องออกกำลังกาย บริเวณชั้นล่างของคฤหาสน์

“ไทธรรพ์... ลูกมาขออนุญาตแม่ขอห้องทำโรงยิมห้องขนาดเล็กเพื่อฝึกซ้อมมวย แม่นึกว่าจะมีแต่กระสอบทรายใบเดียวพอเลยอนุญาตให้ทำ แล้วนี่มันอะไรกัน เยอะแยะมากมายอย่างกับจะตั้งค่ายมวยเองซะอย่างนั้น”

“ของจำเป็นทุกชิ้นครับแม่ ทั้งลู่วิ่งทั้งจักรยานออกกำลังรวมทั้งเตียงนวด”

“นั่นเตียงนอนสระผมนี่นาแถมเก้าอี้ทำเล็บอีก จะทำฟิตเนสแอนด์สปาด้วยหรือไง จะได้ใช้คุ้มทุกชิ้นหรือเปล่านี่... ฟุ่มเฟือยเกินเหตุแล้ว ทำไมไม่ทำคาราโอเกะติดไฟกระพริบระบบเดียวกับเธคด้วยเลยล่ะจะได้ครบวงจร” ประโยคหลังมารดาว่าประชด

“อันนั้นมีครับ กำลังตามมาทั้งเครื่องเสียงคาราโอเกะไฟเธค เอาไว้แดนซ์กระจาย”

“โอ๊ย!! แม่จะบ้าตาย นี่มันหมดเงินเป็นล้านเยนเลยนะ ทำยังงี้ได้ยังไง”

“แม่เสียดายเงินเล็กน้อยหรือครับ เราเป็นอภิมหาเศรษฐีมีเงินจ่าย จะน้อยกว่านี้ได้ยังไง”

“อย่ามาหาว่าแม่เสียดายเงินนะ ลูกใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินเหตุ ถ้ารู้จะเป็นแบบนี้แม่ไม่อนุญาตแน่ ให้ไปฝึกซ้อมที่ค่ายมวยดีกว่า ไม่ต้องสิ้นเปลือง”

“ที่ค่ายมวยต้องไปซ้อมประจำอยู่แล้วครับ แต่ที่บ้านต้องมีที่ซ้อมด้วย ต้องฝึกหนักทุกวันครับเพื่อให้ได้เป็นแชมป์”

“หานี่... อย่าบอกนะว่า... ลูกจะชกมวยด้วยอีกคน แม่ไม่ยอมให้ลูกไปเจ็บตัวแบบนั้นเด็ดขาด”

“ผมเปล่าครับ แค่เป็นคู่ซ้อมให้เขาเท่านั้น ผมจะสนับสนุนหนึ่งให้ถึงที่สุด”

“ทั้งหมดนี่เพื่อเด็กสาวคนนั้น? ลูกทุ่มเทมากเกินไปรึเปล่า แบบนี้แม่ไม่ยอม จะไปสั่งให้ขนของทั้งหมดกลับเดี๋ยวนี้”

“ไม่ทันแล้วครับแม่ ป๋าอนุมัติเงินจ่ายไปเรียบร้อยหมดแล้ว ไม่เชื่อแม่ไปถามป๋าได้”

ได้ฟังบุตรชายบอกดังนั้นคุณอายูมิจึงยกหูโทรศัพท์ภายในเรียกสามี

เพียงครู่เดียว... คุณยูตะเดินยิ้มเข้ามาหา

“คุณยูตะช่วยมาดูด้วยตัวเองหน่อย มาดูโรงยิม ฟิตเนสแอนด์สปา คาราโอเกะ เธค นี่ฉันไม่รู้จะเรียกว่าอะไร คุณตามใจลูกมากขนาดนี้ได้ยังไง”

“ช่างมันเถอะน่าคุณ ความสุขเล็กน้อยของลูกเรา ให้เขาไปเถอะ คุณก็รู้ว่าผมตามใจลูกชายคุณเสมอ เพราะเราเหลือลูกชายอยู่คนเดียวนี่ล่ะ ไม่ตามใจลูกจะไปตามใจใครที่ไหน”

“แต่ไทธรรพ์ทุ่มเทสิ่งของมากมายเพื่อเด็กนั่น ฉันไม่ชอบแบบนี้ค่ะ”

“แหม... คิดมากทำไมกัน ไอ้ของที่ลูกซื้อมานั่นเราช่วยกันเข้าไปใช้ด้วยสิ เขาไม่ได้สงวนเป็นสมบัติส่วนตัว นี่ผมว่าจะลองเล่นคาราโอเกะกับแสงไฟเธคเสียหน่อย ได้ยืดเส้นยืดสายอยู่ในบ้าน ไม่ต้องแอบไปเที่ยวเธคให้อายเด็กมัน” คุณยูตะพูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี

“คุณยูตะพูดเป็นเล่นไปได้ ฉันไม่ตลกด้วย” ว่าแล้วคุณอายูมิเลยค้อนให้สามี




ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ส.ค. 2560, 15:45:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ส.ค. 2560, 15:45:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1146





<< ตอน 19[1]   ตอน 20[1] >>


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account