คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 29[2]




..........รีสอร์ทห้องพักอยู่ถัดจากกันไปเพียงหลังเดียว เพชรน้ำหนึ่งจึงนำกระเป๋าไปเก็บยังที่พักและนำของกินไปร่วมปิ้งบาร์บีคิวกับพวกเขาด้วย

ส่วนพวกเขามีครบพร้อมทั้งเครื่องดื่มเหล้าเบียร์ พวกหนุ่มจากแก๊งฮาร์เล่ย์มีกันอยู่ห้าคน รวมยุติด้วยเป็นหกคน มีเพียงเพชรน้ำหนึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวและไม่ดื่มของมึนเมาเหล้าเบียร์

“เฮ้พวกเรา... ฉันเจอเพื่อนใหม่เลยชวนมาร่วมวงปาร์ตี้กับพวกเราด้วย พักอยู่ถัดไปห้องเดียวเอง” โจเซฟตะโกนบอกเพื่อน “ผู้หญิงชื่อหนึ่ง ผู้ชายชื่อยุติ”

“ไม่ใช่คนอเมริกันนี่” หนึ่งหนุ่มในสมาชิกแก๊งฮาร์เล่ย์ตั้งข้อสันนิษฐาน

“ยุติเป็นคนไทย ส่วนฉันเป็นคนญี่ปุ่น” เพชรน้ำหนึ่งแนะนำตัว

สมาชิกแก๊งฮาร์เล่ย์มองอย่างงงกับเพื่อนใหม่ต่างสัญชาติ

“ผมแนะนำเพื่อนให้ นี่โจชัว นั่งข้างกันนั่น... เดวิด ถัดไป... จิมมี่และ... โรแลนด์”

“มาร่วมสนุกกันดีกว่าเดี๋ยวฉันร้องเพลงให้ฟัง” โจชัวบอกและคว้ากีตาร์ขึ้นมาบรรเลง

ส่วนเพชรน้ำหนึ่งปิ้งกุ้ง ปลาหมึกและบาร์บีคิว กินไปด้วยฟังเพลงไปด้วย

เดวิดกับจิมมี่ลุกขึ้นเต้น

“ชีวิตคนโสดนี่มันสนุกจริงนะ ไม่มีแฟนไม่เห็นเป็นไร อยู่กับเพื่อนเฮฮาปาร์ตี้ดีกว่าจะมานั่งอกหักอยู่ทำไม” ชายหนุ่มอกหักนามโรแลนด์เอ่ยขึ้นลอยลม

“ไอ้เจ้าโรแลนด์นี่มันเพิ่งทำใจได้หลังจากโดนหักอกมาไม่นาน” โจเซฟคุยให้ฟัง

เพชรน้ำหนึ่งพยักหน้ารับรู้

“หนึ่งก็ว่าอย่างนั้น มีเพื่อนคงสนุก แต่หนึ่งไม่มีเพื่อน อกหักก็ไม่มีใครเหลียวแล”

“อ้าว... หนึ่งเพิ่งอกหักเหรอ แล้วนั่นไม่ใช่?” โจเซฟถามพลางมองไปทางยุติเป็นเชิงถามความสัมพันธ์ต่อกัน

“แปลกนะคนญี่ปุ่นกับคนไทย สองคนนี่เป็นผัวเมียกันหรือเปล่า” โจชัวถามอย่างตรงมาก

“เปล่า...เป็นโสดเหมือนกันเราเป็นเพื่อนกัน แต่เขาดีกับหนึ่งมาก จนนับถือเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเลย”

“อ้าว! ทำไมบอกอย่างนั้น เราเป็นคู่หมั้นกัน”

“แต่เราไม่ใช่แฟนกัน หมั้นกันเพราะความจำเป็นและผลประโยชน์ พ่อแม่เห็นชอบ”

“ความสัมพันธ์แบบนี้มันน่าเหงาอยู่นะเพราะว่าไม่ได้รักกัน” โจเซฟพูดอย่างเห็นใจ

“เอ้ายุติ... เบียร์... นายดื่มไหม” โจชัวส่งให้

“ฉันไม่ดื่มเบียร์ ไม่ดื่มพวกผสมแอลกอฮอล์ ขอกาแฟมีไหม” ยุติบอก

เพื่อนใหม่ชี้ให้ไปชงกินเอง ของเหล่านั้นตั้งรออยู่บนโต๊ะตัวเล็กเตี้ยใกล้กันนั้น

“ข้อมือนายมีปิ๊กกีตาร์ห้อยที่สร้อยข้อมือ นายเล่นกีตาร์เป็นหรือเปล่า” โจชัวถาม หลังจากมองอย่างพินิจพิจารณาสังเกตดูอยู่ครู่หนึ่ง

“เป็นอยู่แล้ว” ยุติกล่าวยิ้มรับ

“พอดีเลยงั้นเล่นกีตาร์ให้ฟังบ้างสิ มีฉันเล่นอยู่คนเดียว” โจชัวบอกพร้อมส่งกีตาร์ให้ยุติ

ยุติจึงลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้แทนที่โจชัว

โจชัวลงมานั่งบนเสื่อปิกนิกรวมกับเพชรน้ำหนึ่งและโจเซฟ

ส่วนคนที่ยืนเต้นอยู่มีเดวิด จิมมี่และโรแลนด์ เตรียมเต้นเพลงต่อไป

“วู้... เพลงโฮเทลแคลิฟอร์เนีย เพลงเก่าแต่ชอบ วู้...” โจชัวส่งเสียงเฮถูกใจ

ยุติยิ้มให้กลุ่มเพื่อนใหม่

เพชรน้ำหนึ่งมองยุติ ...รู้สึกเหงาขึ้นมาวูบหนึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นท่ามกลางผู้คนและบรรยากาศเฮฮาปาร์ตี้ที่ไม่น่าจะทำให้เหงาได้ แต่มันไม่ใช่ความทุกข์เสียทีเดียว เพลินตากับรอยยิ้มมีเขี้ยวเสน่ห์ของยุติ

‘เขาเป็นผู้ชายหล่อ ในใจส่วนลึกยังไม่นึกอยากรักและตอนนี้ยังไม่ได้รัก นั่นแหละความเหงา... เหงาที่ไม่อยากรักใครทั้งที่มีคนน่ารักนั่งอยู่ต่อหน้า แต่ว่าคนที่เคยรักนักหนา ตอนนี้เขาอยู่ไหน... ในใจคร่ำครวญแสนคิดถึง’

สาวสวยแสนเหงาแหงนหน้ามองขึ้นไปเบื้องบน ท้องฟ้ายามดึกดื่นคืนนี้ ยังคงมีแต่ดวงดาวมากมายเหมือนที่เคยมี

“คิดถึง... คิดถึง... รักตรึงอยู่ในใจฉัน คิดถึงดอกรักดอกนั้น นับวันจะร่วงโรยรา คิดถึงคนเคยรู้จัก เคยห่วงเคยรักหนักหนาจากไปไม่ล่ำไม่ลา น้ำตาพลันร่วงริน... ฯลฯ” ยุติร้องเพลงไทยที่ไม่คุ้นหูเลยสักนิด ทำนองช้าอ้อยอิ่ง... ชวนเหงาเข้าไปอีก

เหมือนอย่างในใจยามนี้ที่เธอกำลังรู้สึก จึงทำให้เธอหันกลับมามองยังดวงตาของเขา ท่ามกลางแสงสลัวของโคมไฟที่ตั้งอยู่บนพื้น เห็นสายตาเขาราวกับสะท้อนแววว่ารับรู้อะไรในใจเธอ



..........ยามเย็นปลายฤดูร้อน ต้นไม้ยืนต้นในบริเวณบ้านทาคาดะที่ปลูกล้อมรอบตึกหลังใหญ่สีขาวออกชมพูถูกส่องด้วยแสงสุดท้ายแห่งตะวันที่คล้อยต่ำกำลังจะลับลาฟากฟ้าไป แสงรำไรส่องลอดตามใบไม้ชวนมองดูเพลินตาพาให้ผู้นั่งมองจิตใจสงบและผ่อนคลายลงคล้อยตามสภาพอากาศเริ่มเย็นย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ความเหงา ความเศร้าที่ตกตะกอนนอนก้นเบื้องลึกในจิตใจไม่ฟุ้งกระจายขึ้นมารบกวนความสงบสุข บางทีธรรมชาติสามารถช่วยเยียวยารักษาใจให้คลายจากความตรอมตรม บรรเทาให้ทุเลาไปได้บ้าง มองเห็นคนสวนอยู่ห่างไกลกำลังกวาดเศษใบไม้ไปตามหน้าที่

“หนึ่งมานั่งเล่นอยู่นี่เอง ขอนั่งด้วยคนสิ” ยุติทักทาย พร้อมกับลงนั่งเคียงข้างบนม้านั่งใต้ต้นเมเปิ้ล

“วันนี้ทานข้าวค่ำหน่อยนะพี่ยุติเพราะหนึ่งยังไม่ได้ไปทำกับข้าวให้เลย อยากนั่งเล่นอีกสักพัก บรรยากาศกำลังดูเพลินดี”

“ไปทานข้าวนอกบ้านบ้างก็ได้ ไม่ต้องทำกินเองหรอก เรามีปัญญาจ่ายจะไปนั่งภัตตาคารหรูหราระดับสูงขนาดไหนยังได้ ให้ไปกินข้าวนอกบ้านอย่างหรูทุกมื้อยังได้เลย พี่จะได้เห็นหนึ่งแต่งชุดสวย อยากควงหนึ่งไปอวด ให้ชาวบ้านเห็นว่าพี่มีคู่หมั้นสวย” ว่าอย่างนั้น แล้วโอบไหล่

แต่เพชรน้ำหนึ่งไม่อยู่ในอารมณ์เดียวกันด้วย

“หนึ่งไม่อยากเจอผู้คน อยากอยู่แต่ในอาณาจักรส่วนตัวที่นี่มากกว่ามันให้ความรู้สึกสงบสุขดี”

“โธ่น่าเบื่อ ...เซ็งเลย หนึ่งชอบอยู่แต่บ้านไม่ค่อยชอบไปไหนบ้างเลย มีแต่ไปถ่ายรูปธรรมชาติบรรยากาศเหงาหงอยไม่คึกคักเลย ไม่เห็นใจพี่บ้างพี่อยากจะชวนไปเที่ยวกินข้าวเคล้าเสียงเพลง เต้นรำสโลว์ซบอะไรทำนองนั้น ให้พี่ควงไปเป็นเพื่อนเอาใจพี่บ้างไม่ได้เหรอ เฮ้อ... คิดแล้วหนึ่งนี่ไม่ค่อยจะโรแมนติคเอาซะเลย” เขาบ่นกระปอดกระแปด

“นั่นสินิสัยแตกต่างกับพี่ยุติลิบลับ พี่ยุติออกจะโรแมนติคช่างเอาใจสาว จนกลายเป็นขวัญใจสาวใครเห็นเป็นรุมรักอยากเป็นแฟนพี่ยุติ มิน่าตอนพิธีหมั้นพี่ยุติถึงไม่เชิญบรรดาแฟนคลับมาเป็นแขกในงานหมั้นเลยสักคน กลัวแฟนคลับจะรู้ว่ามีคู่หมั้นนี่เอง”

“หนึ่งก็ไม่เห็นเชิญเพื่อนมาเหมือนกันแหละ ทั้งเพื่อนหญิงเพื่อนชาย”

“หนึ่งไม่ชอบคบหาสมาคมกับเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนหญิงหรือเพื่อนชายเป็นแค่คนรู้จักทักทายกันแล้วผ่านเลย เพื่อนที่หนึ่งคบมีแต่คนแปลกประหลาดคงเชิญมาร่วมในงานไม่ได้ ท่าทางคงไม่เข้ากับงานเพราะแขกของพ่อกับแม่ทั้งฝ่ายของพี่ยุติและหนึ่งแต่ละคนล้วนภูมิฐานทั้งนั้น”

“นั่นสิหนึ่งเล่นมีเพื่อนเป็นสับประเหร่อยังงี้ เด็กสลัมอย่างงั้น เด็กช่างท่าทางพร้อมรบยังกับจะยกพวกตีกันนั่นอีก แล้วคู่ต่อสู้บนสังเวียนมวยลูกสาวยากูซ่าด้วย น่ากลัวชะมัด” เขากล่าวแซวพร้อมยิ้มให้ พลอยทำให้เธอเห็นขำไปด้วย

“คิดถึงแม่พี่ยุตินะ น้าเพ็ญพิศป่านนี้จะเป็นไงบ้างไม่รู้ เมื่อก่อนตอนเย็นอย่างนี้เคยง่วนกันอยู่ในครัว ช่วยกันทำกับข้าวไปดูโทรทัศน์ในครัวไปด้วย สนุกดี บางทีน้าเพ็ญพิศชอบบ่นเรื่องลูกชายให้ฟัง เปรียบเทียบกับละครโทรทัศน์เรื่องพวกแม่ผัวกับลูกสะใภ้ ต้องเห็นใจคนเป็นแม่บ้าง ลูกชายเขาเขารักเขาทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมาด้วยนมแม่ตั้งแต่ตัวเล็กน้อยจนเติบใหญ่ ผู้ชายมักจะเห็นเมียดีกว่าแม่ ทะเลาะกับแม่ หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่บ้านเมีย”

“เรื่องของใคร ฟังดูคุ้นจัง” เขาเฉลียวใจคล้ายเป็นเรื่องของตนเมื่อหนหลังผ่านมา มองหน้าเธอเห็นหัวเราะเสียงเบา

“แม่พี่ยุติน่ะรักพี่ยุติมากนะ รักลูกชายเท่ากันทั้งสองคน แต่คนที่ทำให้แม่เป็นห่วงมากที่สุดเพราะไม่ได้ดั่งใจเลยคือพี่ยุติ”

“แหม... แม่พี่นี่แอบนินทาลับหลังแบบนี้หนึ่งรู้หมดสิว่าพี่เป็นยังไง แต่มาถึงตอนนี้แม่ได้ดั่งใจแล้วล่ะ เรื่องลูกสะใภ้” เขาบอก ส่งสายตาหวานชม้อยชม้ายชายตา

ทำให้เธอต้องยิ้มเขิน เมินหน้าหนี

“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า”

“นึกถึงตอนนั้นที่พี่ออกจากบ้านเพราะเราแม่ลูกทะเลาะกัน พี่ว่าแม่เป็นพวกศักดินาแบ่งชนชั้นคนจนคนรวยรังเกียจแฟนพี่ที่เป็นผู้หญิงยากจน พี่หลงผู้หญิงคนนั้นเพราะเธอสวยและเป็นแฟนคนแรก พี่คิดจะรับผิดชอบจริงจังเพราะมีอะไรกันแล้ว แต่พ่อพี่พูดบางคำที่ทำให้คิดได้ว่าเรายังเรียนไม่จบ หน้าที่คือเรียนให้จบถึงจะไปรับผิดชอบชีวิตผู้หญิงที่เป็นแฟนได้ วันนั้นพ่อมาตาม” ยุติเล่าเรื่องหนหลังให้เพชรน้ำหนึ่งได้รับฟังจากปากของเขาเอง...





ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ย. 2560, 18:38:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ย. 2560, 18:38:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1135





<< ตอน 29[1]   ตอน 30[1] >>


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account