เล่ห์รัก..กับดักนายพราน (รีไรท์)

Tags: อิศนะ วรดา ไร่ส้ม เชียงราย

ตอน: ตอนที่ 3.

ร่างสูงๆของภานุในชุดสูทสีขาวมีมาลัยซีกพวงสวยสำหรับคู่แต่งงานคล้องอยู่ที่ลำคอเป็นเสมือนสิ่งประหลาดมหัศจรรย์สำหรับวรดา หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง

“พี่นุ...”

ดวงตาคู่สวยของวรดาเบิกค้าง คำถามมากมายประเดประดังเข้าใส่หญิงสาวจนแทบตั้งหลักไม่อยู่ ภานุเองก็เช่นเดียวกัน เขามองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสนกึ่งประหลาดใจ

“เต็น...มาที่นี่ได้ยังไง”

“นี่...พี่นุกำลังจะแต่งงานหรือคะ”

แทนที่จะตอบคำถามของชายหนุ่ม วรดากลับเป็นฝ่ายถามกลับ หน้าสวยๆของหญิงสาวซีดสนิทดวงตาคู่โตมองอดีตคนรักอย่างสับสนระคนตัดพ้อ

“ใช่ ข้างในนั่น คืองานเลี้ยงฉลองสมรสของพี่กับ...คุณอิง”

วรดายืนนิ่งราวกับรูปปั้น หญิงสาวพยายามจะปรับสีหน้าให้แช่มชื่น

"เห็น รปภ.ที่ป้อมบอกว่าข้างในกำลังมีงานแต่งงาน ไม่คิดเท่านั้นเองว่ามันจะเป็นงานแต่งงานของพี่นุ นี่ถ้าเต็นไม่ได้มารู้เห็นด้วยตาตัวเอง เต็นก็คงไม่เชื่อ”

“พี่ว่าเต็นคงกำลังยุ่งๆเลยไม่ได้สนใจข่าวคราวของพี่มากกว่า เราไม่เจอกันนานหลายเดือนแล้วนี่นะ”

“ค่ะ ก็ตั้งแต่คราวนั้น คราวที่พี่นุทิ้งเต็นมา”

"เรื่องมันผ่านไปแล้ว พี่ว่าเราอย่าไปพูดถึงมันอีกเลยนะเต็น”

ภานุจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งๆก่อนจะถอนหายใจยาว เรื่องระหว่างเขากับวรดามันจบไปนานแล้ว เขาไม่อยากขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก อีกไม่นาน...วรดาก็จะแต่งงานไปเป็นภรรยาของผู้ชายคนอื่น

ผู้ชายคนที่มีทุกสิ่งทุกอย่างเหนือเขา...

ไม่ว่าเวลามันจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ภานุก็ยังรู้สึกเจ็บไม่สร่างซา ใช่สินะ ก็เขามันจน คนจนๆอย่างเขามีชีวิตเติบโตมาอย่างแร้นแค้น เรียนจบปริญญามาได้ก็เพราะข้าวก้นบาตรจากวัด เทียบอะไรกันไม่ได้เลยกับหนุ่มรูปหล่อลูกชายเจ้าของโรงแรมนามสกุลดังคนนั้น

"เงินนี้...รับไปซะ...แล้วออกไปจากชีวิตยายเต็น...ฉันจะให้ยายเต็นแต่งงานกับคุณพหล...คุณพหลเขามีทุกอย่างในขณะที่เธอไม่มีอะไรเลย...เธอมันมีแต่ตัว...เธอต้องรู้ว่าเธอมีแค่นั้นภานุ...ถ้าเธอรักลูกสาวของฉันจริงๆละก็เธอต้องรู้จักเสียสละเพื่อยายเต็น...คิดดูสิว่าเธอมีอะไรเทียบคุณพหลได้บ้าง...ฉันห่วงอนาคตลูกของฉัน...ยายเต็นควรได้ผู้ชายที่ดีกว่านี้...อย่างน้อยๆผู้ชายคนนั้นควรจะมีอะไรมากกว่าเธอ"

เขาจากมาเพราะคำพูดพวกนั้น วรดาไม่เคยรู้เรื่องนี้และเขาก็ไม่เคยคิดที่จะบอกหล่อนว่าแม่บังเกิดเกล้าของหล่อนขอร้องให้เขาถอยห่างออกมาโดยมีเช็คเงินสดสองแสนบาทเป็นการสมนาคุณ ภานุไม่ได้แตะต้องเช็คใบนั้น ไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ เขาไม่เคยขายตัวเองให้กับเงินตรา เขาตัดสินใจเดินจากวรดามานับมาถึงบัดนี้ก็ร่วมหกเดือนเต็มเข้าไปแล้ว

ภานุคิดว่าเขาสามารถทำใจยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านพ้นมาได้แล้ว เขากำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขาคิดว่าหล่อนเหมาะสมที่จะเป็นคู่ชีวิตของเขา และต่อไปนี้ชีวิตของเขากับวรดาก็คงจะกลายเป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้อีก

“ว่าแต่เต็นเถอะ รู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่”

“เดือนที่แล้วเต็นเจอพี่ทินที่งานเลี้ยงรุ่นของมหาลัยค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยถึงเพื่อนร่วมรุ่น ร่วมสถาบันและยังทำงานที่บริษัทเดียวกันกับภานุ

“เขาบอกว่าพี่นุถูกบริษัทส่งตัวมาดูแลไซด์งานที่เชียงราย พอดีว่า...เอ่อ...เต็นมาทำธุระที่เชียงรายตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้มีเวลานิดหน่อยเต็นก็เลยลองแวะเข้าหาพี่นุที่นี่ ก็แค่จะมาดูที่ทำงานของพี่นุ มาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเท่านั้น”

“พี่มาอยู่เชียงรายได้สี่ห้าเดือนแล้ว อยู่ที่นี่แรกๆก็เหงา แต่พออยู่นานๆเข้าก็ชักชิน”

“แต่ต่อไปนี้พี่นุคงไม่เหงาแล้วละค่ะ ว่าแต่...เจ้าสาวคนนั้นของพี่นุ เธอเป็นใครหรือคะ”

“คุณอิงเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของแม่เลี้ยงกันยา เจ้าของไร่นี้ เธอเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่ถือตัว อาจเป็นเพราะตอนที่พี่มาอยู่ที่นี่แรกๆ พี่ไม่รู้จักใครเลย ก็เหงานะ แต่มีคุณอิงคอยเป็นเพื่อนคุย คอยให้คำปรึกษาทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวจนเรารู้สึกดีๆต่อกัน เราเข้าใจกันในทุกๆเรื่อง พี่ก็เลยตัดสินใจขอเธอแต่งงาน อาจจะเร็วไปสักนิดในสายตาคนอื่นๆ แต่พี่กลับคิดว่าในเมื่อเราเจอคนที่ใช่ ทำไมเราจะต้องรอ พี่ไม่อยากล้มเหลวอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเต็นจะเข้าใจที่พี่พูดหรือเปล่านะ พี่ก็ได้แต่หวังว่าเต็นจะเข้าใจ”

“เข้าใจสิคะ เต็นจะพยายามเข้าใจ” วรดาพยายามจะยิ้มทั้งๆที่ข้างในหล่อนรู้ว่าตนเองกำลังร้องไห้ “เต็นก็...ไม่มีอะไร บอกแล้วไงคะว่าเต็นแค่อยากมาเยี่ยม พอได้มาเห็นว่าพี่นุอยู่ที่นี่มีความสุขดีแบบนี้ เต็นก็หมดห่วงแล้วล่ะค่ะ เสียดายที่วันนี้ เต็นไม่มีของขวัญอะไรมอบให้พี่นุกับเจ้าสาวเลย”

“แค่เต็นมา พี่ก็ดีใจแล้ว”

ปรากฏความเงียบขึ้นอีกครั้งก่อนที่ภานุจะตัดสินใจเอ่ยกับอดีตคนรัก

“พี่ต้องไปแล้วล่ะเต็น ใกล้ถึงเวลาส่งตัวเข้าหอแล้ว เดี๋ยวพี่เดินไปส่งเต็นที่รถดีกว่านะ”

“เต็นไม่ได้เอารถมาหรอกค่ะ เต็นจ้างสองแถวแถวๆหน้าโรงแรมมาส่งแล้วเต็นก็ให้เขากลับไปก่อนแล้ว ตอนแรกเต็นคิดเอาไว้ว่าขากลับจะให้พี่นุไปส่งในเมือง ไม่คิดนี่คะ ว่าจะมาเจออะไรเซอร์ไพรส์แบบนี้ ถ้าพี่นุจะกรุณา ช่วยให้ใครที่ไว้ใจได้ ไปส่งเต็นที่ในเมืองหน่อย จะได้มั้ยคะ”

“จริงๆแล้วพี่อยากจะไปส่งเต็นด้วยตัวเองมากกว่า แต่…”

“เต็นเข้าใจความจำเป็นของพี่นุค่ะ อย่ากังวลเลยนะคะ”

“แล้วเต็นกับคุณพหล ตกลงกันรึยังว่าจะแต่งเมื่อไหร่”

“ก็คง เร็วๆนี้แหละค่ะ”

“งั้นพี่ก็ขออวยพรเต็นล่วงหน้าก็แล้วกัน พี่ขอให้เต็นมีความสุขกับชีวิตแต่งงานนะ”

“ขอบคุณมากนะคะพี่นุ พี่นุไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเสียฤกษ์”

ภานุเหลือบตามองนาฬิกาที่ข้อมือของตนเองนิดหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาว

“งั้นเต็นรออยู่ตรงนี้นะ พี่จะเข้าไปตามคนข้างในให้ไปส่งเต็นในเมือง”

วรดาพยักหน้ารับ พยายามจะยิ้มให้ภานุอย่างยากเย็นด้วยรู้ว่านี่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่หล่อนจะได้มองหน้าอดีตคนรักอย่างเต็มตา

“เต็น...พี่”

ภานุพูดอะไรไม่ออก เขาอยากบอกลาหญิงสาวแต่ก็เหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆมาจุกอยู่ที่ลำคอ วรดาเสียอีกที่ดูจะยังเหลือความกล้าหาญมากพอที่จะเป็นผู้เอ่ยประโยคนั้น

“ลาก่อนค่ะพี่นุ”

“ลาก่อน...เต็น”

ภานุรวบรวมความเข้มแข็งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจหันหลังให้หญิงสาว วรดามองตามแผ่นหลังของภานุที่ค่อยๆเคลื่อนหายไปกับความมืด ความรู้สึกของหญิงสาวในเวลานั้นเสมือนหนึ่งหัวใจกำลังจะหยุดเต้นแขนและขาอ่อนแรงไปชั่วขณะน้ำตาร้อนๆไหลรินกลบตา

++++++++++++++++++++++++++++++

“คุณอิศนะ”

ภานุชะงักหยุดเดินเกือบจะทันทีเพราะร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกรอคอยอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของเขาเจือนลงเล็กน้อยขณะสบตากับอิศนะ ดวงตาคู่นั้นคมปลาบจ้องมองมายังภานุเงียบๆ

“ข้างในนั่น เขาตามหาตัวคุณเสียให้ทั่ว คุณหายไปไหนมาคุณภานุ”

“ผมไปทำธุระแถวๆหน้าป้อมยาม”

“ธุระหรือ...”

ทั้งน้ำเสียง ทั้งท่าทาง ทั้งสายตาคมคู่นั้นมันส่อแววเจ้าเล่ห์รู้ทันเสียจนภานุนึกหวั่นใจ ภานุไม่รู้จริงๆว่าอิศนะมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่และเขาได้รู้เห็นถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาอะไร อิศนะเองนั่นล่ะ ที่เป็นผู้เฉลยข้อข้องใจต่างๆเหล่านั้น

“ธุระมีคนมาหา เป็นผู้หญิงเสียด้วย”

“นี่คุณ แอบดูเราสองคนอย่างนั้นหรือ”

ภานุถามออกไปตรงๆใบหน้าของชายหนุ่มร้อนวูบขึ้นมาทันที

“ทำไมต้องแอบ คุณลืมไปแล้วหรือว่าที่นี่มันเป็นบ้านของผม ว่าแต่คุณเถอะคุณภานุ คุณปล่อยให้ผู้หญิงของคุณเข้ามายุ่มย่ามในนี้ได้ยังไง ถ้าเกิดแม่นั่นฟิวส์ขาด บุกเข้าไปอาละวาดยายอิงกลางงานขึ้นมาล่ะ คุณจะว่ายังไง”

“คนอย่างวรดา ไม่มีวันทำแบบนั้น”

“ชื่อวรดา…”

“ครับ เธอชื่อวรดา เธอเคยเป็นอดีตคนรักของผม แต่เราสองคนยุติความสัมพันธ์แบบคู่รักมานานแล้ว”

“ถ้าคุณสองคนจบกันไปจริงๆแล้วแม่คู่รักเก่าของคุณมาที่นี่ทำไม มาทั้งๆที่คุณกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับคนอื่นเสียด้วย ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยเถอะ”

“เธอก็แค่แวะมาอวยพรให้ผมกับคุณอิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น”

ภานุผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เพิ่งจะแน่ใจก็ตอนนี้เองว่าอิศนะคงเห็นแค่ภาพของเขากับวรดาในระยะห่างไกลเท่านั้น หากอิศนะได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับวรดาด้วย อิศนะคงไม่ถามเขาด้วยประโยคคำถามเหล่านี้

“ถ้างั้นทำไมไม่เข้าไปอวยพรกันในงาน มาแอบซุ่มทำลับๆล่อๆอยู่แถวนี้ทำไม”

“วรดาไม่อยากทำให้คุณอิงไม่สบายใจ เหตุผลมันก็มีอยู่แค่นั้น”

“หึ! ใครเชื่อก็บ้าแล้ว”

“ก็แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ ผมคงไปบังคับอะไรคุณไม่ได้ ผมเห็นจะต้องขอตัว”

“เดี๋ยว!”

อิศนะยังไม่ยอมปล่อยให้ภานุจากไปโดยง่ายเขาก้าวเข้าไปขวางทางภานุพร้อมๆกับยิงคำถาม

“แล้วแม่น้ำพริกถ้วยเก่าของคุณ หล่อนกลับไปรึยัง”

“เธอกำลังจะกลับครับ ผมกำลังจะเข้าไปตามคนงานให้ขับรถไปส่งเธอที่ในเมือง”

“มาเองยังมาได้ ขากลับ คุณก็ให้หล่อนหาทางกลับเองสิ”

“วรดาเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ที่นี่ เธอไม่รู้จักใครเลยนอกจากผม”

“แล้วไง มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคนงานของผมที่จะต้องมาทำหน้าที่รับส่งแม่อดีตรักตกกระป๋องของคุณเลยนี่”

ภานุขบกรามแน่นพยายามระงับความโกรธกริ้วที่กำลังกระพือขึ้นอย่างสุดกำลัง

“ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริงๆ ว่าคุณจะเป็นคนแล้งน้ำใจขนาดนี้ เอาเถอะ คุณจะใจจืดใจดำกับเธอก็ทำไป แต่สำหรับผมแล้ว ผมคงจะทำแบบเดียวกับที่คุณทำไม่ได้แน่ๆ ถ้าหากคืนนี้ไม่มีใครสามารถไปส่งวรดาได้จริงๆละก็ ผมนี่ล่ะจะเป็นคนขับรถไปส่งเธอที่ในเมืองเอง”

เพราะอารมณ์โมโหแท้ๆที่ทำให้ภานุตอบกลับไปเช่นนั้นและผลที่ได้คือคอเสื้อของชายหนุ่มถูกมือหนาของอิศนะกระชากแรงไปจนชิดร่างสูง สองหนุ่มยืนประสานสายตากันนิ่งแววดุดันและถือดีนั้นไม่มีใครยิ่งหย่อนไปกว่าใคร

“ผมไม่คิดจะสู้คุณหรอกนะคุณอิศนะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณนึกอยากจะทำร้ายผมเมื่อไหร่ก็ทำได้ ความอดทนของผมมันมีขีดจำกัดเหมือนกัน”

“ผมก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณหรอกภานุ ก็แค่อยากจะเตือนสติคุณเท่านั้น คุณคงไม่ลืมว่าคุณแต่งงานกับยายอิงไปแล้ว ตอนนี้ผู้หญิงที่คุณควรจะต้องรักต้องแคร์มากที่สุดคือน้องสาวคนเดียวของผมเท่านั้น”

“ข้อนั้นผมไม่ลืมหรอกครับ ยังไงคุณอิงก็สำคัญที่สุดอยู่แล้ว แต่คุณจะให้ผมวางเฉย ไม่ดูดำดูดีวรดาเลย ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกัน”

“ก็ได้ ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น”

อิศนะไหวไหล่ ยินยอมปล่อยมือจากคอเสื้อของภานุอย่างเสียไม่ได้

“ไม่ต้องไปรบกวนคนงานคนไหนของผมหรอก แม่นางเอกตกกระป๋องของคุณนั่น ผมจะเป็นธุระให้เอง”

ภานุมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ เป็นไปได้หรือที่คนอย่างอิศนะจะยอมเสนอตัวเพื่อช่วยเหลือเขา

“ไม่ต้องมามองผมแบบนั้น ที่จริงผมไม่ได้คิดอยากจะช่วยเหลืออะไรคุณหรอกภานุ แต่ที่ผมยอมเป็นธุระจะจัดการเรื่องนี้ให้ ผมทำเพื่อยายอิงทั้งนั้น ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่น”

“ไม่ว่าคุณจะทำไปเพราะเหตุผลอะไร ผมก็ต้องขอบคุณ ฝากวรดาด้วยคุณอิศนะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอก รับรอง จะดูแลให้อย่างดีเชียว”

+++++++++++++++++++++++++++

ร่างระหงที่ยืนกอดอกหันหลังอยู่นั้นแลดูคุ้นตาอย่างประหลาด อิศนะรู้สึกทึ่งภานุอยู่ในใจไม่น้อย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าเจ้าหน้าขรึมนั่นมันจะมีรสนิยมในการเลือกคบหาผู้หญิงดีอยู่เหมือนกัน

อดีตคู่ควงของภานุเป็นผู้หญิงที่ดูดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากทีเดียว เรือนร่างของเจ้าหล่อนบอบบางผมยาวสลวยจรดกลางหลัง หล่อนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาชายเสื้อถูกยัดเอาไว้ในกางเกงยีนส์สีซีดๆ มีเข็มขัดหนังอันเล็กคาดทับที่เอวกิ่วบางเท่าฝ่ามือ ที่ไหล่ข้างซ้ายมีกระเป๋าหนังใบเล็กๆคล้องอยู่เพียงใบเดียว

มองจากด้านหลัง...หล่อนยังน่าดูปานนี้.. ชักอยากจะเห็นหน้าแม่คนตัวเล็กๆนี่เร็วๆเสียแล้วสิ..

อิศนะบอกตัวเองขณะสาวเท้าให้เร็วขึ้น คงเป็นเพราะเสียงฝีเท้าของเขานี่เองที่ทำให้อีกฝ่ายหันขวับมาทางเขา แล้วต่างคนก็ต่างชะงัก

“เอ๊ะ คุณ…”

“อ้าว คุณเองหรอกหรือ"

อิศนะบอกความรู้สึกของตนเองไม่ถูกเหมือนกัน มันก่ำกึ่งอยู่ระหว่างสองความรู้สึก ทั้งความรู้สึกยินดีและความรู้สึกผิดหวังเสียดาย

ใช่! เสียดาย...

ที่แท้..อดีตรักของนายภานุก็คือผู้หญิงคนที่เขาแอบให้ความสนใจ

ให้ตาย! อิศนะไม่คิดว่าโลกมันจะกลมได้ถึงขนาดนี้

“คุณวรดาใช่มั้ยครับ”

“ใช่ค่ะ ทำไมคุณถึงรู้จักชื่อฉัน”

วรดาย่นคิ้วดวงตาคู่โตมองอิศนะอย่างสงสัย ชายหนุ่มยิ้มนิดๆสีหน้าและแววตาดูเป็นปกติได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“เมื่อกี้ นายภานุเขาเพิ่งจะมาไหว้วานผมให้ขับรถไปส่งคุณในเมือง”

“คุณเป็นเพื่อนพี่นุหรือคะ”

“ก็...ครับ เชิญครับ รถผมจอดอยู่ทางโน้น”

อิศนะกดสัญญาณเปิดล็อคประตูเมื่อเดินมาถึงโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำคันงาม เขาเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งบนรถจากนั้นจึงเดินอ้อมไปประจำตำแหน่งคนขับ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากไร่เทพปกรณ์แล่นตรงไปตามเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย

“คุณคนขับ เพื่อนของคุณ วันนี้ไม่มาด้วยหรือคะ”

วรดาเป็นฝ่ายชวนคุยเมื่อรถเริ่มเคลื่อนออกมาจากบริเวณไร่เทพปกรณ์ได้ไม่นาน

“คุณคงจะหมายถึงชุมพล คนที่เคยไปส่งคุณที่โรงแรมพร้อมผมวันนั้น”

“ค่ะ”

“เขาก็อยู่ในงานนั่นล่ะครับ”

อิศนะบอกยิ้มๆก่อนจะทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้เดี๋ยวนั้น

“จริงสิ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองกับคุณอย่างเป็นทางการเลย พบกันคราวที่แล้วต่างคนก็ต่างรีบ ผมอิศนะครับ”

“ค่ะ คุณอิศนะ ฉันจำชื่อคุณได้”

อิศนะหันมามองหน้าหญิงสาว คิ้วเข้มๆของเขาเลิกขึ้นสูงเหมือนกับจะตั้งคำถาม

“ก็ชื่อที่ใช้จองห้องพักที่โรงแรมไงคะ ฉันเข้าไปขอเช็คอินท์ที่โรงแรม แค่บอกชื่อของคุณเท่านั้น ทางโรงแรมก็บริการฉันเป็นอย่างดี ต้องขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับเรื่องที่พัก แล้วก็...ที่คุณกำลังจะไปส่งฉัน”

“ยินดีครับ ว่าแต่ ทำไมคุณไม่เข้าไปในงาน”

วรดานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ

“ฉันคิดว่า มันคงไม่เหมาะ”

“ก็ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ไม่เห็นมีอะไรจะต้องกลัวเลยนี่ครับ”

วรดาหันไปมองครึ่งเสี้ยวหน้าของคนขับอย่างแคลงใจ ไม่รู้ว่าหญิงสาวคิดมากเกินไปหรือเปล่าที่รู้สึกว่าน้ำเสียงที่เขาเอ่ยออกมานั้นฟังดูยอกย้อนถากถากอย่างไรพิกล ครั้นเมื่อเห็นอิศนะหันมายิ้มกว้างให้อย่างจริงใจหญิงสาวก็สรุปกับตัวเองว่าหล่อนคงจะคิดมากเกินไปจริงๆนั่นแหละ

“ไร่เทพปกรณ์นี่เขาปลูกอะไรบ้างคะ”

วรดาหาทางออกให้กับตนเองด้วยการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสียเฉยๆ

“หลักๆก็ส้มครับ ปลูกเอาไว้หลายพันธุ์เหมือนกัน ทั้งสายน้ำผึ้ง ทั้งฟรีมองต์ โอเชี่ยนฮันนี่ก็มีนะครับ ที่คุณเห็นตามข้างทางนั่นก็ต้นส้มทั้งนั้น เพิ่งจะลงใหม่ๆเป็นส้มพันธุ์ไร้เมล็ด คุณไม่ใช่คนที่นี่อาจจะไม่เคยรู้ว่าไร่เทพปกรณ์เป็นไร่ส้มที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆของเมืองเชียงรายเลยทีเดียว น่าเสียดาย ถ้าคุณมาตอนกลางวัน คุณจะได้เห็นอะไรสวยๆงามๆมากกว่านี้ ตอนที่ส้มมันสุกพร้อมๆกัน คุณจะมองเห็นภูเขาทั้งลูกกลายเป็นสีเหลืองทอง สวยมากเชียวล่ะ”

หญิงสาวมองกวาดไปยังนอกหน้าต่างรถ บรรยากาศโดยรอบมืดสนิท ไฟจากหน้ารถส่องสว่างให้เห็นเพียงเงามืดของต้นไม้ที่เรียงรายไปจรดเขตภูเขาสูงทะมึนตรงหน้าจนจินตนาการตามภาพที่เขาเพิ่งจะพูดถึงเมื่อครู่ไม่ถูก

“ท่าทางคุณจะสนิทสนมคุ้นเคยกับคนที่ไร่นี้ดีนะคะ”

“งั้นมั้งครับ เพราะถ้านับเฉพาะพวกที่อยู่ประจำ ไม่นับพวกคนงานที่ผลัดเปลี่ยนหน้ากันอยู่บ่อยๆ ผมว่าผมน่าจะรู้จักเกือบทุกคนนั่นแหละ ผมอยู่ที่นี่มานานครับ อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่”

“เหรอคะ”

วรดามองหน้าคนขับอย่างทึ่งๆ อดคิดเปรียบเทียบบุคลิกลักษณะของผู้ชายสองคนอยู่ในใจไม่ได้ ภานุเป็นคนใจเย็นเคร่งขรึม อีกทั้งยังเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเอามากๆ อาจจะเป็นเพราะภานุมีปมเรื่องฐานะและชาติกำเนิดอันต่ำต้อย ตรงกันข้ามกับผู้ชายที่ชื่ออิศนะคนนี้ วรดามองว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่พกพาเอาความมั่นใจในตัวเองมาเกินร้อย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเอา”ความมั่น”มากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหน

“คุณเป็นเพื่อนกับพี่นุมานานแล้วหรือคะ”

“ก็ไม่นานเท่าไหร่ ที่จริงผมรู้จักกับภานุเพราะเราทำงานด้วยกัน”

“อย่าบอกนะคะว่าคุณก็เป็นวิศวกรเหมือนพี่นุ”

“ไม่ใช่หรอกครับ ผมมันพวกถนัดใช้แรงงาน เผอิญว่าผมใช้สมองไม่ค่อยจะเก่ง วันๆผมก็อยู่แต่กับพวกคนงาน ดูโน่นนี่นั่นไปตามเรื่อง ไม่ได้นั่งออฟฟิศเหมือนภานุเขาหรอก”

นายอิศนะคนนี้ น่ากลัวจะเป็นหัวหน้าคนงานที่ไร่เทพปกรณ์เสียละมั้ง วรดาคาดเดาไปทางนั้นแม้จะรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่หัวหน้าคนงานของไร่เทพปกรณ์คนนี้ท่าทางเขาดูดีเกินตำแหน่งไปมากทีเดียว การสนทนาของสองหนุ่มสาวสิ้นสุดลงเท่านั้นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของอิศนะที่หวีดดังขึ้น

“ขอรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ”

อิศนะหันมากล่าวกับหญิงสาว วรดาพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้เขานิดหนึ่งก่อนจะเบนสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างรถตลอดเวลาที่ชายหนุ่มพูดคุยโทรศัพท์เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

“จะไปได้ไง คืนนี้ที่ไร่มีงาน คุณก็รู้นี่ ไว้วันหลังละกัน”

แม้จะไม่ได้ตั้งใจฟังวรดาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงออดอ้อนชายหนุ่มมาตามสาย

“ก็เหงานี่คะ มาสักเดี๋ยวไม่ได้หรือ”

“ผมไม่ว่าง แค่นี้นะ ผมขับรถอยู่”

พอกล่าวประโยคนั้นจบอิศนะก็ตัดสาย เลยไปถึงปิดเครื่องหนีสาวเสียงหวานรายนั้นเอาดื้อๆราวกับไม่สนใจใยดี วรดาลอบถอนใจ

หล่อนเชื่อแล้ว...

นายอิศนะคนนี้...เขาไม่ธรรมดาจริงๆ..

+++++++++++++++++++++



โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ย. 2560, 11:58:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ย. 2560, 12:02:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 991





<< ตอนที่ 2.   ตอนที่ 4. >>
Kim 22 ก.ย. 2560, 12:47:51 น.
นายอิศไม่น่าไว้วางใจนะหนูเต็น


ปิ่นนลิน 24 ก.ย. 2560, 02:00:50 น.
คิดถึงพี่อิศจังเลยยยย
คิดถึงคุณโอชินด้วยค่าา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account