อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

เอี๊ยด!
เสียงหยุดรถอย่างเร็วดังมาจากรถสปอร์ตสีแดงสุดหรูที่จอดนิ่งสนิทที่หน้ามุข ของบ้าน ร่างเพรียวบางในชุดเดรสสั้นสีแดงคล้องคอก้าวออกมาพร้อมกระเป๋าแบรนด์ดัง หญิงสาวผมซอยสั้นตามสมัยนิยมถอดแว่นกันแดดอันโตออกจากใบหน้าที่ตกแต่งด้วย สีสันฉูดฉาด ก่อนจะส่งกระเป๋าถือให้สาวใช้ร่างอ้วนที่วิ่งเข้ามารับกระเป๋าจากเธอ

“เดี๋ยวเอาของลงจากรถด้วยล่ะ ระวังหน่อยแล้วกันของของฉันมันแพง เงินเดือนพวกแกทั้งชีวิตยังไม่พอชดใช้เลย เข้าใจไหม”ร่างเพรียวสั่งด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ ก่อนจะปรายตามองสาวใช้ทั้งหลายราวกับว่าเป็นทาสของเธอ

“ค่ะ คุณตะวัน”สาวใช้ร่างบางอีกคนที่เดินออกมาพร้อมกันรับคำเบาๆก่อนจะเปิดประตูรถหยิบถุงทั้งหมดออกมาแล้วเดินตามเจ้านายสาวเข้าไป

ตะวันฉาย รัชดารักษ์ หรือ คุณตะวัน ลูกสาวคนโตของบ้านรัชดารักษ์ หญิงสาวที่เฉิดฉายอยู่ในสังคมไฮโซ เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย ยิ้มหวานส่งให้มารดาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะนั่งลงบนที่เท้าแขนแล้วกอดมารดาเอาไว้พร้อมกับหอมแก้มซ้าย-ขวา

“เป็นไงบ้างลูก ไปช๊อปอะไรมาบ้างล่ะเรา หายไปทั้งวันเลย”คุณมินตรา รัชดารักษ์ ลูบหัวลูกสาวคนโตของหล่อนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างฉงนเมื่อเห็นร่างบางเบ้ปาก

“ร้อนมากเลยค่ะแม่ ตะวันเบื่อมากเลย ตอนแรกๆก็ดีนะคะ แต่พอเที่ยงก็ร้อนมาก ขนาดอยู่ในห้างนะเนี่ย ตะวันเลยหมดอารมณ์ เลิกซื้อแล้วกลับมาเลยน่ะค่ะ”ตะวันฉายบอกพร้อมกับจิบน้ำส้มคั้นที่ แวว สาวใช้เจ้าเนื้อขี้ประจบเอามาให้ คุณมินตรามองลูกสาวอย่างรู้ทัน จึงแกล้งเอ่ยแซว

“บ่นๆอย่างนี้ ได้มากี่ถุงล่ะเรา”

“แหม แม่ล่ะก็รู้ทันตะวันเรื่อยเลย ก็เกือบสิบถุงเห็นจะได้ค่ะ”ร่างบางหัวเราะคิกคัก ก่อนจะจิ้มสาคูไส้หมูเบื้องหน้าเข้าปากอย่างอร่อย จากที่จะกินนิดเดียวเพราะกลัวอ้วนแต่เพราะความอร่อยทำให้เธอกินไปเกือบหมด คุณมินตรามองลูกสาวที่กำลังทานอย่างไม่ยอมวางส้อม จนต้องเอ่ยปราม

“เดี๋ยวก็กินข้าวเย็นไม่ได้หรอกลูก ตะวัน”

“นิดเดียวเองค่ะแม่ ว่าแต่เจ้าไหนค่ะเนี่ยอร่อยจังเลย”คุณมินตราชะงักนิดนึงเมื่ออีกฝ่ายถามถึง คนที่ทำสาคูไส้หมูนี้ หากตะวันฉายรู้ว่าใครเป็นคนทำคงอาละวาดจนบ้านพังแน่ ในขณะที่กำลังคิดหาคำตอบอยู่นั้น แววก็รีบเอาหน้าตอบไปในทันที

“คุณบุษค่ะ คุณตะวัน”ตะวันฉายชะงักมือที่ถือส้อมและกำลังจะเอาสาคูเข้าปาก ร่างบางทิ้งส้อมก่อนจะหันมาตะคอกใส่สาวใช้คนสนิทด้วยดวงตาวาวโรจน์

“อะไรนะ นังแวว! แกบอกฉันอีกทีสิว่าใครเป็นคนทำสาคูนี่!”

“คุ คุณบุษบาค่ะ”แววตอบด้วยน้ำเสียงหวาดๆเนื่องจากตอนนี้เจ้านายสาวกำลังโกรธมาก คุณมินตราดุสาวใช้ร่างอ้วนทันที

“แวว! มีอะไรจะทำก็ไปทำซะ ถ้าฉันไม่เรียกไม่ต้องมา”

เพล้ง!
เสียงจานแตกดังขึ้นขัดบทสนทนา ทำให้คุณมินตราต้องรีบหันมาหาบุตรสาวทันที และก็ได้เห็นจานใบเล็กที่เคยใส่สาคูไส้หมูลงไปกองกับพื้นแตกเป็นเสี่ยง ตะวันฉายสีหน้าเรียบเฉย ใต้รองเท้าส้นสูงคู่สวยคือสาคูไส้หมูที่เธอเคยชอบร่างบางออกคำสั่งกับสาวใช้ จอมจุ้นที่ค่อยๆก้าวเข้ามาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเรียก

“แวว! เอา ‘ขยะ’นี่ไปทิ้ง แล้วก็เอารองเท้าคู่นี่ไปทิ้งด้วย แล้วก็ต่อไปนี้อย่าให้ฉันเห็นสาคูไส้หมูในบ้านหลังนี้อีก จำไว้ ถ้าฉันเห็นใครกินสาคูไส้หมูล่ะก็ฉันจะไล่ออก”สั่งเสร็จแล้วร่างบางก็นั่งลง ที่เดิม ปล่อยให้สาวใช้ทำงานของตนไป คุณมินตรามองการกระทำของลูกสาวคนโตที่เป็นใหญ่ในบ้านอย่างระอาก่อนเอ่ยเตือน

“ตะวัน ลูกไม่ควรทำอย่างนี้ ยังไงซะน้าบุษเขาก็เป็นเมียอีกคนของคุณพ่อนะ ควรให้เกียรติเขาบ้าง”

“ให้เกียรติเหรอคะแม่! นังนั่นมันมีเกียรติด้วยเหรอค่ะ ถ้ามันมีมันคงไม่มาเป็นเมียน้อยคนอื่นเขาอย่างนี้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นแม่อย่าให้ตะวันไปนับญาติกับมันเลยค่ะ ตะวันจะอ้วก”ตะวันฉายพูดออกมาอย่างโกรธแค้น ดวงตาวาวโรจน์ราวกับนางเสือยามเมื่อพูดถึงบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาอีกคน ของบิดา และเป็นคนที่เธอเกลียดเป็นอันดับสองในบ้านหลังนี้ คุณมินตราฟังลูกสาวพูดอย่างอ่อนใจ ก่อนจะพยายามเตือนสติด้วยรู้นิสัยของตะวันฉายดี

“แต่ยังไงแม่ก็ยอมรับเขา แล้วน้าบุษเองก็ไม่ได้นิสัยไม่ดี ออกจะเรียบร้อย อีกอย่างนะลูกน้าบุษก็มีลูกกับคุณพ่อด้วย ดาวเหนือก็เป็นน้องของลูกนะจ๊ะ อย่างน้อยถ้าหนูไม่ชอบน้าบุษก็เอ็นดูน้องก็ยังดี”สาวใหญ่พยามยามตะล่อมลูก สาวให้ใจเย็น แต่ชื่อของบุคคลที่หลุดออกมาจากปากของเธอกลับเป็นตัวกระตุ้นความโกรธชั้นดี ให้หญิงสาวเบื้องหน้า ตะวันฉายกรีดร้องอย่างโมโห เมื่อมารดาหลุดปากพูดชื่อของคนที่เธอเกลียดที่สุดในโลกออกมา

“กรี๊ด! หยุดนะคะ อย่าพูดชื่อมัน แม่อย่าพูดชื่อนังดาวเหนือให้ตะวันได้ยินนะ ตะวันเกลียดมัน! เกลียดมัน!”ร่างบางโวยวายใส่มารดาก่อนจะวิ่งออกจากห้องนั่งเล่นไป ทิ้งให้คุณมินตรานั่งนิ่งอย่างตะลึงกับท่าทางของลูกสาว

“ยายตะวันลูก นั่นหนูจะไปไหน”เมื่อได้สติคุณมินตราก็รีบวิ่งตามลูกสาวไปอย่างร้อนรน เมื่อเห็นอีกฝ่ายวิ่งกลับขึ้นไปด้านบนของบ้าน แต่อีกฝ่ายก็ไม่หันกลับมาตอบได้แต่ปิดประตูใส่หน้าเธอแทน พร้อมกับตะโกนออกมาจากในห้อง

“แม่ไม่ต้องมาเรียกตะวัน จนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็นนะคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้นคุณมินตราก็ทำอะไรไม่ได้ ร่างบางจึงเดินห่างออกจากห้องของลูกสาวหวังจะกลับข้างล่าง แต่เสียงทรงอำนาจที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้เธอต้องหันไปมอง

“มีอะไรกันน่ะแม่มิน เสียงโวยวายของใครถึงได้ดังอย่างไร้มารยาทอย่างนี้”คุณหญิงผกามาศ รัชดารักษ์ ประมุขของบ้านเดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว ที่อยู่ถัดไปสองห้อง ดวงตาที่ดูเข้มงวดกวาดตามองสะใภ้ที่เธอเลือกเองกับมืออย่างตำหนิ คุณมินตราถอนหายใจเล็กน้อยก่อนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ภายหลังจากที่ได้ฟังแล้วคุณหญิงผกามาศจึงได้แต่อยู่ในอาการเดียวกันกับลูก สะใภ้

“เฮ้อ! ยายตะวันก็ดื้อเกิน อันที่จริงแม่บุษก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นา”

“ค่ะ คุณแม่ บุษเขาอยู่แต่ที่บ้านของเขา มีบ้างที่จะเอาขนมหรืออาหารที่ทำมาให้ ไม่เข้ามาที่นี่เท่าไหร่หรอกค่ะ นอกจากมินจะไปชวนมานั่งคุยด้วย กับบุษเองมินว่ายายตะวันคงไม่เท่าไหร่ แค่ไม่ชอบหน้า แต่กับ... เฮ้อ! ยายตะวันเกลียดเลยล่ะคะ”คุณมินตราบอกเล่าสิ่งที่รู้ให้กับแม่สามีฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหญิงก็รู้ก็เห็นมาตลอดเช่นเดียวกับทุกคนในบ้าน ท่านจึงได้เสริมต่ออย่างหนักใจ

“มันไม่ดีนะแม่มิน เป็นพี่น้องกันมาบาดหมางกันได้ยังไง มันควรสามัคคีกันไว้ นี่ถ้าเกิดฉันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วบริษัทจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย พวกเธอก็แย่จริงจะมีลูกกันอีกสักคนไม่ได้หรือไง”ท้ายประโยคบ่นถึงลูกสะใภ้ ทั้งสองที่ไม่ยอมมีทายาทให้เธออีกสักคน คุณมินตรายิ้มก่อนจะเอ่ยปาก

“คุณแม่ต้องไปคุยกับบุษดู รายนั้นเขามีแค่คนเดียวเอง มินมีตั้งสอง”

“โอ๊ย! แค่คนเดียวก็จริงอยู่ แต่เหมือนสิบคนได้ ยายดาวน่ะล่องๆลอยๆ ทำอะไรตามอารมณ์ บทจะนิ่งก็นิ่ง บทอาละวาดขึ้นมาก็พอๆกับยายตะวัน”คุณหญิงผกามาศค้อนลูกสะใภ้ก่อนบ่นถึงหลาน สาวคนสุดท้องอย่างระอา ก่อนจะนึกขึ้นมาได้

“เพราะเหตุนี้แหละ ยายตะวันถึงได้ไม่ชอบยายดาว เจ้าอารมณ์เหมือนกัน”

“ไม่ใช่หรอกค่ะคุณแม่ เพราะยายดาวไม่ยอมลงให้ตะวันต่างหาก ยายจันทร์ยอมลงให้ เพราะนิสัยอ่อนโยนของเขานี่แหละ ยายตะวันจึงรักยายจันทร์มากกว่า อีกอย่างเพราะแม่เดียวกันด้วยค่ะ”คุณมินตราแก้ไขข้อมูลให้กับแม่สามีที่นั่ง นิ่งไปอย่างยอมรับ ก่อนจะบ่นถึงหลานสาวอีกคนที่นิสัยเหมือนแม่ไม่มีผิด

“ยายจันทร์นะยายจันทร์ถ้าเด็ดขาดกว่านี้ก็ดีสิ ฉันจะได้วางใจได้ นี่ดันอยากเป็นครูอนุบาล แล้วเป็นไง ตอนนี้นั่งโอ๋ลูกชาวบ้านทั้งวัน”

“รายนั้นเขารักเด็กค่ะ แถมยังชอบทำอาหารนี่เห็นไปนัดกับบุษให้สอนทำอาหารฝรั่งให้อยู่น่ะคะ”คุณ มินตรากล่าวบุตรสาวคนรองของเธอกับภรรยาอีกคนของสามีที่เข้ากันดีเพราะชอบทำ อาหารทั้งคู่และเพราะว่าบุษบาเคยเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยนเมื่อก่อนที่จะเข้า มาอยู่บ้านรัชดารักษ์

“นั่นปะไร ทำไมยายจันทร์ถึงเข้ากับแม่บุษได้ ทั้งๆที่ยายตะวันก็เป่าหูอยู่ทุกวัน เฮ้อ!ฉันล่ะกลุ้ม แม่เด็กพวกนี้จะทำให้ฉันตายไวขึ้นทุกวัน”หญิงชรารีบยกพัดลูกไม้ในมือพัดเข้า หาตัวไวๆ ก่อนปิดฉับอย่างรวดเร็วพร้อมกับถามอย่างสงสัย

“จริงสิ! แม่มิน ฉันสังเกตมาตั้งนานแล้วนะ ว่าแม่บุษเนี่ยก็ตามใจยายตะวันไม่น้อย ได้ยินมาว่าวันนี้ทำสาคูไส้หมูให้ด้วยนี่”

“ค่ะ มินเคยถามบุษเขาเหมือนกัน เขาก็บอกแค่ว่าเขาทำผิดกับคุณตะวันเรื่องของคุณพี่ เพราะฉะนั้นหากคุณตะวันจะให้ทำอะไรเขาเต็มใจ จนยายดาวถึงน้อยใจไปทำงานต่างจังหวัดทีละนานๆไงล่ะคะ นี่ก็เห็นบุษบอกว่าไปเข้าป่ากับเพื่อนสองอาทิตย์แล้วค่ะ”คุณมินตราอธิบายให้ แม่สามีฟังก่อนจะสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายร้องเสียงหลงกับข้อมูลที่เธอบอกไป

“คุณพระ! เข้าป่า เป็นผู้หญิงแล้วยังจะไปเข้าป่าอีก โอ๊ย!ตาย ตาย ตาย แม่คนนี้นี่จะทำอะไรเหมือนผู้หญิงเขาหน่อยจะได้ไหม ตอนที่มันบอกจะเข้ามัณฑนศิลป์ฉันก็แทบจะเป็นลมแล้วนะ พวกเพื่อนที่คบกับก็เป็นผู้ชายหมดด้วย ส่วนแม่ผู้หญิงก็ห้าวซะ ฮึ้ย! พอจบนึกว่าจะเรียบร้อยกว่านี้ที่ไหนได้กลับยิ่งแล้วใหญ่ โอ๊ย! ลมจะใส่”คุณหญิงผกามาศโบกพัดไวๆมากขึ้นกว่าเดิม ตามแรงอารมณ์ มืออีกข้างก็คว้ายาดมที่ลูกสะใภ้ใหญ่ส่งให้สูดเข้าไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะถามต่อ

“แล้วนี่ยายดาวเขาไปกับใคร เพื่อนผู้หญิงใช่ไหม”คุณหญิงถามอย่างมีความหวังว่าคำตอบจะออกมาแบบอย่างที่ ท่านอยากฟัง แต่แล้วก็ต้องหมดสติไปเลยเมื่อได้รู้ว่าหลานสาวลมเพลมพัดของท่านไปกับใคร

“ไปกับตาพัด ตาเมือง ตาปั่น ยายตาล แล้วก็ตาดลค่ะ”

“โอ๊ย!ตาย ผู้หญิงสอง นอกนั้นผู้ชายหมด ฉันจะเป็นลม เอิ๊ก!”

“ว้าย! คุณแม่ คุณแม่ค่ะ ใครก็ได้เอายาลมมาที คุณหญิงเป็นลม!”คุณมินตราผวาเข้าไปหาแม่สามีที่เป็นลมพับไปแล้ว ก่อนจะร้องเรียกสาวใช้ให้หายาลมมาให้


“เกิดอะไรขึ้นค่ะ คุณพี่ทำไมคุณท่านถึงเป็นลมล่ะคะ”เสียงหวานหากแต่แหบเล็กน้อยดังขึ้นเบื้อง หลัง ทำให้เธอต้องหันไปดูก่อนจะรีบรับถ้วยยาลมจาก สะใภ้รองของบ้าน คุณบุษบา ที่ถือถ้วยยามาให้เอง ก่อนจะตอบคำถาม

“พี่เล่าให้ฟังว่ายายดาวเข้าป่าไปกับเพื่อน ท่านก็ถามว่าใครบ้าง พี่ก็บอกไปเท่าที่รู้ ท่านก็เป็นลมไปเลย”

“โธ่! คุณท่าน ยายดาวก็เหลือเกิน นี่บุษก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปไหน มารู้เอาวันที่จะไปแล้วนั่นแหละค่ะ แต่เพิ่งมารู้ว่าไปกับใครบ้างก็ตอนที่คุณพี่บอกนี่เองค่ะ”คุณบุษบาบอกอย่าง ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะหมายมาดในใจว่ากลับมาคราวนี้คงต้องปราบแม่ลูกสาวตัวดีนี่หน่อยแล้ว คุณมินตรามองท่าทางของภรรยารองของสามีก็ส่ายหัวก่อนเอ่ยปราม

“อย่าเลยบุษ เลิกคิดในสิ่งที่จะทำเลย การต่อว่าหรือลงโทษน่ะ มันไม่ช่วยอะไรแล้ว ยายดาวโตแล้ว หมดวัยที่จะมาลงโทษกันแล้ว เหมือนกับยายตะวันนั่นแหละ”ว่าแล้วก็ถอนหายใจเมื่อนึกถึงลูกของเธอ ตะวันฉายถูกตามใจจนเคยตัว ยิ่งเจ้าตัวรับรู้เหตุการณ์รักสามเศร้าที่เกิดขึ้นบ้านหลังนี้ด้วยแล้ว ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องพากันตามใจหนักกว่าเดิมเพราะกลัวว่าเด็กสาวจะกลาย เป็นเด็กมีปัญหา แต่มันกลับกลายเป็นว่าตะวันฉายอยากได้อะไรก็ต้องได้โดยลืมนึกถึงความถูกต้อง และความลำบากใจของคนอื่นๆ และเมื่อโตขึ้นนิสัยนั้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้นยิ่งขึ้นรวมทั้งอารมณ์ที่รุนแรงยาม โดนขัดใจด้วย

“แต่ว่ายายดาวจะไปไหนมาไหน ไม่ยอมบอกบุษเลย”คุณบุษบาค้านเสียงอ่อย ก่อนจะก้มหน้านิ่งเมื่อโดนคุณมินตรามองอย่างดุๆ

“ฟังนะบุษเพราะเธอมัวแต่ตามใจยายตะวันไง ยายดาวเลยน้อยใจ ตอนนี้มันยังไม่สายแก้ตัวใหม่ซะ เอาใจใส่ยายดาวก่อนยายตะวัน เข้าใจไหม แล้วก็เรื่องคราวนี้น่ะ ยายดาวบอกพี่แล้วว่าเขาจะไปกับใคร ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ขอเบอร์ตาพัดไว้แล้วด้วย”คุณมินตราบอกให้อีกฝ่ายคลายกังวล ก่อนหันไปพัดวีแม่สามีโดยมีคุณบุษบาคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ


“กลับมาแล้วค่า คุณแม่ คุณย่า”เสียงหวานของหญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง ใบหน้ารูปหัวใจล้อมไปด้วยกลุ่มผมสีดำยาวสลวยจนถึงกลางหลัง ที่คาดสีชมพูหวานคาดทับเส้นผม ดวงตากลมโตเจือแววหวานซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตาไร้กรอบ ริมฝีปากสีชมพูแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพู แขนตุ๊กตา กับกระโปรงผ้าสีขาวยาวกรอมเท้าวิ่งเข้ามาภายในบ้าน พร้อมกับวิ่งตรงเข้ามาหาบุคคลที่เธอพูดถึงทั้งสองที่นั่งรับประทานของ ว่างอยู่ที่ห้องอาหาร ซึ่งเมื่อเห็นเธอก็ยิ้มทักทาย หญิงสาวรีบยกมือไหว้คุณบุษบาที่นั่งอยู่ด้วยก่อนจะหย่อนตัวนั่งข้างๆกัน

“ไม่นึกว่าน้าบุษจะอยู่ด้วย จันทร์ขอโทษนะค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณจันทร์ น้ามาช่วยดูแลคุณท่านน่ะค่ะ”คุณบุษบาบอกกับหญิงสาวแสนเรียบร้อยข้างๆที่ตอน นี้มีสีหน้าตกใจ ก่อนจะหันไปหาคุณหญิงผกามาศแล้วไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณย่าเป็นอะไรไปค่ะ!”

“ไม่มีอะไรหรอกยายจันทร์ แม่บุษก็พูดซะหลานตกใจหมด”คุณหญิงผกามาศบอกกับหลานสาวคนรองที่ตอนนี้ลงมา นั่งเกาะแขนท่านอยู่กับพื้น ท้ายประโยคตำหนิสะใภ้รองอย่างไม่จริงจังซึ่งอีกฝ่ายเองก็รู้ดี จึงได้แต่ยิ้ม คุณมินตราหัวเราะกับท่าทางนั้นก่อนจะช่วยแม่สามีให้หลุดพ้นจากหญิงสาวเจ้าคำ ถาม

“คุณย่าไม่ได้เป็นอะไรจริงๆลูก ท่านแค่เป็นลมเพราะตกใจที่รู้ว่ายายดาวเข้าป่าไปกับเพื่อนผู้ชายอีกโขลงใหญ่”

พรายจันทร์เบิกตากว้าง ก่อนหัวเราะคิกคักกับท่าทางค้อนราวกับสาวๆของผู้เป็นย่าที่ส่งไปให้แม่ของ เธอ ร่างบางรีบเข้าไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับน้องสาวต่างแม่ทันที

“จริงเหรอค่ะเนี่ย คราวนี้เข้าป่า ว้าว! ยายดาวต้องถ่ายรูปสวยๆมาให้จันทร์อีกแน่เลยค่ะ จันทร์ชอบมาก ยายดาวถ่ายภาพสวย”ประโยคหลังหญิงสาวหันไปพูดกับมารดาของอีกฝ่ายที่ส่งยิ้ม ขอบคุณมาให้ ก่อนที่ทั้งสี่จะคุยกันไปเรื่อยๆโดยมีสายตาไม่เป็นมิตรมองมายังคุณบุษบาจาก ด้านบนของบ้าน

ตะวันฉายมองทุกคนด้านล่างกำลังสนทนากันอย่างมีความสุข เสียงของน้องสาวสุดที่รักที่ดังขึ้นไปจนถึงบนห้อง ทำให้เธอที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารดับโมโหนั้นต้องรีบออกมาดู ร่างบางกะจะลงมาร่วมวงสนทนาด้วยแต่เมื่อถึงกลางทาง ดวงตาคู่สวยก็เปล่งประกายความโกรธออกมาเมื่อเห็นว่านอกจากมารดา ย่า และน้องสาวของเธอแล้วยังมีใครอีกคนที่เธอไม่มีวันจะญาติดีด้วยไม่ว่าอีกฝ่าย จะตามใจเธอสักเท่าไหร่นั่งร่วมอยู่ด้วย หญิงสาวกำราวบันได้แน่นจนเห็นเส้นเลือด ดวงตาจ้องมองร่างผอมบางของภรรยาคนที่สองของบิดาอย่างเกลียดชัง และเพิ่มระดับขึ้นไปอีกเมื่อพรายจันทร์พูดถึงคู่ปรับตลอดกาลของเธอ ก่อนจะสะบัดหน้ากลับไปยังห้องของตนเอง


“อารมณ์ดีจังนะ ยายจันทร์ ไอ้ที่พี่พร่ำบอกเราตั้งแต่เด็กว่ายายหน้าด้านนั่นมันทำให้ครอบครัวเราร้าว ฉานน่ะ เธอไม่ฟังเลยใช่ไหม”เสียงห้วนบอกได้ถึงอารมณ์ของพี่สาวดังขึ้น ด้านหลัง พร้อมกับเสียงปิดประตูที่ไม่เบานัก ทำให้เจ้าของต้องส่ายหน้าเบาๆก่อนเอ่ยโต้

“จันทร์ไม่เห็นว่าน้าบุษเขาจะทำให้บ้านเราไม่มีความสุขตรงไหนเลย พี่ตะวันคิดมากไปเอง”

“เฮอะ! นับตั้งแต่วันที่คิดมาเป็นเมียน้อยพ่อเราแล้ว แม่ต้องเสียใจ ถึงแม่จะไม่พูดก็เถอะ แต่ฉันรู้ว่าแม่เสียใจ เหมือนที่แกเสียใจที่นายพัดยศรักนังดาวตก”ตะวันฉายหย่อนตัวนั่งลงบนเตียงของ อีกฝ่าย ก่อนจะพูดแทงใจดำอีกฝ่ายซึ่งผุดลุดหน้าซีด ตาแดงก่ำ พรายจันทร์มองพี่สาวอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะพูดเรื่องนี้ออกมา มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเธอ

“พี่ตะวันพูดขึ้นมาทำไม มันไม่ดี ตอนนี้พี่พัดเขาเป็นแฟนของยายดาว”

“เขาควรจะเป็นแฟนแกต่างหาก แกมาก่อนนังนั่น นังดาวตกนั่นมันมาแย่งคนของแกไป”ตะวันฉายเถียงน้องสาวทันที เพราะในความคิดของเธอคิดอยู่เสมอว่าดาวเหนือใช่มารยาแย่งพัดยศไปจากพราย จันทร์ พรายจันทร์ทรุดตัวลงนั่ง ส่ายหัวอย่างเศร้าก่อนบอกกับพี่สาว

“ไม่ใช่ค่ะ พี่ตะวัน พี่พัดเขารักดาวมานานแล้ว ดาวต่างหากที่มาก่อนจันทร์ พี่พัดเขาเป็นเพื่อนกับพี่เมือง พี่รหัสของยายดาว เขาเลยได้เจอกับยายดาวบ่อยๆ จนกระทั่งคบกัน”

“แล้วไงยะ ไม่ว่ายังไงแกก็มาก่อน แกแอบรักนายพัดยศตั้งแต่นังดาวตกนั่นยังไม่เข้ามหา’ลัยเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงนังดาวตกก็ผิด มันรู้ทั้งรู้ว่าแกรักนายพัดยศ มันยังตอบตกลงเป็นแฟนกับนายนั่น ตัดหน้าแกที่จะไปบอกรักในวันเดียวกัน หึ! นิสัยชอบแย่งของชาวบ้านนี่ได้รับจากแม่มันมาเต็มๆ ทุเรศทั้งคู่”ร่างโปร่งราวนางแบบพูดอย่างโกรธแค้น ไม่ว่าจะอย่างไรในสายตาของเธอคนที่ผิดก็คือดาวเหนืออยู่วันยังค่ำ พรายจันทร์หน้าเศร้าก่อนจะช่วยแก้ตัวให้น้องสาวคนเล็ก

“ดาวไม่รู้ค่ะว่าจันทร์แอบชอบพี่พัดอยู่ แต่ยังไงแค่จันทร์ได้เห็นคนที่จันทร์รักมีความสุข จันทร์ก็มีความสุขค่ะ พี่ตะวันไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วนะค่ะ จันทร์ขอร้อง อีกไม่นานจันทร์ก็จะลืมพี่พัดได้ค่ะ มันก็แค่ความหลงใหลของเด็กวัยรุ่น”ร่างบางจบประโยคอย่างคนจิตใจดี ในขณะที่พี่สาวเบ้อย่างกับความคิดของอีกฝ่ายก่อนจะแย้ง

“ฉันไม่เชื่อหรอกยายจันทร์ ถ้ามันเป็นแค่ความหลงใหลอะไรของแก แกคงทำใจได้ไปนานแล้วล่ะ ไม่ต้องมาทำหน้าเศร้าตอนที่เห็นนายพัดยศมารับ ส่งนังดาวตกนั่น หึ! แต่ก็เอาเถอะฉันไม่อยากเถียงกับแกแล้ว อารมณ์เสีย อยากจะช้ำใจต่อไปก็ตามใจ แม่คนดี เพราะถ้าเป็นฉันแล้วล่ะก็ อะไรที่ฉันอยากได้ไม่มีทางหลุดมือฉันไปได้หรอก แม้แต่ความรัก”ตะวันฉายทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่นในบางอย่างที่พรายจันทร์รู้ลึก ไม่ดีกับน้ำเสียงนั้น ก่อนเอ่ยเตือน

“พี่ตะวันคะ ความรักน่ะ เราบังคับมันไม่ได้หรอกนะคะ ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ดันทุรังไปก็มีแต่ทุกข์กับทุกข์ แม่ถึงได้ยอมรับน้าบุษได้ไงค่ะ”

“หึ นั่นมันแกกับแม่ ไม่ใช่ฉัน คอยดูก็แล้วกัน นังดาวตกกับนายพัดยศนั่นคบกันไม่ยืดหรอก แกน่ะเตรียมตัวดามอกนายนั่นไว้เถอะ” ว่าจบร่างโปร่งก็เดินนวยนาดออกจากห้องอย่างอารมณ์ดี ทิ้งน้องสาวแสนอ่อนโยนให้นั่งนิ่งมองตามไปอย่างไม่สบายใจ พรายจันทร์ได้แต่นั่งหวาดหวั่นกับความคิดของพี่สาวผู้ซึ่งทำอะไรตามใจตน อย่างไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น ก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆ โดยไม่รู้ว่าได้ก้าวเข้าไปสู่หลุมพรางของตะวันฉายเข้าแล้วเต็มเปา

“เราจะไม่ยอมให้พี่ตะวันไปทำลายความรักของพี่พัดกับยายดาวแน่!”
---------------------------------------------------------------------------------------
ย้ายมาจากเว็บเก่าเน้อ ตอนนี้ขอย้ายตอนเก่าๆมาเว็บใหม่ก่อน ตอนใหม่จะตามมาทีหลัง



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2554, 04:00:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 เม.ย. 2554, 21:32:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 3237





   ตอนที่ 2 >>
Gingfara 7 เม.ย. 2554, 10:26:15 น.
เริ่ดค่ะ
ชอบๆๆๆ


ไอจันทร์ 14 เม.ย. 2554, 22:17:34 น.
ขอบคุณค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account