เล่ห์รัก..กับดักนายพราน (รีไรท์)

Tags: อิศนะ วรดา ไร่ส้ม เชียงราย

ตอน: ตอนที่ 8.

“ไปอาบน้ำได้แล้วละมั้งคุณ อีกเดี๋ยวก็มืดค่ำล่ะ”

“ไม่!”

น้ำเสียงห้วนจัดจากคนร่างเล็กที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงใหญ่มากว่าชั่วโมงแล้วนั้นทำให้อิศนะต้องถอนใจออกมาเฮือกหนึ่ง ชายหนุ่มจุปากเบาๆก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าสะเอว

“ไปอาบน้ำเถอะคุณ ถ้ามืดค่ำไปกว่านี้อากาศมันจะเย็นเกินไป เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากหญิงสาวนอกจากอาการสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ยอมรับคำสั่งนั้น อิศนะพรูลมหายใจออกจากปาก

“คุณนี่ดื้อจริงๆ เป็นน้องนุ่งนี่ผมจับหวดก้นไปนานแล้วนะ ตกลงคุณจะเดินไปอาบน้ำดีๆ หรือจะให้ผมอาบให้”

วรดาตวัดลูกนัยน์ตาวับๆมามองเขาก่อนจะก็ใช้วิธีดื้อแพ่งเอาหูทวนลม อิศนะพยายามจะนับหนึ่งถึงสิบในใจแต่นับถึงแค่เลขห้าเขาก็หมดอารมณ์จะนับต่อ ร่างสูงใหญ่เดินอาดๆตรงเข้ามาหาหญิงสาวก่อนจะออกแรงฉุดร่างบางให้ลุกขึ้นจากเตียง

“ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”

“ฉันไม่อาบ”

“ไม่อาบไม่ได้หรอก ผมไม่ชอบนอนกอดผู้หญิงตัวเหม็น”

“ก็อย่ามากอดสิ ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

วรดาโวยวายมาตลอดทางขณะถูกอีกฝ่ายฉุดกระชากลากถูเข้าไปยังห้องน้ำด้านใน พอพ้นประตูห้องน้ำเข้ามาได้อิศนะก็คว้าเอาขันพลาสติกจ้วงน้ำในตุ่มตั้งท่าจะราดลงไปบนตัวของหญิงสาวแต่วรดาปัดขันใบนั้นออกห่างตัวทันทีน้ำในขันจึงสาดกระเซ็นมาโดนเสื้อผ้าของอิศนะเปียกปอนไปทั่วทั้งอก

“ทำอะไรของคุณน่ะห๊ะ เปียกหมดแล้วเห็นมั้ย”

“ดี สมน้ำหน้า”

วรดาเหยียดยิ้มอย่างสมใจเมื่อมีโอกาสได้ตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปบ้าง อิศนะกัดฟันกรอดพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตนเองเอาไว้พลางครุ่นคิดหาวิธีแก้เผ็ดหญิงสาวแล้วเขาก็เลือกเอาวิธีนั้น

“เอ้า! ไหนๆก็เปียกไปแล้ว อาบด้วยกันเลยเป็นไง”

พูดยังไม่ทันขาดคำอิศนะก็ลงมือเปลื้องผ้าเปลืองผ่อนของตนเอง วรดายืนตะลึงอ้าปากค้างมองอิศนะแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาจนหมดแผงแล้วเหวี่ยงเชิ้ตเปียกๆตัวนั้นไปพาดเอาไว้บนราวตาก ก่อนจะหันมาขยิบตาเรียกวรดาอยู่ยิกๆ

“มาม๊ะที่รัก.. มาอาบน้ำกัน...”

แก้มขาวๆของวรดาเห่อร้อนขึ้นมาทันที รีบเบือนหน้าหนีแผ่นอกตันๆที่ผู้เป็นเจ้าของเปิดเปลือยโชว์ซิกแพคงามๆอยู่

“ทุเรศ! คนอะไร…หน้าไม่อาย!”

“อายทำไม คุณเคยเห็นของผมแล้วนี่ แล้วต่อไป ผมรับรองว่าคุณจะได้เห็นมันอีกบ่อยๆ เวลาอยู่บ้านกับคนรู้ใจ ผ้าผ่อนผมไม่ค่อยเอาเท่าไหร่หรอกคุณ ความจริงอาบน้ำด้วยกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน วันนี้ผมใจดี จะบริการขัดถูคุณให้เอี่ยมอ่องทั้งเนื้อตัว คุณจะสบายยิ่งกว่าเข้าสปาที่ไหนในโลก ถอดเสื้อผ้าออกได้แล้ว หรือจะให้ผมช่วยถอด..”

อิศนะพยักหน้าเร่งเร้า พลางยื่นมือยื่นไม้เข้ามาช่วยหญิงสาวปลดเปลื้องอาภรณ์วุ่นวาย

“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ”

วรดาตวาดแวด ปัดป้องมือใหญ่นั้นออกห่างพัลวัน

“แค่อาบน้ำด้วยกันเองน่า...”

อิศนะยื่นหน้ามาเว้าวอน วรดาจึงตวาดกลับเสียงขุ่น

“บ้า! ใครเค้าจะบ้าอาบน้ำกับคุณ ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนคุณนี่”

“ผัวเมียกัน อาบน้ำด้วยกันแค่นี้จะเป็นไรไป อย่าเรื่องมากนักเลย ถอดเสื้อผ้าออกเถอะ ขืนชักช้า เดี๋ยวผมจะเข้าไปถอดให้คุณเองนะ”

วรดารีบกระชับคอเสื้อของตนเองกำไว้แน่น ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้เสียเต็มประดา

“คุณแกล้งฉัน”

“ช่วยไม่ได้ คุณอยากดื้อกับผมก่อนทำไม”

เมื่อเห็นว่างานนี้อีกฝ่ายเอาจริง วรดาก็เริ่มจะหาข้อต่อรอง

“ก็ได้ ฉันยอมอาบก็ได้ แต่มีข้อแม้ คุณ...ต้องออกไปก่อน”

อิศนะหลิ่วตามองหญิงสาวอย่างคนที่รู้ตัวว่าได้เปรียบ ก่อนจะส่งยิ้มกวนๆมาให้

“ออกก็ได้ แต่จำไว้นะ ถ้าคุณลูกไม้ ผมจะขึ้นมาอาบน้ำกับคุณแน่ๆ” อิศนะบอกกล่าวขณะเอื้อมมือไปคว้าเสื้อเชิ้ตตัวเปียกสวมกลับเข้าไปใหม่แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป เมื่อร่างสูงๆของอิศนะลับหายออกไปจากสายตาแล้ววรดาก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือกแต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น

…ตรับๆๆๆ...แก๊รๆๆๆๆ

วรดาสะดุ้งโหยง กวาดตามองไปรอบๆอย่างตื่นกลัว หล่อนไม่เห็นไอ้ตัวน่าเกลียดที่ส่งเสียงร้องสั่นประสาทเมื่อครู่เพราะบรรยากาศโดยรอบที่เริ่มขมุกขมัวทำให้มองไม่เห็นว่ามันแอบซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบไหน วินาทีถัดมาวรดาตัดสินใจปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหล่อนออกจากร่าง ก่อนจะหยิบขันมาตักน้ำในตุ่มขึ้นราดตัวโครมๆพร้อมกับทำสถิติใหม่ในการอาบน้ำได้เร็วที่สุดในชีวิตเท่าที่หล่อนเคยอาบมา

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กว่าวรดาจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลามืดสนิท ที่นี่ไม่มีไฟฟ้าใช้มีก็แต่เพียงแสงไฟจากตะเกียงพายุที่อิศนะจุดเอาไว้ให้แต่เจ้าตัวนั้นหายไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ หญิงสาวเดินไปที่หน้าต่างสอดส่องสายตามองไปทั่วบริเวณ รถของอิศนะยังจอดนิ่งอยู่ที่หน้าเรือนแพ กระท่อมไม้ไผ่สองหลังที่เห็นเงียบเชียบเมื่อยามบ่ายบัดนี้มีแสงสว่างลอดผ่านออกมาให้เห็นทั้งสองหลัง บางทีอิศนะอาจจะไปนั่งประชุมอยู่กับพวกคนงานของเขาตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ก็ได้

มีคนอาศัยอยู่ที่กระท่อมไม้ไผ่สองหลังนั่นจริงๆเด็กสาวท่าทางซื่อๆเปิ่นๆกับเจ้ายักษ์นั่นอยู่กระท่อมหลังแรก ส่วนกระท่อมอีกหลังหนึ่งก็มีคนงานอีกคู่หนึ่ง เป็นผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกับวรดา รูปร่างท้วมๆหน้าตาบึ้งตึงบอกบุญไม่รับ หล่อนได้ยินอิศนะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า สุนา นอกจากสามคนนั่นแล้วยังมีคนงานผู้ชายอีกคนที่ชื่อ นายฟุก๋วย รายหลังสุดนี้ท่าทางดูบ๊องๆไม่ค่อยจะเต็มเต็งสักเท่าไหร่

อากาศร้อนเมื่อช่วงบ่ายเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความหนาวเย็น วรดาห่อไหล่ก่อนจะยกสองแขนขึ้นมากอดตัวเองแน่น หญิงสาวเดินกลับมาทรุดตัวลงนั่งที่เตียงใหญ่ เตียงไม้มะค่าหลังใหญ่กินเนื้อที่เกือบจะหนึ่งในสี่ของห้อง ฟูกที่นอนหนานุ่มถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนลายดอกไม้จุ๋มจิ๋มตึงเปรี๊ยะอีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆเพราะผ่านการซักล้างทำความสะอาดมาแล้วตั้งแต่เมื่อบ่าย

ทั่วทั้งห้องนอนใหญ่แลดูสะอาดสะอ้าน ไม่มีฝุ่นจับหนาเตอะเหมือนเมื่อตอนที่หญิงสาวมาถึงใหม่ๆ ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่มีผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าของอิศนะแขวนอยู่ราวสองสามชุด วรดาเห็นเด็กสาวตัวผอมคนนั้นลำเลียงข้าวของเครื่องใช้ของอิศนะออกมาจากท้ายรถยนต์ของเขา ส่วนเสื้อผ้าของวรดายังคงอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเดินทางตามเดิม

ลมเย็นที่พัดกรรโชกแรงเข้ามาทางหน้าต่างทำให้วรดาหนาวยะเยือก หญิงสาวมองที่นอนกว้างกับมุ้งหลังใหญ่ที่ถูกมัดรวบเอาไว้ที่หัวเตียงแล้วก็ทอดถอนใจ นี่หล่อนจะต้องทนนอนบนเตียงหลังนี้จริงๆน่ะหรือ ก็จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้หล่อนมีทางเลือกอื่นเสียที่ไหน ยิ่งปะทะกับอิศนะรุนแรงเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง การยอมตามเขาไปก่อนดูจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีที่สุดในตอนนี้

วรดาตัดสินใจกางมุ้ง ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันด้วยความที่ไม่คุ้นชินมาก่อน ภายในห้องนอนของวรดาที่กรุงเทพฯประตูหน้าต่างทุกบานล้วนแล้วแต่มีมุ้งลวดกันยุงจึงไม่มีความจำเป็นต้องกางมุ้ง อาศัยว่าสมัยเรียนวรดาเคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด และที่นั่นเป็นบ้านสวน เวลาจะนอนก็ต้องกางมุ้งเสียก่อนเพื่อเป็นการป้องกันยุงและแมลง หญิงสาวจึงพอจะกางมุ้งเป็นอยู่บ้าง พอกางมุ้งเสร็จวรดาก็ก้าวขึ้นเตียงดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาห่มคลายหนาว รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ

อิศนะ...

ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ ครั้งแรกที่พบกันบนรถทัวร์ วรดาอาจจะนึกไม่ชอบท่าทางเจ้าชู้กรุ้มกริ่มของเขาอยู่บ้าง แต่อิศนะก็ดูเป็นคนดีมีน้ำใจ อุตส่าห์โทรจองที่พักให้หล่อน อีกทั้งยังแวะไปส่งหล่อนถึงหน้าโรงแรม พบกันอีกครั้งที่ไร่เทพปกรณ์ อิศนะเดินเข้ามาบอกหล่อนว่าภานุได้ไหว้วานให้เขาขับรถไปส่งหล่อนในตัวเมือง วรดาคิดว่าเขาเป็นเพื่อนของภานุและเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ตอนนี้ วรดาแน่ใจเชียวล่ะว่าอิศนะไม่ใช่เพื่อนของภานุอย่างที่หล่อนเข้าใจมาแต่แรก

... คำก็พี่นุ สองคำก็พี่นุ ถามจริงๆเถอะ ไอ้หน้าขรึมนั่นมันมีอะไรดี ขนาดว่ามันแต่งงานไปกับคนอื่นแล้วคุณก็ยังร่ำร้องอยากจะกลับไปหามันอีก....

ดูได้จากถ้อยคำต่างๆ ที่อิศนะเอ่ยถึงภานุนั่นเถอะ มันล้วนแล้วแต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นดูแคลนแทบทั้งสิ้น อิศนะเป็นศัตรูของภานุงั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ภานุจะให้อิศนะมาส่งหล่อนที่โรงแรมทำไม เฮ้อ! คิดจนหัวแทบแตกวรดาก็ยังคิดอะไรไม่ออก ถ้าหากจะหาตัวคนผิด วรดาเองนั่นแหละที่ควรจะถูกตำหนิเป็นคนแรก ถ้าหากคืนนั้นหล่อนจะปลีกตัวขึ้นห้องพักไปเสียแต่แรก เรื่องทุกอย่างมันก็คงไม่ลงเอยเช่นนี้

เสียงฝีเท้าที่ย่ำโครมๆขึ้นเรือนมาทำให้วรดาต้องหยุดคิดเรื่องทั้งหมดทันที หญิงสาวแกล้งทำเป็นนอนหลับตานิ่งเมื่ออิศนะเดินมาชะโงกดูหล่อนผ่านมุ้ง เขาเดินย้อนกลับไปรื้อค้นหาอะไรกุกๆกักๆอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าครู่ต่อมาวรดาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

เมื่อร่างสูงๆนั้นลับหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาเฮือก เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย ถ้าหากคืนนี้อิศนะคิดจะยุ่งเกี่ยวกับหล่อนอีกล่ะ วรดาจะขัดขวางต้านทานเขาได้แน่หรือ แค่คิดหัวใจของหญิงสาวก็เต้นโครมครามผิดจังหวะจึงได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอย่างกลัดกลุ้ม

อิศนะออกจากห้องน้ำแล้วก็ตรงไปรื้อค้นหาเสื้อผ้าในตู้ เขาได้กางเกงนอนกับเสื้อยืดตัวหนึ่งออกมาสวมใส่ จากนั้นจึงจัดการหรี่ไฟในตะเกียงจนทั่วทั้งห้องเริ่มมืดสลัว

วรดากระชับผ้าห่มเอาไว้แน่นแกล้งหลับตาปี๋เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของอิศนะเดินตรงมาที่เตียง ที่นอนไหวยวบเมื่อร่างหนาหนักของอิศนะทิ้งตัวลงมา หญิงสาวเริ่มหายใจติดๆขัดๆพยายามจะเงี่ยหูฟังด้วยใจระทึกว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆกำลังทำอะไร

“รู้หรอกน่า ว่าแกล้งหลับ”

เสียงหัวเราะหึๆที่ดังอยู่ข้างหูและลมหายใจอุ่นๆที่สาดรดอยู่แถวขมับทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของวรดาตื่นเพริดถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังคงแกล้งหลับตานิ่งไม่ยอมไหวติงต่อไป

“นอนหันหน้าออกไปทางหน้าต่างแบบนี้ ระวังจะเจออะไรดีๆตอนดึกๆนะ ฟุก๋วยมันเคยเล่าให้ผมฟังว่าเคยเห็นตัวอะไรก็ไม่รู้ มีแต่หัวกับไส้ มาทำผลุบๆโผล่ๆหาอะไรกินอยู่แถวริมห้วย ถ้าคืนนี้มีไอ้ตัวอย่างว่ามาเกาะอยู่ที่หน้าต่าง คุณไม่ต้องมาสะกิดเรียกผมนะ บอกเลย งานนี้ตัวใครตัวมัน”

อิศนะยิ้มกริ่มเมื่อเห็นเปลือกตาคู่งามของวรดาเริ่มขยุกขยิก

“แล้วก่อนนอนคุณได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทางบ้างรึเปล่า ที่นี่น่ะ เจ้าที่เขาแรงนะจะบอกให้ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าไปหลบหลู่เชียว ผมเคยเจอกับตัวมาแล้ว โห้ย..พูดแล้วยังขนลุกอยู่เลย คืนแรกที่ผมมานอนที่นี่ คืนนั้นผมกำลังจะหลับอยู่แล้วเชียว แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนมีคนมาคอยจ้องมองอยู่ตลอดเวลาแล้วพอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นแหละคุณเอ๊ย ผู้หญิงหน้าซีดๆใส่ชุดสีขาวๆ ผมงี้ยาวเฟื้อยลงมาจนถึงพื้นเลยนะ นั่งห้อยขาแกว่งเท้าอยู่บนขื่อโน่น ก็นั่งจ้องกันไป นอนจ้องกันมา จู่ๆผู้หญิงหน้าซีดๆนั่น ก็ห้อยหัวลงมาพรึ่บ…”

อิศนะเล่ามาถึงแค่นั้น วรดาก็พลิกร่างหันกลับมาทางเขาทันที กำปั้นน้อยๆของหล่อนทุบโครมๆลงไปบนอกกว้างของอิศนะอย่างโมโห

“คนบ้า หยุดพูดสักทีได้มั้ย”

อิศนะหัวเราะร่วนรวบเก็บสองมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงรั้งร่างบางเข้าไปไว้ในอ้อมกอด

“ปล่อย บอกว่าให้ปล่อย”

วรดาสั่งเสียงเข้มพยายามจะแกะมือไม้ของชายหนุ่มที่พัวพันอยู่รอบเอวให้ออกห่างแต่อิศนะยังคงดื้อแพ่งไม่ยินยอม

“ปล่อยทำไม ไม่กลัวผีแล้วรึ..”

“คุณมันน่ากลัวยิ่งกว่าผีซะอีก”

“อ้าว...เป็นงั้นไป”

อิศนะหัวเราะหึๆแกล้งซุกหน้าลงมาจูบแก้มนวลของหญิงสาว วรดารีบยกมือขึ้นผลักไสร่างใหญ่

“ปล่อยได้แล้ว กอดแน่นแบบนี้ ฉันนอนไม่หลับ”

“นอนไม่หลับงั้นหรือ ผมว่าผมฉีดยาให้คุณสักเข็มคงพอช่วยได้ เอาเลยมั้ย ผมจะได้แก้ผ้า”

“บ้า! ไม่เอานะ...”

วรดารีบร้องห้ามมองอิศนะอย่างหวาดระแวงเมื่อเห็นประกายตาชอบกลของอีกฝ่าย

“นอนเถอะคุณ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะปล้ำคุณหรอก บอกตรงๆว่าคืนนี้ผมไม่มีอารมณ์ อยากนอนอย่างเดียวเท่านั้น คุณจะไม่นอนก็เรื่องของคุณนะ ผมนอนละ กู๊ดไนท์”

อิศนะบอกก่อนจะหลับตาลงอย่างง่ายดายทั้งๆที่สองแขนของเขายังคงรัดรึงร่างของวรดาเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

วรดาลอบถอนใจยาวเหยียดจำต้องนอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของอิศนะอย่างไม่มีทางเลี่ยงเสียงลมพัดซู่ดังมาจากทางหน้าต่าง เสียงกิ่งไม้ไหวกวัดแกว่งโอนเอนตามแรงลม นานๆทีก็ได้ยินเสียงเห่าหอนของสัตว์บางชนิดแต่วรดาไม่แน่ใจว่านั่นคือเสียงของสุนัขป่าหรือสุนัขบ้านกันแน่

หญิงสาวทอดถอนใจอีกครั้งนอนฟังเสียงน้ำกัดเซาะโขดหินราวกับกำลังฟังดนตรีบำบัดจนหนังตาเริ่มจะหนักๆกระทั่งหลับใหลไปด้วยความอ่อนเพลียในเวลากว่าสองยามเข้าไปแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณ คุณ phakarat
ขอบคุณ คุณ Kim
ขอบคุณ นักอ่านเงาทุกท่านค่ะ

โอชิน.
phakarat



โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ต.ค. 2560, 18:49:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2560, 09:56:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 910





<< ตอนที่ 7.   ตอนที่ 9. >>
phakarat 3 ต.ค. 2560, 22:45:40 น.
อิศนะหลอกวรดาก่อนผีซะอีก


Kim 4 ต.ค. 2560, 13:40:32 น.
นายอิศกักขังหน่วงเหนี่ยวเชียวนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account