รหัสรัก...รหัสหัวใจ
อิงลดา หญิงสาวที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ได้รับของขวัญประหลาดเป็นชายหนุ่มรูปงาม ดวงตาสีฟ้า มีชื่อเล่นแปลว่าน้ำแข็ง เขาบอกตัวตัวเองเป็นของขวัญ แต่สำหรับเธอ คิดว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ในคราบปีศาจร้ายที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากกว่า เพราะเพียงเริ่มได้รู้จักกัน ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปแบบที่เจ้าตัวไม่เคยคิดมาก่อน
Tags: สิรินดา, รหัสรักรหัสหัวใจ, นิยายรัก
ตอน: 26: การลาจาก และการเริ่มต้นใหม่
HaftRock Cocktail เป็นร้านที่พี่ชาติเลือกมาเลี้ยงปีใหม่ให้พนักงานบริษัทในปีนี้ เรายกขโยงกันไปที่ร้านตั้งแต่หกโมง เลือกนั่งบริเวณที่เป็นโซนด้านใน มีเวลาคุยพร้อมกินกันสบายๆ หนึ่งชั่วโมงก่อนที่นักร้องประจำร้านจะเริ่มการแสดง
อาหารหลากหลายเมนูค่อยๆ เรียงมาบนโต๊ะ หลักๆ ทำจากผักสดและผลไม้ แต่รสชาติจัดจ้านของมันทำให้ไม่รู้สึกเลยว่ากำลังกินอาหารที่เมนูสุขภาพ ไอแซคมีวีธีแยบยลมากที่ทำส่งความมีสุขภาพดีให้ลูกค้าทุกคน
เพลงร็อคหลายเพลงถูกปรับมาร้องด้วยกีตาร์โปร่งตัวเดียว จากนักร้องชายผมยาวประบ่า หน้าตาดี ที่มีเสียงแหบเสน่ห์มันทำให้บรรยากาศเบาสบาย แต่ไม่น่าเบื่อ
"เจ้าของร้านเก่งนะ สร้างบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ดี ใครจะคิดว่าเพลงร็อคกับดนตรีอะคูสติกจะสร้างบรรยากาศแบบนี้ได้ สบายๆ แต่ก็หนักแน่น" พี่ชาติชื่นชม
อาหารอร่อย เครื่องดื่มรสเลิศ ดนตรีเพราะ แต่...
"ยัยอิง หันซ้ายหันขวาอยู่นั่นแหละ มองหาใคร" เพื่อนร่วมงานแหย่
"มองหาเจ้าของร้านมั้ง ได้ข่าวว่าหล่อระเบิด" รุ่นน้องคนหนึ่งบอก "บทความนั้นของพี่อิงบทความเดียวยอดวิวทะลุเกินสิบล้านวิว"
ฉันอมยิ้มเขินแต่ก็อดภูมิใจกับเรื่องนั้นไม่ได้ การที่บทความหนึ่งมียอดวิวเกินล้าน สำหรับยุคที่ทุกคนแห่กันมาเป็นคนเขียนคอลัมน์อิสระออนไลน์เป็นรื่องยากมาก บทความนั้น ทำให้ในสายตาของพี่ชาติ ฉันเปลี่ยนจากมือสมัครเล่นมาเป็นนักเขียนคอลัมน์ (เพื่อการโปรโมท) มือดีไปในข้ามวัน หลังจากนั้นก็มักจะมีงานลักษณะคล้ายๆ กันเข้ามาให้ทำอีกเป็นระยะๆ
หนึ่งทุ่ม เจ้าของร้านเดินมาทักทายแขกที่โต๊ะ พร้อมตระกร้าผักสดเพื่อสวัสดีปีใหม่กับทางกองบอกอ ไอแซคยังแต่งตัวเซอร์ๆ ด้วยเสื้อยืดขาวตัวเก่า กางเกงยีนส์สีซีด เหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับทำให้ลุคดูเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม
เขาเพียงแต่พยักหน้าทุกทาย ก่อนจะเดินผ่านโต๊ะที่ฉันนั่งไป พร้อมกับมีเสียงเป่าปากเปี๊ยวป๊าวของสาวๆ ในกอง บอกอ ตามหลัง
"หล่อจริงว่ะ ในรูปว่าหล่อ ตัวจริงหล่อกว่าอีก"
"ใช่ เท่เนอะ ใส่แว่นเหมือนเด็กเรียน แต่ทำไมยังดูดีวะ"
"มิน่าเล่ายอดวิวทะลุสิบล้าน..."
ฉันได้แต่ถอนหายใจกับคำวิจารณ์รอบโต๊ะของทั้งสาวแท้และหนุ่มหัวใจสาวเหล่านั้น
"ขอโทษนะ เดี๋ยวมา ไปห้องน้ำแป๊บ" ฉันลุกออกมาจากโต๊ะ แต่ไม่ได้ไปที่ห้องน้ำอย่างที่บอก
ฉันหยุดอยู่ตรงหน้าไอแซค ที่กำลังยืนคุยอยู่กลับลูกค้ากลุ่มหนึ่งซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาในร้าน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาดีที่สอดแขนเข้าคล้องไว้กับแขนของเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม เขาหยุดนิดหนึ่งเมื่อเห็นฉัน แล้วก็ก้มลงไปกระซิบกับหญิงสาวข้างตัว ก่อนจะเดินมาหาฉัน
"มีอะไรหรือเปล่า" เขามองของในมือ
"ฉันมีของมาให้" แล้วยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือนิดเดียวไปตรงหน้า "สวัสดีปีใหม่ค่ะ"
ถ้าไอแซคสังเกต เขาคงจะเห็นว่ามือของฉันสั่น แต่อีกฝ่ายเพียงแต่รับไป พลิกกล่องดู ด้วยสีหน้านิ่งสนิท "ขอบคุณ...."
ฉันก้มหน้าไม่รอให้เขาพูดจบ หันหลัง และเดินกลับมาที่โต๊ะทันที
ไม่อยากเห็นสายตาแบบนั้นของเขาอีก
.......
ตีสองสิบนาที ร้านปิดไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว แต่ผมยังไม่นอน การเป็นแบบผมมันก็มีข้อดีอย่างนี้ บางครั้ง เราสามารถขโมยเวลาที่คนอื่นกำลังนอนอยู่ มาทำอะไรได้มากมาย สำหรับผม เวลานี้ส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ พันธุ์ต้นไม้แปลกๆ หรือไม่ก็อ่านหนังสือ
วันนี้บริษัทของอิงลดามาใช้สถานที่ของร้านเป็นที่เลี้ยงปีใหม่ให้พนักงาน ผมได้รับการติดต่อจากคุณกุลชาติ เจ้าของบริษัทมาตั้งแต่กลางเดือน ...และทั้งๆ ที่รู้ว่าอิงลดาคงกลับไปคบกับนายเอกวัตรอีกรอบ ผมยังคิดเมนูใหม่ๆ หลายเมนู เพื่อเลี้ยงต้อนรับแขกกลุ่มนั้น
อิงลดาผอมลงไปมากจากเมื่อปีก่อนที่เราได้พบกัน เป็นการผอมที่ดูสุขภาพดี ไม่ได้เกิดจากโรคอกหัก เพราะดูเธอร่าเริง สดใส และเหมือนจะเด็กลงไปอีกหลายปี
การได้เริ่มอะไรใหม่ การเปลี่ยนงาน การเปลี่ยนที่อยู่ สภาพแวดล้อม อาจทำให้เธอดูเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้
หรือบางที... การที่เธอเปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะหัวใจของเธอไม่ได้รวดร้าว เจ็บปวดแบบที่พบกับผมในครั้งแรกก็ได้
หลังจากที่เธอเข้ามาขอความช่วยเหลือ และผมปฏิเสธไปอย่างไม่มีเยื่อไย เราก็ไม่ได้พบกันอีก
ผมเอง ที่ไม่ได้พยายามที่จะตามข่าว เรื่องราวของเธอ หรือแม้แต่เว็บ บทความที่เธอเขียน ซึ่งติดตามมาตั้งแต่เธอเริ่ม ผมก็ตัดสินใจว่าจะไม่เปิดอ่านมันอีก
ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากสนใจความเป็นไปของเธอ เพราะทั้งๆ ที่ทำใจยอมรับการตัดสินใจกลับไปหาคนรักเก่าของเธอ แต่ผมก็อดจะเจ็บปวดไม่ได้
...เจ็บปวด หุ่นยนต์ครึ่งมนุษย์อย่างผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นด้วย ถ้าพ่อรู้เข้า คงดีใจ ที่สิ่งที่เขาพัฒนาขึ้นมา สามารถมาความรู้สึก รัก และเจ็บปวดได้
ผมค่อยๆ แกะกล่องของขวัญขนาดเล็กๆ ที่อิงลดาส่งให้เมื่อช่วงหัวค่ำ มันห่อด้วยกระดาษธรรมดาๆ ไม่มีความพิเศษอะไร ... ก็ใช่ ผมไม่ใช่คนพิเศษอะไรของเธอ นี่คงเป็นของขวัญปีใหม่ที่เธอมอบให้ในฐานะคนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น
ข้างในมีของอยู่เพียงชิ้นเดียว ขนาดมันใหญ่กว่าฝ่ามือของผมเล็กน้อย และหนาราวหนึ่งนิ้ว...สมุดบันทึกเล่มนั้น เล่มที่ผมได้อ่านไปแล้วหลายสิบหน้าเมื่อปีก่อน
เปิดหน้าแรก กระดาษโน้ตชิ้นเล็กๆ หล่นออกมา
'ถึงไอแซค
ฉันคิดว่านายคงไม่ได้อ่านบันทึกเล่มนี้ต่อ จึงอยากให้นายอ่านมันให้จบ
ขอบคุณสำหรับทุกเรื่อง
อิงลดา'
ผมปิดสมุดบันทึกเล่มนั้น ลุกขึ้น เดินออกไปริมหน้าต่าง มองวิวภายนอกที่ยังคงมืดมิด...จะให้ผมอ่านอะไรอีก จะให้ผมเจ็บปวดไปถึงไหน
...ความรักอาจทำให้เธอมองข้ามความรู้สึกของผม....และคิดว่าผมจะสามารถอ่านเรื่องราวที่เธอเขียนได้ด้วยความรู้สึก เฉยๆ
ใครว่าหุ่นแบบผมไม่เข้าใจคำนั้น....ความเจ็บปวดจากการที่เห็นคนที่เรารัก...มีความสุขกับคนอื่น
อาหารหลากหลายเมนูค่อยๆ เรียงมาบนโต๊ะ หลักๆ ทำจากผักสดและผลไม้ แต่รสชาติจัดจ้านของมันทำให้ไม่รู้สึกเลยว่ากำลังกินอาหารที่เมนูสุขภาพ ไอแซคมีวีธีแยบยลมากที่ทำส่งความมีสุขภาพดีให้ลูกค้าทุกคน
เพลงร็อคหลายเพลงถูกปรับมาร้องด้วยกีตาร์โปร่งตัวเดียว จากนักร้องชายผมยาวประบ่า หน้าตาดี ที่มีเสียงแหบเสน่ห์มันทำให้บรรยากาศเบาสบาย แต่ไม่น่าเบื่อ
"เจ้าของร้านเก่งนะ สร้างบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ดี ใครจะคิดว่าเพลงร็อคกับดนตรีอะคูสติกจะสร้างบรรยากาศแบบนี้ได้ สบายๆ แต่ก็หนักแน่น" พี่ชาติชื่นชม
อาหารอร่อย เครื่องดื่มรสเลิศ ดนตรีเพราะ แต่...
"ยัยอิง หันซ้ายหันขวาอยู่นั่นแหละ มองหาใคร" เพื่อนร่วมงานแหย่
"มองหาเจ้าของร้านมั้ง ได้ข่าวว่าหล่อระเบิด" รุ่นน้องคนหนึ่งบอก "บทความนั้นของพี่อิงบทความเดียวยอดวิวทะลุเกินสิบล้านวิว"
ฉันอมยิ้มเขินแต่ก็อดภูมิใจกับเรื่องนั้นไม่ได้ การที่บทความหนึ่งมียอดวิวเกินล้าน สำหรับยุคที่ทุกคนแห่กันมาเป็นคนเขียนคอลัมน์อิสระออนไลน์เป็นรื่องยากมาก บทความนั้น ทำให้ในสายตาของพี่ชาติ ฉันเปลี่ยนจากมือสมัครเล่นมาเป็นนักเขียนคอลัมน์ (เพื่อการโปรโมท) มือดีไปในข้ามวัน หลังจากนั้นก็มักจะมีงานลักษณะคล้ายๆ กันเข้ามาให้ทำอีกเป็นระยะๆ
หนึ่งทุ่ม เจ้าของร้านเดินมาทักทายแขกที่โต๊ะ พร้อมตระกร้าผักสดเพื่อสวัสดีปีใหม่กับทางกองบอกอ ไอแซคยังแต่งตัวเซอร์ๆ ด้วยเสื้อยืดขาวตัวเก่า กางเกงยีนส์สีซีด เหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับทำให้ลุคดูเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม
เขาเพียงแต่พยักหน้าทุกทาย ก่อนจะเดินผ่านโต๊ะที่ฉันนั่งไป พร้อมกับมีเสียงเป่าปากเปี๊ยวป๊าวของสาวๆ ในกอง บอกอ ตามหลัง
"หล่อจริงว่ะ ในรูปว่าหล่อ ตัวจริงหล่อกว่าอีก"
"ใช่ เท่เนอะ ใส่แว่นเหมือนเด็กเรียน แต่ทำไมยังดูดีวะ"
"มิน่าเล่ายอดวิวทะลุสิบล้าน..."
ฉันได้แต่ถอนหายใจกับคำวิจารณ์รอบโต๊ะของทั้งสาวแท้และหนุ่มหัวใจสาวเหล่านั้น
"ขอโทษนะ เดี๋ยวมา ไปห้องน้ำแป๊บ" ฉันลุกออกมาจากโต๊ะ แต่ไม่ได้ไปที่ห้องน้ำอย่างที่บอก
ฉันหยุดอยู่ตรงหน้าไอแซค ที่กำลังยืนคุยอยู่กลับลูกค้ากลุ่มหนึ่งซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาในร้าน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาดีที่สอดแขนเข้าคล้องไว้กับแขนของเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม เขาหยุดนิดหนึ่งเมื่อเห็นฉัน แล้วก็ก้มลงไปกระซิบกับหญิงสาวข้างตัว ก่อนจะเดินมาหาฉัน
"มีอะไรหรือเปล่า" เขามองของในมือ
"ฉันมีของมาให้" แล้วยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือนิดเดียวไปตรงหน้า "สวัสดีปีใหม่ค่ะ"
ถ้าไอแซคสังเกต เขาคงจะเห็นว่ามือของฉันสั่น แต่อีกฝ่ายเพียงแต่รับไป พลิกกล่องดู ด้วยสีหน้านิ่งสนิท "ขอบคุณ...."
ฉันก้มหน้าไม่รอให้เขาพูดจบ หันหลัง และเดินกลับมาที่โต๊ะทันที
ไม่อยากเห็นสายตาแบบนั้นของเขาอีก
.......
ตีสองสิบนาที ร้านปิดไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว แต่ผมยังไม่นอน การเป็นแบบผมมันก็มีข้อดีอย่างนี้ บางครั้ง เราสามารถขโมยเวลาที่คนอื่นกำลังนอนอยู่ มาทำอะไรได้มากมาย สำหรับผม เวลานี้ส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ พันธุ์ต้นไม้แปลกๆ หรือไม่ก็อ่านหนังสือ
วันนี้บริษัทของอิงลดามาใช้สถานที่ของร้านเป็นที่เลี้ยงปีใหม่ให้พนักงาน ผมได้รับการติดต่อจากคุณกุลชาติ เจ้าของบริษัทมาตั้งแต่กลางเดือน ...และทั้งๆ ที่รู้ว่าอิงลดาคงกลับไปคบกับนายเอกวัตรอีกรอบ ผมยังคิดเมนูใหม่ๆ หลายเมนู เพื่อเลี้ยงต้อนรับแขกกลุ่มนั้น
อิงลดาผอมลงไปมากจากเมื่อปีก่อนที่เราได้พบกัน เป็นการผอมที่ดูสุขภาพดี ไม่ได้เกิดจากโรคอกหัก เพราะดูเธอร่าเริง สดใส และเหมือนจะเด็กลงไปอีกหลายปี
การได้เริ่มอะไรใหม่ การเปลี่ยนงาน การเปลี่ยนที่อยู่ สภาพแวดล้อม อาจทำให้เธอดูเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้
หรือบางที... การที่เธอเปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะหัวใจของเธอไม่ได้รวดร้าว เจ็บปวดแบบที่พบกับผมในครั้งแรกก็ได้
หลังจากที่เธอเข้ามาขอความช่วยเหลือ และผมปฏิเสธไปอย่างไม่มีเยื่อไย เราก็ไม่ได้พบกันอีก
ผมเอง ที่ไม่ได้พยายามที่จะตามข่าว เรื่องราวของเธอ หรือแม้แต่เว็บ บทความที่เธอเขียน ซึ่งติดตามมาตั้งแต่เธอเริ่ม ผมก็ตัดสินใจว่าจะไม่เปิดอ่านมันอีก
ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากสนใจความเป็นไปของเธอ เพราะทั้งๆ ที่ทำใจยอมรับการตัดสินใจกลับไปหาคนรักเก่าของเธอ แต่ผมก็อดจะเจ็บปวดไม่ได้
...เจ็บปวด หุ่นยนต์ครึ่งมนุษย์อย่างผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นด้วย ถ้าพ่อรู้เข้า คงดีใจ ที่สิ่งที่เขาพัฒนาขึ้นมา สามารถมาความรู้สึก รัก และเจ็บปวดได้
ผมค่อยๆ แกะกล่องของขวัญขนาดเล็กๆ ที่อิงลดาส่งให้เมื่อช่วงหัวค่ำ มันห่อด้วยกระดาษธรรมดาๆ ไม่มีความพิเศษอะไร ... ก็ใช่ ผมไม่ใช่คนพิเศษอะไรของเธอ นี่คงเป็นของขวัญปีใหม่ที่เธอมอบให้ในฐานะคนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น
ข้างในมีของอยู่เพียงชิ้นเดียว ขนาดมันใหญ่กว่าฝ่ามือของผมเล็กน้อย และหนาราวหนึ่งนิ้ว...สมุดบันทึกเล่มนั้น เล่มที่ผมได้อ่านไปแล้วหลายสิบหน้าเมื่อปีก่อน
เปิดหน้าแรก กระดาษโน้ตชิ้นเล็กๆ หล่นออกมา
'ถึงไอแซค
ฉันคิดว่านายคงไม่ได้อ่านบันทึกเล่มนี้ต่อ จึงอยากให้นายอ่านมันให้จบ
ขอบคุณสำหรับทุกเรื่อง
อิงลดา'
ผมปิดสมุดบันทึกเล่มนั้น ลุกขึ้น เดินออกไปริมหน้าต่าง มองวิวภายนอกที่ยังคงมืดมิด...จะให้ผมอ่านอะไรอีก จะให้ผมเจ็บปวดไปถึงไหน
...ความรักอาจทำให้เธอมองข้ามความรู้สึกของผม....และคิดว่าผมจะสามารถอ่านเรื่องราวที่เธอเขียนได้ด้วยความรู้สึก เฉยๆ
ใครว่าหุ่นแบบผมไม่เข้าใจคำนั้น....ความเจ็บปวดจากการที่เห็นคนที่เรารัก...มีความสุขกับคนอื่น
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2561, 09:05:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ม.ค. 2561, 13:05:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 1291
<< 24. คุณห่วงผม | 27: บันทึกเล่มนั้น (ตอนที่ 1) >> |