นาฏกรรมลวง: ขวัญของใจ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
แม้จะชินชากับกลิ่นโรงพยาบาลสักเพียงใด...ทว่ากลิ่นคละคลุ้งคาวเลือดในเศษเสี้ยวความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อ ก็ได้ปลุกให้ ‘ขวัญ’ แพทย์หญิงชีวาภรณ์ ชิษณุพงศ์ ตื่นขึ้นมาพบกับวิญญาณของชายหนุ่มปริศนา ‘นิธิศ’
ขณะเดียวกันนาฏกรรมที่ใครสักคนอุปโลกน์ขึ้น กำลังนำไปสู่การไขปริศนาของความตายที่บังเอิญเกี่ยวพันกับความฝันแสนประหลาดของขวัญอย่างจงใจ และยิ่งขยับเข้าไปใกล้ทุกขมวดของปมมากเท่าไหร่ บ่วงที่ฆาตกรวางไว้ก็กำลังรอต้อนรับด้วยความตายมากเท่านั้น!
“ผมจะต้องกลับเข้าร่างให้ได้เร็วที่สุด” นิธิศพูดด้วยความมุ่งมั่น และนั่นก็ทำให้ฉันสลัดเอาความหวาดกลัวทั้งหลายออกไปจากใจ
“เราจะช่วยกันค่ะ ฉันจะช่วยเป็นมือทั้งสองข้างให้คุณเอง”
“ถ้าคุณอยากช่วยเป็นมือให้ผมจริงๆ ช่วยตอนนี้เลยได้ไหม ทำอะไรให้ผมสักอย่างสิ”
“คะ?” ฉันมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“ถ้ามือของคุณคือตัวแทนของมือผม คุณก็ช่วยกอดตัวเองหน่อยได้ไหม กอดตัวเองไว้ แล้วผมจะปลอบใจคุณเอง”
**************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ขวัญของใจ" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนว Romantic Suspense มิควรพลาดจ้า #รับประกันว่าแหกกฎนิยายรักทุกเรื่องที่เคยมีมา เพราะนอกจากมีปมสืบสวนฆาตกรรมให้ตามติดแล้ว พระเอกของเราสายทะเล้น ตื๊อนางเอก และ...เป็นวิญญาณ พระรองก็เป็นวิญญาณ ส่วนนางเอกเป็นหมอผ่าศพ!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 30฿ (รวมเป็น 359฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
ขณะเดียวกันนาฏกรรมที่ใครสักคนอุปโลกน์ขึ้น กำลังนำไปสู่การไขปริศนาของความตายที่บังเอิญเกี่ยวพันกับความฝันแสนประหลาดของขวัญอย่างจงใจ และยิ่งขยับเข้าไปใกล้ทุกขมวดของปมมากเท่าไหร่ บ่วงที่ฆาตกรวางไว้ก็กำลังรอต้อนรับด้วยความตายมากเท่านั้น!
“ผมจะต้องกลับเข้าร่างให้ได้เร็วที่สุด” นิธิศพูดด้วยความมุ่งมั่น และนั่นก็ทำให้ฉันสลัดเอาความหวาดกลัวทั้งหลายออกไปจากใจ
“เราจะช่วยกันค่ะ ฉันจะช่วยเป็นมือทั้งสองข้างให้คุณเอง”
“ถ้าคุณอยากช่วยเป็นมือให้ผมจริงๆ ช่วยตอนนี้เลยได้ไหม ทำอะไรให้ผมสักอย่างสิ”
“คะ?” ฉันมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“ถ้ามือของคุณคือตัวแทนของมือผม คุณก็ช่วยกอดตัวเองหน่อยได้ไหม กอดตัวเองไว้ แล้วผมจะปลอบใจคุณเอง”
**************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ขวัญของใจ" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนว Romantic Suspense มิควรพลาดจ้า #รับประกันว่าแหกกฎนิยายรักทุกเรื่องที่เคยมีมา เพราะนอกจากมีปมสืบสวนฆาตกรรมให้ตามติดแล้ว พระเอกของเราสายทะเล้น ตื๊อนางเอก และ...เป็นวิญญาณ พระรองก็เป็นวิญญาณ ส่วนนางเอกเป็นหมอผ่าศพ!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 30฿ (รวมเป็น 359฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
Tags: สืบสวน ฆาตกรรม วิญญาณ ทะเล้น หมอ พยาบาล น่ารัก สยอง
ตอน: บทที่ 10 อำพรางความจริง (100%)
คุณขวัญกลับออกจากบ้านผมเป็นเวลาบ่ายคล้อยเต็มที นอกจากจะชวนรับประทานอาหารแล้วแม่กับพ่อผมก็ยังชวนคุย แถมยังนั่งเผาเรื่องของผมด้วยการเอารูปตอนเด็กๆ มาอวดให้ดูสร้างเสียงหัวเราะกันไปทั้งบ้าน นับว่านี่เป็นกำลังใจที่ดีเหลือเกินกับการต่อสู้ในค่ำคืนนี้ของเราสองคน
“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าตอนเด็กๆ คุณซนขนาดนี้” คุณขวัญชวนคุยระหว่างที่เรานั่งรอสิตางค์อยู่ภายในห้องของโรงแรม
“ก็ขวัญเคยถามอะไรเกี่ยวกับผมบ้างล่ะ มีแต่ผมเนี่ยที่อยากรู้เรื่องของขวัญน่ะ”
“ฉันยังไม่รู้เรื่องตัวเองเลย” เธอตอบผมด้วยน้ำเสียงหม่นเศร้า
“ไม่เอาน่า ไว้ผมได้เข้าร่างเมื่อไหร่ ผมจะตามหาเรื่องของขวัญให้เอง ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ยังไงๆ ผมก็ไม่มีวันทิ้งขวัญหรอก”
“ขอบคุณมากนะคะนิธิศ”
“ไม่เอาๆ เราเป็นแฟนกันและสนิทกันมากแล้ว เรียกผมว่านิคเถอะ แล้วก็แทนตัวเองว่าขวัญด้วยนะ”
“คุณน่ะพูดเองเออเอง” หมอขวัญบอกโดยไม่ยอมสบตา สังเกตได้จากแก้มแดงๆ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังเขิน...มาก
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะเริ่มนับตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ ถ้าหากขวัญยังมาฉันๆ คุณๆ อีกล่ะก็เข้าร่างได้เมื่อไหร่ผมจะหอมหนึ่งที”
“เอ๊ะ! คุณนี่!” หมอขวัญถลึงตาใส่ และผมก็ได้ทีแกล้งเธอ
“นั่นๆๆๆ จงใจเรียกคุณแบบนี้แปลว่าอยากถูกเค้าหอมล่ะสิท่า”
“นิธิศ!”
“โอ๊ย! หอมสองทีแล้วนะ”
“คนบ้า!” พูดจบหมอขวัญก็สะบัดหน้าพรืดโดยมีผมนั่งขำในท่าทีน่ารักๆ ของเธอ แต่นาทีถัดมาเมื่อสิตางค์เปิดประตูเข้ามาในห้อง บรรยากาศหวานๆ ของเราก็แปรเปลี่ยนไปในทันที
“ว่ายังไงบ้างสิตางค์” คุณขวัญเอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น
“สิตางค์เข้าไปคุยกับนิจนันท์มาแล้วนะคะ กว่าจะแอบไปคุยกันได้นานมากเลยละค่ะเพราะนิจนันท์อยู่ฝ่ายศัลยกรรมประสาท ทำให้หมอณาวนๆ เวียนๆ อยู่แถวนั้น กว่าจะแอบหมอณาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเลย” พยาบาลสาวตอบพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างคุณหมอ
“แล้วนิจนันท์ว่ายังไงบ้าง”
“ตอนแรกก็โชคร้ายนิดนึงค่ะ เพราะคืนนี้ไม่ใช่เวรของนันท์ แต่ว่านันท์ไปขอแลกเวรกับเพื่อนมาแล้ว”
“เฮ้อ...แปลว่าทางสะดวกใช่ไหมสิตางค์” หมอขวัญถอนหายใจยาวก่อนจะถามต่อ
“ฉันสามารถเข้าไปเยี่ยมหมอกานต์ได้หรือเปล่า”
“เรื่องเข้าเยี่ยมหมอกานต์น่ะ นันท์จะจัดการให้ได้ค่ะ แต่เรื่องเข้าห้องผ่าศพนี่สิสิตางค์กับนันท์จะรออยู่หน้าห้องคอยดูต้นทาง แต่คุณหมอต้องเข้าไปในห้องนั้นเองนะคะ”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกสิตางค์ ขอบใจเธอมากเลยนะที่ช่วยเรา”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหมอ แต่สิตางค์แอบได้ยินหมอณาคุยกับหมอไพศาลถึงเรื่องของคุณหมอด้วยนะคะ” สิตางค์ขยับเข้ามาใกล้หมอขวัญอีกนิด แล้วทำท่ากระซิบกระซาบราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน ทั้งๆ ที่ในห้องมีเธอกับหมอขวัญนั่งกันอยู่แค่สองคน ในกรณีไม่นับรวมวิญญาณอย่างผมด้วยน่ะนะ
“หมอไพศาลนี่ใครกันจ๊ะ” คุณขวัญถามออกไป ส่วนผมนึกถึงคราวที่เคยแอบได้ยินหมอณาคุยโทรศัพท์กับอาจารย์หมอสักคนหนึ่งแล้วเอ่ยถึงคุณขวัญ หรือว่าบางทีหมอคนนั้นกับหมอไพศาลจะเป็นคนๆ เดียวกัน
“หมอไพศาลเป็นอาจารย์หมอศัลยกรรมประสาทที่เก่งมากๆ คนนึงเลยละค่ะ แกเป็นอาจารย์ที่หมอณาเคารพมากเพราะเคยรักษาคุณแม่ของหมอณาที่เคยเกือบเป็นอัมพาตจนหายดีเมื่อนานมาแล้ว”
“แล้วเขาคุยอะไรเกี่ยวกับฉันเหรอ”
“เรื่องการให้ยาน่ะค่ะ เหมือนว่าหมอณากับหมอไพศาลจะต้องให้ยาหมอขวัญเมื่อถึงเวลาจำเป็น และพูดถึงเรื่องศพ ศพอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ สิตางค์ก็ฟังไม่ถนัดเหมือนกัน”
“ศพ? ยา?” คุณขวัญหันมาหาผมด้วยแววตาเคลือบแคลงสงสัย
“ผมก็เคยได้ยินหมอณาคุยโทรศัพท์กับอาจารย์หมอเหมือนกัน และคิดว่าน่าจะเป็นคนๆ เดียวกันกับหมอไพศาลคนนี้ เกี่ยวกับการให้ยาขวัญ เมื่อถึงเวลาแบบเดียวกับที่สิตางค์บอกเลย”
“แล้วศพล่ะคะ คุณว่ามันจะเกี่ยวกับอะไร”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีหมอไพศาลคนนี้อาจจะมีอะไรซ่อนไว้...อะไรที่เรายังไม่รู้”
“คืนนี้เราจะรู้ค่ะ เพราะขวัญคิดว่าเขาต้องรู้จักขวัญดีแน่ๆ ส่วนพี่ณา...คนๆ นี้ก็น่าสงสัยเหมือนกัน”
“ตกลง ผมจะจัดการให้เอง” ผมให้คำมั่น
จากนั้นก็ให้หมอขวัญถามรูปพรรณสัณฐานของหมอไพศาลจากสิตางค์โดยละเอียด เพราะเพียงแค่ผมได้พบกับเขา ผมก็จะสามารถอ่านใจอาจารย์หมอคนนั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ตอนนี้จิกซอว์เพิ่มเข้ามาอีกสองชิ้นแล้ว จากที่ชิ้นแรกคือโรงพยาบาลชิษณุพงศ์ ชิ้นที่สองคือนิธาน และชิ้นที่สามกับสี่ก็คือหมอไพศาล และหมอณา ผมล่ะหวั่นใจว่าเราจะเจอชิ้นที่ห้าและหกเสียจริงๆ เพราะจิกซอว์ยิ่งมาก เราก็ยิ่งยากหากจะต้องปะติดปะต่อเรื่องราวที่มันขาดหายไป
“ผมว่าคุณควรนอนพักผ่อนนะขวัญ บางทีคืนนี้เราอาจจะต้องทำงานกันนาน ผมกลัวว่าคุณจะเพลีย”
“ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปนอนเอาแรงกันเถอะสิตางค์ คืนนี้ยังอีกยาวไกล” หมอขวัญหันไปชวนสิตางค์ที่มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดๆ ทุกครั้งที่เห็นหมอขวัญพูดกับลมกับอากาศ
“ได้ ได้ค่ะ สิตางค์ก็คิดว่าดีเหมือนกัน”
หลังจากนั้นหมอขวัญกับสิตางค์ก็พากันไปนอน ส่วนผมตั้งใจว่าจะเดินเข้าไปนั่งเฝ้าหมอขวัญหลับเหมือนทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้มีบางอย่างมาขัดขวางผมเอาไว้เสียก่อน
***************
“หมอไพศาล!!!!” เสียงตะโกนก้องของคนที่ผมคุ้นเคยดีดังขึ้น ก่อนที่หัวของมันจะปรากฏตรงหน้าผม
“แกรู้จักเขาเหรอ” ผมถามนิธานออกไป ทำไมเจ้านี่ถึงได้รู้อะไรที่ผมไม่รู้มากขนาดนี้นะ
“แกรู้อะไรเกี่ยวกับหมอไพศาล บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”
“หึๆ” ริมฝีปากบิดๆ เบี้ยวๆ ของนิธานแสยะยิ้ม แววตาที่เหลือแค่ข้างเดียวของมันฉายแววสาแก่ใจออกมา หัวที่ไร้ร่างส่ายไปมาช้าๆ เป็นภาพน่าสะพรึงกลัว
“แกรู้อะไรก็รีบๆ พูดมาเดี๋ยวนี้นัท ฉันไม่มีเวลามาเล่นสงครามประสาทกับแก”
“แกว่ามันจะสนุกเหรอ ถ้าเรื่องทุกอย่างเปิดเผยตอนนี้” นิธานย้อนถาม ความจงใจกวนประสาทของมันชักทำให้ผมหงุดหงิดมากขึ้นทุกที
“ไอ้นัท! ตอนนี้ฉันต้องการกลับเข้าร่าง และหาความจริงให้คุณขวัญหาศพของแก แกควรให้ความร่วมมือไม่ใช่มาทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิงมากขึ้นไปกว่าเดิม”
“หมอไพศาล...หมอไพศาล...หมอไพศาล...หมอไพศาล” นิธานเรียก ชื่อนี้ซ้ำๆ จนผมสงสัย
“หมอไพศาลทำไม แกรู้อะไรก็รีบๆ บอกมา”
“ไม่! แกจะต้องเจอแบบที่ฉันเจอ แล้วแกจะรู้เองว่ามันคืออะไร อย่าสนใจเรื่องอื่นเลยนิค หน้าที่ของแกน่ะแค่ตามหาร่างตัวเองให้เจอมันก็ยากมากพอแล้ว”
“แล้วแกรู้ไหมว่าร่างฉันอยู่ที่ไหน”
“เหอะ” นิธานสบถก่อนตวาดเสียงดัง
“ถ้าฉันรู้ฉันจะไล่นังนั่นกลับมาที่นี่รึไง! พวกแกนี่มันโง่กันจริงๆ”
“แกควรบอกทุกอย่างที่แกรู้มาให้ฉันฟังซะ แล้วแกก็ควรจะไปผุดไปเกิดเสียที”
“ไม่!!! ฉันยังไม่อยากตาย! ฉันยังไม่อยากตาย!!!!!”
เสียงตะโกนโหยหวนของนิธานดังจนผมต้องยกมือขึ้นปิดหู จากนั้นหัวของมันก็หายวับไปโดยที่ผมไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมเลย
โธ่เว้ย!!!! ทำไมมันไม่บอกอะไรผมเลยนะ!! ทั้งๆ ที่ผมก็รู้ว่ามันรู้ทุกอย่าง แต่ทำไมมันไม่ยอมพูด ไม่ยอมบอก นี่มันต้องการอะไรจากผมกันแน่! มันต้องการอะไร!!!
...สิ้นเสียงคำถามที่ก่อเกิดขึ้นในใจ เสียงคำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้จากนิธานก็ดังก้องขึ้นมา...
“ตามหาร่างกายแกให้เจอนิค...แกต้องตามหาร่างกายของแกให้เจอ!”
****************
บางครั้งทีมงานก็แอบรำคาญนิธานนนนนนน 555+ ฮีมีแผนอะไรรึเปล่าหนอ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าตอนเด็กๆ คุณซนขนาดนี้” คุณขวัญชวนคุยระหว่างที่เรานั่งรอสิตางค์อยู่ภายในห้องของโรงแรม
“ก็ขวัญเคยถามอะไรเกี่ยวกับผมบ้างล่ะ มีแต่ผมเนี่ยที่อยากรู้เรื่องของขวัญน่ะ”
“ฉันยังไม่รู้เรื่องตัวเองเลย” เธอตอบผมด้วยน้ำเสียงหม่นเศร้า
“ไม่เอาน่า ไว้ผมได้เข้าร่างเมื่อไหร่ ผมจะตามหาเรื่องของขวัญให้เอง ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ยังไงๆ ผมก็ไม่มีวันทิ้งขวัญหรอก”
“ขอบคุณมากนะคะนิธิศ”
“ไม่เอาๆ เราเป็นแฟนกันและสนิทกันมากแล้ว เรียกผมว่านิคเถอะ แล้วก็แทนตัวเองว่าขวัญด้วยนะ”
“คุณน่ะพูดเองเออเอง” หมอขวัญบอกโดยไม่ยอมสบตา สังเกตได้จากแก้มแดงๆ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังเขิน...มาก
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะเริ่มนับตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ ถ้าหากขวัญยังมาฉันๆ คุณๆ อีกล่ะก็เข้าร่างได้เมื่อไหร่ผมจะหอมหนึ่งที”
“เอ๊ะ! คุณนี่!” หมอขวัญถลึงตาใส่ และผมก็ได้ทีแกล้งเธอ
“นั่นๆๆๆ จงใจเรียกคุณแบบนี้แปลว่าอยากถูกเค้าหอมล่ะสิท่า”
“นิธิศ!”
“โอ๊ย! หอมสองทีแล้วนะ”
“คนบ้า!” พูดจบหมอขวัญก็สะบัดหน้าพรืดโดยมีผมนั่งขำในท่าทีน่ารักๆ ของเธอ แต่นาทีถัดมาเมื่อสิตางค์เปิดประตูเข้ามาในห้อง บรรยากาศหวานๆ ของเราก็แปรเปลี่ยนไปในทันที
“ว่ายังไงบ้างสิตางค์” คุณขวัญเอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น
“สิตางค์เข้าไปคุยกับนิจนันท์มาแล้วนะคะ กว่าจะแอบไปคุยกันได้นานมากเลยละค่ะเพราะนิจนันท์อยู่ฝ่ายศัลยกรรมประสาท ทำให้หมอณาวนๆ เวียนๆ อยู่แถวนั้น กว่าจะแอบหมอณาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเลย” พยาบาลสาวตอบพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างคุณหมอ
“แล้วนิจนันท์ว่ายังไงบ้าง”
“ตอนแรกก็โชคร้ายนิดนึงค่ะ เพราะคืนนี้ไม่ใช่เวรของนันท์ แต่ว่านันท์ไปขอแลกเวรกับเพื่อนมาแล้ว”
“เฮ้อ...แปลว่าทางสะดวกใช่ไหมสิตางค์” หมอขวัญถอนหายใจยาวก่อนจะถามต่อ
“ฉันสามารถเข้าไปเยี่ยมหมอกานต์ได้หรือเปล่า”
“เรื่องเข้าเยี่ยมหมอกานต์น่ะ นันท์จะจัดการให้ได้ค่ะ แต่เรื่องเข้าห้องผ่าศพนี่สิสิตางค์กับนันท์จะรออยู่หน้าห้องคอยดูต้นทาง แต่คุณหมอต้องเข้าไปในห้องนั้นเองนะคะ”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกสิตางค์ ขอบใจเธอมากเลยนะที่ช่วยเรา”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหมอ แต่สิตางค์แอบได้ยินหมอณาคุยกับหมอไพศาลถึงเรื่องของคุณหมอด้วยนะคะ” สิตางค์ขยับเข้ามาใกล้หมอขวัญอีกนิด แล้วทำท่ากระซิบกระซาบราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน ทั้งๆ ที่ในห้องมีเธอกับหมอขวัญนั่งกันอยู่แค่สองคน ในกรณีไม่นับรวมวิญญาณอย่างผมด้วยน่ะนะ
“หมอไพศาลนี่ใครกันจ๊ะ” คุณขวัญถามออกไป ส่วนผมนึกถึงคราวที่เคยแอบได้ยินหมอณาคุยโทรศัพท์กับอาจารย์หมอสักคนหนึ่งแล้วเอ่ยถึงคุณขวัญ หรือว่าบางทีหมอคนนั้นกับหมอไพศาลจะเป็นคนๆ เดียวกัน
“หมอไพศาลเป็นอาจารย์หมอศัลยกรรมประสาทที่เก่งมากๆ คนนึงเลยละค่ะ แกเป็นอาจารย์ที่หมอณาเคารพมากเพราะเคยรักษาคุณแม่ของหมอณาที่เคยเกือบเป็นอัมพาตจนหายดีเมื่อนานมาแล้ว”
“แล้วเขาคุยอะไรเกี่ยวกับฉันเหรอ”
“เรื่องการให้ยาน่ะค่ะ เหมือนว่าหมอณากับหมอไพศาลจะต้องให้ยาหมอขวัญเมื่อถึงเวลาจำเป็น และพูดถึงเรื่องศพ ศพอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ สิตางค์ก็ฟังไม่ถนัดเหมือนกัน”
“ศพ? ยา?” คุณขวัญหันมาหาผมด้วยแววตาเคลือบแคลงสงสัย
“ผมก็เคยได้ยินหมอณาคุยโทรศัพท์กับอาจารย์หมอเหมือนกัน และคิดว่าน่าจะเป็นคนๆ เดียวกันกับหมอไพศาลคนนี้ เกี่ยวกับการให้ยาขวัญ เมื่อถึงเวลาแบบเดียวกับที่สิตางค์บอกเลย”
“แล้วศพล่ะคะ คุณว่ามันจะเกี่ยวกับอะไร”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีหมอไพศาลคนนี้อาจจะมีอะไรซ่อนไว้...อะไรที่เรายังไม่รู้”
“คืนนี้เราจะรู้ค่ะ เพราะขวัญคิดว่าเขาต้องรู้จักขวัญดีแน่ๆ ส่วนพี่ณา...คนๆ นี้ก็น่าสงสัยเหมือนกัน”
“ตกลง ผมจะจัดการให้เอง” ผมให้คำมั่น
จากนั้นก็ให้หมอขวัญถามรูปพรรณสัณฐานของหมอไพศาลจากสิตางค์โดยละเอียด เพราะเพียงแค่ผมได้พบกับเขา ผมก็จะสามารถอ่านใจอาจารย์หมอคนนั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ตอนนี้จิกซอว์เพิ่มเข้ามาอีกสองชิ้นแล้ว จากที่ชิ้นแรกคือโรงพยาบาลชิษณุพงศ์ ชิ้นที่สองคือนิธาน และชิ้นที่สามกับสี่ก็คือหมอไพศาล และหมอณา ผมล่ะหวั่นใจว่าเราจะเจอชิ้นที่ห้าและหกเสียจริงๆ เพราะจิกซอว์ยิ่งมาก เราก็ยิ่งยากหากจะต้องปะติดปะต่อเรื่องราวที่มันขาดหายไป
“ผมว่าคุณควรนอนพักผ่อนนะขวัญ บางทีคืนนี้เราอาจจะต้องทำงานกันนาน ผมกลัวว่าคุณจะเพลีย”
“ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปนอนเอาแรงกันเถอะสิตางค์ คืนนี้ยังอีกยาวไกล” หมอขวัญหันไปชวนสิตางค์ที่มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดๆ ทุกครั้งที่เห็นหมอขวัญพูดกับลมกับอากาศ
“ได้ ได้ค่ะ สิตางค์ก็คิดว่าดีเหมือนกัน”
หลังจากนั้นหมอขวัญกับสิตางค์ก็พากันไปนอน ส่วนผมตั้งใจว่าจะเดินเข้าไปนั่งเฝ้าหมอขวัญหลับเหมือนทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้มีบางอย่างมาขัดขวางผมเอาไว้เสียก่อน
***************
“หมอไพศาล!!!!” เสียงตะโกนก้องของคนที่ผมคุ้นเคยดีดังขึ้น ก่อนที่หัวของมันจะปรากฏตรงหน้าผม
“แกรู้จักเขาเหรอ” ผมถามนิธานออกไป ทำไมเจ้านี่ถึงได้รู้อะไรที่ผมไม่รู้มากขนาดนี้นะ
“แกรู้อะไรเกี่ยวกับหมอไพศาล บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”
“หึๆ” ริมฝีปากบิดๆ เบี้ยวๆ ของนิธานแสยะยิ้ม แววตาที่เหลือแค่ข้างเดียวของมันฉายแววสาแก่ใจออกมา หัวที่ไร้ร่างส่ายไปมาช้าๆ เป็นภาพน่าสะพรึงกลัว
“แกรู้อะไรก็รีบๆ พูดมาเดี๋ยวนี้นัท ฉันไม่มีเวลามาเล่นสงครามประสาทกับแก”
“แกว่ามันจะสนุกเหรอ ถ้าเรื่องทุกอย่างเปิดเผยตอนนี้” นิธานย้อนถาม ความจงใจกวนประสาทของมันชักทำให้ผมหงุดหงิดมากขึ้นทุกที
“ไอ้นัท! ตอนนี้ฉันต้องการกลับเข้าร่าง และหาความจริงให้คุณขวัญหาศพของแก แกควรให้ความร่วมมือไม่ใช่มาทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิงมากขึ้นไปกว่าเดิม”
“หมอไพศาล...หมอไพศาล...หมอไพศาล...หมอไพศาล” นิธานเรียก ชื่อนี้ซ้ำๆ จนผมสงสัย
“หมอไพศาลทำไม แกรู้อะไรก็รีบๆ บอกมา”
“ไม่! แกจะต้องเจอแบบที่ฉันเจอ แล้วแกจะรู้เองว่ามันคืออะไร อย่าสนใจเรื่องอื่นเลยนิค หน้าที่ของแกน่ะแค่ตามหาร่างตัวเองให้เจอมันก็ยากมากพอแล้ว”
“แล้วแกรู้ไหมว่าร่างฉันอยู่ที่ไหน”
“เหอะ” นิธานสบถก่อนตวาดเสียงดัง
“ถ้าฉันรู้ฉันจะไล่นังนั่นกลับมาที่นี่รึไง! พวกแกนี่มันโง่กันจริงๆ”
“แกควรบอกทุกอย่างที่แกรู้มาให้ฉันฟังซะ แล้วแกก็ควรจะไปผุดไปเกิดเสียที”
“ไม่!!! ฉันยังไม่อยากตาย! ฉันยังไม่อยากตาย!!!!!”
เสียงตะโกนโหยหวนของนิธานดังจนผมต้องยกมือขึ้นปิดหู จากนั้นหัวของมันก็หายวับไปโดยที่ผมไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมเลย
โธ่เว้ย!!!! ทำไมมันไม่บอกอะไรผมเลยนะ!! ทั้งๆ ที่ผมก็รู้ว่ามันรู้ทุกอย่าง แต่ทำไมมันไม่ยอมพูด ไม่ยอมบอก นี่มันต้องการอะไรจากผมกันแน่! มันต้องการอะไร!!!
...สิ้นเสียงคำถามที่ก่อเกิดขึ้นในใจ เสียงคำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้จากนิธานก็ดังก้องขึ้นมา...
“ตามหาร่างกายแกให้เจอนิค...แกต้องตามหาร่างกายของแกให้เจอ!”
****************
บางครั้งทีมงานก็แอบรำคาญนิธานนนนนนน 555+ ฮีมีแผนอะไรรึเปล่าหนอ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 พ.ค. 2561, 19:06:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2561, 19:07:00 น.
จำนวนการเข้าชม : 629
<< บทที่ 10 อำพรางความจริง (70%) | บทที่ 11 เงื่อนปมถมจิตใจ (30%) >> |