+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์

นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้

นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้



+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา

โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก

ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว

แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ

สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน

ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D


ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ

สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ

ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน

ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555

Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน

ตอน: ตอนที่ 37

หลังเสร็จสิ้นงานสวดอภิธรรม บ้านปรเมศวร์เงียบสงัดจนแทบกลายเป็นป่าช้า จู่ ๆ วันนี้กลับมีผู้คนขวักไขว่ ทั้งยังมีรถตำรวจจอดตรงทางเข้า สาวัชกลับมาทันตอนเริ่มพอดี เขาเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ว่างที่ริสาชี้เงียบ ๆ ครั้นทุกคนพร้อมแล้ว สุรสีห์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งเป็นสหายรุ่นน้องของธนาก็เข้าเรื่อง

“จากการชันสูตรพลิกศพ สอบสวนและสืบพยาน ตำรวจยืนยันได้แล้วว่าคุณธนาไม่ได้เสียชีวิตจากเหตุธรรมชาติ แต่ถูกฆาตกรรมด้วยการวางยาครับ”

บรรยากาศในห้องอื้ออึง ทุกคนเหลียวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“ใครฆ่าเสี่ย” สาวิตรีสีหน้าเจ็บปวด เสียงปนสะอื้น “ทำไมมันต้องฆ่าเสี่ยคะ”

“ตำรวจพบขวดยาฆ่าหญ้าและนำไปตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแล้ว พบว่าลายนิ้วมือบนขวดเป็นของ...” สุรสีห์กวาดตามองสมาชิกบ้านปรเมศวร์ทีละคน ก่อนไปหยุดสายตาที่ภรรยาตามทะเบียนของธนา “คุณดารณีครับ”

ความเงียบคืบคลานเข้ามาห่มคลุมทั้งห้อง กระทั่งปุยสำลีตกลงพื้นก็คงทำให้ทุกคนสะดุ้ง คนแรกที่ได้สติคือสาวิตรี นางกระโจนพรวดเดียวเข้าไปฟาดสองมือใส่ดารณีไม่ยั้ง กรีดร้องโวยวายด้วยน้ำตานองหน้า

“อีคนใจร้าย แค่เขาไม่รักมึง มึงต้องฆ่าเขาเลยเหรอ มึงฆ่าผัวกูทำไม”

ดารณีเสียหลักหงายลงไปบนโซฟา สาวิตรีถลันไปนั่งคร่อมผลักอีกฝ่ายแล้วทั้งจิกข่วนและตบตี สาวัชพุ่งเข้าทางด้านหลังมารดาล็อกหัวไหล่ดึงนางออกห่าง แต่สาวใหญ่ก็ดิ้นสุดแรงจนแทบรั้งไม่อยู่ ชายหนุ่มยึดตัวสาวิตรีไว้มั่นขณะก้มศีรษะขอลุแก่โทษจากทุกคนรอบห้อง

วัชระประคองดารณีให้ลุกขึ้นนั่ง ผมนางยุ่งเหยิง หน้าแดงไปซีกหนึ่ง เสื้อผ้ายับเยิน ตามตัวมีรอยขีดข่วนบางแนวมีเลือดซิบ แม้อยู่ในสารรูปนั้น แต่นางยังเบ้ปากปรายตาไปทางภรรยาน้อย คำรามในคออย่างดูแคลน

“ชั้นต่ำ! โสโครก! ”

ริสาเห็นจากหางตาว่าสาวิตรียังคงตะกายจากอ้อมแขนลูกชาย ดวงตาคู่นั้นมีทั้งความเคียดแค้นและกระหยิ่มสะใจปะปนกันจนแยกไม่ออก

“สาวัชพาแม่กลับไปที่ตึกเล็กก่อน” สิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการก็คือคนซ้ำเติม

น้องชายต่างมารดารับคำแล้วทั้งลากทั้งดึงสาวิตรีออกจากห้องรับแขก เมื่อประตูงับสนิทแล้ว ดารณีจึงยืดตัวตรง เตือนสุรสีห์ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “คุณเสือล้อเล่นแบบนี้ ซ้อไม่ขำนะคะ”

ริสาบีบมือแม่เบา ๆ “ใจเย็นค่ะหม่าม้า เรารอให้อาเสือพูดจบก่อนดีไหมคะ”

“ผมไม่ได้สงสัยซ้อครับ” สุรสีห์ยังคงเรียกขานดารณีเพื่อแสดงความนับถืออีกฝ่ายว่าเป็นภรรยาของพี่ชาย “แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน หลักฐานทั้งหมดอธิบายตัวมันเองแบบนี้ ผมมีหน้าที่ต้องทำตามกฎหมาย”

“คุณกำลังหมิ่นประมาทฉัน! ” ดารณีเปลี่ยนน้ำเสียงและสีหน้าเป็นเกรี้ยวกราด สรรพนามห่างเหินบอกอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นชัดเจน

“ผมยังไม่ได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับ แต่อยากจะขอเชิญซ้อไปให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะผู้ต้องสงสัยข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” แม้เป็นคนรู้จักสนิทสนม ทว่าเขาก็ทำได้แค่ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ดารณีตัวสั่นเทาโกรธจัด “บ้าใหญ่แล้ว ฉันจะฆ่าสามีตัวเองทำไม”

วัชระกระสับกระส่าย ดวงหน้าเผือดซีด แต่ยังเอ่ยเสียงแข็ง “ผมไม่ยอมให้อาเสือจับแม่เด็ดขาด”

“ฮกไม่ต้องยุ่ง เรื่องนี้หม่าม้าจัดการเอง” นางตบมือบุตรชายปลอบโยน เผชิญหน้ากับสุรสีห์อย่างมาดมั่น “ถ้าพิสูจน์แล้วว่าฉันไม่ผิด ฉันฟ้องกลับแน่”

ด้วยประสบการณ์ที่ต้องใกล้ชิดกับคนร้ายมาแล้วนับไม่ถ้วน สุรสีห์แทบไม่ต้องสังเกตสีหน้าและปฏิกิริยาของดารณีเลย เขามั่นใจว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำ แต่ยาฆ่าหญ้าขวดเดียวที่พบในรั้วบ้านปรเมศวร์มีรอยนิ้วมือของดารณีชัดเจนที่สุด ในเมื่อหลักฐานทั้งหมดชี้ชัดไปที่เธอ แล้วจะให้เข้าใจเป็นอื่นได้อย่างไร

“ถ้าคุณดารณีมั่นใจว่าไม่ได้ทำ ก็ต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณเอง” สุรสีห์เห็นใจสาวใหญ่ เขารู้จักธนามาตั้งแต่ตัวเองยังรุ่นหนุ่ม ไปมาหาสู่กันตลอด มีหรือจะไม่รู้เห็นว่าดารณีรักธนามากแค่ไหน

รัก...จนยอมใช้ทุกวิถีทางรั้งเขาไว้ข้างกาย

รั้งไว้...ทั้งที่ได้ครอบครองแค่ตัว แต่ไม่เคยได้หัวใจเลย!

อดีตเจ้าของปรเมศวร์เทรดดิ้งมักเอ่ยถึง ‘บ้านเล็ก’ ด้วยน้ำเสียงรักใคร่ ขนาดเขาเป็นคนนอกยังรู้ว่าธนารักสาวิตรี แล้วดารณีมองอยู่ทุกวัน มีหรือจะไม่ทราบ กระนั้นดารณีกลับไม่ยอมปล่อยมือ นางรั้งสามีไว้ด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าสักวันจะได้รับความรักตอบแทน แต่วันเวลาที่หวังไว้กลับไม่เคยมาถึงเลยตลอดชีวิต

เขาไม่แน่ใจนักว่าความรักของดารณีนั้นมากพอที่จะก้าวข้ามขีดสุดของความอดทนไปหรือเปล่า เพราะบางครั้งรักที่สุดกับเกลียดที่สุดก็ห่างกันแค่เส้นคั่นบาง ๆ ความรักที่ไม่เคยได้รับอะไรกลับคืนอาจเปลี่ยนเป็นชิงชังได้เช่นกัน

สุรสีห์หันไปให้สัญญาณเจ้าพนักงาน ผู้ใต้บังคับบัญชาปลดกุญแจมือจากซองที่เข็มขัดตรงเข้าไปหาดารณี

ริสารีบขวางไว้ “ไม่ต้องใส่กุญแจเหมือนอาชญากรหรอกค่ะ พรุ่งนี้หยงจะแต่งตั้งทนายเดินทางไปสถานีตำรวจพร้อมหม่าม้า อาเสือเชื่อใจพวกเราได้”

“ขอโทษนะหยง แต่นี่เป็นคดีอาญาแผ่นดิน คนของอาต้องทำตามหน้าที่”

ดารณียกมือขึ้นปราม “ฉันขอคุยกับลูกเป็นการส่วนตัวสักครู่ได้ไหมคะ”

สุรสีห์นึกชื่นชมที่ดารณีควบคุมสติได้จนน่าทึ่ง เขาพยักหน้าอนุญาต ให้หน้าลูกน้อง แล้วนำผู้ใต้บังคับบัญชาออกจากห้อง นานพอดูกว่าประตูจะเปิดออก คุณนายใหญ่แห่งปรเมศวร์เทรดดิ้งตรงมาหาเขา “ไปกันได้แล้วค่ะ”

สุรสีห์ปรามลูกน้องด้วยสายตาให้เก็บกุญแจมือ เขาผายมือให้สตรีที่นับถือดุจพี่สะใภ้นำไปที่รถตำรวจซึ่งจอดรออยู่หน้าบ้านโดยไม่เอ่ยสิ่งใดต่อกันอีกเลย



เมื่อสุรสีห์พาตัวมารดาจากไปแล้ว ริสาจึงโทร.สั่งการธนภูมิ โดยลงท้ายด้วยการกำชับ “ต้องจ่ายต้องทำอะไรก็ช่าง ยังไงวันนี้คุณต้องพาหม่าม้ากลับบ้านให้ได้”

“ผมจะจัดการตามที่คุณสั่ง เรียบร้อยแล้วจะโทร.มาแจ้งนะครับ”

ริสาวางสายแล้วหันมาทางน้องชาย จึงพบว่าวัชระยกเท้าขึ้นวางพาดบนโต๊ะรับแขก เอนพิงโซฟาด้วยท่วงท่าน่าหมั่นไส้ น้ำเสียงที่เอ่ยประโยคถัดมามีร่องรอยสะใจสมใจ “เรื่องที่หม่าม้าพูดเมื่อกี้ เจ้คิดว่ายังไง”

หญิงสาวถอนใจ นึกถึงบทสนทนาที่มารดาบอกเธอและน้องชายเมื่อครู่

‘นังนั่นเป็นคนฆ่าเตี่ยแน่นอน นังสาวิตรีมันป้ายสีหม่าม้า’

‘ทำไมหม่าม้ามั่นใจว่าเป็นคุณสาคะ ถึงยังไงเตี่ยก็เป็นพ่อของลูกเขา’

‘เพราะสาวัชไม่ใช่ลูกของเตี่ย! มันคบชู้’ ดารณีประกาศสีหน้าผยองอหังการ

ริสาอ้าปากค้าง วัชระซึ่งมีท่าทางประหม่าตัวสั่นตลอดตั้งแต่รู้ว่าดารณีจะถูกจับกุมก็เปลี่ยนเป็นนั่งนิ่งตัวแข็ง

‘เรื่องแบบนี้เราพูดพล่อย ๆ อ้างลอย ๆ ไม่ได้นะคะหม่าม้า ใครได้ยินเข้า...’

‘ตอนหม่าม้าท้องฮก หม่าม้าเอายาจีนผสมอาหารให้เตี่ยลื้อกินทุกวัน’ แววตาดารณีเหี้ยมเกรียมบอกความสะใจ ‘ยาจีนที่ทำให้คนกินเป็นหมันน่ะ! ’

ริสาเหลียวไปสบตาน้องชายดุจไม่เชื่อหูตัวเอง

‘เตี่ยลื้อมีลูกอีกไม่ได้ แต่นังสาวิตรีก็ยังท้อง พวกลื้อสองคนคิดว่ายังไงล่ะ’

‘หม่าม้าแน่ใจหรือครับว่ายานั่นกินแล้วจะเป็นหมันจริง ๆ น่ะ’ วัชระหัวเราะเสียงดังราวกับฟ้าผ่าจนริสาอยากตีสักแปะ โทษฐานที่น้องช่างไม่ดูกาลเทศะเลย!

‘นังหลกท่งนั่นมีชู้ เตี่ยลื้อไม่รู้หรอก แต่หม่าม้าน่ะรู้ดีเพราะเวลามันออกไปข้างนอก ม้าส่งคนตามมันไปตลอด’

‘แล้วทำไมหม่าม้าไม่บอกเตี่ย’ ริสาตั้งข้อสงสัย

‘เตี่ยลื้อหลงนังนั่นจะตาย ขืนบอกไปจะกลายเป็นว่าม้าอิจฉาใส่ความมันน่ะสิ ม้าพยายามหาหลักฐานจะเอามายันให้เตี่ยดู แต่มันไหวตัวก่อน น่าเจ็บใจนัก!’

ริสาทิ้งตัวพิงโซฟาอย่างหมดแรง เรื่องที่เคยคิดว่าเลวร้าย ที่แท้แล้วยังแย่กว่านั้นได้อีก ตอนนี้แค่ปิดข่าวธนาถูกฆาตกรรมโดยมีดารณีเป็นผู้ต้องสงสัยก็เหนื่อยแล้ว หากเรื่องที่สาวัช ‘อาจ’ ไม่ใช่ลูกชายของธนาซ้ำลงมาอีก ครอบครัวเธอคงกลายเป็นตัวตลก เป็นหัวข้อสนทนาในทุกร้านกาแฟแน่นอน

“ถ้าอยากรู้เรื่องนี้ก็คงต้องขอให้นิติเวชตรวจว่าเตี่ยเป็นหมันหรือเปล่า ซึ่งก็คงต้องบอกเหตุผลไปด้วยว่าทำไมเราถึงขอตรวจ ทางเดียวที่จะรู้ว่าหม่าม้าพูดจริงไหมก็คือต้องให้สาวัชตรวจดีเอ็นเอ แต่เรามีเรื่องต้องจัดการมากพอละ ไว้มาคุยเรื่องนี้กันอีกทีตอนปิดคดีแล้วดีกว่า ถือว่าเจ้ขอละกัน”

“แต่ว่า...”

“การที่สาวัชจะเป็นลูกเตี่ยหรือเปล่า ไม่เกี่ยวกับหลักฐานที่คนร้ายใช้วางยาเตี่ย อย่าเพิ่งขุดคุยมันตอนนี้เลย”

วัชระหน้าม่อย กระแทกตัวกับเก้าอี้อย่างน้อยใจ “ก็ได้! ผมจะทำตามที่เจ้สั่ง”

ริสายิ้มนิด ๆ “ขอบใจมาก เจ้ภูมิใจในตัวเธอนะฮก เธอไม่เคยทำให้เจ้ผิดหวังเลยสักครั้ง”



‘อิงบังเอิญทราบมาว่าบ้านคุณสาวัชมีเรื่องยุ่ง ๆ อยู่ หวังว่าคุณจะโอเคนะคะ’

สาวัชอ่านข้อความในแชทไลน์แล้วถอนหายใจ นึกสงสัยว่าเขาจะมีวัน ‘โอเค’ จริงหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้นเหตุหนึ่งแห่งอาการ ‘ไม่โอเค’ ของเขา ยังเพียรส่งข้อความมาหาเช่นนี้!

ชายหนุ่มวางโทรศัพท์โดยไม่ตอบกลับ เหลือบมองสาวิตรีซึ่งนั่งดูละครดุจไม่รู้สึกรู้สาถึงบรรยากาศอึมครึมในรั้วบ้าน เขาเป่าลมพรูด้วยความอึดอัด ไม่กล้าถามตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร ละอายใจ โล่งใจ หรือเศร้าใจ

อาจเพราะอิงอรุณเคยเตือนว่าเขายังมีแม่ อย่าทำผิดซ้ำสองในเรื่องเดิมอีก แม้ไม่เคยสนิทสนมกับสาวิตรี แต่ชายหนุ่มก็ฝืนไปยืนหน้ามารดา “ผมเข้าใจว่าแม่กำลังพยายามกลบเกลื่อนความทุกข์ ก็เลยต้องแกล้งทำเป็นมีความสุข แต่เด็กในบ้านคงไม่เข้าใจ และอาจเอาแม่ไปพูดถึงในทางไม่ดีนะครับ”

“ทุกข์ที่ไหน แม่กำลังมีความสุขมาก ๆ ต่างหาก อีคุณนายใหญ่ใจร้ายมันฆ่าผู้ชายที่ตัวเองรักได้ลงคอ คนใจยักษ์อย่างนั้นตายไปก็ต้องตกนรก ได้เกิดอีกกี่ชาติก็ไม่มีใครรักมันลงหรอก มันจะต้องรับกรรมให้สาสม เชอะ! ทำเป็นธรรมะธัมโม ปฏิบัติธรรม ถือศีล แต่ใจมันดำยิ่งกว่าอีกาซะอีก”

“ผมว่าน่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า คุณนายใหญ่คงไม่ทำแบบนั้น อีกไม่นานตำรวจต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของคุณนายใหญ่พบ”

“เทิดทูนบูชาขนาดนั้น ก็ไปเรียกมันว่าแม่เลยสิ” สาวิตรีสะบัดเสียงไร้เยื่อใย นับจากตำรวจประกาศว่าดารณีเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม บางครั้งสาวิตรีก็เอาความร้ายกาจดุจเดิมมาแทนที่เพื่อลืมความเศร้าจากการสูญเสียชั่วคราว

“แม่อย่าพูดถึงคุณนายใหญ่อย่างนั้นเลย เห็นใจคุณหยงกับคุณฮกบ้าง”

“ต้องสมน้ำหน้ามันต่างหาก เพราะพวกมันทำให้เตี่ยของวัชตาย โถ...เสี่ย ไม่น่าเลย” ตอนท้ายนางคร่ำครวญ น้ำตาร่วงรินราวกับเปิดสวิตช์

สาวัชถอนใจ สิ่งที่สาวิตรีปฏิบัติกับบ้านใหญ่ตลอดเกือบสี่สิบปี ทำให้เขาคิดว่าแม่เป็นผู้หญิงร้ายกาจ การแสดงความรักต่อธนาส่วนใหญ่ก็เป็นไปเพื่ออวดคนบนตึกให้กระอักเลือดริษยาเท่านั้น แต่เพิ่งรู้ว่าในยามที่มีเขาเป็นผู้ชมเพียงคนเดียว แม่ก็ยังคงสวมบทภรรยาผู้รักและเทิดทูนสามีไว้เหนียวแน่นไม่หลุดเลยสักฉาก

บางแวบคราเขาคิดว่า ‘ความรัก’ ที่มีต่อธนาคงเป็นแง่มุมเดียวที่แม่แสดงออกได้แนบเนียนที่สุด

คำบริภาษที่ท่านเอ่ยถึงคนบ้านใหญ่ทำให้สาวัชบิดริมฝีปากสมเพชตัวเอง ทั้งยังก่นด่าตัวเองในใจซ้ำ ๆ

แม่ไม่เคยเปลี่ยนและไม่มีวันเปลี่ยน เลิกหวังปาฏิหาริย์ให้เขามีแม่แสนดีเหมือนคนอื่นได้แล้ว ตื่นเสียที สาวัช!


------------------------------------

พยศดอกฟ้ามีขายทั้งฉบับหนังสือและอีบุ๊ค

จำนวน 600 หน้า ราคา 450 บาท ค่าส่ง 30 บาท



สั่งซื้อหนังสือกับสิริณ https://goo.gl/HA1QWz
หรือซื้อจากร้านร้านนิยายรัก https://goo.gl/uPTdCs


E-book

mebmarket > https://goo.gl/o9FXn6

ookbee > https://goo.gl/rf274b

Hytexts > https://goo.gl/KcekzB








สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มิ.ย. 2561, 21:49:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 มิ.ย. 2561, 21:49:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 660





<< ตอนที่ 36   ตอนที่ 38 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account