กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๙ แค่คำพูด -จบตอน-

จิรสินถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ เขาเอนพิงพนักเบาะและหลับตาลง เสียงฝนตกกระทบกระจกดังไม่หยุดหย่อน

เกือบห้าทุ่มที่นั่งอยู่อย่างนั้น

ใจหนึ่งอยากเข้าไปหาศศิพิมพ์ แต่อีกใจก็รู้ว่ามันไม่เหมาะ

ศศิพิมพ์บิดตัวไปมาเมื่อเห็นว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ฝนยังไม่หยุดและทำท่าว่าจะตกทั้งคืน เธอลุกขึ้นเดินไปที่ประตูกระจกหน้าบ้านตั้งใจจะเลื่อนผ้าม่านปิดและขึ้นไปนอน จังหวะที่เดินไปถึงฟ้าแลบเป็นสาย ทำให้มองเห็นรถสีดำที่จอดสนิทนิ่ง รถคันนี้เธอจำได้ จำไม่ผิด หญิงสาวเดินไปหยิบร่มในครัวปลดล็อคและเลื่อนประตูกระจกเปิด

“พี่สินคะ” เธอเคาะเบาๆ ที่กระจกหน้าต่างรถเมื่อเดินไปถึง ดูเหมือนเขาจะหลับจึงต้องเคาะอีกที คราวนี้เขาลืมตามองมาเหลอหลา หญิงสาวถอยห่างเพื่อให้เขาเปิดประตูออกมาได้ ขณะที่ยกร่มขึ้นสูง

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วทำไมไม่เข้าบ้าน”

“เอ่อ” ชายหนุ่มชักเก้อที่ถูกจับได้ “มาหาพิมพ์แต่เห็นทำงานอยู่เลยไม่อยากกวน”

ฟังแล้วก็อดขำไม่ได้ “เข้าบ้านไหมคะหรือจะกลับเลย”

“พี่ว่าจะกลับแล้วค่ะ พิมพ์กลับเข้าบ้านเถอะ”

เธอพยักหน้ารับ รอให้เขาเข้าไปในรถก่อนเพราะกลัวว่าเขาจะเปียกแล้วไม่สบาย ระหว่างนั้นมีมอเตอร์ไซด์ขี่สวนเข้ามา คนขี่สวมเสื้อกันฝนและจอดลงเมื่อมาถึง

“มีอะไรกันหรือเปล่าหนูพิมพ์”

“ไม่มีค่ะ พอดีพี่เขาจะกลับแล้วพิมพ์เลยออกมาส่ง”

“อ้อ แต่เอ... คงเอารถออกไปไม่ได้หรอก นู้นแน่ะตอนน้าเข้ามาที่หน้าบ้านคุณจำเนียรน่ะมีรถเสีย สงสัยจะคนมาอยู่ใหม่ถอยยังไงไม่รู้ล้อหน้าตกลงไปในท่อระบายน้ำ กว่าช่างจะมาคงพรุ่งนี้เช้าเลยน่ะแหละ คงต้องเดินออกไป อาไปละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”

ศศิพิมพ์ส่งยิ้มให้ ก่อนถามคนตัวโต

“คงต้องกลับแท็กซี่ค่ะ เดี๋ยวพิมพ์เอามอเตอร์ไซด์ออกไปส่ง”

“ดึกแล้วนะ” เขาแย้ง “พี่เดินกลับออกไปได้”

“ไกลมากนะคะนั่น ฝนตกแบบนี้อีกลำบากแย่”

ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเอายังไงกัน ไฟที่ชั้นสองก็เปิดขึ้น ระเบียงห้องนอนด้านซ้ายถูกผลักเปิดออกมา และสริพรก็ฉายไฟมายังที่ลูกสาวยืนอยู่ “มีอะไรกันพิมพ์ อ้าวนั่นใครมาเสียดึกดื่น แล้วทำไมไปยืนคุยกันกลางฝนแบบนั้นล่ะลูก”

“พี่สินค่ะ แต่เอารถออกไม่ได้มีรถขวางที่หน้าปากซอย”

“เข้ามาคุยกันในบ้านนี่ลูก เดี๋ยวไม่สบาย”

นั่นคือคำสั่งและประตูระเบียงก็ปิดไป ศศิพิมพ์หันมามองเขาและจิรสินก็ออกมาจากรถยนต์อีกครั้ง เขาปิดประตูจัดแจงล็อกให้เรียบร้อยแล้วเดินคู่กันเข้าไปในตัวบ้าน

มารดาของศศิพิมพ์รออยู่ก่อนแล้ว สริพรนำผ้าขนหนูลงมาด้วย เธออยู่คุยกับว่าที่ลูกเขยครู่เดียวและขอตัวกลับขึ้นไปนอน หลังสำทับให้ศศิพิมพ์เตรียมที่หลับที่นอนให้อีกฝ่าย เพราะกลัวว่าหากกลับบ้านไปตอนนี้จะอันตราย ไหนจะคนดักจี้ปล้น ไหนจะอุบัติเหตุ

จิรสินโทรศัพท์หาที่บ้าน และหายเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำชั้นล่าง ไม่นานก็กลับออกมา ศศิพิมพ์นำผ้านวมกับหมอนมาให้เขาแล้ว คืนนี้โซฟากว้างและยาวมากพอที่เขาจะใช้เป็นเตียงนอนได้สบาย

เขาทรุดลงนั่งและเธอก็ยื่นผ้าขนหนูผืนใหม่ส่งให้

“ผมยังไม่แห้งเลยค่ะ เดี๋ยวไม่สบาย”

“เป็นห่วงเหรอคะ” เขาแหย่ยิ้มๆ

“กลัวติดหวัดค่ะ”

จิรสินหัวเราะขึ้นเบาๆ และรับมาเช็ดแต่โดยดี ชั่วระยะนั้นเราไม่ได้พูดอะไรกันอีก เสียงที่ได้ยินมีแค่เสียงเม็ดฝนตกกระทบ และเสียงหายใจของเรา นานทีเดียวกว่าเขาจะเอ่ยขึ้น

“พี่...” เขาเงียบไปอีก “มาหา แต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี” เขาละมือข้างหนึ่งเอื้อมมาคว้ามือเธอไปกุมไว้ “มันแค่อยากมา”

ศศิพิมพ์ผ่อนลมหายใจ

“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ” เธอเอื้อมมืออีกข้างไปกุมมือเขาแล้วตีลงที่หลังมือใหญ่เบาๆ “ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าพูดแล้วสบายใจพิมพ์ว่าน่าจะพูดดีกว่านะ อย่างน้อยก็ได้ระบาย”

จิรสินมองเธอนิ่งๆ และก็ตัดสินใจได้

“ที่พี่เคยเล่าว่าเกือบจะแต่งงาน”

ศศิพิมพ์พยักหน้ารับแสดงว่าจำได้

“เขา... พี่เจอเขาเมื่อตอนงานเลี้ยงรุ่น แล้วก็คุยกันอัพเดตชีวิตที่ผ่านมา”

หญิงสาวนิ่งไป เธอหลุบมองมือที่กุมกันไว้

“พิมพ์ยังยืนยันนะคะ ถ้าพี่สิน--”

“ไม่!” เขาปฏิเสธทันควัน “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ พี่แค่อยากให้พิมพ์รู้ เราเป็นได้แค่เพื่อนกันจริงๆ แค่ชีวิตเขาน่าสงสารเพราะมันไม่เหมือนที่เขาคิดไว้ ถ้าพี่อยากช่วยเขาบ้าง พิมพ์จะว่าอะไรไหมคะ”

“พิมพ์จะว่าอะไรคะ” หญิงสาวมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย “เพราะถ้าพิมพ์เป็นพี่สินพิมพ์ก็จะทำ”

จิรสินโล่งอกเหมือนได้ยกภูเขาออกไป

“ไม่โกรธ”

“พูดตรงๆ นะคะ พิมพ์ไม่รู้จะโกรธทำไม พิมพ์คิดว่าพิมพ์เข้าใจว่าพี่สินรู้สึกยังไง มันก็คงไม่ต่างจากพิมพ์เวลาเจอพี่ณันหรอกค่ะ เราไม่ได้อยากแย่งเขามาก็แค่อยากเห็นเขามีความสุข”

ชายหนุ่มนิ่งฟัง

“อีกอย่าง... เราไม่ได้รักกัน” หัวใจเขาถึงกับกระตุกเมื่อได้ยิน

คำว่าไม่รักที่คราวนี้ทรงอิทธิพลมันส่งผลให้ทั้งตัวชาวาบ

“ความรู้สึกนี้มันเพิ่งเริ่ม พิมพ์ยังไม่รู้เลยว่ามันจะพัฒนาไปถึงไหน มันอาจหยุดแค่ตรงนี้แค่รู้สึกดีที่จะมีใครคอยฟัง หรือมีใครสักคนอยู่ใกล้ๆ ในเวลาที่เราไม่มีใคร”

หญิงสาวตีเบาๆ ที่หลังมือของเขา

“เราเป็นเพื่อนกันค่ะพี่สิน เพื่อนที่จะพูดกันตรงๆ” หญิงสาวค่อยๆ ดึงมือออกจากมือเขา จิรสินเพิ่งรู้สึกใจหายวาบก็ครั้งนี้ “พี่สินอย่าคิดมากเลยค่ะ พิมพ์ยืนยันนะคะ ถ้าพี่สินต้องการ พิมพ์พร้อมที่จะพูดเรื่องนี้กับผู้ใหญ่เองว่าระหว่างเราไม่มีปัญหาอะไร มันก็แค่เรารู้ว่าใจเราต้องการอะไรแล้วมากกว่า”

เธอขยับลุกขึ้นยืนส่งยิ้มให้เขาอีกคำรบ

“พี่สินไม่ต้องห่วงหรือกลัวว่าพิมพ์จะรู้สึกยังไง เพราะพิมพ์เข้าใจ หัวใจคนมันบังคับกันไม่ได้ค่ะ ยิ่งคนสำคัญ” เธอยิ้มมากขึ้น “เราไม่มีทางลืมจากหัวใจได้แน่นอน”

ศศิพิมพ์สูดลมหายใจเข้าลึก

“ฝันดีนะคะ พิมพ์ก็จะขึ้นไปนอนแล้วเหมือนกัน” พูดเท่านั้นเธอก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดจากมา ใจมันว่างโหวงอย่างที่รู้สึกได้ชัดเจน นับแต่ได้ยินว่าเขา... เหตุใดเขาจึงได้ดูทุกข์ใจ

หญิงสาวผ่อนลมหายใจ รู้สึกเหมือนน้ำตากำลังจะไหล เพราะเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่า ได้เผลอรู้สึกกับเขามากไปกว่าที่คิดไว้แล้วจริงๆ




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 มิ.ย. 2561, 21:13:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 มิ.ย. 2561, 21:13:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 680





<< ๙ แค่คำพูด (75%)   ๑๐ พันธะสัญญา (25%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account