กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๒ แผนหนึ่ง (75%)

“พี่จันทร์เป็นยังไงบ้างคะ เมื่อคืนดูพี่เขาเศร้าๆ”

“ก็ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ค่ะ คงยังกังวลเรื่องแฟนเขาอยู่”

ฟังแล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจ เธอเงยมองคนข้างตัวแต่เขาก็ยังเป็นเขา ไม่มีสิ่งใดผิดแปลกไป เธออดคิดไม่ได้ว่าหากใจเขาต้องการ...

“พี่ยืนยันว่ากับจันทร์เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”

เธอกะพริบตาจะเบือนหน้าหลบแต่เขายื่นมือมาแตะคางเธอ บังคับให้มองสบตากันอยู่แบบนั้น

“เชื่อพี่ไหมคะ”

เธอยิ้ม “แล้วมีใครอยู่บ้านหลังเล็กเป็นเพื่อนพี่จันทร์ไหมคะ น่ากลัวเวลาเดิน ถ้าเกิดล้มไปกว่าจะมีใครเห็น”

จิรสินระบายลมหายใจ เมื่อไม่ต้องการตอบไม่มีใครทำให้เธอพูดได้ ถึงว่าแม่ยายเขาถึงได้บอกเป็นนัยๆ ว่าลูกสาวดื้อไม่เป็นรองใคร และอาจเป็นผลมาจากการที่เขายอมให้เธอจับทัพพีตอนตักบาตรเช้าเหนือมือเขาก็เป็นได้ เขาถึงได้บังคับเธอไม่ลง!

“จันทร์ให้คนมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ เป็นคนในซอยนี่แหละ”

“ไว้ใจได้ไหมคะ” ศศิพิมพ์ยังห่วง

“ได้ค่ะ คนรู้จักของพี่เอง”

เธอร้องอ๋อ แล้วผิดสังเกตเมื่อพบว่าเขาขยับมานั่งเบียด หญิงสาวจะเขยิบออกห่างแต่ก็ถูกโอบเอวไว้ ท่านั่งของเขาดูเมื่อยมากเมื่อเขาเอนศีรษะมาพิงไหล่เธอ ชายหนุ่มหลับตาลง

“อากาศดีจัง เรานั่งกันอยู่นี่สักพักนะ”

ศศิพิมพ์ยิ้มเขิน เธอไม่ได้ขยับหนี และมือของเขาที่โอบเอวของเธอก็เกาะกอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเช่นกัน



สามวันที่อยู่บ้านของเขาศศิพิมพ์ไม่ได้แตะงานแม้แต่นิดเดียว วันแรกเราสองคนไม่ได้ไปไหนอยู่กันที่บ้านนั่นเอง ส่วนวันที่สองเขาชวนเธอไปร้านต้นไม้แล้วเลยไปเที่ยวหาของกินอร่อยๆ กัน วันที่สามเธอกับเขาเก็บข้าวของเตรียมย้ายไปอยู่ที่บ้านของเธอ

วันที่สี่ของการแต่งงานของเรา และเป็นวันแรกของการทำงานแห่งปี ศศิพิมพ์ก็ถูกฝังไว้ใต้กองงานที่รอสะสาง

ภาษีต้นเดือนที่ต้องรีบนำส่ง รายงานประจำเดือนที่ต้องทำ เธอแทบถูกสุมอยู่ใต้กองกระดาษ ตำแหน่งสะใภ้เจ้าของบริษัทดูจะไม่ได้ช่วยให้เธอได้ทำงานสบายขึ้นเลย มิหนำงานยังเหมือนมากกว่าเดิมอีกเพราะต้องพ่วงตำแหน่งเลขาของสามีไปโดยปริยาย

“กลับมาแล้วค่ะ”

ประตูบ้านเปิดออกและเขาก็เดินเข้ามา ศศิพิมพ์วางงานในมือเข้าไปรับกระเป๋ากับเสื้อสูทของเขาเพื่อนำไปเก็บ จันทร์ถึงศุกร์เราอยู่กันที่บ้านริมคลองของศศิพิมพ์ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ต้องกลับไปนอนที่บ้านพ่อแม่ของจิรสิน

“คุณแม่ล่ะคะ ทำไมบ้านเงียบ”

“แม่ไปค้างกับพี่พลอยกับหลานค่ะ พี่สินกินอะไรมาหรือยังคะ แม่ทำแกงเขียวหวานไว้ ถ้ายังพิมพ์จะได้อุ่นให้”

“ขอบใจจ้ะ แต่พี่กินกับลูกค้ามาแล้วละ”

เขาเดินนำเธอขึ้นไปยังห้องนอนชั้นสอง ศศิพิมพ์เดินตามระหว่างนั้นก็อดถามไม่ได้

“เห็นคุณพ่อบอกว่าพี่สินไปคุยกับลูกค้าเรื่องกำหนดงานที่จะเสร็จไม่ทัน”

“จ้ะ กว่าจะตกลงกันได้ก็นานทีเดียว หมดแรง”

หญิงสาวยิ้มขำยามคนหมดแรงเปิดประตูห้องนอนเข้าไป แต่แล้วก็ก้มหน้างุดเพราะเขาพูดต่อหน้าตาเฉยว่า

“แล้วก็คิดถึงพิมพ์ด้วย ไม่เห็นหน้าทั้งวัน”

“พิมพ์ว่าพิมพ์ไปเอาแกงเขียวหวานเข้าตู้เย็นดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะเสีย” เธอรีบวางกระเป๋ากับเสื้อสูทเขาลงบนเตียง แต่ก้าวได้แค่ก้าวเดียวก็ถูกคว้าเอวไว้ ครั้นพอเงยหน้ามองจะบอกให้ปล่อยเขาก็มองมาอยู่ก่อนแล้ว “เอ่อ... เดี๋ยวพี่สินอาบน้ำดีกว่าค่ะมาเหนื่อยๆ พิมพ์จะไปข้างล่าง”

เขาไม่เอ่ยคำใด เอาแต่มองหน้าเธอนิ่งๆ แบบนี้ สายตาเขาน่ะเธอจนปัญญาที่จะอ่านออกมาแต่ไหนแต่ไร จะเว้นก็แต่ถ้าเขาอยากให้เธอรู้

“คะ”

ชายหนุ่มยิ้ม “วันนี้พ่อถามค่ะเมื่อไหร่จะได้หลาน”

คนฟังทำหน้าไม่ถูกได้แต่ก้มหน้างุด และเขาก็หาทางให้เธอเงยหน้ามองเขาจนได้ เพราะสองมือกอดกระชับเอวเธอและรั้งเข้ามาชิดตัว

จิรสินยังไม่เปลี่ยน ก็แค่เขาเอาความเจ้าชู้มาใช้กับภรรยาแต่ในนามก็เท่านั้นเอง “ยังไม่ตอบเลยค่ะ” นัยน์ตาเขาวิบวับ ใจหวังให้เธอเชื่อใจและไว้ใจเขาเสียที “พิมพ์ว่าพี่จะตอบพ่อยังไงดีคะ เมื่อไหร่ดี”




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ค. 2561, 21:49:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ค. 2561, 21:49:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 742





<< ๑๒ แผนหนึ่ง (50%)   ๑๒ แผนหนึ่ง (100%) >>
กาซะลองพลัดถิ่น 3 ก.ค. 2561, 05:00:53 น.
เจ้าชู้กับเมียนะดีแล้วคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account