ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน

ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม

ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง

เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล

*************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!

***********

นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks

(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)


ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)


หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา

ตอน: บทที่ 11 -30%

รุจินภารุดมาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ เมื่อได้รับโทรศัพท์จากลูกเลี้ยงว่าเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แม้เธอกำลังติดพันเพราะกำลังมือขึ้นได้เงินคืนมาร่วมสองแสนทั้งที่นั่งเล่นได้ไม่ถึงสามชั่วโมง กระนั้นก็ต้องตัดใจเพราะเพชรไพลินไม่มีใครคอยดูแล

“เพชรเป็นยังไงบ้างลูก”

เธอลูบศีรษะบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง

เพชรไพลินน้ำตาไหลอาบแก้มโผเข้ากอดมารดาเลี้ยงเอาไว้แน่น เจ็บป่วยที่กายนั้นไม่เท่าหัวใจที่กำลังเจ็บอยู่ตอนนี้แม้เพียงเศษเสี้ยว เจ็บที่จู่ๆ คนรักก็หมางเมิน ทั้งยังต่อว่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย

“ร้องไห้ทำไม เจ็บมากหรือเพชร ไหนบอกแม่ซิว่าหนูเจ็บตรงไหน” รุจินภาเชยใบหน้าของบุตรสาวขึ้นแล้วบรรจงเกลี่ยหยาดน้ำตา

“เปล่าค่ะ เพชรไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หน้ามืดนิดหน่อย อาจเป็นเพราะยังไม่หายไข้ดี พอเจออากาศร้อนๆ เลยหน้ามืดเป็นลมค่ะ”

หญิงสาวพยายามกลั้นสะอื้น ไม่อยากให้มารดาต้องเป็นกังวล

“แล้วทำไมหนูต้องร้องไห้ ใครแกล้งอะไรไหนบอกแม่มา” หล่อนเอ่ยถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า ความทุกข์ใจของลูกเลี้ยงเกิดจากอะไร

เพชรไพลินนิ่งเงียบเบือนหน้าออกไปยังนอกหน้าต่าง มีเพียงน้ำตาที่ยังคงไหลอาบแก้มราวกับไม่มีวันหมด

รุจินภามองลูกเลี้ยงน้ำตานองหน้าแล้วถึงกับอมยิ้ม ทว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นกลับตรงกันข้ามกับหน้าตาอย่างสิ้นเชิง

“แม่เดาว่าเรื่องแฟนใช่หรือเปล่า หรือว่าท่านชีคแกล้งอะไรลูก”

เพชรไพลินไม่อาจฝืนความเจ็บปวดเอาไว้ได้อีกต่อไป เธอร้องไห้ออกมาปริ่มว่าน้ำตาจะหยาดหยดออกมาเป็นสายเลือด กอดมารดาเลี้ยงเอาไว้แน่น

“เล่าให้แม่ฟังได้ไหมเพชร” รุจินภาเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน

นั่นล่ะ...เพชรไพลินจึงยอมเปิดปากเล่าเรื่องทั้งหมดให้มารดาฟัง

“แล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงเปลี่ยนไปล่ะ เขาไม่ได้บอกลูกเหรอ”

รุจินภาเอ่ยถาม

นี่แหละคือเวลาที่เธอเฝ้ารอมานาน วันนี้ล่ะที่ไอ้อนุชากับนังลักษมีจะได้เห็นลูกสาวของมันเจ็บปวดปางตาย ที่ผ่านมาเธอแสร้งทำเป็นแม่ที่แสนดี แต่จิกใช้ให้เพชรไพลินสอนรำให้เด็กๆ จนแทบไม่มีเวลาออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แล้วคราวนี้เมื่อลูกของคนที่เธอเกลียดกำลังมีความรัก เธอก็จะสอนให้นังเด็กนี่รู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง

“เพชรไม่ทราบค่ะคุณแม่ เขาทำราวกับว่าเพชรไปโกหกอะไรเขา หรือว่าเขาจะรู้ว่าเพชรยังไม่บรรลุนิติภาวะ” เพชรไพลินยกมือขึ้นทาบหัวใจ ใบหน้าขาวซีด เมื่อฉุกใจคิดขึ้นมาได้ อีกไม่กี่วันเธอก็จะอายุสิบเก้าปีแล้ว หรือว่าชีคหนุ่มจะโกรธเธอเรื่องนี้

“ลองคุยกันดูสิเพชร ลองหาเวลาปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง”

“ท่านชีคไม่ยอมเปิดโอกาสให้เพชรคุยกับเขาเลยค่ะคุณแม่ ไปหาที่คอนโดฯ เขาก็สั่งยามเอาไว้ไม่ให้เพชรเข้าไป ไปหาที่ทำงาน เขาก็สั่งเลขาเอาไว้อีก กระทั่งเบอร์มือถือเขายังบล็อกเบอร์ของเพชรเอาไว้ เพชรไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ถึงจะคุยกับท่านชีครู้เรื่อง” หญิงสาวฟุบหน้าลงบนฝ่ามืออย่างสิ้นหวัง

“ใจเย็นๆ เถอะเพชร พักผ่อนมากๆ เดี๋ยวอะไรๆ มันก็คงดีขึ้นเอง พอท่านชีคใจเย็นลงแล้วค่อยคุยกัน” รุจินภากล่อมบุตรสาวอย่างไม่มีความละอายกับสิ่งที่ตนเองทำลงไปเลยแม้แต่น้อย

“เดี๋ยวแม่ต้องกลับบ้านแล้ว คงอยู่เฝ้าหนูไม่ได้ เพราะนังออยมันลากลับต่างจังหวัด เอาไว้พรุ่งนี้เช้าแม่จะมารับกลับบ้านนะ”

หญิงวัยกลางคนโน้มลงหอมแก้มบุตรสาว แล้วรีบสาวเท้ากลับไปที่บ่อนอย่างรวดเร็ว นานๆ ทีเธอจะมือขึ้น แล้วจะปล่อยโอกาสเช่นนี้ให้หลุดลอยไปได้อย่างไร



**************



เพชรไพลินรอแล้วรอเล่า มารดาเลี้ยงก็ไม่มารับอย่างที่ได้รับปากไว้ เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านด้วยตัวเอง ร่างกายเธอแข็งแรงขึ้นมากแล้วเพราะได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เหลือเพียงหัวใจเท่านั้นที่ปริร้าวราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ

“อ้าวพี่เพชร หายแล้วเหรอพี่”

เด็กหนุ่มข้างบ้านตะโกนถามหญิงสาว เมื่อเห็นเพชรไพลินลงจากรถแท็กซี่ เดาว่าคงรู้ข่าวที่เธอป่วยมาจากพี่ออย ผู้ที่เป็นทั้งแม่บ้านและสาวใช้

“หายดีแล้วจ้ะ แล้วนี่บอลจะไปไหน” เธอเอ่ยทักทายเด็กรุ่นน้องที่อายุห่างกันแค่ปีเศษ

“ไปทำงานพิเศษครับ ส่งพิซซ่าพอได้เงินมาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ผมไปก่อนนะพี่” เด็กหนุ่มเอ่ยลาทำท่าจะผละจากไป

ทว่าเพชรไพลินกลับคิดอะไรบางอย่างออก จึงเอ่ยเรียกบอลเอาไว้

“เดี๋ยวบอล พี่อยากขอให้ช่วยอะไรสักหน่อย”

เธอคิดออกแล้วว่าจะเข้าถึงตัวชีคมุซตาฮ์ซานได้อย่างไร...

**********

มาลงให้ต่อแล้วจ้า ^_^
หนูเพชรจะแก้ปัญหานี้ยังไง เรื่องจะดีขึ้นหรือแย่ลงหนอ


หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ค. 2561, 07:51:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ค. 2561, 07:52:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 560





<< บทที่ 10 -100%   บทที่ 11 -70% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account