กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๗ หลอมรวม (50%)







“พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้วจริงๆ หรือคะ อยู่ต่ออีกสักวันสองวันไม่ได้เหรอคะพิมพ์” สามีเธอกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง หน้าตาละห้อยละเหี่ยเมื่อเห็นเธอพับเสื้อตัวสุดท้ายของเขาใส่ในกระเป๋าเดินทาง “เนี่ยเมื่อไหร่ไม่รู้จะได้มาอีก กลับเร็วไอ้ยุทธก็เหงา”



ศศิพิมพ์กึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง ดูเขาเอาเพื่อนมาอ้าง ทั้งๆ ที่หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่เห็นเขาจะอยู่กับอติยุทธได้เกินสิบนาที



“ขี้เกียจนานนักไม่ดีหรอกค่ะ เกรงใจคนที่ต้องทำงานแทนที่โน่น งานไม่ใช่น้อยๆ นะคะ”



พูดเท่านั้นเธอก็หันไปจัดกระเป๋าตัวเอง ชายหนุ่มฟังแล้วผ่อนลมหายใจจากนอนเอามือรองต้นคออยู่ เขาจึงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ตาก็มองภรรยา สายตานั้นทั้งอ่อนใจทั้งขันขำ



ศศิพิมพ์รักงานกว่าอะไร ขึ้นชื่อว่างานหากอยู่ในความรับผิดชอบของเธอ แทบจะหาจุดบกพร่องไม่เจอ



งานดีเพราะคนทำละเอียดและเอาใจใส่ แต่เรื่องส่วนตัวบางครั้งต้องให้เตือน เพราะใส่ใจกับงานมากไป ตัวของตัวเองจึงพูดได้ว่าละเลย



ลูกน้องแบบนี้เจ้านายรักตาย แต่พอจะตายถ้าเจอเจ้านายไม่ดี ตัวลูกน้องนั่นน่ะซีจะตายเปล่า



จิรสินลุกขึ้นยืนและก้าวเข้าไปหาศศิพิมพ์ เขานั่งขัดสมาธิลงข้างๆ ก่อนวางมือบนศีรษะที่ชอบให้ซุกอยู่ใกล้ๆ เวลาหลับใหล หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองและส่งยิ้มให้เช่นเคย



สริพร คุณแม่ภรรยาดีเด่นบอกกับเขาอยู่ครั้ง



‘พิมพ์น่ะบ้างาน แม่ห่วงกลัวเขาจะได้ใช้เงินที่หามาไปในโรงพยาบาล ห้ามก็ห้ามแล้วแต่เขาไม่ฟัง ยังไงสินปรามๆ น้องบ้างนะลูก แต่งงานแล้วไม่ใช่ตัวคนเดียว อยากให้เขาแบ่งเวลา งานก็ส่วนงาน แต่เรื่องในบ้านแม่ก็ไม่อยากให้น้องบกพร่อง’



เขารู้ถึงความนัย จริงอยู่ว่าคนเป็นแม่กลัวลูกทำงานหนักจนป่วยต้องรักษาตัวเอง แต่ที่มากกว่านั้นคืออยากให้เขาเข้าใจและช่วยศศิพิมพ์ปรับตัว บางทีเขารู้ ชีวิตครอบครัวก็ล่มแค่เพราะคู่สามีภรรยา เอาจริงเอาจังกับงานมากไปจนลืมใส่ใจคนใกล้ตัว



“พี่รู้ว่าพิมพ์รักงาน แต่รักตัวเองบ้างนะคะ พี่รู้ว่าพิมพ์รู้ แต่พี่ก็อยากบอก พี่อยากให้พิมพ์รักงานเท่ากับรักตัวเอง ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากให้พิมพ์ทำงาน พิมพ์อยากทำอะไรพี่ไม่ห้าม เพราะถึงยังไงอนาคตก็ไม่แน่นอนเกิดพี่เป็นอะไรไป พิมพ์จะได้มีหลักมีฐานของตัวเอง”



“อย่าพูดเป็นลางสิคะ”



“ไม่ได้พูดให้เป็นลางหรอกจ้ะ ชีวิตคนเรามันสั้นนะ แล้วอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดไม่มีใครห้ามไว้ได้ ไม่เกิดก็ดีไป แต่ถ้ามันเกิดเราก็ต้องเผื่อใจในกรณีนี้ไว้ด้วย”



หญิงสาวมองเขานิ่ง จากสายตาดูยอมรับได้กับเหตุผลของเขา



“เออจริงสิ เดี๋ยวนี้สอบบัญชี กรมสรรพากรจำกัดไว้ที่คนละกี่งบนะ สองร้อยใช่ไหมถ้าพี่จำไม่ผิด แล้วตั้งสองร้อยงบ สองร้อยบริษัท อะพี่คิดแบบถัวเฉลี่ยเลยนะงบละหมื่น เท่าไหร่แล้วเนี่ย”



เขายกมือขึ้นแตะคางครุ่นคิด ศศิพิมพ์ที่ยังตามไม่ทันได้แต่ขมวดคิ้ว



“โอ้โห สองล้านนะปีหนึ่งน่ะ แล้วอะไรอีกนะเงินเดือนบริษัทสี่หมื่น เงินเดือนแม่บ้านพี่อีกเดือนละสามหมื่น” จิรสินงึมงำพลางก้มลงมองภรรยาด้วยสายตาจริงจัง “เสียภาษีบานเลยนะคะ”



ศศิพิมพ์ที่รอฟังเพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริงจังอ้าปากค้าง ในขณะที่จิรสินวางมือลงบนบ่าบอบบาง

“พิมพ์คะ แบ่งให้คนอื่นทำบ้างนะเดี๋ยวจะรวยไม่รู้เรื่อง แล้วคนจะลือว่าพี่ไม่ทำงานเอาแต่เกาะเมียกิน เนี่ยปีปีหนึ่งพิมพ์ทำเงินได้มากกว่าพี่ตั้งไม่รู้เท่าไหร่!”

คนพูดตาวิบวับและโดนหยิกหมับเข้าที่สีข้างทันควัน ก่อนจะร้องโอดโอยเมื่อมือหยิกไม่ยอมปล่อย

ศศิพิมพ์ทั้งขำทั้งฉุนที่เขาหลอกอำเธอเสียเป็นเรื่องเป็นราว

เธอไม่ใช่สมองกลที่จะสอบบัญชีได้ถึงสองร้อยงบ เพราะแค่ห้าสิบงบนี่ก็แทบจะไม่ได้นอน แถมผมบนหัวก็หงอกแทบจะทุกเส้นแล้ว!

ค่ำนั้น อติยุทธขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเย็น

พ่อครัวคือตัวเจ้าของรีสอร์ตและจิรสิน สองหนุ่มให้ศศิพิมพ์นั่งสวยๆ รอรับประทานอาหารค่ำมื้อเด็ดวนไป ส่วนอาหารจานเด็ดของสองพ่อครัวคือบาร์บีคิวกลางแจ้ง มีทั้งซี่โครงแกะย่างสูตรเฉพาะ อาหารทะเลเผา และสเต็กทั้งเนื้อทั้งหมูให้เลือกสรรพ

วันนี้แขกนอกจากคู่สามีภรรยา ยังมีครอบครัวพี่ชายของอติยุทธ

พี่ชายอติยุทธอายุสี่สิบกว่าแล้ว ห่างกับน้องชายหนึ่งรอบ และพี่สะใภ้อายุมากกว่าตัวน้องสามีแค่สองปี จิรสินแอบกระซิบว่าพี่ชายเพื่อนหลอกเด็กมาแต่งงานด้วย!

สองสามีภรรยาถ้อยทีถ้อยอาศัย และเป็นเพื่อนคุยของศศิพิมพ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคน ผู้ชายคนโตเก้าขวบและน้องสาวตัวเล็กห้าขวบ เมื่อบิดาไปเข้าห้องน้ำสองพี่น้องที่ติดพ่อก็พร้อมงอแงตาม ศศิพิมพ์เลยช่วยผู้เป็นมารดาดูแลรอ

อติยุทธพลิกกุ้งตัวโตที่อยู่ฝั่งรับผิดชอบของจิรสิน ก่อนเงยมองเพราะเจ้าของดูไม่ได้สนใจ ครั้นเห็นสายตาเพื่อนก็แสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมเคาะที่ที่คีบของเพื่อนซึ่งถือค้างไว้เฉยๆ

“ฉันรู้คนแต่งงานใหม่รู้สึกยังไง แต่แกช่วยสนใจกุ้งกับปูที่แกบอกจะปิ้งให้เมียแกกินทีได้ไหม มันจะไหม้หมดแล้วโว้ย”

จิรสินยิ้มเขินรีบหลุบตามองของกินตรงหน้า

“แกนี่เป็นเอามาก มองอยู่นั่นจนน้องเขาจะละลายแล้วมั้ง”

“ก็พูดเกินไป”

“อย่ามาทำเป็นเขิน”

อติยุทธตีที่คีบในมือเพื่อนอีกครั้ง

“ขอให้แกรักคุณพิมพ์เหมือนปากว่า อย่าเป็นแค่หลงเหมือนคนอื่นๆ แล้วกัน เมียแกน่ะเป็นผู้หญิงที่ดีนะ ปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ ควายไม่วัวเลย!”

“ไอ้นี่ได้ทีก็หลอกด่ายันวันกลับ”

จิรสินตีที่คีบเพื่อนกลับ แต่อีกฝ่ายดึงหลับทันและหัวเราะ

“เห็นแกกับคุณพิมพ์แล้วคิดถึงอิฐ” อติยุทธเอ่ยพร้อมทั้งน้ำเสียงละมุนอย่างเห็นได้ชัด ยามเบือนสายตามองไปยังภรรยาเพื่อนดูเศร้า “คนนั้นชอบอยู่กับเด็กๆ พอจะมีลูกเป็นของตัวเองดีใจใหญ่”

อิสริยาคือภรรยาของอติยุทธ

จิรสินพยักหน้าก่อนเอื้อมมือไปตีลงที่บ่าของเพื่อนหนักๆ สองสามครั้ง อติยุทธรักอิสริยามาก มากจนตอนที่เธอเสียชีวิต ผู้ชายคนนี้แทบจะตายตามไป

“อิฐไปสบายแล้ว บางทีอาจกำลังมองแกอยู่”







ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ก.ค. 2561, 20:01:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ก.ค. 2561, 20:01:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 776





<< ๑๖ หวั่นไหว -จบตอน-   ๑๗ หลอมรวม (100%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account