กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๙ คลางแคลง (75%)

ในความเป็นมิตรนั้นก็ยังมีความเป็นปฏิปักษ์คั่นอยู่บางๆ คนแอบฟังถึงกับทอดถอนใจ ครั้นพอหันหลังให้จิรสินก็มองตามก่อนเบือนสายตากลับมามองยังแขก



“รักพิมพ์มากไหมครับ”



ณวัฒน์ยิ้มขรึมๆ “มากครับ มากจนทำบ้าๆ เพื่อจะรั้งพิมพ์ไว้ และถ้ามีโอกาสผมก็ยังจะทำอีกนั่นแหละ”



“คุณนี่พูดตรงดีนะ”



จิรสินเอ่ยแล้วก็ยกมือขึ้นเท้าคาง เขาเบือนหน้ากลับไปมองภรรยาที่ถือถาดใส่ถ้วยชาและแก้วน้ำออกมาจากห้องครัวพลางส่งยิ้มให้



ค่ำนั่นณวัฒน์กลับไปตอนเกือบสี่ทุ่ม ดึกไปหน่อยแต่ที่ณัฐพงษ์มาช้าก็เพราะเจออุบัติเหตุทำให้รถติด สองสามีภรรยาไปส่งแขกถึงหน้าบ้าน สายตาณัฐพงษ์แทนคำขอโทษที่น้องชายมารบกวน



เห็นอย่างนั้นเจ้าบ้านจึงได้แต่ยิ้ม



ศศิพิมพ์ขอกับจิรสิน ถ้าช่วยณวัฒน์ได้เธออยากช่วย หากมันไม่มากเกินไป ไม่เกินขอบเขตที่เธอจะช่วยได้



ราวห้าทุ่มสองสามีภรรยาก็เข้านอน ศศิพิมพ์นอนหนุนท่อนแขนของสามี มือใหญ่อบอุ่นข้างที่ว่างกำลังลูบเส้นผมของเธอเล่น



“ตอนนี้ยายหนูอายุหกเดือนแล้วนะ วันก่อนที่พี่แวะกลับไปบ้านเห็นมีฟันเริ่มขึ้นละ”



ลูกของปุณณมาชื่อเล่นเรียกกันว่ายายหนู



หญิงสาวนิ่งฟังและยิ้มน้อยๆ



“เรื่องคดีคงอีกนาน ฝ่ายโน้นไม่ยอมลงให้เลย”



“แล้วเขายังมีท่าทีคุกคามบ้างไหมคะ ยังตามไปรังควานอะไรที่บ้านอีกหรือเปล่าคะ”



“ไม่มีเลยค่ะ แต่จันทร์ก็ยังแอบหลอน พูดว่ามันแปลกมากที่พ่อยัยหนูสงบผิดปกติ” จิรสินนิ่งไปนิด “พ่อกับแม่กลัวพิมพ์คิดมาก พิมพ์ว่ายังไงคะถ้าเราจะให้จันทร์ย้ายกลับไปคอนโด”



หญิงสาวนิ่ง หากถามว่าคิดไหม ก็ใช่ ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอแอบน้อยใจลึกๆ ที่ปุณณมาเป็นจุดสนใจของคนทั้งบ้านของจิรสิน แม้กระทั่งตัวสามีเธอเอง ยิ่งพอคลอดยัยหนูตัวเล็กเหมือนจะยิ่งทวีความสำคัญ และบางครั้งบางคราสายตาของปุณณมาที่บอกว่าเสียดายเวลามองจิรสินก็ทำให้เธอระแวง



กลัวว่าอีกฝ่ายจะใช้สิทธิ์คนรักเก่ายื้อแย่งเขากลับไป



กลัวว่าปุณณมาจะร้าย ร้ายในแบบที่ไม่เหมือนกับตีรณา ตีรณาไม่ชอบจิรสิน ไม่ชอบเธอ หล่อนแสดงออกชัดเจนว่าพยายามทำทุกวิถีทางให้เราเลิกกัน แต่กับปุณณมา เธอมองไม่ออก ไม่รู้ว่าคนรักเก่าของจิรสินต้องการอะไร หรือคิดอะไรอยู่



ปุณณมาเป็นคนเงียบและเก็บความรู้สึกเก่งมาก ทุกข์ สุขหรือก็ยากจะรู้ และนั่นก็ทำให้เธอไม่หายระแวงสักที



ศศิพิมพ์ยอมรับนี่เป็นความคิดน่ารังเกียจมากๆ เพราะรัก จึงระแวงแล้วก็หึงหวง เป็นความรู้สึกที่เธอไม่ชอบเอาเสียเลย



แต่... เธอผ่อนลมหายใจ ผู้หญิงตัวคนเดียวไม่มีญาติ แถมลูกยังเล็ก ถึงมีเงินแต่เงินซื้อใจใครไม่ได้ ซื้อคนที่เราไว้ใจไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของปุณณมากับสามีเก่ายังคาราคาซัง หากให้สองแม่ลูกย้ายออกไปแล้วเกิดเรื่องเธอก็คงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เธอเคยทำร้ายณวัฒน์ด้วยอารมณ์ ดังนั้นเธอจะไม่ทำมันอีกไม่ว่าจะกับใครก็ตาม



“พิมพ์ว่า” เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา รู้สึกดีที่เอาชนะความคิดอกุศลเสียได้ “ถ้าคดียังไม่จบศาลยังไม่ตัดสินเราให้พี่จันทร์อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ก่อนดีไหมคะ ยายหนูยังเล็ก เกิดมีอะไรขึ้นพี่จันทร์ก็ตัวคนเดียว”



จิรสินกดจูบกับหน้าผากนวลนั้น กอดภรรยาแน่นขึ้น



ศศิพิมพ์ลอบผ่อนลมหายใจขณะซุกหน้ากับอกกว้าง เธอยังคงไม่มั่นใจว่าคิดถูกหรือคิดผิด แต่ก็ภาวนาขอให้เธอเลือกได้ถูกต้อง



ก็ว่าอยู่ว่ามันแปลกๆ

ศศิพิมพ์คิดอย่างปลงๆ เมื่อเจอตีรณาอยู่กับคุณหมอเจ้าของคลินิก เธอยิ้มไม่สนิทนักเมื่อกล่าวทักทาย โชคดีที่เจ้าหล่อนมีมารยาทพอไม่ก้าวก่ายงานของคุณหมอหนุ่ม ดังนั้นศศิพิมพ์จึงไม่ต้องอดทนมากนักกับการเสวนากับอดีตกิ๊กของสามี

ทว่าเมื่อจะกลับก็พบว่าตีรณาดักรอเธออยู่แล้ว

คลินิกที่นี่ใหญ่พอสมควร เจ้าของเป็นคุณหมอดาวรุ่ง เปิดคลินิกได้ไม่กี่ปีก็ขยายจนมีห้าสาขาแล้ว และที่ว่าคุ้นก็เพราะสาขาแรกอยู่ใกล้ๆ บ้านของจิรสิน ผ่านไปมาเธอก็เห็นอยู่ประจำ

“จะกลับแล้วเหรอคะ”

อดีตนางแบบสาวเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงตัว ศศิพิมพ์ยิ้มรับ

“แล้วสินไม่ได้มาด้วยเหรอคะเนี่ย แหมฉันก็นึกว่าจะได้เจอ”

“ไม่ได้มาหรอกค่ะฉันมาคนเดียว ว่าแต่คุณตี๊มีอะไรจะพูดหรือเปล่าคะ พอดีฉันมีธุระต่อ”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็แค่มาทักทายกัน เห็นว่าเป็นคนรู้จักกันแล้ว” คนพูดยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือแดงเด่นเด้งมาแต่ไกล ที่เพิ่มเติมคืออกที่อึ๋มขึ้น และหุ่นที่ผอมเพรียวกว่าเก่า “อ๋อ ที่ฉันอยู่ที่นี่ก็มาหาคุณหมอน่ะค่ะ ฉันเข้าคอร์สความงามของคลินิกที่นี่น่ะค่ะ”

“อ๋อค่ะ ที่นี่โหญ่โตดีนะคะ”

“ใช่เลยค่ะคนมาใช้บริการกันมาก อุ้ย!” ท่าทางตกใจที่แสร้งทำกับอาการยกมือปิดปากนั่นทำให้ศศิพิมพ์ลอบผ่อนลมหายใจ “ที่คุณบอกว่าสินไม่ได้มาด้วยน่ะจริงหรือคะ ทำไม--”

ท่าทีถ่วงให้อยากรู้นั่นทำศศิพิมพ์เริ่มเอือม

“คะ”

“ก็นั่น เอ่อ ฉันว่าเราไปคุยกันที่อื่นดีไหมคะ”

“คือฉันไม่--”

“อุ้ยใช่สินจริงๆ ด้วยอุ๊บ!”

ศศิพิมพ์ถอนหายใจยอมหันไปมอง

จิรสินกับปุณณมาและเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนของสามีเธอ

อาการนิ่งไปของศศิพิมพ์ทำให้ตีรณายิ้มย่อง ความอยากเอาชนะทำให้เธอไม่ยอมเลิกลาเรื่องจิรสินง่ายๆ และนักสืบก็หาข้อมูลให้เธอง่ายดาย ตอนนี้ปุณณมาเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของเขาอีก และเธอก็จะไม่พลาดโอกาสงามๆ เช่นนี้ไป

ผู้หญิงต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน เจอแฟนเก่าสามีกับสามีตัวเองแบบนี้เข้ามีหรือจะไม่คิด

ด้วยความเป็นเพื่อนทำให้เธอหาข้อมูลคนไข้อย่างปุณณมาได้ง่ายแสนง่าย แถมยังรู้อีกด้วยว่าหากว่างจิรสินมักพาคุณแม่ลูกอ่อนมา แม้จะมีความเป็นไปได้ว่าไม่ได้มาด้วยทุกครั้ง แต่ลองศศิพิมพ์มาที่นี่เรื่องงานบ่อยเข้า ถึงอย่างไรก็ต้องเจอ แล้ว... วันนี้ก็เป็นวันนั้นพอดี

“อุ๊ย! นั่นจันทร์นี่ ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะคะแล้วยังเด็กอีก นี่ถ้าไม่รู้มาก่อน ฉันคงนึกว่าสินเป็นพ่อเด็ก”

ศศิพิมพ์ผ่อนลมหายใจ ท่าทางอุ้มเด็กของจิรสินดูคุ้นชินหนักหนา แล้วตอนนี้เล่าสีหน้าทุกข์ใจของปุณณมาแทบเลือนหาย

หลายเดือนมานี้เธอไม่ค่อยได้เจอปุณณมามากนัก จะมีก็แต่เรื่องที่จิรสินเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องคดีความ จึงไม่รู้ว่าอดีตคนรักเก่าของสามีดูสดใสขึ้นมากจนผิดหูผิดตา



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ส.ค. 2561, 21:26:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ส.ค. 2561, 21:26:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 674





<< บทที่ ๑๘ เขาและเรา -จบตอน-/ บทที่ ๑๙ คลางแคลง    ๑๙ คลางแคลง (125%) >>
กาซะลองพลัดถิ่น 11 ส.ค. 2561, 05:41:51 น.
เฮ้อ...นางเอกแสนดีไปไหม....พระเอกจะกินหญ้าแทนข้าวไหม...คือคำถามที่อ่านตอนนี้จบ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account