กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต
ตอน: ๑๙ คลางแคลง (150%)
และเพราะเหม่อครุ่นคิดแต่เรื่องตัวเอง ศศิพิมพ์จึงไม่รู้ว่าจิรสิน กลับมาถึงบ้านแล้ว ครั้นเขาแตะมือที่ต้นแขนอารามตกใจเธอจึงสะบัดตัวสุดแรง
“พิมพ์!?”
จิรสินพลอยงุนงงกับปฏิกิริยาของภรรยา
“ทำไมตกใจขนาดนี้ คิดอะไรอยู่คะ หือ”
“อ้อ! เอ่อคิดเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ พี่สินกลับมาตอนไหนคะ ไม่รู้เลย”
“กลับมาถึงตอนเมียนั่งใจลอยพอดีค่ะ” เขาดึงเก้าอี้อีกตัวของโต๊ะรับประทานอาหารมานั่งข้างเธอ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ ดูพิมพ์ซีเรียสมากเลยนะตอนนี้”
“ก็เรื่องงบน่ะค่ะ พอดีน้องที่เคยช่วยคีย์เขาขอหยุดงาน ก็เลยคิดว่าจะหาใครมาช่วยดี”
“อื้อจ้ะ” เขาเอื้อมมือมากุมมือเธอไว้ “เหนื่อยมากเลยวันนี้ ขับรถร่วมร้อยกิโลได้ล่ะมั้ง”
เขาดึงมือเธอไปทั้งหอมทั้งจูบ
“จริงๆ เลิกตอนเกือบสามทุ่มล่ะค่ะ วงแตกภรรยาลูกค้าจะคลอดเลยกลับเร็ว พี่เลยแวะเข้าไปที่บ้านไปคุยกับพ่อแล้วเลยไปดูจันทร์กับลูก พอไปหาหมอก็ดูดีขึ้น”
จันทร์กับลูก
ศศิพิมพ์ยิ้มไม่สนิทนักเมื่อได้ฟัง คำนี้มันเสียดหัวใจอย่างไรไม่รู้ “พิมพ์เป็นอะไรคะ หน้าซีดมาก ไม่สบายหรือเปล่า”
คำถามทำให้ศศิพิมพ์กระพริบตาสองสามครั้ง เธอฝืนยิ้ม
“เปล่าค่ะ”
จิรสินขยับเข้ามาหาเธอใกล้ขึ้น มือใหญ่ทั้งสองข้างวางแนบแก้มของเธอ บังคับให้เธอมองสบตาเขาไม่หลบตาหนีอีก
“คิดมากเรื่องอะไรคะ บอกพี่มาเถอะ ให้พี่ได้อธิบายหรือว่าเพราะเรื่องจันทร์กับยายหนูงั้นหรือ”
ศศิพิมพ์ชั่งใจหนัก เธอมองเขา และสุดท้ายก็ตัดสินใจได้
“ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ”
“งั้นเราไปนอนกันดีกว่า ดึกมากแล้วนะเดี๋ยวไม่สบาย”
จิรสินไม่เซ้าซี้ ชายหนุ่มโน้มตัวจูบหนักๆ ที่กลุ่มผมนุ่มก่อนลุกไปจัดแจงล็อกประตูหน้าต่างบ้านให้เรียบร้อย พอเดินกลับมาหาภรรยาอีกครั้งก็จับจูงมือเล็กนั่นเดินขึ้นชั้นบนไปพร้อมกัน
คืนนี้ศศิพิมพ์เข้านอนด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ค่อนข้างจะเป็นด้านลบ
ในอ้อมกอดอุ่น เธอปวดหัวใจ
คำที่แม่สอนลอยเข้ามาในหัว การแต่งงานพื้นฐานที่จะไปกันรอดคือความไว้ใจ แต่... ก็เพราะไว้ใจไม่ใช่หรือ พ่อถึงทิ้งแม่ไปกับคนอื่นได้!
เล่นกับจิรสินคราวนี้ยากหน่อยเพราะฝ่ายผู้หญิงไม่ใช่คนหวั่นไหวได้ง่ายๆ ที่จะปั่นหัวได้เหมือนกับปุณณมา
แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินกว่าที่จะทำ!
ตีรณามองข้อมูลที่ได้จากนักสืบ ใช่แค่จิรสินที่มีอดีต ฝั่งศศิพิมพ์เองก็ใช่ย่อย เมื่ออ่านจบเธอก็แปลกใจมากที่สองคนนี้ยังอยู่ด้วยกันมาได้จนถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่คนในอดีตของทั้งคู่ต่างกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
จิรสินมีปุณณมา
ศศิพิมพ์มีณวัฒน์ อ้อ! พ่วงด้วยคู่หมั้นเขาอรนุชา เรื่องก็ออกจะน้ำเน่านิดหน่อยที่เป็นเรื่องรักหลายเส้า
ตีรณากระหยิ่มยิ้ม คราวนี้เธออาจจะเหนื่อยมากหน่อยแต่ก็สนุกดี กระทุ้งฝ่ายเมียไปแล้ว ข้างผัวเองเธอก็ไม่ปล่อยไว้
ก็ให้มันรู้ไปว่าเธอจะแยกคู่นี้ไม่สำเร็จ
เชื้อความระแวงขอแค่เธอเพาะมันได้แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ แค่เท่านั้นทุกอย่างก็จะแพร่ลาม แล้วจิรสินก็จะต้องเจ็บอีกครั้ง
ตีรณามั่นใจ... คราวนี้เขาจะต้องเจ็บมากกว่าครั้งไหนๆ
แน่นอนว่ายิ่งเขารักศศิพิมพ์มากเท่าไหร่ เขาจะต้องยิ่งเจ็บปวดมากกว่านั้นเป็นร้อยเท่า เธอจะทำให้เขารู้สึกว่าแค่หายใจมันก็เจ็บเกินอยากจะอยู่บนโลกนี้!
ตั้งแต่แต่งงานกันมาเราไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากัน
จิรสินอดคิดไม่ได้ เมื่อควานมือหาร่างบอบบางที่เคยกอดนอนอยู่ทุกคืนแต่ไม่พบ
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองและพบว่าในห้องนั้นมีเพียงเขาคนเดียว จิรสินผ่อนลมหายใจพลางยกมือขึ้นลูบหน้าเมื่อพลิกตัวนอนหงาย เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้พูดกันเลย ศศิพิมพ์ดูมีเรื่องให้คิด ให้หนักใจแต่เธอไม่เคยเอ่ยอะไรให้เขาฟัง ดังนั้นมันจึงทำให้เขารู้สึกว่าเรามีอะไรที่ยังไม่เข้าใจกัน เป็นปัญหาที่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นปัญหาอะไร
ชีวิตครอบครัวของเรายังเหมือนเดิม แต่ในความคงเดิมนั้นกลับมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป บางสิ่งที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่งหลังจัดแจงเก็บผ้าห่มและหมอนให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยก็เข้าห้องน้ำไป วันนี้เขาตื่นสายเพราะตอนนี้แปดโมงครึ่งเข้าไปแล้ว คงเพราะเมื่อคืนนอนดึกเช้านี้จึงค่อนข้างเพลีย
เมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมา เสียงพูดคุยเบาๆ ก็ดังมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มยืนนิ่งฟัง เสียงนี้ไม่ใช่ใครนอกจากณวัฒน์
ไม่อยากคิดมาก แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ รู้ศศิพิมพ์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับชายคนนี้นอกจากรู้สึกผิด แต่กับณวัฒน์ มันไม่ใช่ คนในอดีตของเธอแสดงชัดว่ายังรักภรรยาของเขา และรักมาก
จิรสินไม่อยากคิดไปเอง แต่ความรู้สึกลึกๆ ในอก มันคอยบอกว่าณวัฒน์เหมือนกำลังใช้อาการป่วยของตัวเอง กับงานบังหน้าเพื่อเข้าใกล้ศศิพิมพ์
เป็นอารมณ์ที่น่ารังเกียจมากสำหรับการคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้
“พิมพ์!?”
จิรสินพลอยงุนงงกับปฏิกิริยาของภรรยา
“ทำไมตกใจขนาดนี้ คิดอะไรอยู่คะ หือ”
“อ้อ! เอ่อคิดเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ พี่สินกลับมาตอนไหนคะ ไม่รู้เลย”
“กลับมาถึงตอนเมียนั่งใจลอยพอดีค่ะ” เขาดึงเก้าอี้อีกตัวของโต๊ะรับประทานอาหารมานั่งข้างเธอ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ ดูพิมพ์ซีเรียสมากเลยนะตอนนี้”
“ก็เรื่องงบน่ะค่ะ พอดีน้องที่เคยช่วยคีย์เขาขอหยุดงาน ก็เลยคิดว่าจะหาใครมาช่วยดี”
“อื้อจ้ะ” เขาเอื้อมมือมากุมมือเธอไว้ “เหนื่อยมากเลยวันนี้ ขับรถร่วมร้อยกิโลได้ล่ะมั้ง”
เขาดึงมือเธอไปทั้งหอมทั้งจูบ
“จริงๆ เลิกตอนเกือบสามทุ่มล่ะค่ะ วงแตกภรรยาลูกค้าจะคลอดเลยกลับเร็ว พี่เลยแวะเข้าไปที่บ้านไปคุยกับพ่อแล้วเลยไปดูจันทร์กับลูก พอไปหาหมอก็ดูดีขึ้น”
จันทร์กับลูก
ศศิพิมพ์ยิ้มไม่สนิทนักเมื่อได้ฟัง คำนี้มันเสียดหัวใจอย่างไรไม่รู้ “พิมพ์เป็นอะไรคะ หน้าซีดมาก ไม่สบายหรือเปล่า”
คำถามทำให้ศศิพิมพ์กระพริบตาสองสามครั้ง เธอฝืนยิ้ม
“เปล่าค่ะ”
จิรสินขยับเข้ามาหาเธอใกล้ขึ้น มือใหญ่ทั้งสองข้างวางแนบแก้มของเธอ บังคับให้เธอมองสบตาเขาไม่หลบตาหนีอีก
“คิดมากเรื่องอะไรคะ บอกพี่มาเถอะ ให้พี่ได้อธิบายหรือว่าเพราะเรื่องจันทร์กับยายหนูงั้นหรือ”
ศศิพิมพ์ชั่งใจหนัก เธอมองเขา และสุดท้ายก็ตัดสินใจได้
“ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ”
“งั้นเราไปนอนกันดีกว่า ดึกมากแล้วนะเดี๋ยวไม่สบาย”
จิรสินไม่เซ้าซี้ ชายหนุ่มโน้มตัวจูบหนักๆ ที่กลุ่มผมนุ่มก่อนลุกไปจัดแจงล็อกประตูหน้าต่างบ้านให้เรียบร้อย พอเดินกลับมาหาภรรยาอีกครั้งก็จับจูงมือเล็กนั่นเดินขึ้นชั้นบนไปพร้อมกัน
คืนนี้ศศิพิมพ์เข้านอนด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ค่อนข้างจะเป็นด้านลบ
ในอ้อมกอดอุ่น เธอปวดหัวใจ
คำที่แม่สอนลอยเข้ามาในหัว การแต่งงานพื้นฐานที่จะไปกันรอดคือความไว้ใจ แต่... ก็เพราะไว้ใจไม่ใช่หรือ พ่อถึงทิ้งแม่ไปกับคนอื่นได้!
เล่นกับจิรสินคราวนี้ยากหน่อยเพราะฝ่ายผู้หญิงไม่ใช่คนหวั่นไหวได้ง่ายๆ ที่จะปั่นหัวได้เหมือนกับปุณณมา
แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินกว่าที่จะทำ!
ตีรณามองข้อมูลที่ได้จากนักสืบ ใช่แค่จิรสินที่มีอดีต ฝั่งศศิพิมพ์เองก็ใช่ย่อย เมื่ออ่านจบเธอก็แปลกใจมากที่สองคนนี้ยังอยู่ด้วยกันมาได้จนถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่คนในอดีตของทั้งคู่ต่างกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
จิรสินมีปุณณมา
ศศิพิมพ์มีณวัฒน์ อ้อ! พ่วงด้วยคู่หมั้นเขาอรนุชา เรื่องก็ออกจะน้ำเน่านิดหน่อยที่เป็นเรื่องรักหลายเส้า
ตีรณากระหยิ่มยิ้ม คราวนี้เธออาจจะเหนื่อยมากหน่อยแต่ก็สนุกดี กระทุ้งฝ่ายเมียไปแล้ว ข้างผัวเองเธอก็ไม่ปล่อยไว้
ก็ให้มันรู้ไปว่าเธอจะแยกคู่นี้ไม่สำเร็จ
เชื้อความระแวงขอแค่เธอเพาะมันได้แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ แค่เท่านั้นทุกอย่างก็จะแพร่ลาม แล้วจิรสินก็จะต้องเจ็บอีกครั้ง
ตีรณามั่นใจ... คราวนี้เขาจะต้องเจ็บมากกว่าครั้งไหนๆ
แน่นอนว่ายิ่งเขารักศศิพิมพ์มากเท่าไหร่ เขาจะต้องยิ่งเจ็บปวดมากกว่านั้นเป็นร้อยเท่า เธอจะทำให้เขารู้สึกว่าแค่หายใจมันก็เจ็บเกินอยากจะอยู่บนโลกนี้!
ตั้งแต่แต่งงานกันมาเราไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากัน
จิรสินอดคิดไม่ได้ เมื่อควานมือหาร่างบอบบางที่เคยกอดนอนอยู่ทุกคืนแต่ไม่พบ
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองและพบว่าในห้องนั้นมีเพียงเขาคนเดียว จิรสินผ่อนลมหายใจพลางยกมือขึ้นลูบหน้าเมื่อพลิกตัวนอนหงาย เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้พูดกันเลย ศศิพิมพ์ดูมีเรื่องให้คิด ให้หนักใจแต่เธอไม่เคยเอ่ยอะไรให้เขาฟัง ดังนั้นมันจึงทำให้เขารู้สึกว่าเรามีอะไรที่ยังไม่เข้าใจกัน เป็นปัญหาที่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นปัญหาอะไร
ชีวิตครอบครัวของเรายังเหมือนเดิม แต่ในความคงเดิมนั้นกลับมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป บางสิ่งที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่งหลังจัดแจงเก็บผ้าห่มและหมอนให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยก็เข้าห้องน้ำไป วันนี้เขาตื่นสายเพราะตอนนี้แปดโมงครึ่งเข้าไปแล้ว คงเพราะเมื่อคืนนอนดึกเช้านี้จึงค่อนข้างเพลีย
เมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมา เสียงพูดคุยเบาๆ ก็ดังมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มยืนนิ่งฟัง เสียงนี้ไม่ใช่ใครนอกจากณวัฒน์
ไม่อยากคิดมาก แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ รู้ศศิพิมพ์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับชายคนนี้นอกจากรู้สึกผิด แต่กับณวัฒน์ มันไม่ใช่ คนในอดีตของเธอแสดงชัดว่ายังรักภรรยาของเขา และรักมาก
จิรสินไม่อยากคิดไปเอง แต่ความรู้สึกลึกๆ ในอก มันคอยบอกว่าณวัฒน์เหมือนกำลังใช้อาการป่วยของตัวเอง กับงานบังหน้าเพื่อเข้าใกล้ศศิพิมพ์
เป็นอารมณ์ที่น่ารังเกียจมากสำหรับการคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้
ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ส.ค. 2561, 22:35:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ส.ค. 2561, 22:35:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 672
<< ๑๙ คลางแคลง (125%) | ๑๙ คลางแคลง (200%) >> |
กาซะลองพลัดถิ่น 13 ส.ค. 2561, 01:40:08 น.
เริ่ม ดราม่าเพราะมือที่สามแล้วใช่่ไหมค่ะ...แต่จะว่าไปสินควรที่จะเข้าใจเิมพ์นะต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน...คนเป็นเียก็ยังอ่อนไหวง่ายกับผู้หญิงคนก่อนอยู่ดี....แล้วผู้ชายกับผู้หญิงคนก่อนเก่าจะเข้ามาทำลายชีวิตสองคนนี่ทำไมอีก
เริ่ม ดราม่าเพราะมือที่สามแล้วใช่่ไหมค่ะ...แต่จะว่าไปสินควรที่จะเข้าใจเิมพ์นะต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน...คนเป็นเียก็ยังอ่อนไหวง่ายกับผู้หญิงคนก่อนอยู่ดี....แล้วผู้ชายกับผู้หญิงคนก่อนเก่าจะเข้ามาทำลายชีวิตสองคนนี่ทำไมอีก