ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 16 -30%
เพชรไพลินนอนหลับไปจนกระทั่งรุ่งเช้า จึงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยลำคอที่แห้งผาก เธอพยุงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ ห้อง ห้องนี้ตกแต่งเหมือนห้องเพนท์เฮาส์ของชีคมุซตาฮ์ซาน ทว่ากลับกว้างขวางกว่า เดาว่าที่นี่น่าจะเป็นห้องใดห้องหนึ่งของคฤหาสน์ซาบาฮัทเป็นแน่
เธอต้องรีบรักษาตัวแล้วหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!
“คุณเพชรไพลินฟื้นแล้วหรือคะ เป็นยังไงบ้างคะยังเจ็บอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวตอนสายๆ คุณหมอจะเข้ามาตรวจดูแผลนะคะ ส่วนตอนนี้ดิฉันจะพาคุณเพชรไพลินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเราจะออกมาทำกายภาพบำบัดกันค่ะ” พยาบาลสาวพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน ส่งไม้เท้าให้ใช้ค้ำที่รักแร้เพื่อที่จะเดินเหินด้วยตนเองได้
หลังจากจัดการชำระล้างร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็มานั่งอยู่ที่ปลายเตียงเพื่อให้รัตติกาลช่วยแต่งตัวให้ เสื้อผ้าที่สวมเป็นของรัตติกาลที่นำมาให้ยืมใส่ไปก่อน เธอหยิบกระจกบานเล็กขึ้นส่องดูริมฝีปากล่าง รอยแผลเริ่มแห้งสนิทแล้วแต่ยังต้องทายาสม่ำเสมอ จากนั้นจึงเอ่ยปากถามถึงเจ้าของห้องที่ไม่มาดูดำดูดีเธอเสียเลย
“เอ่อแล้วท่านชีคล่ะคะ”
“ท่านชีคกลับไทยไปแล้วค่ะ ส่วนรายละเอียดคุณเพชรคงต้องถามดาอี เพราะดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน”
ตอบไม่ถูกว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ในขณะนี้เรียกว่าโล่งใจหรือรู้สึกโหยหาเขากันแน่
ก็ดีแล้วนี่เพชรไพลิน เขาไม่มาคอยก่อกวน เธอจะได้อยู่อย่างสบายใจไปสักพัก อย่างน้อยช่วงเวลานี้เธออาจพบหนทางที่จะหนีไปจากที่นี่ก็ได้
“เดี๋ยวสักพักสาวใช้จะนำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟให้ค่ะ ระหว่างนี้เรามาทำกายภาพกันก่อนนะคะ” นางพยาบาลสาวจับให้เพชรไพลินนอนเหยียดยาวไปบนที่นอน แล้วเริ่มทำกายภาพโดยเริ่มจากให้หญิงสาวยกขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นแล้วเกร็งกล้ามเนื้อขาค้างเอาไว้สิบวินาทีแล้วพัก จากนั้นจึงทำท่าต่อไป
มันเป็นท่ากายบริหารง่ายๆ แต่ทว่าเมื่อหน้าแข้งหัก การบริหารที่ว่าง่ายกลับกลายเป็นยากและสร้างความเจ็บปวดให้เธอจนน้ำตาเล็ด
“เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ เชิญคุณเพชรพักผ่อนตามสบาย”
“อย่าเพิ่งไปค่ะคุณพยาบาล ช่วยตามดาอีมาพบฉันหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปบอกคุณดาอีให้มาพบคุณ” รัตติกาลหันมายิ้มรับแล้วเดินกลับออกไป
เพชรไพลินยังคงนอนอยู่บนเตียง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ บนเตียง ห้องน้ำและครีมอาบน้ำในห้องน้ำที่เธอจำได้แม่นว่าเคยได้กลิ่นมันอยู่บนตัวชีคหนุ่มกำลังทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
เธอคิดถึงเขา ผู้ชายที่ทำให้เธอเสียใจเพราะความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ
“ตลกน่า ภาพนอนกอดกับผู้ชายขนาดนั้น ต่อให้เป็นพ่อพระก็คงหลงเชื่อรูปเหล่านั้นมากกว่าจะเชื่อคำพูดจากปากเราอยู่แล้ว” หญิงสาวหัวเราะขบขันโชคชะตาของตัวเอง ด้วยรู้ดีว่าชีคมุซตาฮ์ซานไม่ผิดที่จะโกรธเกลียดเธอ เพราะหากเป็นเธอ เธอก็คงทั้งโกรธและเสียใจกับสิ่งที่ได้เห็นแน่นอน
ประตูที่แง้มเอาไว้ถูกอ้าออกให้กว้างขึ้น เพชรไพลินหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยคิดว่าเป็นดาอี ทว่ากลับไม่ใช่ สิ่งที่เดินนวยนาดเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเกียจคร้าน มีขนาดตัวของมันสูงใหญ่กว่าสุนัขพูเดิล ขนสีขาวยาวปุกปุยน่าฟัด
“เจ้าเหมียว ไม่สิ นะดามานี่ซิ” เพชรไพลินร้องเรียกแมวตัวยักษ์ด้วยความเอ็นดู ทว่ามันกลับชำเลืองมองเธอด้วยหางตาอย่างไม่สนใจ มันส่งเสียงร้องเบาๆ แล้วเดินไปรอบๆ ห้องราวกับสำรวจ หางยาวของมันเป็นพวงสวยส่ายไปมาก่อนจะเดินวนกลับมาหาหญิงสาว
“ท่ามากเสียจริง เหมือนเจ้านายของแกไม่มีผิด” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วยีขนปุยของมันด้วยความหมั่นไส้ มันส่งเสียงครางอย่างพอใจ ก่อนจะนอนเอกเขนกราบไปกับพื้นด้วยท่าทางมีความสุข
“เจ้านายของแกไม่อยู่หรอกนะดา เขาไม่อยากเจอฉันเลยกลับเมืองไทยไปแล้ว” เธอจำชื่อของมันได้ดี นะดาซึ่งแปลว่าน้ำค้าง จะว่าไปแล้วเธอจำทุกอย่างเกี่ยวกับชีคมุซตาฮ์ซานและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยเล่าให้ฟังได้ดี นี่ละมั้งที่ทำให้เธอคิดถึงเขาแทบทุกลมหายใจ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรหัวใจเจ้ากรรมก็พานคิดถึงคนใจร้ายอยู่ร่ำไป
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เชิญค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอนุญาต ดาอีจึงเข้ามาในห้อง เขาเหลือบมองที่ขาของหญิงสาว ไม่จำเป็นต้องมีถ้อยคำไถ่ถามเธอก็รู้ได้ว่าผู้ชายหน้านิ่งไม่ชอบแสดงอารมณ์คนนี้เป็นห่วงเธอ ก็เพราะดวงตาของเขามันฟ้อง เธอสังเกตจนสามารถรู้ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“คุณเพชรไพลินเรียกผมมีอะไรครับ” เขายืนเว้นระยะห่างแล้วเอ่ยถามอย่างสุภาพเช่นเคย
“นั่งก่อนสิดาอี”
เธอผายมือไปยังเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ดาอีเห็นสีหน้าของคนป่วยไม่สู้ดี จึงไม่อยากขัดใจ เธอคงมีธุระสำคัญจะปรึกษา มิเช่นนั้นคงไม่เรียกเขามาพบ
“ครับคุณเพชรไพลิน พูดธุระมาเถอะครับ ผมคงนั่งอยู่ได้ไม่นานเพราะมันไม่เหมาะสม หากใครเอาไปพูดในทางไม่ดี คุณเพชรไพลินจะเสียหายเอาได้”
สมแล้วที่เป็นองครักษ์คนสนิทของชีคมุซตาฮ์ซาน เขารอบคอบและมีสติอยู่ตลอดเวลา แทบไม่มีคำว่าพลาดบัญญัติไว้ในหัวสมองของเขา
“ไม่มีอะไรที่ต้องเสียหายแล้วละค่ะดาอี ผู้หญิงอย่างเพชรต่อให้พยายามทำดีแค่ไหน แต่ในสายตาของคนที่เรารักก็เป็นได้แค่ผู้หญิงแพศยาเท่านั้นเอง” หญิงสาวยิ้มหม่นหมองแห้งแล้งราวกับฤดูใบไม้ร่วง
“อย่าต่อว่าตัวเองอย่างงั้นสิครับคุณเพชร” ใช่ว่าเขาจะไม่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างชีคมุซตาฮ์ซานกับเพชรไพลิน แต่ถ้าหากจะให้เขาถามคงไม่มีวันนั้น เว้นเสียแต่ว่าจะมีใครเล่าออกมาเอง
“คนที่บอกว่าเพชรเป็นคนไม่ดี คือเจ้านายของคุณต่างหากล่ะ ดาอี” เธอแค่นเสียงหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง จะผิดไหมที่เธอต้องการที่ปรึกษาแล้วเธอก็เลือกดาอี แม้รู้ว่าเขาจงรักภักดีกับชีคมุซตาฮ์ซานเหนือสิ่งอื่นใดก็ตาม ทว่า ณ เวลานี้เขาเป็นคนเดียวที่เธอไว้ใจได้
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับท่านชีค แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือท่านชีครักคุณ”
***********
มาต่อให้ในวันหยุดจ้า พักผ่อนกันสบายๆ มีความสุขกับนิยายของปลายปากกาสำนักพิมพ์นะคะ^^
นอกจากทรายล้อมเพชรแนวโรมานซ์ดราม่าแล้ว ใครชอบแนวโรแมนติกน่ารักๆ แต่มีความดราม่าเช่นกัน ติดตาม ‘รักรออุ้ม’ (แต่งโดย ‘ทักษิณา’) ต่อได้นะคะ เพิ่งเริ่มลงให้อ่านอยู่ในเว็บเลิฟเช่นกันจ้า ทักทายกันได้น้าาาา ทีมงานและกองบรรณาธิการปลายปากกาสำนักพิมพ์จะพยายามเฟ้นหานิยายสนุกๆ มาตีพิมพ์ให้อ่านกันเรื่อยๆ ค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
เธอต้องรีบรักษาตัวแล้วหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!
“คุณเพชรไพลินฟื้นแล้วหรือคะ เป็นยังไงบ้างคะยังเจ็บอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวตอนสายๆ คุณหมอจะเข้ามาตรวจดูแผลนะคะ ส่วนตอนนี้ดิฉันจะพาคุณเพชรไพลินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเราจะออกมาทำกายภาพบำบัดกันค่ะ” พยาบาลสาวพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน ส่งไม้เท้าให้ใช้ค้ำที่รักแร้เพื่อที่จะเดินเหินด้วยตนเองได้
หลังจากจัดการชำระล้างร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็มานั่งอยู่ที่ปลายเตียงเพื่อให้รัตติกาลช่วยแต่งตัวให้ เสื้อผ้าที่สวมเป็นของรัตติกาลที่นำมาให้ยืมใส่ไปก่อน เธอหยิบกระจกบานเล็กขึ้นส่องดูริมฝีปากล่าง รอยแผลเริ่มแห้งสนิทแล้วแต่ยังต้องทายาสม่ำเสมอ จากนั้นจึงเอ่ยปากถามถึงเจ้าของห้องที่ไม่มาดูดำดูดีเธอเสียเลย
“เอ่อแล้วท่านชีคล่ะคะ”
“ท่านชีคกลับไทยไปแล้วค่ะ ส่วนรายละเอียดคุณเพชรคงต้องถามดาอี เพราะดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน”
ตอบไม่ถูกว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ในขณะนี้เรียกว่าโล่งใจหรือรู้สึกโหยหาเขากันแน่
ก็ดีแล้วนี่เพชรไพลิน เขาไม่มาคอยก่อกวน เธอจะได้อยู่อย่างสบายใจไปสักพัก อย่างน้อยช่วงเวลานี้เธออาจพบหนทางที่จะหนีไปจากที่นี่ก็ได้
“เดี๋ยวสักพักสาวใช้จะนำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟให้ค่ะ ระหว่างนี้เรามาทำกายภาพกันก่อนนะคะ” นางพยาบาลสาวจับให้เพชรไพลินนอนเหยียดยาวไปบนที่นอน แล้วเริ่มทำกายภาพโดยเริ่มจากให้หญิงสาวยกขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นแล้วเกร็งกล้ามเนื้อขาค้างเอาไว้สิบวินาทีแล้วพัก จากนั้นจึงทำท่าต่อไป
มันเป็นท่ากายบริหารง่ายๆ แต่ทว่าเมื่อหน้าแข้งหัก การบริหารที่ว่าง่ายกลับกลายเป็นยากและสร้างความเจ็บปวดให้เธอจนน้ำตาเล็ด
“เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ เชิญคุณเพชรพักผ่อนตามสบาย”
“อย่าเพิ่งไปค่ะคุณพยาบาล ช่วยตามดาอีมาพบฉันหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปบอกคุณดาอีให้มาพบคุณ” รัตติกาลหันมายิ้มรับแล้วเดินกลับออกไป
เพชรไพลินยังคงนอนอยู่บนเตียง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ บนเตียง ห้องน้ำและครีมอาบน้ำในห้องน้ำที่เธอจำได้แม่นว่าเคยได้กลิ่นมันอยู่บนตัวชีคหนุ่มกำลังทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
เธอคิดถึงเขา ผู้ชายที่ทำให้เธอเสียใจเพราะความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ
“ตลกน่า ภาพนอนกอดกับผู้ชายขนาดนั้น ต่อให้เป็นพ่อพระก็คงหลงเชื่อรูปเหล่านั้นมากกว่าจะเชื่อคำพูดจากปากเราอยู่แล้ว” หญิงสาวหัวเราะขบขันโชคชะตาของตัวเอง ด้วยรู้ดีว่าชีคมุซตาฮ์ซานไม่ผิดที่จะโกรธเกลียดเธอ เพราะหากเป็นเธอ เธอก็คงทั้งโกรธและเสียใจกับสิ่งที่ได้เห็นแน่นอน
ประตูที่แง้มเอาไว้ถูกอ้าออกให้กว้างขึ้น เพชรไพลินหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยคิดว่าเป็นดาอี ทว่ากลับไม่ใช่ สิ่งที่เดินนวยนาดเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเกียจคร้าน มีขนาดตัวของมันสูงใหญ่กว่าสุนัขพูเดิล ขนสีขาวยาวปุกปุยน่าฟัด
“เจ้าเหมียว ไม่สิ นะดามานี่ซิ” เพชรไพลินร้องเรียกแมวตัวยักษ์ด้วยความเอ็นดู ทว่ามันกลับชำเลืองมองเธอด้วยหางตาอย่างไม่สนใจ มันส่งเสียงร้องเบาๆ แล้วเดินไปรอบๆ ห้องราวกับสำรวจ หางยาวของมันเป็นพวงสวยส่ายไปมาก่อนจะเดินวนกลับมาหาหญิงสาว
“ท่ามากเสียจริง เหมือนเจ้านายของแกไม่มีผิด” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วยีขนปุยของมันด้วยความหมั่นไส้ มันส่งเสียงครางอย่างพอใจ ก่อนจะนอนเอกเขนกราบไปกับพื้นด้วยท่าทางมีความสุข
“เจ้านายของแกไม่อยู่หรอกนะดา เขาไม่อยากเจอฉันเลยกลับเมืองไทยไปแล้ว” เธอจำชื่อของมันได้ดี นะดาซึ่งแปลว่าน้ำค้าง จะว่าไปแล้วเธอจำทุกอย่างเกี่ยวกับชีคมุซตาฮ์ซานและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยเล่าให้ฟังได้ดี นี่ละมั้งที่ทำให้เธอคิดถึงเขาแทบทุกลมหายใจ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรหัวใจเจ้ากรรมก็พานคิดถึงคนใจร้ายอยู่ร่ำไป
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เชิญค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอนุญาต ดาอีจึงเข้ามาในห้อง เขาเหลือบมองที่ขาของหญิงสาว ไม่จำเป็นต้องมีถ้อยคำไถ่ถามเธอก็รู้ได้ว่าผู้ชายหน้านิ่งไม่ชอบแสดงอารมณ์คนนี้เป็นห่วงเธอ ก็เพราะดวงตาของเขามันฟ้อง เธอสังเกตจนสามารถรู้ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“คุณเพชรไพลินเรียกผมมีอะไรครับ” เขายืนเว้นระยะห่างแล้วเอ่ยถามอย่างสุภาพเช่นเคย
“นั่งก่อนสิดาอี”
เธอผายมือไปยังเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ดาอีเห็นสีหน้าของคนป่วยไม่สู้ดี จึงไม่อยากขัดใจ เธอคงมีธุระสำคัญจะปรึกษา มิเช่นนั้นคงไม่เรียกเขามาพบ
“ครับคุณเพชรไพลิน พูดธุระมาเถอะครับ ผมคงนั่งอยู่ได้ไม่นานเพราะมันไม่เหมาะสม หากใครเอาไปพูดในทางไม่ดี คุณเพชรไพลินจะเสียหายเอาได้”
สมแล้วที่เป็นองครักษ์คนสนิทของชีคมุซตาฮ์ซาน เขารอบคอบและมีสติอยู่ตลอดเวลา แทบไม่มีคำว่าพลาดบัญญัติไว้ในหัวสมองของเขา
“ไม่มีอะไรที่ต้องเสียหายแล้วละค่ะดาอี ผู้หญิงอย่างเพชรต่อให้พยายามทำดีแค่ไหน แต่ในสายตาของคนที่เรารักก็เป็นได้แค่ผู้หญิงแพศยาเท่านั้นเอง” หญิงสาวยิ้มหม่นหมองแห้งแล้งราวกับฤดูใบไม้ร่วง
“อย่าต่อว่าตัวเองอย่างงั้นสิครับคุณเพชร” ใช่ว่าเขาจะไม่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างชีคมุซตาฮ์ซานกับเพชรไพลิน แต่ถ้าหากจะให้เขาถามคงไม่มีวันนั้น เว้นเสียแต่ว่าจะมีใครเล่าออกมาเอง
“คนที่บอกว่าเพชรเป็นคนไม่ดี คือเจ้านายของคุณต่างหากล่ะ ดาอี” เธอแค่นเสียงหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง จะผิดไหมที่เธอต้องการที่ปรึกษาแล้วเธอก็เลือกดาอี แม้รู้ว่าเขาจงรักภักดีกับชีคมุซตาฮ์ซานเหนือสิ่งอื่นใดก็ตาม ทว่า ณ เวลานี้เขาเป็นคนเดียวที่เธอไว้ใจได้
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับท่านชีค แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือท่านชีครักคุณ”
***********
มาต่อให้ในวันหยุดจ้า พักผ่อนกันสบายๆ มีความสุขกับนิยายของปลายปากกาสำนักพิมพ์นะคะ^^
นอกจากทรายล้อมเพชรแนวโรมานซ์ดราม่าแล้ว ใครชอบแนวโรแมนติกน่ารักๆ แต่มีความดราม่าเช่นกัน ติดตาม ‘รักรออุ้ม’ (แต่งโดย ‘ทักษิณา’) ต่อได้นะคะ เพิ่งเริ่มลงให้อ่านอยู่ในเว็บเลิฟเช่นกันจ้า ทักทายกันได้น้าาาา ทีมงานและกองบรรณาธิการปลายปากกาสำนักพิมพ์จะพยายามเฟ้นหานิยายสนุกๆ มาตีพิมพ์ให้อ่านกันเรื่อยๆ ค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ส.ค. 2561, 08:20:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ส.ค. 2561, 08:20:00 น.
จำนวนการเข้าชม : 622
<< บทที่ 15 -100% | บทที่ 16 -60% >> |