ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 17 -60%
เมื่อรถแท็กซี่เขียวเหลืองแล่นเข้าไปในซอย รุจินภาซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังก็หมอบลงอย่างระวังตัว ก่อนจะเอ่ยปากบอกคนขับว่า
“ขับผ่านบ้านทรงไทยไปเลยค่ะ ขับผ่านไปช้าๆ นะคะ”
คนขับแท็กซี่มองพฤติกรรมของหญิงวัยกลางคนด้วยความสงสัยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี
รุจินภาชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน และมองบริเวณรอบๆ จึงไปสะดุดกับรถตู้ซึ่งจอดเยื้องไปทางด้านขวาตรงหน้าบ้าน มั่นใจว่ารถคันนี้เป็นรถของธัญธรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สวมชุดดำยืนสูบบุหรี่อยู่ท้ายรถตู้ เธอก็ยิ่งมั่นใจ
“เข้าไปจอดสุดซอยเลยค่ะ”
เธอบอกให้แท็กซี่จอดเพื่อตั้งหลัก หากเธอลงไปตอนนี้ละก็คงโดนลากกลับไปให้ไอ้ธัญธรณ์มันกระทืบตายแน่ เรื่องอะไรเธอจะลงไปให้โง่ ไม่มีทางเสียล่ะ รุจินภาหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทร.เข้าเบอร์บ้าน
“สวัสดีค่ะ บ้านนาฏศิลป์ค่ะ” เสียงออยรับสาย รุจินภาจำเสียงได้
“ออยนี่ฉันเองนะ”
“คุณรุจิหรือคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ รู้ไหมว่าตอนนี้บ้านแทบไม่เป็นบ้านแล้ว เพราะมีชายชุดดำมาคอยดักซุ่มอยู่เต็มไปหมด น่ากลัวมากเลยค่ะ” ออยรีบรายงานความเป็นไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว เพชรล่ะอยู่หรือเปล่า เรียกมารับโทรศัพท์หน่อย”
“คุณเพชรไม่อยู่ค่ะ หายไปตั้งแต่วันเกิด ออยติดต่อไม่ได้เลย ว่าจะไปแจ้งความแต่ก็คิดว่าอาจจะไปกับคุณ ออยก็เลยยังไม่ได้แจ้งความ”
รุจินภาถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพชรไพลินหายไป เธอจะได้จัดการขายบ้านหลังนี้ แล้วหลบไปอยู่ต่างจังหวัด
“ฟังให้ดีนะออย ฉันเลิกจ้างแกแล้ว แกจัดการล็อกบ้านและซ่อนกุญแจทั้งหมดไว้ในกระถางดอกโป๊ยเซียนซะ เพราะฉันจะขายบ้านหลังนี้ ส่วนเงินค่าจ้างไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะโอนให้แกเอง”
“แล้วออยจะไปทำงานที่ไหนคะคุณรุจิ คุณเพชรทราบหรือยังว่าคุณรุจิขายบ้าน หากคุณเพชรทราบเรื่องเธอต้องไม่ยอมแน่ๆ เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณย่าทวดนะคะ” ออยเอ่ยทักท้วงอย่างไม่เห็นด้วย
“นังเพชรมันตายไปแล้วจะมาเห็นด้วยได้ยังไง แกอย่าพูดมาก จัดการทำตามที่ฉันสั่ง ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้เงินแกสักบาทเลยคอยดู” พูดจบก็กดวางสาย แล้วสั่งให้แท็กซี่ขับออกไปจากซอย โดยเธอหมอบอยู่ด้านหลังเช่นเดียวกับตอนเข้ามา
ออยถึงกับเข่าอ่อน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเพชรไพลินจะตายไปแล้วจริงๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน แล้วตอนนี้เพชรไพลินอยู่ที่ไหน...
*************
ความดีใจของกมลทิพย์ดับวูบลงทันทีเมื่อต้องเดินทางไปรัฐรามานด้วยเครื่องบินส่วนตัวของชีคมุซตาฮ์ซาน แต่กลับพบว่าผู้เดินทางอีกคนคือนางแบบสาวที่เธอแสนเกลียดชัง...มาธาวี
“เสนอหน้ามาทำไม นี่คงใช้มารยาขอตามท่านชีคมาด้วยน่ะสิ” เมื่อสบโอกาสเธอก็แขวะอีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อน
ทว่านางแบบสาวกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีไม่มีท่าทางทุกข์ร้อนกับถ้อยคำเสียดสีของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“จะมาด้วยวิธีไหนฉันก็มาในฐานะคู่ขาของท่านชีค ที่แน่ๆ คือนอนร่วมเตียงนะจ๊ะ ไม่ได้มาในฐานะขี้ข้าต้องคอยทำงานงกๆ เหมือนใครบางคน”
“แกว่าใคร” กมลทิพย์โกรธจนควันออกหูเมื่อถูกอีกฝ่ายข่มทับ รู้ตัวดีว่าสู้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่เลขานุการ เธอจึงหวังมัดใจท่านชีคจากการทำงานใกล้ชิดในครั้งนี้ ทว่าแผนกลับรวนไม่เป็นท่าเมื่อพบว่ามีมารหัวใจอย่างเมธาวีเดินทางไปด้วย ทั้งที่กำจัดนังเพชรไพลินออกไปจนพ้นทางได้แล้วแท้ๆ
“ใครอยากรับก็เชิญ ฉันไม่ได้ระบุชื่อ” เมธาวีเหยียดริมฝีปาก ทำท่าจะเดินจากไป แต่กลับคิดอะไรออกจึงหันกลับมาแล้วปรบมือเบาๆ ให้กับกมลทิพย์
“ฉันขอปรบมือให้เธอนะแม่เลขาคนเก่งที่กำจัดเพชรไพลินออกไปจนได้ ว่าแต่วิธีไหนล่ะพอจะบอกฉันได้หรือเปล่า” เมธาวีไม่รู้ชัด แต่มั่นใจว่าชีคมุซตาฮ์ซานเขี่ยเพชรไพลินทิ้งแล้วแน่ๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มาหาเธอหรอก พอเธออ้อนขอตามมายังรามาน เขาก็ไม่คัดค้านทั้งยังยอมให้เธอตามมาอีกด้วย
“ฉันไม่รู้เรื่อง แกอย่ามาพูดพล่อยๆ” กมลทิพย์ปฏิเสธเสียงแข็ง เรื่องอะไรจะยอมรับ ในเมื่อเห็นๆ กันอยู่ว่าผู้หญิงตรงหน้าซ่อนดาบปลายแหลมเอาไว้ด้านหลังพร้อมจะจ้วงแทงเธอทุกเวลา
“งั้นเหรอ แล้วใครทำนะ เลวได้ใจฉันจริงๆ เลย” นางแบบสาวแกล้งยั่วซึ่งมันได้ผล กมลทิพย์โกรธจนหน้าแดงก่ำกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ ก่อนจะสะบัดหน้ากระแทกเท้าเดินไปอีกห้องหนึ่งทันที
เมธาวียักไหล่แล้วเดินตามออกไป แต่ครั้งนี้เป้าหมายของเธอคือชีคมุซตาฮ์ซาน เธอเตรียมไม้เด็ดไว้มากมายหวังจะมัดใจชีคหนุ่มให้จงได้เช่นกัน
เมื่อนักบินประกาศว่าเครื่องกำลังจะแล่นลงจอดที่สนามบินในรัฐรามาน เมธาวีกับกมลทิพย์ก็พร้อมใจกันควักครีมกันแดดออกมาชโลมผิวเสียยกใหญ่ จัดการสวมแว่นตาดำและหมวกปีกกว้างเพื่อป้องกันผิวสวยจากแสงแดดอย่างเต็มที่
ชีคมุซตาฮ์ซานถึงกับส่ายหน้า ไพล่คิดไปถึงเพชรไพลิน รายนั้นเวลาไปเที่ยวกลางแจ้งกับเขาไม่เคยห่วงสวย เขาเสียอีกต้องเป็นคนสวมหมวกให้เพราะกลัวว่าจะไม่สบาย เมื่อคิดไปถึงคนที่ไม่ควรคิดถึงชายหนุ่มก็ส่ายหน้าน้อยๆ บีบที่สันจมูกอย่างหักห้ามความคิด เขาไม่ควรคิดถึงเธอ ไม่ควร!
ที่เขาพาเมธาวีมาที่นี่ก็เพื่อจะคอยกันหัวใจตัวเองไม่ให้ใจอ่อนกับเพชรไพลิน เขาไม่ควรหลงกลแม่มดในคราบนางฟ้าอีกเป็นอันขาด
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“ขับผ่านบ้านทรงไทยไปเลยค่ะ ขับผ่านไปช้าๆ นะคะ”
คนขับแท็กซี่มองพฤติกรรมของหญิงวัยกลางคนด้วยความสงสัยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี
รุจินภาชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน และมองบริเวณรอบๆ จึงไปสะดุดกับรถตู้ซึ่งจอดเยื้องไปทางด้านขวาตรงหน้าบ้าน มั่นใจว่ารถคันนี้เป็นรถของธัญธรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สวมชุดดำยืนสูบบุหรี่อยู่ท้ายรถตู้ เธอก็ยิ่งมั่นใจ
“เข้าไปจอดสุดซอยเลยค่ะ”
เธอบอกให้แท็กซี่จอดเพื่อตั้งหลัก หากเธอลงไปตอนนี้ละก็คงโดนลากกลับไปให้ไอ้ธัญธรณ์มันกระทืบตายแน่ เรื่องอะไรเธอจะลงไปให้โง่ ไม่มีทางเสียล่ะ รุจินภาหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทร.เข้าเบอร์บ้าน
“สวัสดีค่ะ บ้านนาฏศิลป์ค่ะ” เสียงออยรับสาย รุจินภาจำเสียงได้
“ออยนี่ฉันเองนะ”
“คุณรุจิหรือคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ รู้ไหมว่าตอนนี้บ้านแทบไม่เป็นบ้านแล้ว เพราะมีชายชุดดำมาคอยดักซุ่มอยู่เต็มไปหมด น่ากลัวมากเลยค่ะ” ออยรีบรายงานความเป็นไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว เพชรล่ะอยู่หรือเปล่า เรียกมารับโทรศัพท์หน่อย”
“คุณเพชรไม่อยู่ค่ะ หายไปตั้งแต่วันเกิด ออยติดต่อไม่ได้เลย ว่าจะไปแจ้งความแต่ก็คิดว่าอาจจะไปกับคุณ ออยก็เลยยังไม่ได้แจ้งความ”
รุจินภาถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพชรไพลินหายไป เธอจะได้จัดการขายบ้านหลังนี้ แล้วหลบไปอยู่ต่างจังหวัด
“ฟังให้ดีนะออย ฉันเลิกจ้างแกแล้ว แกจัดการล็อกบ้านและซ่อนกุญแจทั้งหมดไว้ในกระถางดอกโป๊ยเซียนซะ เพราะฉันจะขายบ้านหลังนี้ ส่วนเงินค่าจ้างไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะโอนให้แกเอง”
“แล้วออยจะไปทำงานที่ไหนคะคุณรุจิ คุณเพชรทราบหรือยังว่าคุณรุจิขายบ้าน หากคุณเพชรทราบเรื่องเธอต้องไม่ยอมแน่ๆ เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณย่าทวดนะคะ” ออยเอ่ยทักท้วงอย่างไม่เห็นด้วย
“นังเพชรมันตายไปแล้วจะมาเห็นด้วยได้ยังไง แกอย่าพูดมาก จัดการทำตามที่ฉันสั่ง ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้เงินแกสักบาทเลยคอยดู” พูดจบก็กดวางสาย แล้วสั่งให้แท็กซี่ขับออกไปจากซอย โดยเธอหมอบอยู่ด้านหลังเช่นเดียวกับตอนเข้ามา
ออยถึงกับเข่าอ่อน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเพชรไพลินจะตายไปแล้วจริงๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน แล้วตอนนี้เพชรไพลินอยู่ที่ไหน...
*************
ความดีใจของกมลทิพย์ดับวูบลงทันทีเมื่อต้องเดินทางไปรัฐรามานด้วยเครื่องบินส่วนตัวของชีคมุซตาฮ์ซาน แต่กลับพบว่าผู้เดินทางอีกคนคือนางแบบสาวที่เธอแสนเกลียดชัง...มาธาวี
“เสนอหน้ามาทำไม นี่คงใช้มารยาขอตามท่านชีคมาด้วยน่ะสิ” เมื่อสบโอกาสเธอก็แขวะอีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อน
ทว่านางแบบสาวกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีไม่มีท่าทางทุกข์ร้อนกับถ้อยคำเสียดสีของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“จะมาด้วยวิธีไหนฉันก็มาในฐานะคู่ขาของท่านชีค ที่แน่ๆ คือนอนร่วมเตียงนะจ๊ะ ไม่ได้มาในฐานะขี้ข้าต้องคอยทำงานงกๆ เหมือนใครบางคน”
“แกว่าใคร” กมลทิพย์โกรธจนควันออกหูเมื่อถูกอีกฝ่ายข่มทับ รู้ตัวดีว่าสู้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่เลขานุการ เธอจึงหวังมัดใจท่านชีคจากการทำงานใกล้ชิดในครั้งนี้ ทว่าแผนกลับรวนไม่เป็นท่าเมื่อพบว่ามีมารหัวใจอย่างเมธาวีเดินทางไปด้วย ทั้งที่กำจัดนังเพชรไพลินออกไปจนพ้นทางได้แล้วแท้ๆ
“ใครอยากรับก็เชิญ ฉันไม่ได้ระบุชื่อ” เมธาวีเหยียดริมฝีปาก ทำท่าจะเดินจากไป แต่กลับคิดอะไรออกจึงหันกลับมาแล้วปรบมือเบาๆ ให้กับกมลทิพย์
“ฉันขอปรบมือให้เธอนะแม่เลขาคนเก่งที่กำจัดเพชรไพลินออกไปจนได้ ว่าแต่วิธีไหนล่ะพอจะบอกฉันได้หรือเปล่า” เมธาวีไม่รู้ชัด แต่มั่นใจว่าชีคมุซตาฮ์ซานเขี่ยเพชรไพลินทิ้งแล้วแน่ๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มาหาเธอหรอก พอเธออ้อนขอตามมายังรามาน เขาก็ไม่คัดค้านทั้งยังยอมให้เธอตามมาอีกด้วย
“ฉันไม่รู้เรื่อง แกอย่ามาพูดพล่อยๆ” กมลทิพย์ปฏิเสธเสียงแข็ง เรื่องอะไรจะยอมรับ ในเมื่อเห็นๆ กันอยู่ว่าผู้หญิงตรงหน้าซ่อนดาบปลายแหลมเอาไว้ด้านหลังพร้อมจะจ้วงแทงเธอทุกเวลา
“งั้นเหรอ แล้วใครทำนะ เลวได้ใจฉันจริงๆ เลย” นางแบบสาวแกล้งยั่วซึ่งมันได้ผล กมลทิพย์โกรธจนหน้าแดงก่ำกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ ก่อนจะสะบัดหน้ากระแทกเท้าเดินไปอีกห้องหนึ่งทันที
เมธาวียักไหล่แล้วเดินตามออกไป แต่ครั้งนี้เป้าหมายของเธอคือชีคมุซตาฮ์ซาน เธอเตรียมไม้เด็ดไว้มากมายหวังจะมัดใจชีคหนุ่มให้จงได้เช่นกัน
เมื่อนักบินประกาศว่าเครื่องกำลังจะแล่นลงจอดที่สนามบินในรัฐรามาน เมธาวีกับกมลทิพย์ก็พร้อมใจกันควักครีมกันแดดออกมาชโลมผิวเสียยกใหญ่ จัดการสวมแว่นตาดำและหมวกปีกกว้างเพื่อป้องกันผิวสวยจากแสงแดดอย่างเต็มที่
ชีคมุซตาฮ์ซานถึงกับส่ายหน้า ไพล่คิดไปถึงเพชรไพลิน รายนั้นเวลาไปเที่ยวกลางแจ้งกับเขาไม่เคยห่วงสวย เขาเสียอีกต้องเป็นคนสวมหมวกให้เพราะกลัวว่าจะไม่สบาย เมื่อคิดไปถึงคนที่ไม่ควรคิดถึงชายหนุ่มก็ส่ายหน้าน้อยๆ บีบที่สันจมูกอย่างหักห้ามความคิด เขาไม่ควรคิดถึงเธอ ไม่ควร!
ที่เขาพาเมธาวีมาที่นี่ก็เพื่อจะคอยกันหัวใจตัวเองไม่ให้ใจอ่อนกับเพชรไพลิน เขาไม่ควรหลงกลแม่มดในคราบนางฟ้าอีกเป็นอันขาด
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2561, 12:29:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2561, 12:29:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 575
<< บทที่ 17 -30% | บทที่ 17 -100% >> |