รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 7 -50%
ปกเกศได้งานใหม่เป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นบรรยากาศดี ที่สำคัญคราวนี้ร้านเลิกสี่ทุ่มเท่านั้น แถมยังอยู่ใกล้บ้านสะดวกสบาย หญิงสาวคิดว่าตัวเองจะไม่ต้องเดือดร้อนให้พี่ชายคอยมารับให้ลำบากอีกแล้ว แต่ธีรไนยก็ยังทำเหมือนเดิม เขามาคอยรอรับเธอทุกวันจนปกเกศรู้สึกเกรงใจ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของพี่ชายได้เลย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่วันปกเกศก็ทำงานที่ร้านใหม่นี้ครบสามเดือนแล้ว เธอเริ่มคิดว่าทุกอย่างในชีวิตเข้าที่เข้าทาง กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ฝันร้ายที่เกิดขึ้นค่อยๆ หายไปจากชีวิตที่แสนปกติของเธออย่างช้าๆ
ทว่าสำหรับธีรไนยในค่ำคืนนี้ เขากลับดูเงียบขรึมผิดตาไป
ธีรไนยเดินมารับปกเกศกลับบ้านเหมือนเช่นทุกวัน ทั้งที่ความจริงแล้วจากที่ทำงาน ปกเกศสามารถเดินกลับเองคนเดียวก็ได้ แต่พี่ชายก็ยังห่วงใย คอยตามดูแลเธอตลอด
“งานหนักเหรอพี่ไนย...มีเรื่องอะไรให้เกศพอช่วยได้ก็บอกเลยนะเกศอยากช่วยแบ่งเบาพี่ไนยบ้าง”
ปกเกศเอ่ยขึ้นในที่สุด หลังจากที่ทนมองท่าทางครุ่นคิดหนักของเขามาครู่หนึ่งแล้ว
“ช่างสังเกตจังนะเรา”
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนพลางยกมือใหญ่ของตัวเอง ลูบศีรษะน้องสาวต่างสายเลือดอย่างเอ็นดู
“อะไรที่เกี่ยวกับพี่ไนย เกศสนใจทั้งนั้นละค่ะ” ปกเกศตอบเสียงสดใสร่าเริง ไม่ต้องเสียเวลาคิดเพราะเธอทั้งรักและเคารพเขายิ่งกว่าใครๆ อยู่แล้ว
“ขอบใจนะ” ธีรไนยอมยิ้ม แต่ไม่พูดอะไรต่อ ร้อนถึงปกเกศต้องถามย้ำ
“พี่ไนยยังไม่ได้บอกเลยนะคะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอ”
“ไม่สำคัญอะไรหรอก...อยากกินขนมอะไร ว่ามาเลย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
เขาเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน ปกเกศได้ยินคำว่า ‘ขนม’ ก็ตาโต หันไปสนใจร้านขนมแผงลอยที่ตั้งเรียงรายข้างทางเดิน หญิงสาววิ่งผ่านหน้าทางเข้าผับอินดี้อินเลิฟของเจ๊มะนาว ไม่ทันคิดว่าจะมีรถแล่นปราดออกมาด้วยความเร็วมากกว่าปกติทั่วไป
“เกศระวัง!!”
เอี๊ยด!!!
รถสปอร์ตแรงสูงสีแดงคันนั้น จอดห่างเพียงไม่กี่คืบจากธีรไนย ซึ่งช่วยกันตัวปกเกศเอาไว้ในลักษณะปกป้อง พอหายตกใจแล้วเจ้าตัวจึงหันไปมองเจ้าของรถหรู เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาสะดุดตา เปิดประตูรถก้าวลงมา
ฝ่ายนั้นจ้องเขม็งมาที่ปกเกศ ดวงตาคมวาวโรจน์ เกรี้ยวกราดราวกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติก่อน
“ซุ่มซ่าม อยากตายหรือไง ทำไมไม่รู้จักดูรถ!”
กานต์ชนกต่อว่าหญิงสาวเสียงเย็นเยียบ น่ากลัว ปากบางสวยไม่แพ้ผู้หญิงเม้มเข้าหากันเมื่อเจ้าตัวเห็นปกเกศเงยหน้าขึ้นมาสบตา
เธอดูตกใจมากที่ได้พบเขาอีกครั้ง หญิงสาวอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่แล้วก็กลับเปลี่ยนใจ หุบปากเงียบ หันไปทางธีรไนยแทน
“พี่ไนย ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
“ไม่ พี่ไม่เป็นไร เกศล่ะ ไม่เจ็บตรงไหนนะ” ธีรไนยเอ่ยถามเช่นกัน พลางก้มมองสำรวจไปทั่วตัวน้องสาวอย่างห่วงใย
“ไม่ค่ะ เกศไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกัน...เรารีบกลับบ้านกันเถอะค่ะพี่ไนย” ปกเกศดึงแขน ชักชวนให้ธีรไนยเดินต่อ เธอไม่อยากให้พี่ชายรู้จักกับกานต์ชนก ไม่อยากให้เฉียดใกล้กันเลยด้วยซ้ำ
ร่างเล็กฉุดแขนคนเป็นพี่ชายพาเดินหนีไปด้วยกัน ไม่สนใจอีกคนที่ยืนจ้องเขม็งมองมาและไม่ได้หยุดแค่นั้น
กานต์ชนกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาตามเข้าไปคว้าแขนเรียวของปกเกศเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“อย่าเพิ่งไป ปกเกศ จะรีบไปไหน กลัวฉันมากหรือไง!”
“ปล่อย ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ!”
เธอหันมาตวาดพร้อมรีบดึงมือเขาออกจากแขนตัวเอง อาการต่อต้านราวกับเกลียดชังเขาเป็นอย่างยิ่งของปกเกศ ทำให้ธีรไนยต้องหยุดหันมองตามด้วยความประหลาดใจ
“เกศ รู้จักเขาด้วยเหรอ?”
“ไม่ค่ะ ไม่รู้จัก ไม่ต้องสนใจเขาหรอกค่ะพี่ไนย เรารีบกลับ...โอ๊ย ปล่อยสิ ฉันบอกให้ปล่อยไม่ได้ยินเหรอ!!” ปกเกศพูดไม่ทันจบก็ต้องร้องออกมา เพราะกานต์ชนกเล่นไม่ยอมปล่อยมือจากแขนเธอ แถมยังดึงแรงจนเธอเจ็บแปลบ จำต้องหันไปถลึงตาใส่เขาอย่างโมโหจัด
แต่อีกฝ่ายไม่เคยให้ใครมาออกคำสั่ง ถ้าหน้าตาไม่เหมือนพ่อกับแม่ของเขาก็อย่าหวังเลย!!
“ต้องคุยกันก่อน ไม่งั้นก็อย่าหวังจะได้ไปไหน ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่” กานต์ชนกเน้นเสียงห้วน ดุเข้ม ท่าทางคุกคามน่ากลัวของเขาทำให้ ปกเกศใจเต้นแรง ฝ่ามือชื้นเหงื่อไปหมด
เขาต้องการอะไรกันแน่...ทำไมต้องราวีเธอด้วย น่าจะต่างคนต่างไปสิ!
“จะคุยอะไรกับยายเกศก็คุยมาเลย แต่ก่อนอื่นช่วยปล่อยแขนเกศก่อน คุณบีบแน่นไปแล้ว”
ธีรไนยขัดขึ้นอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มเอื้อมไปแกะมือหนาของอีกฝ่ายออกพ้นจากลำแขนเล็กๆ ของปกเกศในลักษณะปกป้อง คุ้มครอง และพร้อมปะทะกับกานต์ชนกหากฝ่ายนั้นยังไม่ยอมรามือ
คนถูกแกะมือออก หันมาจ้องหน้าบึ้งของหญิงสาว ริมฝีปากบางเฉียบเหมือนอยากเอ่ยอะไร แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเงียบไปนาน จนปกเกศคิดจะชวนพี่ชายวิ่งหนีไปอยู่แล้ว จู่ๆ กานต์ชนกก็เอ่ยถามห้วนๆ
“คนนี้ใคร แฟนเธอเหรอ?”
เขาถามถึงธีรไนย หญิงสาวเหลือบมองสบตาพี่ชายก็กอดแขนธีรไนยหมับ บอกปัดหน้าตาเฉย
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ พูดธุระของคุณมาสิ พูดจบแล้วฉันจะได้กลับบ้าน”
“กลับกับไอ้หมอนี่เนี่ยนะ” กานต์ชนกย้อนถามไม่พอใจ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“ฉันจะกลับกับใครก็ไม่เกี่ยวกับคุณ บอกแล้วไง จะพูดอะไรก็รีบๆ พูด ไม่งั้นฉันจะไป” ประกาศไปแล้วก็ไม่รอฟังเขาหรอก เธอดึงแขนพี่ชายจะพาเดินหนีด้วยความไวแสง ทว่าเสียงทุ้มของอีกฝ่ายเรียกเอาไว้อีกครา
“ฉันอยากคุยเรื่องคืนนั้น”
เขาเกริ่นมาเท่านั้น ปกเกศก็ชะงักฝีเท้าพลัน ใจหายวาบ ออกอาการตื่นตกใจจนธีรไนยสังเกตได้
***********
ช่วงนี้ทีมงานสลับลงอยู่ 2 เรื่อง อย่าเพิ่งมึนกันนะคะ 555+ ฝากหนูเกศกับนายกานต์ชนกจอมเอาแต่ใจด้วยค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่วันปกเกศก็ทำงานที่ร้านใหม่นี้ครบสามเดือนแล้ว เธอเริ่มคิดว่าทุกอย่างในชีวิตเข้าที่เข้าทาง กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ฝันร้ายที่เกิดขึ้นค่อยๆ หายไปจากชีวิตที่แสนปกติของเธออย่างช้าๆ
ทว่าสำหรับธีรไนยในค่ำคืนนี้ เขากลับดูเงียบขรึมผิดตาไป
ธีรไนยเดินมารับปกเกศกลับบ้านเหมือนเช่นทุกวัน ทั้งที่ความจริงแล้วจากที่ทำงาน ปกเกศสามารถเดินกลับเองคนเดียวก็ได้ แต่พี่ชายก็ยังห่วงใย คอยตามดูแลเธอตลอด
“งานหนักเหรอพี่ไนย...มีเรื่องอะไรให้เกศพอช่วยได้ก็บอกเลยนะเกศอยากช่วยแบ่งเบาพี่ไนยบ้าง”
ปกเกศเอ่ยขึ้นในที่สุด หลังจากที่ทนมองท่าทางครุ่นคิดหนักของเขามาครู่หนึ่งแล้ว
“ช่างสังเกตจังนะเรา”
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนพลางยกมือใหญ่ของตัวเอง ลูบศีรษะน้องสาวต่างสายเลือดอย่างเอ็นดู
“อะไรที่เกี่ยวกับพี่ไนย เกศสนใจทั้งนั้นละค่ะ” ปกเกศตอบเสียงสดใสร่าเริง ไม่ต้องเสียเวลาคิดเพราะเธอทั้งรักและเคารพเขายิ่งกว่าใครๆ อยู่แล้ว
“ขอบใจนะ” ธีรไนยอมยิ้ม แต่ไม่พูดอะไรต่อ ร้อนถึงปกเกศต้องถามย้ำ
“พี่ไนยยังไม่ได้บอกเลยนะคะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอ”
“ไม่สำคัญอะไรหรอก...อยากกินขนมอะไร ว่ามาเลย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
เขาเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน ปกเกศได้ยินคำว่า ‘ขนม’ ก็ตาโต หันไปสนใจร้านขนมแผงลอยที่ตั้งเรียงรายข้างทางเดิน หญิงสาววิ่งผ่านหน้าทางเข้าผับอินดี้อินเลิฟของเจ๊มะนาว ไม่ทันคิดว่าจะมีรถแล่นปราดออกมาด้วยความเร็วมากกว่าปกติทั่วไป
“เกศระวัง!!”
เอี๊ยด!!!
รถสปอร์ตแรงสูงสีแดงคันนั้น จอดห่างเพียงไม่กี่คืบจากธีรไนย ซึ่งช่วยกันตัวปกเกศเอาไว้ในลักษณะปกป้อง พอหายตกใจแล้วเจ้าตัวจึงหันไปมองเจ้าของรถหรู เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาสะดุดตา เปิดประตูรถก้าวลงมา
ฝ่ายนั้นจ้องเขม็งมาที่ปกเกศ ดวงตาคมวาวโรจน์ เกรี้ยวกราดราวกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติก่อน
“ซุ่มซ่าม อยากตายหรือไง ทำไมไม่รู้จักดูรถ!”
กานต์ชนกต่อว่าหญิงสาวเสียงเย็นเยียบ น่ากลัว ปากบางสวยไม่แพ้ผู้หญิงเม้มเข้าหากันเมื่อเจ้าตัวเห็นปกเกศเงยหน้าขึ้นมาสบตา
เธอดูตกใจมากที่ได้พบเขาอีกครั้ง หญิงสาวอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่แล้วก็กลับเปลี่ยนใจ หุบปากเงียบ หันไปทางธีรไนยแทน
“พี่ไนย ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
“ไม่ พี่ไม่เป็นไร เกศล่ะ ไม่เจ็บตรงไหนนะ” ธีรไนยเอ่ยถามเช่นกัน พลางก้มมองสำรวจไปทั่วตัวน้องสาวอย่างห่วงใย
“ไม่ค่ะ เกศไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกัน...เรารีบกลับบ้านกันเถอะค่ะพี่ไนย” ปกเกศดึงแขน ชักชวนให้ธีรไนยเดินต่อ เธอไม่อยากให้พี่ชายรู้จักกับกานต์ชนก ไม่อยากให้เฉียดใกล้กันเลยด้วยซ้ำ
ร่างเล็กฉุดแขนคนเป็นพี่ชายพาเดินหนีไปด้วยกัน ไม่สนใจอีกคนที่ยืนจ้องเขม็งมองมาและไม่ได้หยุดแค่นั้น
กานต์ชนกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาตามเข้าไปคว้าแขนเรียวของปกเกศเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“อย่าเพิ่งไป ปกเกศ จะรีบไปไหน กลัวฉันมากหรือไง!”
“ปล่อย ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ!”
เธอหันมาตวาดพร้อมรีบดึงมือเขาออกจากแขนตัวเอง อาการต่อต้านราวกับเกลียดชังเขาเป็นอย่างยิ่งของปกเกศ ทำให้ธีรไนยต้องหยุดหันมองตามด้วยความประหลาดใจ
“เกศ รู้จักเขาด้วยเหรอ?”
“ไม่ค่ะ ไม่รู้จัก ไม่ต้องสนใจเขาหรอกค่ะพี่ไนย เรารีบกลับ...โอ๊ย ปล่อยสิ ฉันบอกให้ปล่อยไม่ได้ยินเหรอ!!” ปกเกศพูดไม่ทันจบก็ต้องร้องออกมา เพราะกานต์ชนกเล่นไม่ยอมปล่อยมือจากแขนเธอ แถมยังดึงแรงจนเธอเจ็บแปลบ จำต้องหันไปถลึงตาใส่เขาอย่างโมโหจัด
แต่อีกฝ่ายไม่เคยให้ใครมาออกคำสั่ง ถ้าหน้าตาไม่เหมือนพ่อกับแม่ของเขาก็อย่าหวังเลย!!
“ต้องคุยกันก่อน ไม่งั้นก็อย่าหวังจะได้ไปไหน ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่” กานต์ชนกเน้นเสียงห้วน ดุเข้ม ท่าทางคุกคามน่ากลัวของเขาทำให้ ปกเกศใจเต้นแรง ฝ่ามือชื้นเหงื่อไปหมด
เขาต้องการอะไรกันแน่...ทำไมต้องราวีเธอด้วย น่าจะต่างคนต่างไปสิ!
“จะคุยอะไรกับยายเกศก็คุยมาเลย แต่ก่อนอื่นช่วยปล่อยแขนเกศก่อน คุณบีบแน่นไปแล้ว”
ธีรไนยขัดขึ้นอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มเอื้อมไปแกะมือหนาของอีกฝ่ายออกพ้นจากลำแขนเล็กๆ ของปกเกศในลักษณะปกป้อง คุ้มครอง และพร้อมปะทะกับกานต์ชนกหากฝ่ายนั้นยังไม่ยอมรามือ
คนถูกแกะมือออก หันมาจ้องหน้าบึ้งของหญิงสาว ริมฝีปากบางเฉียบเหมือนอยากเอ่ยอะไร แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเงียบไปนาน จนปกเกศคิดจะชวนพี่ชายวิ่งหนีไปอยู่แล้ว จู่ๆ กานต์ชนกก็เอ่ยถามห้วนๆ
“คนนี้ใคร แฟนเธอเหรอ?”
เขาถามถึงธีรไนย หญิงสาวเหลือบมองสบตาพี่ชายก็กอดแขนธีรไนยหมับ บอกปัดหน้าตาเฉย
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ พูดธุระของคุณมาสิ พูดจบแล้วฉันจะได้กลับบ้าน”
“กลับกับไอ้หมอนี่เนี่ยนะ” กานต์ชนกย้อนถามไม่พอใจ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“ฉันจะกลับกับใครก็ไม่เกี่ยวกับคุณ บอกแล้วไง จะพูดอะไรก็รีบๆ พูด ไม่งั้นฉันจะไป” ประกาศไปแล้วก็ไม่รอฟังเขาหรอก เธอดึงแขนพี่ชายจะพาเดินหนีด้วยความไวแสง ทว่าเสียงทุ้มของอีกฝ่ายเรียกเอาไว้อีกครา
“ฉันอยากคุยเรื่องคืนนั้น”
เขาเกริ่นมาเท่านั้น ปกเกศก็ชะงักฝีเท้าพลัน ใจหายวาบ ออกอาการตื่นตกใจจนธีรไนยสังเกตได้
***********
ช่วงนี้ทีมงานสลับลงอยู่ 2 เรื่อง อย่าเพิ่งมึนกันนะคะ 555+ ฝากหนูเกศกับนายกานต์ชนกจอมเอาแต่ใจด้วยค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ย. 2561, 08:48:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ย. 2561, 08:51:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 616
| << บทที่ 6 -100% | บทที่ 7 -100% >> |