รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 21 -60%
“คุณแม่...ชาช่า...มาทำอะไรที่นี่ครับ”
กานต์ชนกถามมารดากับสโรชาด้วยความงุนงง ทว่าทั้งสองคนพอเข้ามาถึงก็เปิดฉากเสียงดัง จนปกเกศที่หลับอยู่สะดุ้งตื่น
“พวกเรามารับตัวพี่กานต์กลับบ้านค่ะ คุณป้าบอกช่าหมดแล้ว ว่าเมื่อวานพี่กานต์ไม่ได้กลับบ้าน แต่มาอดหลับอดนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ช่าเป็นห่วงก็เลยขอมาหาพี่กานต์กับคุณป้าด้วย...” สโรชาอธิบาย พร้อมกับรีบเดินเข้ามาคว้าแขนเขา ฉุดให้ชายหนุ่มถอยห่างออกมาจากปกเกศ ใบหน้าเบะเบี้ยว บูดบึ้ง “มาทางนี้เถอะค่ะพี่กานต์ อย่าเข้าใกล้พวกสิบแปดมงกุฎ หลอกลวงพวกนี้เลยค่ะ”
“พูดเรื่องอะไรน่ะชาช่า” กานต์ชนกยังงงๆ ไม่เข้าใจ มารดาของเขาจึงเอ่ยขึ้นมาเสียเอง
“หนูช่าหมายถึงเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้หวังจะตกถังข้าวสาร อยากให้ลูกตัวเองเป็นทายาทของบ้านเราไง แม่กับพ่อของเรารู้เรื่องหมดแล้วนะตากานต์ ที่ลูกตรวจดีเอ็นเอกับเด็กนั่นน่ะ”
“ฮะ!”
“คุณว่าไงนะคะ?”
กานต์ชนกตกใจ แต่ปกเกศตะลึงยิ่งกว่า เธอหันขวับไปมองชายหนุ่มอย่างตกใจสุดขีด
กานต์ชนกทำอะไร...นี่เขา...
“ไม่ต้องมาทำเหลอหลา ไม่รู้เรื่องเลย ฉันรู้หรอก เธอมันแผนสูง คิดจะเอาลูกมาเรียกร้องเงินจากครอบครัวของฉัน บอกไว้เลยนะว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย ฟ้าดินไม่เข้าข้างคนเลว ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว ลูกของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดอะไรกับลูกชายฉัน จำใส่หัวเธอเอาไว้ อย่าได้คิดเอาเด็กมาก่อกวนชีวิตลูกชายของฉันกับหนูชาช่าอีก!”
ปกเกศตะลึงกับวาจาดูหมิ่นกันอย่างร้ายกาจของคุณนายตีรณา เธออึ้ง พูดไม่ออก จ้องมองสาวใหญ่กับสโรชาตาค้าง ก่อนค่อยๆ เบือนหน้าหันมาทางกานต์ชนก
เมื่อคืน เขากุลีกุจอเป็นตัวตั้งตัวตีพาเธอกับลูกมาที่นี่...เธอหลงคิดว่าเขาเป็นห่วงน้องปั้นด้วยใจจริง แต่ความจริงแล้วเขากลับแอบตรวจดีเอ็นเอลูกชาย โดยไม่บอกเธอสักคำ!
เขาจงใจพาน้องปั้นมาที่นี่ ก็เพื่อการนี้!!
ใบหน้าหวานเผือดซีด เธอไม่ได้สนใจที่คุณตีรณาด่าว่า เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แม้ผลการตรวจดีเอ็นเอที่บอกว่ากานต์ชนกไม่ใช่พ่อของน้องปั้นก็เช่นกัน หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อาจมีข้อผิดพลาดได้ แต่เธอรู้ดีที่สุดว่าความจริงมันคืออะไร...ที่ปวดใจเหลือคณานับ กลับเป็นการกระทำซ่อนเล่ห์ร้าย ที่กานต์ชนกเสแสร้งแกล้งทำให้เธอตายใจ ปั่นหัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่าต่างหาก
หญิงสาวเจ็บแปลบปลาบ ปวดร้าวในอกเหมือนถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงนับไม่ถ้วน...กรอบตาคู่สวยร้อนผ่าว เอ่อรื้นหยดน้ำปริ่มขึ้นมา เจ้าตัวต้องเมินหน้า หันไปทางอื่น ซ่อนน้ำตาของตัวเองจากสายตาของเขา
ทว่าคุณตีรณากับสโรชาต่างกอดอก ยิ้มเยาะหยัน
“ร้องไห้น่าสงสารแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ เธอหลอกพี่กานต์ไม่ได้อีกแล้ว เอาลูกเธอกลับบ้านไปซะ ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่อง พวกเราจะแจ้งความ เอาเรื่องที่เธอมาต้มตุ๋นหลอกลวง” สโรชาได้ใจขู่ไม่หยุด
ปกเกศใช้หลังมือป้ายน้ำตาทิ้งลวกๆ ก่อนหันไปเห็นดวงตาใสแป๋วของทารกน้อยบนเตียง ที่ค่อยๆ ลืมขึ้นมองมาที่เธอ ดวงตาของแม่กับลูกสบกัน พริบตานั้นหนูน้อยก็ชูมือจะเข้าหาเธอ ทำปากจู๋ส่งเสียงร้องในลำคอเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวหิวแล้ว
คนเป็นแม่รีบลุกจากเก้าอี้ เข้าไปช้อนอุ้มร่างจิ๋วเข้ามากอดรัดอย่างทะนุถนอม เธอเดินไปหลบหลังผ้าม่าน ให้นมลูกชายเงียบๆ
กิริยาเหมือนไม่สนใจใครของปกเกศสร้างความไม่พอใจให้กับสโรชาเป็นอย่างยิ่ง เธอทำท่าจะตามเข้าไปหาฝ่ายนั้น แต่กลับต้องชะงักเพราะมือใหญ่ของกานต์ชนกที่กางขวางเอาไว้
“จะไปไหนชาช่า”
“พี่กานต์ไม่เห็นเหรอ ยายนั่นทำเป็นไม่สนใจพวกเรา ตัวเองทำผิดแท้ๆ ยังมีหน้ามาทำเมินใส่พวกเรา จะขอโทษสักคำก็ไม่มี”
“พอเถอะ ปกเกศกำลังให้นมลูกอยู่ อย่าไปรบกวนเลย” กานต์ชนกเสียงอ่อนลง ใบหน้าคมเครียดขรึม ครุ่นคิด
เขาทำให้สโรชาผิดหวังอยู่ลึกๆ เธอหวังจะเห็นเขาดีใจที่ไม่ต้องเป็นพ่อของเด็กคนนั้น แต่นี่คืออะไร...เขาทำหน้าไม่เหมือนคนที่เพิ่งหลุดพ้นจากเงื้อมมือของนางมารร้ายเลย
“พี่กานต์คะ...” สโรชาอยากขอร้องให้เขาหูตาสว่างสักที ปกเกศมีดีอะไร ทำไมเขาต้องยุ่งวุ่นวายไม่เลิก ดูเถอะ นี่ขนาดว่าความจริงออกมาแล้ว ว่าเด็กไม่ใช่ลูก แต่เขาก็ยังไม่เลิกกังวลกับสองแม่ลูกคู่นั้น
“เอ่อ...นั่นสิกานต์ เลิกสนใจคนหลอกลวงอย่างนั้นเถอะลูก เอาลูกใครที่ไหนไม่รู้มาแอบอ้าง ทำได้ถึงขนาดนี้แสดงว่าไม่มีจิตสำนึก...” คุณตีรณาช่วยเกลี้ยกล่อมลูกชายอีกแรง
“ปกเกศไม่ได้แอบอ้างครับ ผมเป็นคนขอให้อาสงกรานต์ช่วยตรวจดีเอ็นเอน้องปั้นกับผมเอง เรื่องนี้ปกเกศไม่รู้เรื่องด้วยเลยครับคุณแม่” ชายหนุ่มขัดขึ้นก่อนที่มารดาจะพูดจบ หากเขาไม่รีบอธิบายจะยิ่งเข้าใจผิดไปกันใหญ่
“อะไรนะ ที่ตรวจดีเอ็นเอกันนี่ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เรื่องด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่ครับ ปกเกศไม่ทราบด้วยเลย ผมทำเองโดยพลการ” ชายหนุ่มยืนยันเสียงเข้ม หนักแน่น
คุณตีรณารู้สึกเสียหน้าอย่างแรง
เธอฟังสามีพูดเมื่อเช้าแบบไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด คิดเอาเองว่าปกเกศอยากให้กานต์ชนกรับเด็กชายปกกานต์เป็นทายาท กานต์ชนกก็เลยต้องขอให้หมอสงกรานต์ช่วยตรวจดีเอ็นเอให้
เธอโทร.หาสโรชา นัดมาเจอกันที่หน้าโรงพยาบาล แต่อันที่จริงคือเธอมาถึงก่อนแล้วและรีบไปหาหมอสงกรานต์เพื่อดักรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อนใครเพื่อน
เธอเป็นคนแรกที่ได้ทราบผลตรวจดีเอ็นเอของเด็กนั่น...แล้วเธอก็เล่าเรื่องของสองแม่ลูกให้สโรชารับทราบตามความเข้าใจของตัวเอง ลูกสาวของเพื่อนสนิทเลยยิ่งเป็นเดือดเป็นแค้นแทนกานต์ชนก ต้องการปกป้องเขาจากสองแม่ลูกจอมลวงโลก
ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามนั้นโดยราบรื่น เว้นก็แต่กานต์ชนกดันพูดในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดออกมา
“เป็นไปไม่ได้...” สาวใหญ่ยังส่ายหน้าไปมา ใบหน้างามแลดูอ่อนกว่าวัยเวลานี้เผือดซีด
“คุณป้าคะ คุณป้าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าดูไม่ค่อยดีเลย” สโรชาเกาะแขนคุณตีรณา เขย่าถามอย่างตกใจ
จู่ๆ คุณป้าเล่นช็อกไปดื้อๆ มันเกิดอะไรขึ้น?
“ไม่ลูก ป้าไม่เป็นไรหนูช่า...” คุณตีรณาบอกกับสโรชาอย่างนั้นแล้ว ก็หันไปทางปกเกศซึ่งยืนหลบให้นมและเล่นกับลูกอยู่ เสียงเล็กๆ ของทารกน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อารมณ์ดี ไม่ได้สนใจเรื่องโกลาหลวุ่นวายของผู้ใหญ่ที่รายล้อมอยู่เลย
ดวงตาเรียวแหลมเจ้าอารมณ์เพ่งมองสองแม่ลูกที่อยู่หลังผ้าม่านเนื้อหนา คุณตีรณาครุ่นคิดบางอย่างชั่วขณะ จากนั้นจึงดึงกระเป๋าถือตัวเองขึ้นมา หยิบเอาสมุดเช็คมาเขียนและเซ็นชื่อลงไป ก่อนฉีกแควกแล้วก้าวฉับๆ เข้าไปหาสองแม่ลูก
ปกเกศไม่ทันคิดว่าอีกฝ่ายจะก้าวพรวดเข้ามาหา พอหันไปมอง กระดาษแผ่นเล็กๆ ในมือของคุณตีรณาก็ถูกยื่นมาแทบจะเสยหน้าเธอ
“เอาเงินนี่ไปซะ ถือเป็นค่าชดใช้ที่ฉันเข้าใจเธอผิดไป ต่อไปก็อย่าเอาลูกของเธอมายุ่งวุ่นวายกับลูกชายของฉันอีก ให้มันจบๆ กันไปซะ”
“คุณแม่” กานต์ชนกก้าวตามมารดาเข้ามา ทันได้แลเห็นใบหน้าเย็นชาของปกเกศพอดี
“จะต้องมาให้เงินดิฉันทำไมคะ ในเมื่อน้องปั้นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณกานต์ชนก ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่คุณจะต้องมาเสียเงินให้ดิฉัน...ถ้าไม่มีธุระอะไรกันแล้ว ช่วยออกไปจากห้องนี้ให้หมดด้วย...ลูกชายดิฉันต้องการพักผ่อน แกไม่ชอบเสียงเอะอะโวยวาย...”
ปกเกศพยายามบังคับเสียงตัวเองแล้ว แต่ตอนท้ายก็ยังแกว่ง และแหบแห้งหายลงคอไป เธอต้องรีบหันหน้าหนี ปล่อยน้ำตาตัวเองให้หลั่งรินลงมา
เสียงประตูห้องเปิดและปิดดังตามมา ก่อนที่ทุกอย่างในห้องจะกลับคืนสู่ความเงียบงัน เธอเข้าใจว่าทุกคนออกไปหมดแล้ว เลยซุกหน้ากอดลูกชายเอาไว้แน่น ปล่อยเสียงสะอื้นของตัวเองหลุดออกมาอย่างสุดอดกลั้น
ขนาดไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ยังถูกเหยียบย่ำ ดูหมิ่นถึงขนาดนี้...ว่าเธอไม่พอ ยังลามมาถึงเด็กทารกไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีก คนพวกนี้ไม่มีดีเลยสักคน!
“รอคุณหมอมาตรวจก่อน แล้วแม่จะรีบพาหนูกลับบ้านเรา...คนเลวพวกนี้ อยู่ให้ไกลคนละโยชน์เลยยิ่งดี”
เธอบอกลูกชายก่อนวางร่างจิ๋วนั้นลงนอนบนเตียงตามเดิม จัดการกระชับผ้าห่อตัวเด็กให้เข้าที่ หนูน้อยอารมณ์ดี ตัวก็ไม่ร้อนแล้ว คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหากเธอจะขอคุณหมอพาตัวลูกชายกลับบ้านช่วงสายเลย
ปกเกศหยอกล้อกับลูกไม่ทันได้สนใจอะไร จนครู่หนึ่ง เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้น พอหันไปมองก็ต้องอึ้ง เมื่อเห็นร่างสูงของกานต์ชนกก้าวเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ท่ามกลางสายตางุนงง ไม่เข้าใจของปกเกศ
กานต์ชนกไม่ได้ออกจากห้องนี้ไปพร้อมกับมารดาและคนรักของเขาหรอกเหรอ...เขาหยุดยืนอยู่เงียบๆ ข้างประตูมาตลอด...ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องได้ยินที่เธอพูดกับลูกเมื่อครู่น่ะสิ
คิ้วสวยเป็นระเบียบของหญิงสาวขมวดลู่ ทว่าไม่กี่อึดใจ เจ้าตัวก็หลับตาลงส่ายหน้าไปมา
อย่าไปสนใจเลยปกเกศ ผู้ชายเจ้าเล่ห์เพทุบายร้ายกาจอย่างเขา ก็คงไม่ต่างจากคุณนายคนนั้น
เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผลตรวจดีเอ็นเอ แต่เธอก็ไม่คิดสนใจอยู่แล้ว ดีเสียอีก กานต์ชนกจะได้เลิกมาราวีเธอกับน้องปั้น
พวกคนตระกูลธรรมธาดา ขอห่างไกลร้อยโยชน์พันโยชน์ ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลยยิ่งดี!
*****************
วันนี้พาน้องปั้นมา Merry Christmas นักอ่านทุกท่านนะคะ555 มีความสุขมากๆ จ้า^^
ช่วงนี้สนพ.มีโปรฯ ลดค่าส่ง 50% อยู่นะคะ (หมดสิ้นเดือนธันวาคมนี้) ใครสนใจใช้โปรฯ เพียงสั่งซื้อนิยายของปลายปากกา 2 เล่ม ก็จะได้ลดค่าส่ง 50% ทันทีค่ะ^^ หรือจะสั่งซื้อ ‘รักรออุ้ม’ ร่วมกับสั่งจองซีรีส์ ‘ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์’ (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ) ที่กำลังเปิดจองอยู่ตอนนี้ที่เพจสนพ. ก็ใช้โปรฯ นี้ได้เช่นกัน อย่าลืมไปใช้สิทธิ์กันน้าาา
**เฉพาะ inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์เท่านั้น + ได้รับของแถมเป็นสมุดโน้ตแบบ memo card พร้อมปฏิทินขนาดเล็กในเล่ม ทุกออเดอร์**
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
กานต์ชนกถามมารดากับสโรชาด้วยความงุนงง ทว่าทั้งสองคนพอเข้ามาถึงก็เปิดฉากเสียงดัง จนปกเกศที่หลับอยู่สะดุ้งตื่น
“พวกเรามารับตัวพี่กานต์กลับบ้านค่ะ คุณป้าบอกช่าหมดแล้ว ว่าเมื่อวานพี่กานต์ไม่ได้กลับบ้าน แต่มาอดหลับอดนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ช่าเป็นห่วงก็เลยขอมาหาพี่กานต์กับคุณป้าด้วย...” สโรชาอธิบาย พร้อมกับรีบเดินเข้ามาคว้าแขนเขา ฉุดให้ชายหนุ่มถอยห่างออกมาจากปกเกศ ใบหน้าเบะเบี้ยว บูดบึ้ง “มาทางนี้เถอะค่ะพี่กานต์ อย่าเข้าใกล้พวกสิบแปดมงกุฎ หลอกลวงพวกนี้เลยค่ะ”
“พูดเรื่องอะไรน่ะชาช่า” กานต์ชนกยังงงๆ ไม่เข้าใจ มารดาของเขาจึงเอ่ยขึ้นมาเสียเอง
“หนูช่าหมายถึงเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้หวังจะตกถังข้าวสาร อยากให้ลูกตัวเองเป็นทายาทของบ้านเราไง แม่กับพ่อของเรารู้เรื่องหมดแล้วนะตากานต์ ที่ลูกตรวจดีเอ็นเอกับเด็กนั่นน่ะ”
“ฮะ!”
“คุณว่าไงนะคะ?”
กานต์ชนกตกใจ แต่ปกเกศตะลึงยิ่งกว่า เธอหันขวับไปมองชายหนุ่มอย่างตกใจสุดขีด
กานต์ชนกทำอะไร...นี่เขา...
“ไม่ต้องมาทำเหลอหลา ไม่รู้เรื่องเลย ฉันรู้หรอก เธอมันแผนสูง คิดจะเอาลูกมาเรียกร้องเงินจากครอบครัวของฉัน บอกไว้เลยนะว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย ฟ้าดินไม่เข้าข้างคนเลว ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว ลูกของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดอะไรกับลูกชายฉัน จำใส่หัวเธอเอาไว้ อย่าได้คิดเอาเด็กมาก่อกวนชีวิตลูกชายของฉันกับหนูชาช่าอีก!”
ปกเกศตะลึงกับวาจาดูหมิ่นกันอย่างร้ายกาจของคุณนายตีรณา เธออึ้ง พูดไม่ออก จ้องมองสาวใหญ่กับสโรชาตาค้าง ก่อนค่อยๆ เบือนหน้าหันมาทางกานต์ชนก
เมื่อคืน เขากุลีกุจอเป็นตัวตั้งตัวตีพาเธอกับลูกมาที่นี่...เธอหลงคิดว่าเขาเป็นห่วงน้องปั้นด้วยใจจริง แต่ความจริงแล้วเขากลับแอบตรวจดีเอ็นเอลูกชาย โดยไม่บอกเธอสักคำ!
เขาจงใจพาน้องปั้นมาที่นี่ ก็เพื่อการนี้!!
ใบหน้าหวานเผือดซีด เธอไม่ได้สนใจที่คุณตีรณาด่าว่า เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แม้ผลการตรวจดีเอ็นเอที่บอกว่ากานต์ชนกไม่ใช่พ่อของน้องปั้นก็เช่นกัน หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อาจมีข้อผิดพลาดได้ แต่เธอรู้ดีที่สุดว่าความจริงมันคืออะไร...ที่ปวดใจเหลือคณานับ กลับเป็นการกระทำซ่อนเล่ห์ร้าย ที่กานต์ชนกเสแสร้งแกล้งทำให้เธอตายใจ ปั่นหัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่าต่างหาก
หญิงสาวเจ็บแปลบปลาบ ปวดร้าวในอกเหมือนถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงนับไม่ถ้วน...กรอบตาคู่สวยร้อนผ่าว เอ่อรื้นหยดน้ำปริ่มขึ้นมา เจ้าตัวต้องเมินหน้า หันไปทางอื่น ซ่อนน้ำตาของตัวเองจากสายตาของเขา
ทว่าคุณตีรณากับสโรชาต่างกอดอก ยิ้มเยาะหยัน
“ร้องไห้น่าสงสารแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะ เธอหลอกพี่กานต์ไม่ได้อีกแล้ว เอาลูกเธอกลับบ้านไปซะ ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่อง พวกเราจะแจ้งความ เอาเรื่องที่เธอมาต้มตุ๋นหลอกลวง” สโรชาได้ใจขู่ไม่หยุด
ปกเกศใช้หลังมือป้ายน้ำตาทิ้งลวกๆ ก่อนหันไปเห็นดวงตาใสแป๋วของทารกน้อยบนเตียง ที่ค่อยๆ ลืมขึ้นมองมาที่เธอ ดวงตาของแม่กับลูกสบกัน พริบตานั้นหนูน้อยก็ชูมือจะเข้าหาเธอ ทำปากจู๋ส่งเสียงร้องในลำคอเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวหิวแล้ว
คนเป็นแม่รีบลุกจากเก้าอี้ เข้าไปช้อนอุ้มร่างจิ๋วเข้ามากอดรัดอย่างทะนุถนอม เธอเดินไปหลบหลังผ้าม่าน ให้นมลูกชายเงียบๆ
กิริยาเหมือนไม่สนใจใครของปกเกศสร้างความไม่พอใจให้กับสโรชาเป็นอย่างยิ่ง เธอทำท่าจะตามเข้าไปหาฝ่ายนั้น แต่กลับต้องชะงักเพราะมือใหญ่ของกานต์ชนกที่กางขวางเอาไว้
“จะไปไหนชาช่า”
“พี่กานต์ไม่เห็นเหรอ ยายนั่นทำเป็นไม่สนใจพวกเรา ตัวเองทำผิดแท้ๆ ยังมีหน้ามาทำเมินใส่พวกเรา จะขอโทษสักคำก็ไม่มี”
“พอเถอะ ปกเกศกำลังให้นมลูกอยู่ อย่าไปรบกวนเลย” กานต์ชนกเสียงอ่อนลง ใบหน้าคมเครียดขรึม ครุ่นคิด
เขาทำให้สโรชาผิดหวังอยู่ลึกๆ เธอหวังจะเห็นเขาดีใจที่ไม่ต้องเป็นพ่อของเด็กคนนั้น แต่นี่คืออะไร...เขาทำหน้าไม่เหมือนคนที่เพิ่งหลุดพ้นจากเงื้อมมือของนางมารร้ายเลย
“พี่กานต์คะ...” สโรชาอยากขอร้องให้เขาหูตาสว่างสักที ปกเกศมีดีอะไร ทำไมเขาต้องยุ่งวุ่นวายไม่เลิก ดูเถอะ นี่ขนาดว่าความจริงออกมาแล้ว ว่าเด็กไม่ใช่ลูก แต่เขาก็ยังไม่เลิกกังวลกับสองแม่ลูกคู่นั้น
“เอ่อ...นั่นสิกานต์ เลิกสนใจคนหลอกลวงอย่างนั้นเถอะลูก เอาลูกใครที่ไหนไม่รู้มาแอบอ้าง ทำได้ถึงขนาดนี้แสดงว่าไม่มีจิตสำนึก...” คุณตีรณาช่วยเกลี้ยกล่อมลูกชายอีกแรง
“ปกเกศไม่ได้แอบอ้างครับ ผมเป็นคนขอให้อาสงกรานต์ช่วยตรวจดีเอ็นเอน้องปั้นกับผมเอง เรื่องนี้ปกเกศไม่รู้เรื่องด้วยเลยครับคุณแม่” ชายหนุ่มขัดขึ้นก่อนที่มารดาจะพูดจบ หากเขาไม่รีบอธิบายจะยิ่งเข้าใจผิดไปกันใหญ่
“อะไรนะ ที่ตรวจดีเอ็นเอกันนี่ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เรื่องด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่ครับ ปกเกศไม่ทราบด้วยเลย ผมทำเองโดยพลการ” ชายหนุ่มยืนยันเสียงเข้ม หนักแน่น
คุณตีรณารู้สึกเสียหน้าอย่างแรง
เธอฟังสามีพูดเมื่อเช้าแบบไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด คิดเอาเองว่าปกเกศอยากให้กานต์ชนกรับเด็กชายปกกานต์เป็นทายาท กานต์ชนกก็เลยต้องขอให้หมอสงกรานต์ช่วยตรวจดีเอ็นเอให้
เธอโทร.หาสโรชา นัดมาเจอกันที่หน้าโรงพยาบาล แต่อันที่จริงคือเธอมาถึงก่อนแล้วและรีบไปหาหมอสงกรานต์เพื่อดักรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อนใครเพื่อน
เธอเป็นคนแรกที่ได้ทราบผลตรวจดีเอ็นเอของเด็กนั่น...แล้วเธอก็เล่าเรื่องของสองแม่ลูกให้สโรชารับทราบตามความเข้าใจของตัวเอง ลูกสาวของเพื่อนสนิทเลยยิ่งเป็นเดือดเป็นแค้นแทนกานต์ชนก ต้องการปกป้องเขาจากสองแม่ลูกจอมลวงโลก
ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามนั้นโดยราบรื่น เว้นก็แต่กานต์ชนกดันพูดในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดออกมา
“เป็นไปไม่ได้...” สาวใหญ่ยังส่ายหน้าไปมา ใบหน้างามแลดูอ่อนกว่าวัยเวลานี้เผือดซีด
“คุณป้าคะ คุณป้าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าดูไม่ค่อยดีเลย” สโรชาเกาะแขนคุณตีรณา เขย่าถามอย่างตกใจ
จู่ๆ คุณป้าเล่นช็อกไปดื้อๆ มันเกิดอะไรขึ้น?
“ไม่ลูก ป้าไม่เป็นไรหนูช่า...” คุณตีรณาบอกกับสโรชาอย่างนั้นแล้ว ก็หันไปทางปกเกศซึ่งยืนหลบให้นมและเล่นกับลูกอยู่ เสียงเล็กๆ ของทารกน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อารมณ์ดี ไม่ได้สนใจเรื่องโกลาหลวุ่นวายของผู้ใหญ่ที่รายล้อมอยู่เลย
ดวงตาเรียวแหลมเจ้าอารมณ์เพ่งมองสองแม่ลูกที่อยู่หลังผ้าม่านเนื้อหนา คุณตีรณาครุ่นคิดบางอย่างชั่วขณะ จากนั้นจึงดึงกระเป๋าถือตัวเองขึ้นมา หยิบเอาสมุดเช็คมาเขียนและเซ็นชื่อลงไป ก่อนฉีกแควกแล้วก้าวฉับๆ เข้าไปหาสองแม่ลูก
ปกเกศไม่ทันคิดว่าอีกฝ่ายจะก้าวพรวดเข้ามาหา พอหันไปมอง กระดาษแผ่นเล็กๆ ในมือของคุณตีรณาก็ถูกยื่นมาแทบจะเสยหน้าเธอ
“เอาเงินนี่ไปซะ ถือเป็นค่าชดใช้ที่ฉันเข้าใจเธอผิดไป ต่อไปก็อย่าเอาลูกของเธอมายุ่งวุ่นวายกับลูกชายของฉันอีก ให้มันจบๆ กันไปซะ”
“คุณแม่” กานต์ชนกก้าวตามมารดาเข้ามา ทันได้แลเห็นใบหน้าเย็นชาของปกเกศพอดี
“จะต้องมาให้เงินดิฉันทำไมคะ ในเมื่อน้องปั้นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณกานต์ชนก ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่คุณจะต้องมาเสียเงินให้ดิฉัน...ถ้าไม่มีธุระอะไรกันแล้ว ช่วยออกไปจากห้องนี้ให้หมดด้วย...ลูกชายดิฉันต้องการพักผ่อน แกไม่ชอบเสียงเอะอะโวยวาย...”
ปกเกศพยายามบังคับเสียงตัวเองแล้ว แต่ตอนท้ายก็ยังแกว่ง และแหบแห้งหายลงคอไป เธอต้องรีบหันหน้าหนี ปล่อยน้ำตาตัวเองให้หลั่งรินลงมา
เสียงประตูห้องเปิดและปิดดังตามมา ก่อนที่ทุกอย่างในห้องจะกลับคืนสู่ความเงียบงัน เธอเข้าใจว่าทุกคนออกไปหมดแล้ว เลยซุกหน้ากอดลูกชายเอาไว้แน่น ปล่อยเสียงสะอื้นของตัวเองหลุดออกมาอย่างสุดอดกลั้น
ขนาดไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ยังถูกเหยียบย่ำ ดูหมิ่นถึงขนาดนี้...ว่าเธอไม่พอ ยังลามมาถึงเด็กทารกไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีก คนพวกนี้ไม่มีดีเลยสักคน!
“รอคุณหมอมาตรวจก่อน แล้วแม่จะรีบพาหนูกลับบ้านเรา...คนเลวพวกนี้ อยู่ให้ไกลคนละโยชน์เลยยิ่งดี”
เธอบอกลูกชายก่อนวางร่างจิ๋วนั้นลงนอนบนเตียงตามเดิม จัดการกระชับผ้าห่อตัวเด็กให้เข้าที่ หนูน้อยอารมณ์ดี ตัวก็ไม่ร้อนแล้ว คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหากเธอจะขอคุณหมอพาตัวลูกชายกลับบ้านช่วงสายเลย
ปกเกศหยอกล้อกับลูกไม่ทันได้สนใจอะไร จนครู่หนึ่ง เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้น พอหันไปมองก็ต้องอึ้ง เมื่อเห็นร่างสูงของกานต์ชนกก้าวเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ท่ามกลางสายตางุนงง ไม่เข้าใจของปกเกศ
กานต์ชนกไม่ได้ออกจากห้องนี้ไปพร้อมกับมารดาและคนรักของเขาหรอกเหรอ...เขาหยุดยืนอยู่เงียบๆ ข้างประตูมาตลอด...ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องได้ยินที่เธอพูดกับลูกเมื่อครู่น่ะสิ
คิ้วสวยเป็นระเบียบของหญิงสาวขมวดลู่ ทว่าไม่กี่อึดใจ เจ้าตัวก็หลับตาลงส่ายหน้าไปมา
อย่าไปสนใจเลยปกเกศ ผู้ชายเจ้าเล่ห์เพทุบายร้ายกาจอย่างเขา ก็คงไม่ต่างจากคุณนายคนนั้น
เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผลตรวจดีเอ็นเอ แต่เธอก็ไม่คิดสนใจอยู่แล้ว ดีเสียอีก กานต์ชนกจะได้เลิกมาราวีเธอกับน้องปั้น
พวกคนตระกูลธรรมธาดา ขอห่างไกลร้อยโยชน์พันโยชน์ ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลยยิ่งดี!
*****************
วันนี้พาน้องปั้นมา Merry Christmas นักอ่านทุกท่านนะคะ555 มีความสุขมากๆ จ้า^^
ช่วงนี้สนพ.มีโปรฯ ลดค่าส่ง 50% อยู่นะคะ (หมดสิ้นเดือนธันวาคมนี้) ใครสนใจใช้โปรฯ เพียงสั่งซื้อนิยายของปลายปากกา 2 เล่ม ก็จะได้ลดค่าส่ง 50% ทันทีค่ะ^^ หรือจะสั่งซื้อ ‘รักรออุ้ม’ ร่วมกับสั่งจองซีรีส์ ‘ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์’ (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ) ที่กำลังเปิดจองอยู่ตอนนี้ที่เพจสนพ. ก็ใช้โปรฯ นี้ได้เช่นกัน อย่าลืมไปใช้สิทธิ์กันน้าาา
**เฉพาะ inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์เท่านั้น + ได้รับของแถมเป็นสมุดโน้ตแบบ memo card พร้อมปฏิทินขนาดเล็กในเล่ม ทุกออเดอร์**
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ธ.ค. 2561, 09:58:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ธ.ค. 2561, 09:58:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 808
<< บทที่ 21 -30% | บทที่ 21 -100% >> |
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 27 ธ.ค. 2561, 08:49:36 น.
ตอนนี้ที่ Shopee มีโปรฯ รับปีใหม่อยู่นะคะ นักอ่านท่านใดเล็งนิยายของปลายปากกาไว้ โอกาสดีแล้วน้าาาา ไปสอยกัน! ชื่อร้าน plaipakkabooks_officialshop นะคะ
ตอนนี้ที่ Shopee มีโปรฯ รับปีใหม่อยู่นะคะ นักอ่านท่านใดเล็งนิยายของปลายปากกาไว้ โอกาสดีแล้วน้าาาา ไปสอยกัน! ชื่อร้าน plaipakkabooks_officialshop นะคะ