รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 23 -100%
ธีรไนยเดินออกจากตึกอาคารผู้ป่วยใน เข้าไปทรุดนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวที่ลานจอดรถ รู้สึกตัวเองอ่อนล้า แข้งขาไร้เรี่ยวแรงจนต้องหยุดพักสักครู่ทอดสายตามองพื้นคอนกรีตเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย เหมือนคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งมันก็ไม่อยู่จริงๆ เพราะหัวใจของเขา ไปอยู่ที่ปกเกศมานานแล้ว
คิดไปก็สงสารตัวเอง อย่างกับพระรองละครเกาหลี...รูปหล่อ ใจดี อบอุ่น แต่นางเอกไม่ต้องการ...
เขาแค่นหัวเราะขมขื่น สมน้ำหน้าตัวเองที่คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาตลอด ตอนนี้คงถึงเวลาที่เขาต้องตื่นจากความฝันมาพบกับความจริงเสียที
ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง คอตก ปล่อยให้สายลมพัดหวีดหวิวโชยเอื่อยลูบไล้ผิวกาย ช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวด อยากให้สมองว่าง ด้วยการพยายามไม่คิดอะไรเลย แต่แล้วเสียงฝีเท้าก็ดังใกล้เข้ามา ไม่ช้าร่างหนึ่งก็เข้ามาทรุดนั่งข้างๆ
“ที่ถูกนิลตบ...เจ็บไหม”
เสียงคุ้นหูดังตามมา ธีรไนยค่อยๆ หันไปมองหญิงสาว สบตากับฝ่ายนั้นโดยไม่ตั้งใจ
“นิล...”
“อืม นิลเอง” นิลยาพยักหน้าหงึกๆ ดวงตากลมโตหันมาจ้องเขาเขม็ง จนชายหนุ่มต้องเบือนหน้าหนี รู้สึกเก้อกระดาก รู้ว่าตัวเองช่างทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เลย
“พี่นึกว่านิลกลับไปแล้วเสียอีก”
“ก็ว่าจะกลับแล้วค่ะ แต่แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อมา...พี่ไนยยังไม่ตอบนิลเลยนะคะ ที่แก้ม...เจ็บไหม” หญิงสาววกกลับเข้าเรื่องที่ถามค้างเอาไว้ และเขายังไม่ได้ตอบสักที
“ไม่หรอก พี่ไม่เป็นไร นิดเดียวเอง” เขาตอบทั้งที่แก้มขาวของเขาตอนนี้ เห็นรอยแดงเป็นปื้นจากฤทธิ์ฝ่ามือของเธอชัดเจน
“นิลไม่ขอโทษที่ตบพี่ไนยหรอกนะ เพราะพี่ไนยสมควรโดนแล้ว” เธอกอดอก หันหน้าไปทางอื่นขณะพูดกับเขา ไม่กล้าสบตาเรียวดำใหญ่คู่นั้น มันสะท้อนให้เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลัง ‘เจ็บปวด’
เธอเองก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าบิดาแท้ๆ ของน้องปั้นคือกานต์ชนก นักธุรกิจหนุ่มหล่อที่เธอเคยปลื้มอยู่พักหนึ่ง
“จริง ดีแล้วล่ะที่นิลตบเรียกสติให้พี่...พี่มันสติแตกไปจริงๆ...” ชายหนุ่มหันหน้ากลับมาหลุบตามองพื้นตามเดิม มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มตัวเองพลางยิ้มเศร้า
“ความจริง พี่ไนยโกรธแทนยายเกศก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพียงแต่พี่ไนยอารมณ์แรงมากเกินไป...นิลไม่เคยเห็นพี่ไนยโกรธใครน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย...” นิลยาวิจารณ์ตามตรง
“พี่ก็ไม่เคยโกรธใครเท่าไอ้นายกานต์ชนกนั่นจริงๆ...มันทำลายเกศก็เหมือนทำลายหัวใจพี่ด้วย...”
คนฟังชะงักงัน อึ้งไปเลยเมื่อได้ยินธีรไนยเอ่ยเช่นนั้น หัวใจเธอมันวูบเหมือนถูกผลักตกจากหน้าผาสูงชัน ดิ่งลึกลงเบื้องล่างของหุบเหวที่ดำมืดและหนาวเหน็บ
พี่ไนยพูดอย่างนี้หมายความว่าเขาชอบ...ไม่จริง มันจะเป็นไปได้อย่างไร ธีรไนยกับปกเกศก็เหมือนพี่น้องกัน!
“เอ่อ...ทำลายหัวใจเลยเหรอคะ...พี่ไนยพูดอย่างกับพี่ชอบยายเกศเลย...” นิลยากลั้นใจถาม อยากรู้คำตอบที่แน่ชัดจากปากเขามากกว่าจะมโนไปเอง แค่นี้เธอก็ใจเสียนำไปก่อนแล้ว...
“อย่าพูดถึงมันเลย เกศเขาตกลงจะไปอยู่กับนายกานต์ชนกแล้วยังไงเกศเขาก็อยากได้พ่อแท้ๆ ของลูก มากกว่าคนอื่นอย่างพี่” คำตอบของเขานั้นแสนเศร้า คนฟังเองก็ถึงกับน้ำตาคลอ อยากร้องไห้โฮเสียเอง
เขารักยายเกศเกินกว่า ‘น้อง’ จริงๆ ด้วย!!
พี่ไนยก็ยังคงมองไม่เห็นเธอเหมือนเดิม...
น้อยใจจนน้ำตาไหลพราก หญิงสาวดึงทิชชูที่เพิ่งซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ ขึ้นมาสาละวนซับน้ำตาตัวเอง เจ็บแล้วเจ็บอีก แต่ก็เหมือนมีเวรมีกรรม ไม่รู้ทำไมตัดใจจากเขาไม่ได้สักที
“นิลร้องไห้เพราะสงสารพี่เหรอ ไม่ต้องเลย...นิ่งซะ” ชายหนุ่มเห็นเข้าก็ตกใจ รีบใช้มือใหญ่ของตัวเองแตะประคองแก้มนุ่มของเธอ บรรจงช่วยเกลี่ยน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน
ทว่ายิ่งเขาเข้ามาใกล้ แสดงความเอื้ออาทรต่อกัน สาวเจ้าก็ยิ่งน้ำหูน้ำตาไหลพราก หนักกว่าเดิมเสียอีก
“นิล โธ่ ทำไมยิ่งร้องมากขึ้นล่ะ” ธีรไนยบ่นอุบ อีกฝ่ายน้ำตาไหลมากเสียจนเขาเกลี่ยไม่ไหว สุดท้ายชายหนุ่มก็เลยดึงหน้าเธอเข้ามาซบอกเสื้อเชิ้ตของเขาแทน มือแกร่งเลื่อนลูบศีรษะเล็กๆ อย่างปลุกปลอบ แทบจะลืมเรื่องทุกข์ใจของตัวเองไปเลย
“นิลสงสารพี่ไนย...” เธอบอกเสียงอู้อี้อยู่กับอกของเขา ร่างเล็กสะอื้นแรงขึ้น
‘แล้วนิลก็สงสารตัวเองด้วย’
เธอร่ำไห้อยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา ถือโอกาสกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น ครั้งแรก...และคงเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่มีโอกาสนี้
คนนอกสายตาอย่างเธอ...ก็คงได้แค่ฉวยโอกาสเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้เท่านั้น!
“ไม่ต้องเลย หยุดร้องไห้เถอะ พี่ไม่สบายใจ” เขาปลอบเก้อเขิน เก้ๆ กังๆ ทว่านิลยากลับกอดรัดกลับมาแน่นจนชายหนุ่มรู้สึกผิดสังเกต
คิ้วดกหนาขมวดมุ่น เขาก้มลงมองเห็นแต่เส้นผมดำขลับ เพราะเธอเอาแต่ซุกหน้างุดแล้วก็นิ่งเงียบไป ธีรไนยเริ่มเป็นฝ่ายกังวลว่านิลยาจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน
“นิล! เป็นอะไรหรือเปล่านิล ทำไมเงียบไปเลยล่ะ” ร้องถามพลางเขย่าร่างในอ้อมกอดอย่างร้อนใจ อีกฝ่ายนิ่งกริบ แต่เนื้อตัวไม่ได้อ่อนปวกเปียกเหมือนคนหมดสติ ขณะที่เขากำลังเรียกเธออยู่นั้น จู่ๆ หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วผลักอกเขาออกห่าง
ธีรไนยเสียหลักเพราะไม่ทันตั้งตัว ยังไม่หายมึนงงจากปฏิกิริยาของเธอ เสียงขื่นขึ้นจมูกอู้อี้ของยายตัวเล็กก็ดังสำทับตามมา
“ใครว่านิลสงสารพี่ไนย ตัวโตอย่างกับตึกแต่ใจน้อย อาละวาดอย่างกับคนบ้า ตบแค่นี้ยังน้อยไป ถ้านิลเป็นผู้ชายนะจะชกให้หน้าแหกเลย คนบ้า!!”
“นิล...”
ธีรไนยหน้าเหลอ เจอต่อว่าชุดใหญ่จากคนที่เอาแต่เก็บปากเก็บคำ เรียบร้อยน่าเอ็นดูมาโดยตลอด นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมนิลยาเปลี่ยนไป?
“แล้วก็อย่ามาทำเศร้า ถ้าเห็นแก่ความสุขของยายเกศกับน้องปั้น ตัวเองก็ต้องทำตัวให้มีความสุขไปกับพวกเขาด้วย ไม่งั้นสองคนนั่นจะมีความสุขบนความทุกข์ของพี่ไนยได้ยังไง ยายเกศเป็นคนยังไงพี่ไนยก็น่าจะรู้ดี...เพราะงั้น อย่ามาทำสำออยกะแค่อกหัก!” เจ้าหล่อนแหวใส่มาอีก ทำเอาอีกฝ่ายมึนตึ้บ
เขาเถียงไม่ออก ไม่รู้จะเถียงอะไร แต่มาติดใจท้ายประโยคของเธอ
กะแค่ ‘อกหัก’ อย่างนั้นเหรอ?
ยายนิลพูดอย่างกับเคยอกหักมาก่อนอย่างนั้น...
“ทำมาพูดดี เราไม่เคยอกหัก จะมาเข้าใจพี่ได้ยังไง” ธีรไนยย้อนเข้าให้ หมั่นไส้นิดๆ
“น้อยไปสิ ทำไมนิลจะไม่เคย นิลอกหักมาตั้งสองรอบแล้ว ต่อไปก็คงจะมีรอบที่สาม ที่สี่...แต่ช่างมันเถอะ เริ่มชินๆ แล้วล่ะ” นิลยาเหลือบมองหน้าเขาแวบหนึ่ง ก่อนเมินไปทางอื่นพลางถอนใจยาว
เห็นเขาทำหน้าตกใจ ไม่อยากเชื่อ เธอคันปากยิบๆ อยากบอกให้เขาเข้าใจเหมือนกัน แต่จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่ออีกฝ่ายไม่เคยจะเหลียวมามองเธอเลย
สำหรับธีรไนย เธอก็เป็นได้แค่น้องสาวของเขาคนหนึ่ง นี่คงมากที่สุดแล้วที่เธอจะสามารถใกล้ชิดเขาได้
*************
นิลไม่หลุดปากหน่อยหรอ พี่ไนยจะได้รู้ตัวสักที555+
มาต่อให้แล้วค่ะ หายไปนานเลยสำหรับเรื่องนี้ ยังคงมีวางขายที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และตามร้านออนไลน์นะคะ ส่วน eBook มีที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้นจ้า
เร็วๆ นี้ ปลายปากกาสำนักพิมพ์จะมีนิยายรักโรแมนติกเรื่องใหม่ออกมาด้วย
-กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า (พิมมาศ)
-ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา (หอมดึก ผู้แต่ง ‘พนาพร่ำรัก’)
รอติดตามกันน้าาาาา คราวนี้หวานละมุน ชวนฟินกันยาวๆ ค่ะ ฝากทุกเรื่องของปลายปากกาเลย #สนุกครบรส
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
คิดไปก็สงสารตัวเอง อย่างกับพระรองละครเกาหลี...รูปหล่อ ใจดี อบอุ่น แต่นางเอกไม่ต้องการ...
เขาแค่นหัวเราะขมขื่น สมน้ำหน้าตัวเองที่คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาตลอด ตอนนี้คงถึงเวลาที่เขาต้องตื่นจากความฝันมาพบกับความจริงเสียที
ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง คอตก ปล่อยให้สายลมพัดหวีดหวิวโชยเอื่อยลูบไล้ผิวกาย ช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวด อยากให้สมองว่าง ด้วยการพยายามไม่คิดอะไรเลย แต่แล้วเสียงฝีเท้าก็ดังใกล้เข้ามา ไม่ช้าร่างหนึ่งก็เข้ามาทรุดนั่งข้างๆ
“ที่ถูกนิลตบ...เจ็บไหม”
เสียงคุ้นหูดังตามมา ธีรไนยค่อยๆ หันไปมองหญิงสาว สบตากับฝ่ายนั้นโดยไม่ตั้งใจ
“นิล...”
“อืม นิลเอง” นิลยาพยักหน้าหงึกๆ ดวงตากลมโตหันมาจ้องเขาเขม็ง จนชายหนุ่มต้องเบือนหน้าหนี รู้สึกเก้อกระดาก รู้ว่าตัวเองช่างทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เลย
“พี่นึกว่านิลกลับไปแล้วเสียอีก”
“ก็ว่าจะกลับแล้วค่ะ แต่แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อมา...พี่ไนยยังไม่ตอบนิลเลยนะคะ ที่แก้ม...เจ็บไหม” หญิงสาววกกลับเข้าเรื่องที่ถามค้างเอาไว้ และเขายังไม่ได้ตอบสักที
“ไม่หรอก พี่ไม่เป็นไร นิดเดียวเอง” เขาตอบทั้งที่แก้มขาวของเขาตอนนี้ เห็นรอยแดงเป็นปื้นจากฤทธิ์ฝ่ามือของเธอชัดเจน
“นิลไม่ขอโทษที่ตบพี่ไนยหรอกนะ เพราะพี่ไนยสมควรโดนแล้ว” เธอกอดอก หันหน้าไปทางอื่นขณะพูดกับเขา ไม่กล้าสบตาเรียวดำใหญ่คู่นั้น มันสะท้อนให้เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลัง ‘เจ็บปวด’
เธอเองก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าบิดาแท้ๆ ของน้องปั้นคือกานต์ชนก นักธุรกิจหนุ่มหล่อที่เธอเคยปลื้มอยู่พักหนึ่ง
“จริง ดีแล้วล่ะที่นิลตบเรียกสติให้พี่...พี่มันสติแตกไปจริงๆ...” ชายหนุ่มหันหน้ากลับมาหลุบตามองพื้นตามเดิม มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มตัวเองพลางยิ้มเศร้า
“ความจริง พี่ไนยโกรธแทนยายเกศก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพียงแต่พี่ไนยอารมณ์แรงมากเกินไป...นิลไม่เคยเห็นพี่ไนยโกรธใครน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย...” นิลยาวิจารณ์ตามตรง
“พี่ก็ไม่เคยโกรธใครเท่าไอ้นายกานต์ชนกนั่นจริงๆ...มันทำลายเกศก็เหมือนทำลายหัวใจพี่ด้วย...”
คนฟังชะงักงัน อึ้งไปเลยเมื่อได้ยินธีรไนยเอ่ยเช่นนั้น หัวใจเธอมันวูบเหมือนถูกผลักตกจากหน้าผาสูงชัน ดิ่งลึกลงเบื้องล่างของหุบเหวที่ดำมืดและหนาวเหน็บ
พี่ไนยพูดอย่างนี้หมายความว่าเขาชอบ...ไม่จริง มันจะเป็นไปได้อย่างไร ธีรไนยกับปกเกศก็เหมือนพี่น้องกัน!
“เอ่อ...ทำลายหัวใจเลยเหรอคะ...พี่ไนยพูดอย่างกับพี่ชอบยายเกศเลย...” นิลยากลั้นใจถาม อยากรู้คำตอบที่แน่ชัดจากปากเขามากกว่าจะมโนไปเอง แค่นี้เธอก็ใจเสียนำไปก่อนแล้ว...
“อย่าพูดถึงมันเลย เกศเขาตกลงจะไปอยู่กับนายกานต์ชนกแล้วยังไงเกศเขาก็อยากได้พ่อแท้ๆ ของลูก มากกว่าคนอื่นอย่างพี่” คำตอบของเขานั้นแสนเศร้า คนฟังเองก็ถึงกับน้ำตาคลอ อยากร้องไห้โฮเสียเอง
เขารักยายเกศเกินกว่า ‘น้อง’ จริงๆ ด้วย!!
พี่ไนยก็ยังคงมองไม่เห็นเธอเหมือนเดิม...
น้อยใจจนน้ำตาไหลพราก หญิงสาวดึงทิชชูที่เพิ่งซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ ขึ้นมาสาละวนซับน้ำตาตัวเอง เจ็บแล้วเจ็บอีก แต่ก็เหมือนมีเวรมีกรรม ไม่รู้ทำไมตัดใจจากเขาไม่ได้สักที
“นิลร้องไห้เพราะสงสารพี่เหรอ ไม่ต้องเลย...นิ่งซะ” ชายหนุ่มเห็นเข้าก็ตกใจ รีบใช้มือใหญ่ของตัวเองแตะประคองแก้มนุ่มของเธอ บรรจงช่วยเกลี่ยน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน
ทว่ายิ่งเขาเข้ามาใกล้ แสดงความเอื้ออาทรต่อกัน สาวเจ้าก็ยิ่งน้ำหูน้ำตาไหลพราก หนักกว่าเดิมเสียอีก
“นิล โธ่ ทำไมยิ่งร้องมากขึ้นล่ะ” ธีรไนยบ่นอุบ อีกฝ่ายน้ำตาไหลมากเสียจนเขาเกลี่ยไม่ไหว สุดท้ายชายหนุ่มก็เลยดึงหน้าเธอเข้ามาซบอกเสื้อเชิ้ตของเขาแทน มือแกร่งเลื่อนลูบศีรษะเล็กๆ อย่างปลุกปลอบ แทบจะลืมเรื่องทุกข์ใจของตัวเองไปเลย
“นิลสงสารพี่ไนย...” เธอบอกเสียงอู้อี้อยู่กับอกของเขา ร่างเล็กสะอื้นแรงขึ้น
‘แล้วนิลก็สงสารตัวเองด้วย’
เธอร่ำไห้อยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา ถือโอกาสกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น ครั้งแรก...และคงเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่มีโอกาสนี้
คนนอกสายตาอย่างเธอ...ก็คงได้แค่ฉวยโอกาสเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้เท่านั้น!
“ไม่ต้องเลย หยุดร้องไห้เถอะ พี่ไม่สบายใจ” เขาปลอบเก้อเขิน เก้ๆ กังๆ ทว่านิลยากลับกอดรัดกลับมาแน่นจนชายหนุ่มรู้สึกผิดสังเกต
คิ้วดกหนาขมวดมุ่น เขาก้มลงมองเห็นแต่เส้นผมดำขลับ เพราะเธอเอาแต่ซุกหน้างุดแล้วก็นิ่งเงียบไป ธีรไนยเริ่มเป็นฝ่ายกังวลว่านิลยาจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน
“นิล! เป็นอะไรหรือเปล่านิล ทำไมเงียบไปเลยล่ะ” ร้องถามพลางเขย่าร่างในอ้อมกอดอย่างร้อนใจ อีกฝ่ายนิ่งกริบ แต่เนื้อตัวไม่ได้อ่อนปวกเปียกเหมือนคนหมดสติ ขณะที่เขากำลังเรียกเธออยู่นั้น จู่ๆ หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วผลักอกเขาออกห่าง
ธีรไนยเสียหลักเพราะไม่ทันตั้งตัว ยังไม่หายมึนงงจากปฏิกิริยาของเธอ เสียงขื่นขึ้นจมูกอู้อี้ของยายตัวเล็กก็ดังสำทับตามมา
“ใครว่านิลสงสารพี่ไนย ตัวโตอย่างกับตึกแต่ใจน้อย อาละวาดอย่างกับคนบ้า ตบแค่นี้ยังน้อยไป ถ้านิลเป็นผู้ชายนะจะชกให้หน้าแหกเลย คนบ้า!!”
“นิล...”
ธีรไนยหน้าเหลอ เจอต่อว่าชุดใหญ่จากคนที่เอาแต่เก็บปากเก็บคำ เรียบร้อยน่าเอ็นดูมาโดยตลอด นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมนิลยาเปลี่ยนไป?
“แล้วก็อย่ามาทำเศร้า ถ้าเห็นแก่ความสุขของยายเกศกับน้องปั้น ตัวเองก็ต้องทำตัวให้มีความสุขไปกับพวกเขาด้วย ไม่งั้นสองคนนั่นจะมีความสุขบนความทุกข์ของพี่ไนยได้ยังไง ยายเกศเป็นคนยังไงพี่ไนยก็น่าจะรู้ดี...เพราะงั้น อย่ามาทำสำออยกะแค่อกหัก!” เจ้าหล่อนแหวใส่มาอีก ทำเอาอีกฝ่ายมึนตึ้บ
เขาเถียงไม่ออก ไม่รู้จะเถียงอะไร แต่มาติดใจท้ายประโยคของเธอ
กะแค่ ‘อกหัก’ อย่างนั้นเหรอ?
ยายนิลพูดอย่างกับเคยอกหักมาก่อนอย่างนั้น...
“ทำมาพูดดี เราไม่เคยอกหัก จะมาเข้าใจพี่ได้ยังไง” ธีรไนยย้อนเข้าให้ หมั่นไส้นิดๆ
“น้อยไปสิ ทำไมนิลจะไม่เคย นิลอกหักมาตั้งสองรอบแล้ว ต่อไปก็คงจะมีรอบที่สาม ที่สี่...แต่ช่างมันเถอะ เริ่มชินๆ แล้วล่ะ” นิลยาเหลือบมองหน้าเขาแวบหนึ่ง ก่อนเมินไปทางอื่นพลางถอนใจยาว
เห็นเขาทำหน้าตกใจ ไม่อยากเชื่อ เธอคันปากยิบๆ อยากบอกให้เขาเข้าใจเหมือนกัน แต่จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่ออีกฝ่ายไม่เคยจะเหลียวมามองเธอเลย
สำหรับธีรไนย เธอก็เป็นได้แค่น้องสาวของเขาคนหนึ่ง นี่คงมากที่สุดแล้วที่เธอจะสามารถใกล้ชิดเขาได้
*************
นิลไม่หลุดปากหน่อยหรอ พี่ไนยจะได้รู้ตัวสักที555+
มาต่อให้แล้วค่ะ หายไปนานเลยสำหรับเรื่องนี้ ยังคงมีวางขายที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และตามร้านออนไลน์นะคะ ส่วน eBook มีที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้นจ้า
เร็วๆ นี้ ปลายปากกาสำนักพิมพ์จะมีนิยายรักโรแมนติกเรื่องใหม่ออกมาด้วย
-กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า (พิมมาศ)
-ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา (หอมดึก ผู้แต่ง ‘พนาพร่ำรัก’)
รอติดตามกันน้าาาาา คราวนี้หวานละมุน ชวนฟินกันยาวๆ ค่ะ ฝากทุกเรื่องของปลายปากกาเลย #สนุกครบรส
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.พ. 2562, 08:30:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.พ. 2562, 08:32:52 น.
จำนวนการเข้าชม : 595
| << บทที่ 23 -50% | บทสัมภาษณ์นักเขียน 'ทักษิณา' >> |