ห้วงเสน่หา ปรารถนาแห่งหัวใจ
ความรักได้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าและความปรารถนาของหัวใจย่อมมาก่อน เสน่หา
และนั่นอาจจะเป้นการพลาดเมื่อเขา และเธอรู้จักรักที่แท้จริง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: แม่จอมงก


เสียงคุณนายเอ่ยสั่งสาวใช้รูปร่างเตี้ยชื่อบัวศรี ดูขยันเอางาน ท่าทางใจดีต่างจากคุณนายเรวดีลิบลับทีเดียว
“นี่ นี่ ช่วยกันเก็บของเร็วๆเข้ารถจะมาแล้ว บัวศรีจัดเร็วๆ แล้วแม่ลูกสาวคนโตไปไหนล่ะไม่ช่วยหรือไง”
คุณนายชี้นิ้วสั่งๆจน บัวศรีนึกด่าในใจ พลทหารรับใช้ขนลังของใช้ไปวางข้างล่าง
“ไม่รู้จะขนย้ายตามท่านทำไมนักหนา ลูกๆก็ย้ายเรียนเป็นว่าเล่น”
เด็กหญิงปิ๋ม วิ่งโครมๆขึ้นมาหามารดา ส่งเสียงถามตามประสาซื่อว่า
“คุณแม่ขาเมื่อไหร่เราจะปลูกบ้านหลังใหญ่ๆ แล้วเลิกอยู่บ้านหลวงละคะคุณแม่”
“ไว้ให้พ่อแกเข้ากรมก่อนค่อยคิดปลูกบ้าน”
“ปิ๋มไม่มีเพื่อนเลยนะคะอยู่ ปีสองปีก็ต้องตามคุณพ่อไปอีกแล้ว”
เด็กหญิงพูดตามความรู้สึกตัวเอง ย้ายโรงเรียนใหม่ทีก็ต้องพบเพื่อนใหม่ คนเป็นแม่ ไม่ใส่ใจความรู้สึกของลูก ห่วงแต่ว่าถ้าไม่ตามจิกคุณประนาทต้องแอบมีเมียน้อย
“ไปไหนมาป่าน ไม่ยอมหยิบจับงานบ้านเอาเสียนะเรา” น้ำเสียงเกือบเป็นตวาดใส่สาวรุ่น ผมยาวถักเปียเส้นเดียว ป่านแก้วปล่อยมือน้องชายคนเล็ก ตอบเรียบเรื่อยว่า
“พาปลายไปซื้อขนมค่ะ”
“ซื้อทำไมรวยนักหรือ ของเหลือๆในตู้เย็นมีก็หาใส่ปากได้”
เรวดีกระแทกเสียงต่อว่าไม่เว้นว่าเลือดตัวหรือนอกสายเลือด ลูกตัวยังร้ายขนาดนี้ ไม่ต้องคิดหรอกว่าห้าหกปีที่ผ่านมาป่านแล้วถูกเลี้ยงมาอย่างไร เจ็บจนชินไปทุกเรื่อง ไม่ว่าจะถูกด่าถูกตี สาวรุ่นได้แต่นับวันรอเวลาจะจากพ่อและแม่เลี้ยงไปตาม ทางของตัวเองเท่านั้น เธอรอวันเป็นอิสระของตัวเอง
“ผมว่าควรจะปลูกบ้านได้แล้วนะลูกๆก็โตหมดแล้วมัวแต่ย้ายตามผมจะแย่กันใหญ่”ประนาท เปรยกับภรรยาแต่คนดีใจเป็นลูกๆ
“ไชโย” เด็กหญิงกระโดดตัวลอย
“ยายปิ๋ม” เรวดีเสียงเขียวใส่ลูกอย่างหงุดหงิดเต็มที่
“เจ้าลงทรงหรือไง เต้นเป็นลิงเป็นค่างไปได้ แล้วนี่คุณนาทจะปลูกที่ไหนล่ะ ที่ไร่ที่นาของคุณขายหมดแล้ว คุณจะไปซื้อกลับหรือคะ เงินตั้งมากเอามาซื้อที่ดินจะได้ประโยชน์อะไร”
คนงกเงิน และเห็นแก่ตัว มักแสวงทรัพย์ของคนอื่นมากกว่า
“ผมไปดูทำเลไว้แล้วอยู่เขตปริมณฑล ถึงจะย้ายเข้ากรมก็เดินทางไม่ไกล”
“ระหว่างนี้ล่ะคะอีกกี่ปีกว่าจะย้ายกลับ”
“ผมจะวิ่งเต้นให้ได้เร็วมากขึ้น ผู้ใหญ่รับปากผมแล้ว มีผลงานและวัยได้ รุ่นน้องยังไล่ไม่ทัน แต่คงต้องยอมเสียบ้าง”
“ปีนี้ยายป่านอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ” เรวดียิ้มออกมาได้ เมื่อสามีจะหยุดต่อการโยกย้ายเสียที ลูกเลี้ยงที่เอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่มุมหนึ่ง
“สิบแปดค่ะ”
เมื่อป่านแก้วบอกอายุจริงแม่เลี้ยงหน้าหงิกงอ บ่นงึมงำแต่สามีและลูกเลี้ยงยังได้ยิน
“งั้นก็เบิกเงินมาปลูกบ้านไม่ได้น่ะสิ”
“ทำไมต้องเอาเงินป่าน” ประนาทย้อนถามภรรยา ด้วยน้ำเสียงดังผิดปรกติ เขาไม่เคยคิดจะ เบียดเบียนลูกนับแต่มารดาเรียกไปต่อว่าเรื่องแทะกระดูกลูก ทำให้เขาได้คิดมาตลอด ประนาทย้อนถามไปที่เรวดีว่า
“เอาเงินขายที่ได้มาใช้สิ ห้ามยุ่งเงินป่าน”
“เงินส่วนนั้นจะเก็บไว้ให้ปิ๋ม ให้ปลายได้เรียนค่ะคุณ แหมหนูป่านมีทั้งที่ดิน ทั้งเงินในธนาคารเยอะกว่าน้อง บ้านก็อยู่ด้วยกันหน้าจะช่วยกันได้บ้าง”
เด็กสาวไม่ตอบคำใดๆ จนเรวดีขึ้นเสียงดังสรุปอย่างดื้อๆ
“เอางี้...ถ้าป่านเบิกมาให้แม่ก็แล้วกันสัก 2 ล้าน จะได้ปลูกบ้านหลังใหญ่เพื่อตัวป่านเองด้วย”
“ป่านไม่เบิกค่ะคุณอา ปีหน้าป่านจะไปสอบมหาลัยยังไม่ทราบว่าป่านจะสอบได้มั้ย”
คำพูดของป่านแก้วไม่ได้เกี่ยวกับคำพูดของเรวดีสักนิด
“ตอบให้ตรงๆ”แม่เลี้ยงบีบให้ตอบ บังคับจนตัว “เรื่องเงินเรื่องทองเกี่ยวอะไรกับเรื่องการเรียนการสอบด้วย ห้ะ”
“ป่านจะไปอยู่ที่อื่นค่ะ”ป่านแก้วตอบ เสียงหนักกว่าเคย เธอคิดมาตลอดว่า ความอดทนจะต้องมีวันสิ้นสุด และเธอเลือกจะสิ้นสุดวันที่พ่ออยู่บ้านวันนี้ และไม่ว่าจะสอบได้หรือไม่ เธอจะเดินตามทางของตนเอง
“ต๊ายยย พูดอย่างนี้มันเห็นแก่ตัวนี่นา อยู่อาศัยกันมานาน พอโตก็จะชิ่งหนีเอาตัวรอด ไม่เหลียวแลครอบครัว”
“ป่านเสียมาไม่น้อยแล้วนะคะคุณอา”
“ป่าน” ประนาทอุทานเรียกนามลูกสาว อย่างค่อนข้างตกใจ แต่แม่เลี้ยงโกรธจนตัวสั่นลำเลิกบุญคุณหนัก
“ตายแล้ว คนอะไรไม่นึกถึงข้าวแดงแกงร้อนที่เคยรดหัว”
ใช่สินึกถึงทุกวัน!! ป่านแก้วคิด
เพราะบางครั้ง คุณเรวดีโมโหสามี ลงกับใครไม่ได้ ก็ลงที่ลูก แล้วแต่ว่าลูกตัวหรือลูกเลี้ยงว่าคนไหนอยู่ใกล้มือ
วันนี้ได้ย้อนคืนบ้างแล้ว…ป่านแก้วถือโอกาสเปิดปากออกมาในที่สุด
“ป่านคิดค่ะคิดอยู่ทุกวันที่ถูกคุณอาเอาข้าวแกงราดหัว ทั้งหัวของป่านหรือหัวน้องปิ๋ม”
“อะไรนะป่าน ข้าวราดหัวอะไรกัน”ประนาท ย้อนถามเสียงหลง คุณเรวดีมองอีกฝ่ายเหมือนไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
ประนาทเอาเรื่องทันที เพราะเรื่องนี้ประนาทไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูกโดนอะไรบ้าง เพราะเขามีงาน และบางครั้งยามว่างยังเที่ยวตามประสาหนุ่มสำราญ และเข้าหา ‘นายระดับสูง’เพื่ออนาคตการงาน เรื่องบ้านจึงถูกละเลยไปอย่างที่เขาประมาทเต็มที
“ป่านเกิดอะไร ทำไมพ่อไม่รู้ ไม่บอกพ่อเลย บอกมาวันนี้เดี๋ยวนี้” ประนาทสั่ง“พ่อพร้อมจะรับฟังทุกเรื่อง”
“ป่านอยากพูดบ้างค่ะ เพราะที่ผ่านมาคุณอาพูดอยู่คนเดียว ไม่พอใจคุณพ่อก็ตีป่าน หยิกในที่ที่คุณพ่อไม่เห็น เอาข้าวมาราดหัวป่านเมื่อป่านทำอะไรไม่ถูกใจ”
เรวดีรีบกล่าวแก้ออกมาทันใด
“ตายจริง ร้ายอะไรอย่างนี้แค่คิดจะแตะเงินของแก่เท่านั้น แกแสดงความไม่พอใจขนาดนี้ ดูสิคุณนาท” นางหันไปฟ้องสามีอย่างเข้าใจว่าเขาจะเข้าข้าง หรือไม่ก็รำคาญเสียงของนาง จนต้องลุกออกไปอย่างเคย
แต่ผิดคาด เพราะงานนี้ประนาทนั่งฟังลูกสาวด้วยอาการเจ็บร้อนชัดเจน
“นอกจากเรื่องตีแล้วเรื่องเงินล่ะป่าน เขามาเอาเงินป่านหรือเปล่า”
“ค่ะคุณพ่อ...ค่ากับข้าวคุณอาก็เบิกดอกเบี้ยของป่านมาใช้ทุกเดือน ค่าเทอมก็เงินดอกเบี้ย นี่จะเอาเงินที่คุณปู่ให้ป่านมาปลูกบ้านอีก ป่านไม่ให้หรอกค่ะ”
“อ้าว” ประนาทพึ่งรู้ซึ่งวันนี้
“คุณเร ทำแบบนี้ได้อย่างไร ผมเคยบอกแล้วไงว่าอย่ายุ่งเงินของป่าน”
เรวดีเกิดอาการเป็นใบ้ไปทันที นางคาดไม่ถึงว่า ลูกเลี้ยงที่เคยเงียบ แต่วันนี้ป่านแก้วนึกบ้าเลือดอยากแฉความประพฤติของแม่เลี้ยงให้ผู้เป็นพ่อได้รับรู้ความจริงว่า ยามลับหลังเขา เรวดีทำอะไรไว้บ้าง
ลูกสาวอดทนมาเกือบหลายปี จึงระเบิดความต้องการออกมา แล้วเขาปล่อยปละละเลยให้เรวดีดูแลเพราะไว้ใจว่าคงรักเหมือนลูก แต่เขาคาดผิดถนัด เรวดีเห็นแก่ตัวเกินไปจริงๆ
เมื่ออยู่ตามลำพังเขาเล่นงานภรรยาไม่ยั้ง
“ผมน่าจะรู้นิสัยคิดเล็กคิดน้อยของคุณดีนะเรวดี ผมไม่น่าไปพรากป่านมาจากเนื่อง”
“คุณนาท ทำไมต้องมาโทษว่ากันด้วย เงินที่เอามาใช้ก็แค่ดอกเบี้ย”
“ดีที่ได้แค่นั้น นี่ผมต้องนึกขอบใจเนื่องมากเลยที่ไม่ยอมให้ผมเป็นผู้ดูแลทรัพย์มรดกของป่านแก้ว”
“ทั้งที่คุณฟ้องได้”
“เออดีที่ผมไม่บ้าฟ้อง ไม่งั้นผมคงแทะกระดูกลูกอย่างที่แม่ผมด่ามาแล้ว คุณนี่มันงกจนเหลือทนจริงๆเลยเรวดี”
“อย่ามาว่าเรนะคุณนาท เรทำก็เพื่อครอบครัว คุณเคยดูดำดูดีที่ไหน เข้าป่า กับเข้าสโมสรสองอย่าง หน้าที่ในบ้านเรรับหมด”
“ใช่รับหมด เงินเดือนของผมด้วยไง”
“ลำพังเงินเดือนคุณมีสักเท่าไหร่”
“ก็พอเลี้ยงครอบครัวแล้วเหลือเก็บอีก แต่นี่คุณเก็บทั้งหมดแล้วยังมีหน้าไปเอาเงินป่านอีก”เขาทำท่าผิดหวังย่างปากว่า ก่อนมองคนเป็นเมีย จากหัวจรดเท้า ด้วยดวงตาเหยียดหยันเรวดีกายเย็นวาบ ก่อนโดนเสียดสีจนเรวดีแสบร้อนทั้งใจว่า
“คุณไม่เคยกลับบ้านมากี่ปีแล้วเรวดี”
“ถามทำไม” เธอเชิดหน้าถือดี
“อยากรู้ว่าคุณแม่ผู้ดีของคุณเลิกงาน... หรือยัง”
“คุณนาท คุณรู้...รู้ว่าบ้านเรทำงานอะไร”
“ผมรู้มานานแล้ว แต่ไม่อยากพูด เพราะถึงยังไงก็ทำคุณท้องแล้วนี่ แต่ถึงเดี๋ยวนี้ผมถึงไม่แปลกใจ เวลาที่คุณแสดงท่าทีอยากได้สมบัติของป่านแก้ว เขาหยักยิ้มมุมปาก อย่างจะให้เรวดีจำวันนี้จนตาย ก่อนเอ่ยประโยคสุดท้าย
“ เพราะคุณมันคงไม่เคยมี ไม่เคยมีแม้แต่เงินหมื่นติดตัวมาก่อนแต่งงานกับผม”
คำดูถูกใดเล่าจะเท่ากับคำของผัวตัวเอง เขาทิ้งถ้อยคำบาดใจให้เกิดแผลเจ็บจำ จากนั้นผละเดินหนีออกไปจากห้องนอน
เรวดีกัดริมฝีปากแน่น หอบหายใจอย่างแค้น แสนแค้น แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากอาฆาตไปตามเรื่อง
“ฉันอยากจะเอาน้ำกรดราดหัวแกนักนังป่าน”
คิดได้ ขืนทำ นางคงถูกเหยียบจมดินก่อนติดคุกไม่มีวันออก แค่นั้นอาจจะทำให้ไม่ยั้งคิดเท่า กลัวประนาทมีภรรยาน้อยมากกว่า เรื่องมือที่สามนี้เป้นเรื่องที่เรวดีไม่มีทางยอม
ประนาทเคาะประตูห้องป่านแก้วซึ่งอยู่รวมกับน้องสาว วันนี้ปลายเข้ามาเล่นอยู่ด้วย พอได้ยินเสียงเคาะประตู ปิ๋มกระโดดมาเปิดห้อง ก่นถามอย่างล้อเลียน รอยยิ้มสวยละม้ายพี่สาว
“อ้าววันนี้ไม่มีงานเลี้ยงหรือคะคุณพ่อ”
งานเลี้ยงของประนาทคือข้ออ้าง ที่ป่านแก้วรู้ทัน ประนาท ชอบปลีกไปหาของสวยงามนอกบ้านมากกว่า ฟังคำพล่ามของเรวดี ประนาทเจ้าชู้ อย่างที่รู้กันดี เพียงแต่จับไม่ได้เป็นตัวเป็นตนเท่านั้นเอง
ประนาทก้มจูบหน้าผากเกลี้ยงของเด็กหญิงรุ่น
“ให้พ่อคุยกับพี่ป่านสักครู่นะลูก ปิ๋มพาน้องปลายไปเล่นที่อื่นก่อนไปลูก”
“ค่ะคุณพ่อ” ปิ๋มว่าง่ายเสมอเพราะถูกคุณแม่กดมาแต่เล็ก
เด็กหญิงจูงมือน้องคนเล็กออกไปเล่นหน้าสนามหญ้า เรวดีเดินออกจากห้องมาเห็นลูกสาวอยู่ตามลำพังกับลูกคนเล็ก นางจึงนึกแปลกใจ ก่อนตวัดตาฉับมองที่ห้องลูกเลี้ยง คาดเดาได้ว่า สองพ่อลูกคงสนทนาความลับต่อกัน เรวดีไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
“ป่าน พ่อขอโทษนะที่พ่อทำเหมือนไม่รักป่าน แต่พ่อรัก”
“ค่ะ” เด็กสาวรับคำ
ประนาทรักตามแบบของเขา แค่พูดคุยด้วยเขาก็คิดว่านั่นพอแล้วสำหรับลูก ความอบอุ่นในใจเด็กสาวหวนนึกถึงผู้เป็นอาทุกครั้งที่ต้องการที่พึ่งทางใจ เจ้าสี่คนนั้นอีก ทำให้หลับฝันอย่างมีความสุขได้ แม้กลางวันจะรับความร้ายกาจของเรวดีมาทุกรูปแบบ
“เขาร้ายกับป่าน ทำไมไม่บอกพ่อเลยล่ะลูก ไม่คิดว่าพ่อรักป่านหรือไง”
“ไม่ใช่ค่ะคุณพ่อ ป่านไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจค่ะ ป่านทนได้ก็ทน แต่ความอดทนก็ต้องมีเวลาค่ะคุณพ่อ”
“นิสัยเป็นรู้ชายไปได้ยังไงลูกสาวพ่อ เอ๊ะเป็นผู้ฉิงหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะเปล่า”
ป่านแก้วปฏิเสธ ก้มหน้า หัวเราะเบาๆ ประนาทเอื้อมมือไปลูบผมอีกฝ่ายถามอ่อนโยน
“จะเรียนต่อที่ไหน”
“ต้องแล้วแต่สอบเข้าได้ค่ะ”
“หากป่านอยากแยกไปอยู่ล่ะก็ พ่อขอให้ป่านจบมหาวิทยาลัยก่อนนะลูก”
“แต่ว่าคุณพ่อ”
“พ่อขอ ได้ใช่มั้ย” เขาก้มลงชิดหน้าผากลูกสาว
ป่านแก้วสอดแขนกอดบิดาแน่น พยักหน้ากับอกกว้างของท่าน ไม่หักหาญน้ำใจของผู้ใหญ่ และนั่นคือส่วนที่ดีเยี่ยมของป่านแก้วคนดี
หลังรับปริญญาคุณประนาทจับป่านแก้วขึ้นนั่งรถมาโดยลำพัง หญิงสาวสงสัยยิ่งนัก จึงเปิดปากถาม
“จะพาป่านไปไหนคะคุณพ่อ”
“เดี๋ยวก็รู้เองว่าพ่อรักป่านมากเพียงใด”
รถเบนซ์ของประนาทมาจอดลงที่หน้าบ้านเดี่ยวชั้นเดียวขนาดใหญ่ ริมรั้วด้านนอกมีดอกไม่ปลูกเต็มริมรั้ว ออกดอกแดง สวยแบบแข็งทื่อตามชื่อเรียกขาน กุหลาบหิน
ทางปูพื้นอิฐตัวหนอนสลับลาย จนถึงพื้นปูหินอ่อนหน้าบ้าน สองข้างมีอ่างบัวประดับระยะห่างกันพอควร สนามหญ้าเขียวขจีเต็มพื้นที่ มีชุดรับแขกสีขาว สวนหย่อมบอนไซด์มีสระปลา ตกแต่งด้วยเรือนญี่ปุ่นจำลองเล็กๆน่าดู ในโรงจอดรถมีรถป้ายแดงจอดอยู่
“ทั้งหมดนี้เป็นของป่าน” ท่านนายพลกระซิบบอกลูกคนโต
ป่านแก้วกระพริบตาถี่ อย่างไม่เชื่อสายตาโดยเฉพาะ หญิงผิวเข็มร่างท้วมยืนหน้าประตูบ้านส่งยิ้มฟันขาวมาให้ ป่านแก้วเปิดประตูรถวิ่งลงไปหา ประนาทหัวเราะเดินตามหลังมาที่คนทั้งคู่
“พี่บัว”
“ชวนคำเดียวกระโดดตามมาเลย”
“คุณพ่อ ป่านรักคุณพ่อ”
ประนาทกอดร่างบอบบางของลูกสาวเมื่อเธอกระโดดกอดคอท่าน คำๆนี้รอมาสิบกว่าปี
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อที่เข้าใจป่าน”
“เข้าใจสิลูก แต่ต้องรอเวลาด้วย เขาอยากร้ายมาก เราก็หนีมาซะไม่ต้องทนทุกข์ใจกัน”
“คุณเร ไม่ว่าหรือคะ”
“เงินของพ่อนี่ลูก ป่านก็ใช้จ่ายระวังนะ คุณย่าให้เงินมากเพราะกลัวป่านจะลำบากเพราะฉะนั้นทุกบาททุกสตางค์จะใช้จ่ายต้องให้มีประโยชน์”
“ค่ะเรื่องนี้คุณพ่อไม่ต้องห่วง”
“แล้วเรื่องงานล่ะไปทำที่กระทรวงมั้ยพ่อจะหาให้”
ป่านแก้วรับคำ แต่ทนทำงานที่พ่อหาให้ได้สองปี ก็ลาออก เพราะเธอเบื่อกับการทำงานเช้าชามเย็นชาม ครั้นใครขยันปฏิบัติหน้าที ดันถูกเขม่นว่าทำดีเอาหน้าเสียอีก เธอจึงออกมาหางานเอกชนทำจนถึงทุกวันนี้



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2554, 14:37:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2554, 14:37:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 2013





<< ขาดร่มไทร   การกลับมาของเพื่อนเก่า >>
nutcha 19 ส.ค. 2554, 15:17:25 น.
ยังดีนะที่คุณประนาทยังรักและเข้าใจป่านไม่หลงเมียจนลืมลูก


saralun 19 ส.ค. 2554, 17:02:05 น.
ต่อไปจะเป็นยังไงอีกน้า !!!


จิงโกะ 19 ส.ค. 2554, 18:31:07 น.
ป่านโตอย่างรวดเร็ว


แพม 20 ส.ค. 2554, 00:30:22 น.
รวดเร็วมาก ยังไม่ถึงตอนสำคัญเลย


Zephyr 21 ส.ค. 2554, 21:08:33 น.
เวลาผ่านเร็วมาก ยังดีที่คุณนาทยังรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่งั้นป่านคงลำบากกว่านี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account