ราคีสีเพลิง:รังสี ดุจดาริน รางนาก(ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ดีเลิศ’ และ ‘บัวบุษบา’ แต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า ริษยา โรมานซ์ กลับชาติมาเกิด คุณไสย
ตอน: บทที่ 13 โกรธแล้วได้อะไร -30% + eBook
ก๊อกๆ วันนี้มาแต่เช้ามืดเลยค่ะ^^ ทีมงานกำลังแพ็กเตรียมส่งนักอ่านที่สั่งจองไว้น้าาา วันจันทร์เริ่มทยอยส่ง รอรับกันได้เลย!
สำหรับ eBook ราคีสีเพลิง และมาลีเริงไฟ วางจำหน่ายแล้วนะคะที่เว็บ Mebmarket ฝากบัวบุษบากับดีเลิศด้วยนะคะ จุ๊บๆ
**********
“แม่พิณ แล้วดอกบัวล่ะคะ”
เสียงหวานโหวกเหวกที่นอกบ้านแต่เช้าตรู่ เรียกให้บัวบุษบาเดินออกไปมองด้วยใบหน้าซีดเซียวเพราะนอนไม่หลับ
หญิงสาวเห็นดมิสากับสายพิณกำลังช่วยกันขนข้าวของใส่รถ จำ พวกอาหาร เครื่องสังฆทาน และตอนนี้สายพิณก็ถือตะกร้าดอกบัววิ่งมายื่นให้ ก่อนหยิบซองสีขาวออกมาพนมไหว้ท่วมหัวแล้วส่งให้สมคิดที่ยืนอยู่ข้างกัน
“สาธุเข้าไอ้คิด ชาติหน้าจะได้เกิดมาสติปัญญาดี เฉลียวฉลาดสมเป็นลูกแม่” สายพิณสั่งให้ลูกชายทำด้วย
สมคิดรับซองสีขาวมาประนมเหนือหัวกล่าวสาธุโดยไม่รู้ความหมาย รู้แค่ว่าอะไรก็ตามที่คุณหนูคุณชายของบ้านนี้ทำนั้นคือเรื่องดีหมดทุกอย่าง ก่อนส่งซองต่อให้ดมิสาอย่างนอบน้อม กุมารแพทย์หญิงรับซองไปแล้วยกมือไหว้สาธุกับสายพิณและสมคิด ก่อนเหลือบมาเห็นบัวบุษบาเข้าพอดี
“อ้าวพี่บัว” หญิงสาวยิ้มกว้าง “พี่โตล่ะคะ วันนี้วันหยุด ไปทำบุญด้วยกันไหมคะ”
บัวบุษบายิ้มอย่างฝืดฝืน ก่อนเดินลงจากเรือนเสน่ห์จันทน์ไปหาน้องสาวสามีที่ยืนอยู่ใต้ต้นราชพฤกษ์ข้างรถเก๋งคันเล็กสีขาว
“พี่โตนอนที่คอนโดฯ ค่ะ เห็นว่าต้องเคลียร์งานจนดึกเลยไม่อยากขับรถกลับบ้าน”
ดีเลิศมีคอนโดมิเนียมห้องหนึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน ดมิสาจึงพยักหน้าเข้าใจแต่ก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของบัวบุษบาไม่สู้ดีนัก
กุมารแพทย์สาวนิ่งไปครู่หนึ่งก็แย้มยิ้มเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น เพราะดูออกว่าไม่น่าใช่อาการป่วยทางกาย แววตาของพี่สะใภ้ดูเหมือนต้องใช้ความคิดหนักและเคร่งเครียดกังวล
อาจเกี่ยวกับวิรงรอง...
ดมิสาสรุปอย่างไม่แปลกใจ การที่เจิมจันทร์กรุยทางให้วิรงรองก้าวเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างดีเลิศกับบัวบุษบานั้น ใครๆ ก็ดูออก หากเธอเป็นภรรยาที่กำลังถูกผู้หญิงอีกคนตามยั่วสามีตัวเอง โดยที่ไม่สามารถไล่ไปได้ เธอก็คงเครียดเหมือนกัน
“ถ้างั้นพี่บัวไปวัดกับมิ้งค์ไหมคะ หลวงลุงคงดีใจถ้ารู้ว่าพี่โตกับพี่กลับมาอยู่ที่นี่แล้ว”
“ก็ดีนะคะคุณบัว ไปปัดเสนียดจัญไรออกจากตัวเสียบ้าง”
สายพิณทำท่าปัดแขนตัวเองด้วยใบหน้ารังเกียจ ก่อนรีบหุบปากสนิทเมื่อเห็นวิรงรองเดินลงมาจากบนบ้าน ดมิสาพยักหน้าให้สายพิณลากสมคิดเลี่ยงไปอีกทาง ขณะที่เธอดันตัวบัวบุษบาให้เข้าไปนั่งในรถโดยไม่รอคำตอบจากพี่สะใภ้อีกแล้ว
“จะไปไหนกันเหรอคะน้องมิ้งค์”
วิรงรองในชุดกางเกงขายาวสีขาวกับเสื้อเกาะอกสีขาวเอวลอย มีระบายรอบตัว เผยให้เห็นวงเอวเล็กบอบบางขาวผ่องน่ามอง เดินมาหยุดยืนยิ้มอยู่ข้างรถของดมิสา
หล่อนยิ้มทักทายน้องสาวของว่าที่สามีตีทะเบียนของหล่อนในอนาคต โดยไม่สนใจว่าที่ภรรยาเก่าของดีเลิศที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่ในรถเลยแม้แต่น้อย
“ไปวัดค่ะ” ดมิสายิ้มตอบตามมารยาท
“มิ้งค์ลานะคะพี่วิ เดี๋ยวจะไม่ทันเพล ต้องใช้เวลาเดินทางค่ะ พอดีจะไปวัดป่าแถวปริมณฑล”
“อ๋อ วัดป่าอิสราภรณ์ วัดของหลวงลุงของพี่โตน่ะเหรอคะ เมื่อคืนนี้พี่โตเล่าให้พี่ฟังก่อนนอนอยู่เหมือนกัน” หล่อนยิ้มหวานโกหกหน้าซื่อ แม้เมื่อคืนนี้ดีเลิศจะไม่ได้มาที่ห้องเพราะไม่ใช่วันอังคาร แต่ความอยากประกาศว่าหล่อนกับดีเลิศนั้นเป็นผัวเมียกันมีมากกว่า เรื่องไม่จริงแล้วอย่างไรล่ะ ถึงเมื่อคืนนี้ไม่มา ดีเลิศก็ต้องมาหาหล่อนทุกวันอังคารอยู่ดี!
ส่วนเรื่องวัดป่าอิสราภรณ์ วิรงรองสืบรู้ตั้งแต่ก่อนย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนเสน่ห์จันทน์แล้วว่า เป็นของญาติสนิทสองพี่น้อง
“อ๋อ...เหรอคะ” ดมิสาเพียงยิ้มๆ กับคำพูดของวิรงรอง แต่ขณะ เดียวกันก็จงใจแสดงออกว่า ‘ไม่เชื่อ’
วิรงรองเห็นสีหน้าของน้องสาวดีเลิศแล้วถึงกับฉุนกึก! อดคิดไม่ได้ว่าอีเด็กเวรนี่มันจัญไรอย่างที่เจิมจันทร์เคยด่าไม่มีผิด
ถึงจะยิ้มแย้ม พูดจาดี แต่มันมองหล่อนเหมือนเป็นอีตอแหลน่าสมเพชคนหนึ่ง!
“มิ้งค์ลาจริงๆ แล้วค่ะ มิ้งค์รีบ วัดป่าอยู่บนเนินเขา ทางไปวัดเลยชันนิดหน่อย ไม่เหมือนทางไปนรก มันเรียบ...เสียจนกลิ้งตกไปปีนต้นงิ้วกันเป็นว่าเล่น”
ดมิสายิ้มหวานหยดย้อย ก่อนเดินฉับๆ เข้ารถแล้วสตาร์ตออกรถไปเฉียดกับจุดที่วิรงรองยืนอยู่จนไฮโซสาวต้องขยับหลบอย่างเสียมิได้ หล่อนกำมือแน่น กัดฟันกรอด มองตามหลังรถฟอร์ดคันเล็กด้วยความโกรธจนร่างกายรุ่มร้อนราวกับไฟ ก่อนสะบัดหน้าหนีเดินไปอีกทาง
คนอย่างวิรงรองหากจะเปรียบก็เป็นพิมเสน
จะไม่ยอมลงไปแลกกับเกลืออย่างอีเด็กปากจัดนั่นเด็ดขาด!
************
ชอบมิ้งค์จัง เอาอีกๆ 555+
ใครอยากจัดรวดเดียวจบ โหลด eBook โลดดดด ที่เว็บ mebmarket ที่เดียวเท่านั้นนะคะ
ปล.เร็วๆ นี้ ราคีสีเพลิงและมาลีเริงไฟ จะมีวางจำหน่ายที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และตามร้านออนไลน์ด้วยค่ะ
สำหรับ eBook ราคีสีเพลิง และมาลีเริงไฟ วางจำหน่ายแล้วนะคะที่เว็บ Mebmarket ฝากบัวบุษบากับดีเลิศด้วยนะคะ จุ๊บๆ
**********
“แม่พิณ แล้วดอกบัวล่ะคะ”
เสียงหวานโหวกเหวกที่นอกบ้านแต่เช้าตรู่ เรียกให้บัวบุษบาเดินออกไปมองด้วยใบหน้าซีดเซียวเพราะนอนไม่หลับ
หญิงสาวเห็นดมิสากับสายพิณกำลังช่วยกันขนข้าวของใส่รถ จำ พวกอาหาร เครื่องสังฆทาน และตอนนี้สายพิณก็ถือตะกร้าดอกบัววิ่งมายื่นให้ ก่อนหยิบซองสีขาวออกมาพนมไหว้ท่วมหัวแล้วส่งให้สมคิดที่ยืนอยู่ข้างกัน
“สาธุเข้าไอ้คิด ชาติหน้าจะได้เกิดมาสติปัญญาดี เฉลียวฉลาดสมเป็นลูกแม่” สายพิณสั่งให้ลูกชายทำด้วย
สมคิดรับซองสีขาวมาประนมเหนือหัวกล่าวสาธุโดยไม่รู้ความหมาย รู้แค่ว่าอะไรก็ตามที่คุณหนูคุณชายของบ้านนี้ทำนั้นคือเรื่องดีหมดทุกอย่าง ก่อนส่งซองต่อให้ดมิสาอย่างนอบน้อม กุมารแพทย์หญิงรับซองไปแล้วยกมือไหว้สาธุกับสายพิณและสมคิด ก่อนเหลือบมาเห็นบัวบุษบาเข้าพอดี
“อ้าวพี่บัว” หญิงสาวยิ้มกว้าง “พี่โตล่ะคะ วันนี้วันหยุด ไปทำบุญด้วยกันไหมคะ”
บัวบุษบายิ้มอย่างฝืดฝืน ก่อนเดินลงจากเรือนเสน่ห์จันทน์ไปหาน้องสาวสามีที่ยืนอยู่ใต้ต้นราชพฤกษ์ข้างรถเก๋งคันเล็กสีขาว
“พี่โตนอนที่คอนโดฯ ค่ะ เห็นว่าต้องเคลียร์งานจนดึกเลยไม่อยากขับรถกลับบ้าน”
ดีเลิศมีคอนโดมิเนียมห้องหนึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน ดมิสาจึงพยักหน้าเข้าใจแต่ก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของบัวบุษบาไม่สู้ดีนัก
กุมารแพทย์สาวนิ่งไปครู่หนึ่งก็แย้มยิ้มเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น เพราะดูออกว่าไม่น่าใช่อาการป่วยทางกาย แววตาของพี่สะใภ้ดูเหมือนต้องใช้ความคิดหนักและเคร่งเครียดกังวล
อาจเกี่ยวกับวิรงรอง...
ดมิสาสรุปอย่างไม่แปลกใจ การที่เจิมจันทร์กรุยทางให้วิรงรองก้าวเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างดีเลิศกับบัวบุษบานั้น ใครๆ ก็ดูออก หากเธอเป็นภรรยาที่กำลังถูกผู้หญิงอีกคนตามยั่วสามีตัวเอง โดยที่ไม่สามารถไล่ไปได้ เธอก็คงเครียดเหมือนกัน
“ถ้างั้นพี่บัวไปวัดกับมิ้งค์ไหมคะ หลวงลุงคงดีใจถ้ารู้ว่าพี่โตกับพี่กลับมาอยู่ที่นี่แล้ว”
“ก็ดีนะคะคุณบัว ไปปัดเสนียดจัญไรออกจากตัวเสียบ้าง”
สายพิณทำท่าปัดแขนตัวเองด้วยใบหน้ารังเกียจ ก่อนรีบหุบปากสนิทเมื่อเห็นวิรงรองเดินลงมาจากบนบ้าน ดมิสาพยักหน้าให้สายพิณลากสมคิดเลี่ยงไปอีกทาง ขณะที่เธอดันตัวบัวบุษบาให้เข้าไปนั่งในรถโดยไม่รอคำตอบจากพี่สะใภ้อีกแล้ว
“จะไปไหนกันเหรอคะน้องมิ้งค์”
วิรงรองในชุดกางเกงขายาวสีขาวกับเสื้อเกาะอกสีขาวเอวลอย มีระบายรอบตัว เผยให้เห็นวงเอวเล็กบอบบางขาวผ่องน่ามอง เดินมาหยุดยืนยิ้มอยู่ข้างรถของดมิสา
หล่อนยิ้มทักทายน้องสาวของว่าที่สามีตีทะเบียนของหล่อนในอนาคต โดยไม่สนใจว่าที่ภรรยาเก่าของดีเลิศที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่ในรถเลยแม้แต่น้อย
“ไปวัดค่ะ” ดมิสายิ้มตอบตามมารยาท
“มิ้งค์ลานะคะพี่วิ เดี๋ยวจะไม่ทันเพล ต้องใช้เวลาเดินทางค่ะ พอดีจะไปวัดป่าแถวปริมณฑล”
“อ๋อ วัดป่าอิสราภรณ์ วัดของหลวงลุงของพี่โตน่ะเหรอคะ เมื่อคืนนี้พี่โตเล่าให้พี่ฟังก่อนนอนอยู่เหมือนกัน” หล่อนยิ้มหวานโกหกหน้าซื่อ แม้เมื่อคืนนี้ดีเลิศจะไม่ได้มาที่ห้องเพราะไม่ใช่วันอังคาร แต่ความอยากประกาศว่าหล่อนกับดีเลิศนั้นเป็นผัวเมียกันมีมากกว่า เรื่องไม่จริงแล้วอย่างไรล่ะ ถึงเมื่อคืนนี้ไม่มา ดีเลิศก็ต้องมาหาหล่อนทุกวันอังคารอยู่ดี!
ส่วนเรื่องวัดป่าอิสราภรณ์ วิรงรองสืบรู้ตั้งแต่ก่อนย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนเสน่ห์จันทน์แล้วว่า เป็นของญาติสนิทสองพี่น้อง
“อ๋อ...เหรอคะ” ดมิสาเพียงยิ้มๆ กับคำพูดของวิรงรอง แต่ขณะ เดียวกันก็จงใจแสดงออกว่า ‘ไม่เชื่อ’
วิรงรองเห็นสีหน้าของน้องสาวดีเลิศแล้วถึงกับฉุนกึก! อดคิดไม่ได้ว่าอีเด็กเวรนี่มันจัญไรอย่างที่เจิมจันทร์เคยด่าไม่มีผิด
ถึงจะยิ้มแย้ม พูดจาดี แต่มันมองหล่อนเหมือนเป็นอีตอแหลน่าสมเพชคนหนึ่ง!
“มิ้งค์ลาจริงๆ แล้วค่ะ มิ้งค์รีบ วัดป่าอยู่บนเนินเขา ทางไปวัดเลยชันนิดหน่อย ไม่เหมือนทางไปนรก มันเรียบ...เสียจนกลิ้งตกไปปีนต้นงิ้วกันเป็นว่าเล่น”
ดมิสายิ้มหวานหยดย้อย ก่อนเดินฉับๆ เข้ารถแล้วสตาร์ตออกรถไปเฉียดกับจุดที่วิรงรองยืนอยู่จนไฮโซสาวต้องขยับหลบอย่างเสียมิได้ หล่อนกำมือแน่น กัดฟันกรอด มองตามหลังรถฟอร์ดคันเล็กด้วยความโกรธจนร่างกายรุ่มร้อนราวกับไฟ ก่อนสะบัดหน้าหนีเดินไปอีกทาง
คนอย่างวิรงรองหากจะเปรียบก็เป็นพิมเสน
จะไม่ยอมลงไปแลกกับเกลืออย่างอีเด็กปากจัดนั่นเด็ดขาด!
************
ชอบมิ้งค์จัง เอาอีกๆ 555+
ใครอยากจัดรวดเดียวจบ โหลด eBook โลดดดด ที่เว็บ mebmarket ที่เดียวเท่านั้นนะคะ
ปล.เร็วๆ นี้ ราคีสีเพลิงและมาลีเริงไฟ จะมีวางจำหน่ายที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และตามร้านออนไลน์ด้วยค่ะ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.พ. 2562, 05:40:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.พ. 2562, 05:45:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 761
<< บทที่ 12 ความหลังครั้งอดีตชาติ -100% | บทที่ 13 โกรธแล้วได้อะไร -60% >> |