ราคีสีเพลิง:รังสี ดุจดาริน รางนาก(ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ดีเลิศ’ และ ‘บัวบุษบา’ แต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า ริษยา โรมานซ์ กลับชาติมาเกิด คุณไสย
ตอน: บทที่ 14 ความไว้ใจมันใกล้กับคำว่าโง่ -30%
บัวบุษบานอนพลิกกายไปมาก่อนจะวาดมือไปข้างตัวเพื่อกอดก่ายคนข้างกาย ทว่าหญิงสาวกลับต้องลืมตาขึ้นด้วยความง่วงงุนเมื่อพบว่าดีเลิศไม่ได้อยู่บนเตียงนอน
หญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มคงเข้าห้องน้ำเธอจึงนอนต่อ แต่เพราะเสียงที่เงียบราวกับไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเธอก็ทำให้หญิงสาวตัดสินใจเปิดไฟจากโคมไฟหัวเตียง แล้วเพ่งมองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท
“พี่โตคะ พี่โตเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยเรียก
ทว่าคำตอบที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบดังเดิม เธอจึงตัดสินใจเคาะประตูห้องน้ำ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“พี่โตคะ ได้ยินเสียงบัวไหมคะ พี่โตเป็นอะไรหรือเปล่า”
บัวบุษบาใจไม่ค่อยดี ช่วงนี้สามีดูเครียดเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา เดาว่าคงเป็นปัญหาเรื่องงานก็เป็นได้ เธอจึงกลัวว่าเขาจะเครียดจนร่างกายไม่ไหว เป็นลมล้มลงไปในห้องน้ำ
เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่รอช้าถือวิสาสะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปทันที
“พี่โตคะ...”
หญิงสาวนิ่งอึ้งเมื่อพบว่าดีเลิศไม่ได้อยู่ข้างในนั้น เธอเดินออกมาหยุดยืนอยู่กลางห้องน้ำกว้างขวาง เดินกระสับกระส่ายไปมาก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนอนแล้วเหลือบดูนาฬิกา เข็มสั้นชี้บอกว่ากำลังจะล่วงเข้าตีหนึ่งแล้ว หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างใจเย็น คิดไปในแง่ดีว่าดีเลิศอาจเดินออกไปดื่มน้ำจากเรือนครัวด้านล่าง
แม้จะปลุกปลอบตัวเองเช่นนั้น ทว่าสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นขวดน้ำที่บรรจุน้ำอยู่เต็มขวด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ดีเลิศจะต้องออกจากห้องนอนไปในยามวิกาลเช่นนี้ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงต่อให้เชื่อใจสามีขนาดไหน ลึกลงไปแล้วย่อมมีความหวาดระแวงหากถูกยุแยง
หรือว่าดีเลิศจะไปหาวิรงรองจริงๆ
หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง หัวใจเต้นรัวเร็วหวาด กลัวความจริงที่จะเกิดขึ้น
เป็นไงเป็นกัน จะช้าจะเร็วความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ หญิงสาวตัดสินใจเปิดประตูออกมา ค่อยๆ ก้าวพ้นธรณีประตูแล้วสอดส่ายสายตาไปในความมืด เห็นเงาของสามีนั่งอยู่ที่ศาลากลางเรือน
สงสัยว่าจะละเมอเดินออกมาเหมือนคืนนั้น...
บัวบุษบาถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนเดินตรงไปหาเขา
แต่ดูเหมือนว่าดีเลิศจะจมอยู่ในภวังค์ความคิด จนไม่รับรู้การมาของภรรยา เธอจึงตัดสินใจวางมือลงบนไหล่หนา รู้สึกได้ว่าไหล่ของเขาสั่นเทิ้มราวกับกำลังร้องไห้อยู่ บัวบุษบาใจหายวาบ รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มกำลังอ่อนแอราวกับแก้วร้าวที่รอวันแตกสลาย แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาเป็นผู้ ชาย ร้องห่มร้องไห้บ่อยๆ คงรู้สึกแย่จึงแอบออกมานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้
“พี่โตมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้มืดๆ คะ”
ดีเลิศไม่ตอบแต่หันกลับไปกอดรอบเอวภรรยาไว้แน่น ซบหน้าลงกับหน้าท้องของหญิงสาว
เขามันเลว! เลวเหลือเกิน! เลวที่ไม่อาจบังคับร่างกาย ปล่อยให้บางสิ่งบางอย่างเข้าครอบงำ หลงลืมความรักที่มีให้แก่ศรีภรรยา หลงลืมศีลธรรมถูกผิด หลับนอนกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาอีกแล้ว
เขามันเลว เลวเหลือเกิน!
“พี่โต...” บัวบุษบารู้สึกราวกับหัวใจร่วงลงไปอยู่ที่ปลายเท้า
เธอรู้จักดีเลิศมาหลายปี ทั้งเป็นเพื่อนกันในวัยเด็ก เริ่มคบหากันในวัยมัธยมฯ และมหาวิทยาลัยจนกระทั่งล่วงเข้าสู่วัยทำงาน จึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน หลายสิบปีที่รู้จักกัน แม้ท่าทางภายนอกของเขาอาจดูสุภาพอ่อนโยน แต่เขามีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวแข็งแกร่ง
เธอไม่เคยเห็นเขามีท่าทางอ่อนแอเช่นนี้มาก่อนเลย
“พี่รักบัว นับจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้บัวรู้ไว้ว่าพี่รักบัวคนเดียว และจะรักตลอดไป”
เขาพึมพำบอกรักหญิงสาวเสียงสั่น
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเล่าให้บัวฟังได้นะคะพี่โต แม้บัวอาจจะช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ แต่การที่บัวรับฟังก็อาจทำให้พี่โตสบายใจขึ้นได้บ้าง” หญิงสาววางมือลงบนศีรษะของเขา ก่อนจะตอบกอดเขาเอาไว้แนบแน่น
“พี่ง่วงแล้ว เราเข้านอนกันเถอะบัว พรุ่งนี้พี่มีประชุมแต่เช้า” ดีเลิศตัดบทราวกับไม่ต้องการพูดถึงปัญหาที่เขากำลังแบกรับเอาไว้
เรื่องนี้จะให้บัวบุษบารู้ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะนอกจากจะทำให้เธอเสียใจและผิดหวังในตัวเขาแล้ว เขาอาจเสียเธอไปตลอดชีวิต ซึ่งเขาไม่อาจทนได้
“ค่ะพี่โต” บัวบุษบาไม่เซ้าซี้ สามีกำลังไม่สบายใจ ไม่ว่าปัญหาที่เขากำลังเผชิญจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับอะไร เธอซึ่งเป็นภรรยาก็พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้าง จับมือเขาไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาตลอดไป
*********************
มาต่อแล้วค่ะ สงสารพี่โต T^T
#ราคีสีเพลิง หนังสือพร้อมส่ง สั่งซื้อได้ในราคา 218 บาทนะคะ (ส่งแบบลงทะเบียนบวกเพิ่ม 25 บาท //ส่งแบบ ems บวกเพิ่ม 45 บาท)
#ช่องทางสั่งซื้อ
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’
-ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก และร้าน booktogothailand
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
#eBook มีที่เว็บ mebmarket ที่เดียวเท่านั้น
หญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มคงเข้าห้องน้ำเธอจึงนอนต่อ แต่เพราะเสียงที่เงียบราวกับไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเธอก็ทำให้หญิงสาวตัดสินใจเปิดไฟจากโคมไฟหัวเตียง แล้วเพ่งมองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท
“พี่โตคะ พี่โตเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยเรียก
ทว่าคำตอบที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบดังเดิม เธอจึงตัดสินใจเคาะประตูห้องน้ำ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“พี่โตคะ ได้ยินเสียงบัวไหมคะ พี่โตเป็นอะไรหรือเปล่า”
บัวบุษบาใจไม่ค่อยดี ช่วงนี้สามีดูเครียดเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา เดาว่าคงเป็นปัญหาเรื่องงานก็เป็นได้ เธอจึงกลัวว่าเขาจะเครียดจนร่างกายไม่ไหว เป็นลมล้มลงไปในห้องน้ำ
เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่รอช้าถือวิสาสะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปทันที
“พี่โตคะ...”
หญิงสาวนิ่งอึ้งเมื่อพบว่าดีเลิศไม่ได้อยู่ข้างในนั้น เธอเดินออกมาหยุดยืนอยู่กลางห้องน้ำกว้างขวาง เดินกระสับกระส่ายไปมาก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนอนแล้วเหลือบดูนาฬิกา เข็มสั้นชี้บอกว่ากำลังจะล่วงเข้าตีหนึ่งแล้ว หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างใจเย็น คิดไปในแง่ดีว่าดีเลิศอาจเดินออกไปดื่มน้ำจากเรือนครัวด้านล่าง
แม้จะปลุกปลอบตัวเองเช่นนั้น ทว่าสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นขวดน้ำที่บรรจุน้ำอยู่เต็มขวด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ดีเลิศจะต้องออกจากห้องนอนไปในยามวิกาลเช่นนี้ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงต่อให้เชื่อใจสามีขนาดไหน ลึกลงไปแล้วย่อมมีความหวาดระแวงหากถูกยุแยง
หรือว่าดีเลิศจะไปหาวิรงรองจริงๆ
หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง หัวใจเต้นรัวเร็วหวาด กลัวความจริงที่จะเกิดขึ้น
เป็นไงเป็นกัน จะช้าจะเร็วความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ หญิงสาวตัดสินใจเปิดประตูออกมา ค่อยๆ ก้าวพ้นธรณีประตูแล้วสอดส่ายสายตาไปในความมืด เห็นเงาของสามีนั่งอยู่ที่ศาลากลางเรือน
สงสัยว่าจะละเมอเดินออกมาเหมือนคืนนั้น...
บัวบุษบาถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนเดินตรงไปหาเขา
แต่ดูเหมือนว่าดีเลิศจะจมอยู่ในภวังค์ความคิด จนไม่รับรู้การมาของภรรยา เธอจึงตัดสินใจวางมือลงบนไหล่หนา รู้สึกได้ว่าไหล่ของเขาสั่นเทิ้มราวกับกำลังร้องไห้อยู่ บัวบุษบาใจหายวาบ รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มกำลังอ่อนแอราวกับแก้วร้าวที่รอวันแตกสลาย แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาเป็นผู้ ชาย ร้องห่มร้องไห้บ่อยๆ คงรู้สึกแย่จึงแอบออกมานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้
“พี่โตมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้มืดๆ คะ”
ดีเลิศไม่ตอบแต่หันกลับไปกอดรอบเอวภรรยาไว้แน่น ซบหน้าลงกับหน้าท้องของหญิงสาว
เขามันเลว! เลวเหลือเกิน! เลวที่ไม่อาจบังคับร่างกาย ปล่อยให้บางสิ่งบางอย่างเข้าครอบงำ หลงลืมความรักที่มีให้แก่ศรีภรรยา หลงลืมศีลธรรมถูกผิด หลับนอนกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาอีกแล้ว
เขามันเลว เลวเหลือเกิน!
“พี่โต...” บัวบุษบารู้สึกราวกับหัวใจร่วงลงไปอยู่ที่ปลายเท้า
เธอรู้จักดีเลิศมาหลายปี ทั้งเป็นเพื่อนกันในวัยเด็ก เริ่มคบหากันในวัยมัธยมฯ และมหาวิทยาลัยจนกระทั่งล่วงเข้าสู่วัยทำงาน จึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน หลายสิบปีที่รู้จักกัน แม้ท่าทางภายนอกของเขาอาจดูสุภาพอ่อนโยน แต่เขามีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวแข็งแกร่ง
เธอไม่เคยเห็นเขามีท่าทางอ่อนแอเช่นนี้มาก่อนเลย
“พี่รักบัว นับจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้บัวรู้ไว้ว่าพี่รักบัวคนเดียว และจะรักตลอดไป”
เขาพึมพำบอกรักหญิงสาวเสียงสั่น
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเล่าให้บัวฟังได้นะคะพี่โต แม้บัวอาจจะช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ แต่การที่บัวรับฟังก็อาจทำให้พี่โตสบายใจขึ้นได้บ้าง” หญิงสาววางมือลงบนศีรษะของเขา ก่อนจะตอบกอดเขาเอาไว้แนบแน่น
“พี่ง่วงแล้ว เราเข้านอนกันเถอะบัว พรุ่งนี้พี่มีประชุมแต่เช้า” ดีเลิศตัดบทราวกับไม่ต้องการพูดถึงปัญหาที่เขากำลังแบกรับเอาไว้
เรื่องนี้จะให้บัวบุษบารู้ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะนอกจากจะทำให้เธอเสียใจและผิดหวังในตัวเขาแล้ว เขาอาจเสียเธอไปตลอดชีวิต ซึ่งเขาไม่อาจทนได้
“ค่ะพี่โต” บัวบุษบาไม่เซ้าซี้ สามีกำลังไม่สบายใจ ไม่ว่าปัญหาที่เขากำลังเผชิญจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับอะไร เธอซึ่งเป็นภรรยาก็พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้าง จับมือเขาไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาตลอดไป
*********************
มาต่อแล้วค่ะ สงสารพี่โต T^T
#ราคีสีเพลิง หนังสือพร้อมส่ง สั่งซื้อได้ในราคา 218 บาทนะคะ (ส่งแบบลงทะเบียนบวกเพิ่ม 25 บาท //ส่งแบบ ems บวกเพิ่ม 45 บาท)
#ช่องทางสั่งซื้อ
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’
-ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก และร้าน booktogothailand
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
#eBook มีที่เว็บ mebmarket ที่เดียวเท่านั้น
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.พ. 2562, 09:27:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.พ. 2562, 09:33:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 618
| << บทที่ 13 โกรธแล้วได้อะไร -100% + วางศูนย์หนังสือจุฬาฯ | บทที่ 14 ความไว้ใจมันใกล้กับคำว่าโง่ -60% >> |