มาลีเริงไฟ: รังสี(วิรัตต์ยา) ปลายปากกาสำนักพิมพ์
‘ญานีน’ ถึงกับช็อกเมื่อรู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอ
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน

โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!

เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง

ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...

นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!


*******************

ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ

*******************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee

หนังสือพร้อมส่ง

สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)

ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***

**************

หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)

*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)



Tags: ผี ดราม่า แก้แค้น แต่งงาน สลับตัว เล่นของ

ตอน: บทที่ 17 -50%


ทักทายกันวันอาทิตย์ค่ะ^^ วันนี้งานหนังสือวันสุดท้ายแล้ว พายิหวากลับบ้านกันเยอะๆ นะ ราวๆ ทุ่มวันนี้ทีมงานจะไปขนกลับแล้วค่ะ รีบมากันๆ บูธบ้านมงคล P09 โซน C1 นะคะ

****************


ตกเย็นวันนั้น ญานีนไปหาเจิมจันทร์ที่เรือนเสน่ห์จันทน์ตามที่นัดไว้ สายพิณซึ่งรู้จากเจิมจันทร์ว่าญานีนจะมา กระตือรือร้นออกมารอรับอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นหล่อนก็เข้ามากอดด้วยความดีใจเหลือล้น

“ได้กอดตัวจริงเสียงจริงของคุณหนูของแม่พิณแล้ว...ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...พระคุ้มครองเทวดาปกป้องนะคะ” แม่บ้านสายพิณอวยพรพลางลูบหลังลูบไหล่ญานีนไปด้วย ไม่มีท่าทีแปลกใจกับใบหน้าที่เหมือนวิรัลยา เนื่องจากเจิมจันทร์ได้เล่าให้สายพิณฟังบ้างแล้วเพื่อที่จะได้ต้อนรับได้ถูกคน

“ดูสิ คุณหนูผอมไปตั้งเยอะ...”

“ถ้างั้นเดี๋ยวยิหวากลับมาให้แม่พิณขุนดีไหมคะ”

ญานีนกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่ไหว เรือนเสน่ห์จันทน์คือบ้านที่หล่อนอยู่ตั้งแต่เด็กๆ แม้จะมีความทรงจำเลวร้ายหลายอย่าง แต่หล่อนก็ยังมีสายพิณเป็นความทรงจำดีๆ ของหล่อน สายพิณเป็นคนคอยปลอบหล่อนเวลาที่ถูกยายทำโทษ สายพิณเป็นที่พึ่งของหล่อนกับญาตาวีมาตั้งแต่เด็กจนโต ดมิสาก็ด้วย

“อุ๊ย จะกลับมาอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอคะคุณหนู ออกไปแล้วก็อย่ากลับ มาอีกเลยค่ะ พิณละกลัวแทน” สายพิณรีบสั่นหน้าไม่เห็นด้วย

“หนูมีภารกิจสำคัญกับคุณยายน่ะค่ะ”

สายพิณเบิกตากว้าง “ภารกิจอะไรคะ นี่อย่าบอกนะว่า...คุณหนูจะยอมเป็นทายาทท่านน่ะ”

“แม่พิณรู้เรื่องที่คุณยายเป็น เอ่อ เป็นแบบนี้ด้วยเหรอคะ” เป็น ญานีนที่แปลกใจ

ได้ยินคำถามนั้น สายพิณก็เพิ่งรู้ตัวว่าหลุดปากออกไป รีบหุบปากฉับ ไม่วายมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทีหวาดกลัว ก่อนกระซิบเสียงเบากว่า เดิม

“อย่าให้พิณพูดเลยค่ะ พิณไม่อยากเสี่ยงมีหนอนออกจากปากอีก...แต่พิณไม่อยากให้คุณหนูเข้ามาในวังวนนี้เลย มันน่ากลัวมาก”

“นาทีนี้ ต่อให้น่ากลัวกว่านี้ร้อยเท่า ยิหวาก็ยอมค่ะ” น้ำเสียงหล่อนเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

ระหว่างนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาหยุดตรงบันไดขั้นบนสุด สายพิณรีบผละออกห่างญานีน แล้วหลบไปอีกทางทันที

ญานีนเงยหน้ามอง รู้อยู่แล้วว่าเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นต้องเป็นเจิมจันทร์ แววตาที่ส่งกลับไปให้ยายจึงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่มีหวั่นไหว เรียกรอยยิ้มผุดที่มุมปากของหญิงชรา...เป็นรอยยิ้มของความพึงพอใจ

หลังจากนั้น ญานีนก็เดินตามยายไปยังห้องทำพิธี ซึ่งก็คือห้องพระอยู่ในเรือนนอนของยาย ตอนเด็กๆ ที่พวกหล่อนแอบเข้ามา ก็เห็นว่าเป็นห้องพระธรรมดา

แต่มาวันนี้ไม่ใช่เสียแล้ว!

เพียงญานีนย่างเท้าเข้าไป กลิ่นแปลกๆ ชวนคลื่นเหียนก็ลอยมากระทบจมูก มันคือกลิ่นแห่งความตาย กลิ่นแห่งความเกลียดชังและความคั่งแค้น และบางทีอาจเป็นกลิ่นของความเจ็บปวดแสนสาหัสด้วยกระมัง หญิงสาวถึงกับเย็นยะเยือกไปทั่วแผ่นหลัง ด้วยรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องจากสายตาหลายคู่

ญานีนมองไปที่กลางห้อง มีตั่งไม้สักวางอยู่ ปูด้วยผ้าสีดำสนิท บนตั่งมีโต๊ะเล็กๆ ตั้งอยู่ และบนโต๊ะนั่นก็มีหัวกะโหลกสีดำสนิทวางอยู่ ทำเอาหล่อนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนสำรวจห้องต่อ

บนตั่งนอกจากหัวกะโหลกนั่นแล้ว ยังมีกระถางธูปขนาดใหญ่ซึ่งมีก้านธูปที่ถูกจุดแล้วอัดแน่น รายล้อมด้วยรูปปั้นหลายตัว มีทั้งคนในชุดโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อ หน้าตาน่ากลัว นางรำ สัตว์ดุร้ายอย่างควาย เสือ กระทิง นกยักษ์ สุนัขตัวใหญ่ ด้านหนึ่งมีด้ายสายสิญจน์สีขาววางบนพาน เทียนแท่ง และก้อนขี้ผึ้งที่ใช้แล้ว ใกล้ๆ กันเป็นขันสีเหลืองทองเก่าคร่ำคร่า นอกจากนี้ มุมหนึ่งของตั่งยังมีผอบวางเรียงกันอยู่หลายใบอีกด้วย

บนพื้นห้องติดกับตั่ง เวลานี้มีถาดทรงกลมวางอยู่ บนถาดเป็นกาบกล้วยตัดมุมให้มนทั้งสองด้านวางอยู่สองกาบ กาบแรกวางข้าว กับข้าว และขนมหวาน ส่วนอีกกาบมีรูปปั้นชายหญิงสองคู่วางเคียงกัน คู่หนึ่งหันหน้าเข้าหากัน อีกคู่หันหลังชนกัน

ญานีนรู้ได้ทันทีว่านั่นคือสิ่งที่จะทำให้อัคนีกลายมาเป็นของหล่อน หญิงสาวใจสั่นขึ้นมา นี่หล่อนจะต้องใช้มันเพื่อแย่งชิงสามีตัวเองจริงๆ นะหรือ

ใช่! อีกใจหนึ่งขานรับ

แต่ไม่ใช่เพื่อรักนะ เพื่อแก้แค้นต่างหากล่ะ!

คิดได้ดังนั้น ญานีนก็สูดลมหายใจยาวๆ อย่างให้กำลังใจตัวเองแล้วหันไปทางยาย ซึ่งมองหล่อนอยู่ก่อนแล้ว

“เอ่อ...ทำไมเมื่อก่อน หนูไม่เห็นของพวกนี้คะ”

“ฉันร่ายมนตร์บังตาไว้” ยายตอบสั้นๆ แล้วทรุดกายลงนั่งขัดสมาธิหน้าตั่ง แล้วสั่งหล่อนโดยไม่หันมามองหน้า

“นั่งลง”

“ค่ะ” ญานีนทำตามคำสั่งนั้นทันที

เจิมจันทร์จุดเทียน ตามมาด้วยธูป จากนั้นจึงหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาลนกับเทียน ญานีนมองเห็นไม่ถนัดเพราะยายยังนั่งหันหลังให้ ครู่ต่อมา ยายจึงหันหน้ากลับมาเผชิญหน้า ญานีนก้มลงมองมือของยายก็พบว่าเป็นแท่งเหล็กสี่เหลี่ยมที่ตอนนี้แดงปลั่งจากการถูกลนไฟ ไอร้อนจากแท่งนั้นแผ่มาถึงหล่อน

“เอามือแกมา”

“คะ?” ญานีนมองเหล็กร้อนๆ นั่นอย่างไม่แน่ใจระคนหวาดหวั่น

“จะ...จะให้ยิหวาทำอะไรนะคะ”

“ฉันต้องการคำยืนยันจากแกว่า แกตกลงจะเป็นทายาทของฉันอย่างไม่มีบิดพลิ้ว”

“ยิหวายืนยันค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงมั่นคง ยอมยื่นมือไปตรงหน้าแต่โดยดี ยายคว้าหมับจับมือหล่อนหงายขึ้น จากนั้นเอาเหล็กร้อนๆ นั้นทาบลงบนผิวหนังอ่อนๆ บริเวณฝ่ามือทันทีเสียงดังฉ่า ญานีนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส

“โอ๊ย!” หญิงสาวพยายามจะดึงมือออก แต่ไม่เป็นผล ยายยังจับมือหล่อนไว้แน่น ตอนนี้กลิ่นเนื้อไหม้ส่งกลิ่นตลบทั่วห้อง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านหนักหน่วง

“มันคือสัญญาระหว่างเรา” เจิมจันทร์เอ่ยเสียงเยือกเย็น

“ทุกครั้งที่แกเห็นแผลเป็นนี้ แกจะได้สำนึกว่าอย่าริคิดทรยศฉันอีก”

“ยิหวาไม่เคยคิดจะทรยศยายเลยนะคะ ฮือๆ” ญานีนเอ่ยเสียงขาดเป็นห้วงๆ น้ำตานองอาบสองแก้ม

เจิมจันทร์ยอมปล่อยมือญานีน วางเหล็กร้อนๆ นั่นลงข้างตัวแล้วหยิบห่อผ้าเล็กๆ ขึ้นมา โยนลงตรงหน้าหลานสาว

“เอาไปโรยแผลซะ จะทำให้เจ็บน้อยลง”

ญานีนหยิบมันขึ้นมา และแกะห่อผ้าออกด้วยมือเดียว ซึ่งก็เป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ในที่สุด หล่อนก็แกะสำเร็จ เมื่อผ้าเปิดออก ก็เห็นผงสีน้ำตาลเข้มวางอยู่ ไม่รอช้า รีบหยิบมันขึ้นมาโรยใส่แผลทันที ซึ่งก็เป็นอย่างยายบอก ความเจ็บปวดของหล่อนน้อยลงและไม่นานก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่รอยแผลเป็นยังคงเด่นชัด

“แกไปพักผ่อนได้ ฉันให้สายพิณทำความสะอาดห้องแกไว้ให้แล้ว คืนนี้ตอนห้าทุ่ม ค่อยมาหาฉันที่นี่อีกครั้ง”

“อ้าว เราไม่ทำตอนนี้เลยเหรอคะ”

ยายไม่ตอบอะไร นอกจากลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องพระ ญานีนรีบลุกตามทันทีด้วยไม่อยากอยู่ในห้องนี้ตามลำพัง

ออกจากห้องพระมาก็เป็นห้องนอนของยาย หล่อนกวาดตามองไปรอบๆ สำรวจห้องนอนของยายอย่างสนอกสนใจอยู่ครู่ ก็เห็นว่ายายก้าวพ้นประตูออกไปก่อนแล้ว

“จะมาทำไมไม่บอกก่อน”

หล่อนได้ยินเสียงยายถามใครบางคนอยู่นอกห้อง น้ำเสียงไม่พอใจ

ญานีนขมวดคิ้ว เดินเข้าไปใกล้ประตูห้องอีกนิดเนื่องจากยายแง้มเอาไว้เล็กน้อย ตามปกติแล้วเรือนเสน่ห์จันทน์ไม่ค่อยต้อนรับแขกข้างนอก ที่แวะเวียนกันมาก็มักมีแต่ลูกหลาน ที่เข้านอกออกในเรือนเสน่ห์จันทน์อยู่แล้ว และยายก็ไม่น่าจะตั้งคำถามแบบนี้กับลูกหลานตัวเอง ญานีนจึงค่อน ข้างแปลกใจพอสมควร พยายามเพ่งมองไปนอกห้องผ่านช่องเล็กๆ ตรงบานประตูที่ยายเปิดแง้มไว้

“ยิหวาขอโทษค่ะคุณยาย ก็ยิหวาเห็นว่าปกติคุณยายไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้วนี่คะ”

ญานีนตาโตขึ้นมาทันที เพราะเจ้าของเสียงนั้นคือวิรัลยา!

เจ้าหล่อนมาทำไมที่นี่ ในเวลานี้ ที่สำคัญ เจ้าหล่อนต้องรู้แล้วสิว่ายายรู้ว่าหล่อนเป็นใคร ธนาคมจะไม่บอกเชียวหรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหล่อนก็คือยาย คนที่ต่อสู้กับเขาในคืนนั้นก็คือยาย

“ผมเป็นคนชวนยิหวามาเองครับคุณยาย”

จู่ๆ ก็มีอีกเสียงแทรกเข้ามา ญานีนถึงกับใจสั่นเมื่อได้ยินเสียงนั้น...เขาก็มาด้วยหรือ?


**********************

ลุ้นและเจ็บปวดไปพร้อมๆกันเลยค่ะฉากนี้ ฮือ

eBook มาลีเริงไฟ โหลดได้ที่เว็บ mebmarket นะคะ หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ ตอนนี้สนพ.มีโปรฯ 2 แบบให้เลือกกันด้วยค่ะ ดังนี้

1.โปรโมชั่น ‘ส่งฟรี’ แบบลงทะเบียน ทุกเรื่อง ทุกเล่ม (ราคาตามปก)
2.โปรโมชั่นสั่งจองร่วมสั่งซื้อ เนื่องจากตอนนี้สนพ.กำลังเปิดจองเรื่องใหม่ ‘ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา’ ของหอมดึก ถ้านักอ่านสนใจสั่งซื้อ ‘มาลีเริงไฟ’ ของรังสีร่วมด้วย ลดเหลือ 319 บาท (จากปก 340 บาท) ส่งฟรีเช่นกันค่ะ

รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ในเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’






ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2562, 10:08:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 เม.ย. 2562, 10:08:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 697





<< บทที่ 16 -100%   บทที่ 17 -65% >>
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 7 เม.ย. 2562, 10:12:07 น.
เพจสนพ.นะคะ
https://www.facebook.com/plaipakkabooks


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account