เรื่องสั้น Yaoi By Ha.Ma.06 - จบ
เรื่องสั้นที่ถูกรวบรวมไว้ในเรื่องนี้มีทั้งหมด 10 เรื่อง จบเพียงตอนเดียว


Tags: เรื่องสั้น วาย Yaoi

ตอน: เหตุเกิดเพราะฉันขึ้นรถผิด (Yaoi)

ชายหนุ่มร่างโปร่งทำงานโรงพยาบาลในพัทยา แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู ทุกๆ วันมักจะต้องพบเจอกับคนไข้นับไม่ถ้วน และวันหนึ่งเป็นวันที่เขาต้องกลับบ้าน เพื่อให้ทันงานวันเกิดของพี่สาวของเขา

ดังนั้นเขาจะต้องนั่งรถกลับเอง แต่ทว่าความไม่ชินกับเส้นทางและการนัดจองที่นั่งเพื่อกลับบ้านด้วยรถตู้จึงเกิดความสับสน คิดว่าได้นั่งรถตู้ที่ตนเองจองแต่กลับเป็นรถเมย์สายอ้อมโลกไปเสียได้

"อะไรนัด นายขึ้นรถผิดงั้นเหรอ นายจะบ้าหรือไง รถตู้กับรถเมย์มันต่างกันขนาดไหนแค่นี้ก็ดูไม่ออก หงุดหงิดจริงจริ๊ง" เสียงบ่นของเพื่อนดังทะลุโทรศัพท์ในมือ จนคนข้างเคียงได้ยิน

"เออๆ ก็นั่งรถผิดมาแล้วนี่หว่า อะไรมากมายนักวะ ทำอย่างกับฉันจะไปฆ่าใคร แกก็บ่นเป็นหมีกินรังแตนไปได้" น้ำเสียงนิ่งๆ เนิบๆ ของนัดตอบกลับเพื่อนที่เรียนจบมาพร้อมกันและได้งานที่เดียวกันด้วยท่าทางปกติไม่ตื่นตกใจแต่อย่างใด จนคนในสายต้องตะโกนออกมาอีกครั้ง

"กินผึ้งโว้ย ไม่ใช่รังแตน"

"อ้าวเหรอ" น้ำเสียงกวนแต่ยิ้มกลับไป โดยที่คนปลายสายไม่สามารถมองเห็นได้

"ถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย...ตื้ด...ตื้ด" การสนทนาถูกตัดพร้อมกับความหงุดหงิดของคนปลายสาย และนั่นทำให้นัดอยากหัวเราะดังๆ แต่ตนต้องกลั้นไว้

ก็จริงอยู่ที่เขามึนขึ้นรถผิดและไม่ได้ผิดธรรมดาเสียด้วย ผิดแบบสุดขั้วเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่เพื่อนของเขาได้นัดจองรถตู้ให้เรียบร้อย ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ถ้าเพื่อนจะโกรธ

จู่ๆ เสียงมือถือก็ดังเตือนว่าแบตกำลังจะหมด ทำให้นัดก้มมองมือถือเครื่องโทรมในมือแล้วถอนหายใจกับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานแต่ละวันโดยไม่มีเวลาแม้แต่ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ถึงมีเวลาเขาก็คงไม่ซื้อแน่เพราะต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่าที่พัก

"ขอโทษครับ" เสียงทุ้มๆ และสุภาพ ดังขัดความคิดของนัด ทำให้นัดต้องหันไปมองคนที่เรียกเขา

"ค...ครับ" นัดพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าแล้วแปลกใจที่เขาเข้ามาทัก

"ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหม"

เป็นคำตอบที่ชวนงงเล็กน้อยสำหรับนัด เพราะที่นั่งบริเวณอื่นก็ว่างแต่ชายคนนี้กลับเลือกมานั่งกับเขา ซึ่งเขาปฏิเสธไม่ได้เสียด้วย อาจเป็นสายตาของชายตรงหน้าที่ตั้งใจจะนั่งให้จงได้

"ค...ครับ ได้ครับ" นัดรีบขยับไปนั่งชิดขอบหน้าต่างทันที เพื่อให้ชายร่างสูงใหญ่เข้ามานั่งแทนที่ และชายคนดังกล่าวก็รีบนั่งลงอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคนข้างๆ อีกเลย

ณ เวลา 20.00 น. กับการนั่งรถเมย์สายอ้อมและจอดทุกจุดที่มีป้ายเพื่อให้คนขึ้น นัดนั่งเหม่อมองไปข้างนอกหน้าต่างแล้วคิดถึงบ้านของตนเอง เขากำลังคำนวณเวลาและรถที่จะต้องนั่งกลับ ว่าดึกขนาดนี้จะทันต่อรถตู้เข้าบ้านหรือไม่ หรือต้องโทรบอกแฟนพี่สาวให้ขับรถออกมารับ

"ขอโทษครับ พี่จะไปลงที่ไหน" เสียงชายหนุ่มร่างเล็กถืออุปกรณ์เก็บเงินในมือได้มองมาที่นัด และจังหวะที่นัดจะตอบ ชายหนุ่มคนที่นั่งข้างเขากลับขัดขึ้น

"อนุสาวรีย์" น้ำเสียงห้วนๆ หนักแน่นของชายหนุ่มทำให้นัดขมวดคิ้ว

"ครับ" กระเป๋ารถเมย์สะดุ้งเล็กน้อยกับน้ำเสียงของชายร่างโตกว่าตัวเขา และรีบออกห่างทันทีที่ขานรับ

นัดรีบหันไปมองหน้าชายแปลกที่มาแย่งเขาตอบ แล้วเหมือนกับว่าชายคนนั้นไม่ได้สนใจสายตาของนัดเลยสักนิด เขาจึงตัดสินใจถามชายคนนั้นไปว่า

"ขอโทษครับ คุณลงอนุสาวรีย์หรือครับ"

"ใช่ครับ" รอยยิ้มเพียงมุมปากหันมาตอบนัด ซึ่งนัดนิ่งไปชั่วขณะว่าเขาเคยเห็นหน้าชายคนนี้ที่ไหนมาก่อนหรือไม่ แต่เพียงอึดใจเดียวนัดก็สามารถดึงตัวเองกลับมาสนทนาต่อได้

"ที่เดียวกันครับ"

"รถผมเสียจึงฝากรถไว้ที่อู่ คุณทำงานที่ไหนครับ ทำไมถึงเดินทางดึกล่ะครับ" ชายหนุ่มยิงคำถามให้นัดตอบ

ถึงนัดจะงวยงงกับชายแปลกหน้าที่ทำท่าทางสนิทสนมกับเขา แต่ต้องตอบเพื่อรักษามารยาทกับเพื่อนร่วมเดินทาง

"ผมเลิกงานค่ำ กว่าจะได้คิวรถผมก็รอจนมืด แถมยังเซ่อซ่านั่งรถผิดอีก" ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายความมึนของตัวเอง แล้วชายที่นั่งข้างก็ตั้งใจฟังเสียจนเขารู้สึกเกร็งไปทั้งตัว

"แล้วคุณทำงานที่ไหนครับ" ชายแปลกหน้ายังคงตั้งคำถามคำเดิมทำให้นัดไม่กล้าตอบจึงนั่งนิ่งและชายหนุ่มพึ่งจะรู้ตัวว่าตนนั้นถามมากจนเกินไป

"คือผมอยากรู้จักคุณ ไม่ต้องกังวลหรือกลัวผมหรอกครับ นี่ครับนามบัตร โทรติดต่อผมได้ทุกเมื่อ" ชายหนุ่มยื่นนามบัตรให้นัด นัดรับมาดูและต้องขมวดคิ้ว

นี่เขาคุยกับนักธุรกิจบริษัทดังเชียวหรือนี่ บริษัทที่นัดเห็นในกระดาษสี่เหลี่ยมนั้นเป็นบริษัทชั้นนำในเรื่องจัดทำเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงจนหูแทบฉีก

"อืม คุณไม่ต้องตกใจไปครับ บริษัทของพ่อผม ไม่ใช่ของผมหรอก"

"ออ...ครับ" นัดถึงเข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงคุ้นใบหน้าคมของคนที่นั่งข้าง ก็เพราะหน้าตาของชายแปลกหน้าคนนี้อยู่ในป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ข้างโรงพยาบาลที่เขาทำงานนั่นเอง ถึงจะถ่อมตัวขนาดไหนมีหรือนัดจะเชื่อ

การนั่งรถเมย์สายอ้อมโลกได้สิ้นสุดลงเมื่อปลายทางมาหยุดที่อนุสาวรีย์และชายหนุ่มทั้งสองที่ได้เป็นผู้โดยสารสองคนสุดท้ายในรถเมย์คันนี้ได้ลงพร้อมกัน ณ จุดต่อรถตู้สายหัวค่ำ

"เราแยกทางกันตรงนี้นะครับ" ชายหนุ่มนักธุรกิจบอกลานัดทันทีที่ลงจากรถ และเขาได้เดินจากไปโดยที่นัดยังไม่ทันจะถามชื่อหรือกล่าวลา

"ช่างเถอะ รีบหารถตู้กลับบ้านดีกว่า" เวลานี้คงไม่ต้องสนใจใคร เขาต้องหาทางกลับบ้านก่อนที่โทรศัพท์จะแบตหมดอย่างถาวร

กว่าจะมาถึงทางเข้าหมู่บ้านก็ปาไปเกือบสองชั่วโมง และคนที่มารับเขาไม่เป็นใครที่ไหน คือพี่เขยของเขานี่เอง

"ขอบคุณครับพี่นิก พี่นกนอนแล้วหรือครับ"

"นอนแล้ว หลับคาโทรทัศน์เลยล่ะ พี่เห็นนกหลับสบายจึงไม่อยากกวน เลยออกมารับเราไง"

"ครับ" นัดยิ้มน้อยๆ กับความใจดีของพี่เขย เขากลับมาบ้านทีไรพี่ทั้งสองต้องลำบากทุกครั้ง

คนทั้งคู่ถึงบ้านก็แยกย้ายเข้าห้องกัน นัดอาบน้ำก่อนเข้านอนส่วนนิกอุ้มนกเข้าไปนอนในห้องและทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ

"รู้สึกเมื่อยไปทั้งตัวเลยนะนี่" นัดนอนมองเพดานในห้องนอนที่คุ้นเคย เสื้อผ้าทุกตัว ผ้าปูที่นอนและทุกอย่างในห้องดูสะอาดเรียบร้อยอย่างกับเขามาอยู่ทุกวัน รวมทั้งชุดนอนที่เขาสวมอยู่ในตอนนี้ พี่สาวของเขาได้จัดเตรียมไว้ให้เขาได้สวมสบายทุกครั้งที่กลับมานอนบ้าน

เพราะความเหนื่อยจากการทำงานและต้องเดินทางไกล เขาจึงหลับง่ายดายจนลืมชายหนุ่มเจ้าของนักธุรกิจใหญ่คนนั้นไปเสียสนิท แต่ความฝันกลับไม่ใช่



"ผมว่าคุณเป็นคนเก่ง คืนนี้ว่างไหม" เสียงทุ้มๆ ของชายหนุ่มหน้าใสแต่รอยยิ้มกลับไม่ใสอย่างกับหน้าตาของเขา

"อะไรนะครับ"

"หูไม่ดีหรือไง ผมถามว่า คืนนี้คุณว่างไหม"

"ไม่ครับ" นัดก้มหน้าตอบขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังง่วนกับการใช้ผ้ายืดพันช่วยพยุงข้อเท้าของคนตรงหน้า

"ทำไมล่ะ ก็เลิกงานสองทุ่มไม่ใช่หรือครับ แล้ววันนี้ผมเจอคุณวันสุดท้ายแล้ว ไม่คิดจะไปทานข้าวกับผมจริงๆ หรือครับ"

"ไม่ครับ ผมอยู่ในช่วงฝึกงานและคุณมาเป็นคนไข้ของผม คืนนี้ผมต้องอ่านหนังสือครับ" ต้องรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นชายตรงหน้าต้องตามตื๊อไม่เลิก

"แต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนะครับ" ใช่เป็นวันสุดท้ายของเขาแล้วที่จะมารักษาที่แผนกนี้

"ขอให้จริงเถอะครับ ครั้งก่อนคุณก็พูดแบบนี้ ครั้งแรกคุณข้อเท้าเจ็บ ครั้งที่สองล้มจนเท้าแพลง ครั้งนี้ตกบันได แล้วคราวหน้าอะไรอีกครับ" นัดพูดไปเก็บอุปกรณ์เข้าที่ไปทุกครั้งที่คนไข้รายนี้เข้าแผนกมาก็มักจะขอให้เขาเป็นคนดูแลทุกครั้งไป และไม่อาจจะปฏิเสธได้

"ครับ ผมเข้าใจและขอบคุณที่ดูแลเป็นอย่างดี"

เสียงเบาๆ ที่แทบจะไม่ได้ยินแต่นัดได้ยินและรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของเขา รวมถึงท่าทางนิ่งเงียบจนน่าเป็นห่วงและเดินออกจากแผนกไป ยิ่งทำให้นัดรู้สึกแย่



"เราฝันไป" นัดลืมตาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ค้างจากฝัน เขาจึงรีบสลัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปโดยการเก็บที่นอนและทำธุระส่วนตัว แล้วรีบลงไปหาพี่สาวและพี่เขยข้างล่าง

"อ้าว ตื่นเช้าจังนะ พี่กับนิกจะออกไปดูหนัง เราไปด้วยกันไหม" นกวางกับข้าวสองสามจานบนโต๊ะและหยิบโทรศัพท์ของนิกออกจากมือทำให้แฟนหนุ่มบ่นงุบงิบเบาๆ

"ไม่ต้องมาบ่นนกเลยนะ กินข้าวใครเขาให้หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นกัน"

"ผมทำงาน ไม่ได้เล่นเสียหน่อย" นิกอารมณ์บูดและรีบดึงจานข้าวตรงหน้าแล้วตักอาหารเข้าปากโดยไม่สนใจเสียงนกที่กำลังจะบ่นต่อ

นัดมองสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันทะเลาะกันอย่างเงียบๆ วันนี้วันเกิดพี่สาวของเขาและคิดว่าทั้งสองคนคงอยากมีเวลาให้กันมากกว่ามีเขามานั่งร่วมวง

"นัด เมื่อวานพี่หลับไปก่อนเลยไม่ได้ไปรับเรา ไม่โกรธพี่ใช่ไหม" สงครามเล็กๆ บนโต๊ะอาหารสงบลงแล้ว นกจึงนึกเรื่องเมื่อวานออก

"ไม่ครับ ผมเกรงใจพวกพี่ๆ มากกว่า"

"เกรงจงเกรงใจอะไรกัน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ" นิกทำหน้าตาดุส่งมาให้แต่หน้าตาแบบนั้นใครๆ ก็รู้ว่าไม่ได้ดุจริง

"เอาเถอะ ว่าแต่เราเป็นยังไงบ้างไม่เห็นเล่าเรื่องที่ทำงานให้พวกพี่ฟังบ้างเลยนะ" ตั้งแต่ไปทำงานที่พัทยานัดก็ไม่เคยเล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟังสักเรื่องจนนกเป็นห่วง กลัวว่าน้องชายจะอยู่ลำบาก

"ที่ทำงานก็ดีครับ" นัดตอบนกไป เพราะเขาไม่มีปัญหาอะไร การทำงานทุกอย่างก็เป็นไปตามระบบและเขาก็รักในงานที่ทำ

"แล้วปีนี้ได้เจอหนุ่มหน้าใสคนนั้นหรือเปล่า คนที่ตามตื๊อเรานะ" จู่ๆ นิกก็พูดเรื่องนี้ขึ้นทำให้นัดอึ้งไปเล็กน้อย

"นั่นสินะ เจอไหม" นกตื่นเต้นที่จะได้ฟังคำตอบจากปากน้องชาย

"ไม่ครับ" นัดตอบแต่ใจกลับคิดว่า ทีแบบนี้ทำเป็นสามัคคีกัน



ผลสุดท้ายก็ทนคำชักชวนของพี่สาวไม่ไหว เขาจึงต้องมาทนนั่งดูหนังรักหวานแหววที่มีพี่สาวกับพี่เขยจับมือเอนกายเข้าหากันแต่เขาไม่มี งานนี้ทรมานเขาโดยเฉพาะ

"ผมไปห้องน้ำก่อนครับ" บอกคนที่กำลังนั่งอินกับฉากรักสุดฟิน โดยที่ไม่มีเสียงตอบกลับ

เขาตัดสินใจเดินออกจากโรงหนังแต่ไม่ได้ไปห้องน้ำอย่างที่บอกกับพี่สาว เดินหาของกินเพื่อฆ่าเวลาแล้วเจอสตอเบอร์รี่น่าทาน

"ผมเอาสองครับ" ชูสองนิ้วบอกแม่ค้า เจอของโปรดตรงหน้าก็ต้องควบ

"ผมขอสองเหมือนกัน" น้ำเสียงคุ้นหูและท่าทางคุ้นตา เมื่อนัดเห็นก็ต้องตาค้างว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

"ค...คุณ"

"ครับ ผมตามคุณมา" คำบอกที่ไม่ได้ปฏิเสธของคนที่พึ่งเจอกันเมื่อวานแต่มายืนอยู่ตรงหน้าของนัด จึงตั้งคำถามที่น่าแปลกใจว่าตามเจอได้ยังไง

"มีคนเคยปฏิเสธผมอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้เขากลับจำผมไม่ได้ คุณจำคำพูดนี้ได้ไหมที่ผมเคยบอกว่า เรื่องบังเอิญไม่มีจริง มีแต่ต้องการให้เกิดเท่านั้น"

เมื่อนัดได้ยินสิ่งที่ชายตรงหน้าบอกกับเขา เขาจึงหวนนึกถึงความฝันที่เป็นความจริงในอดีตที่ผ่านมา ใช่เขาไม่สามารถจดจำใครได้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจ แต่ความทรงจำที่มีอยู่ในช่วงนั้นหายไปกับอุบัติเหตุเข้าไปช่วยคนเจ็บบนท้องถนนเมื่อปีก่อน มันน่าแปลกที่จำแต่คำพูดประโยคเดิมที่เขาพูดซ้ำไว้ มันอาจจะจริงว่าความบังเอิญไม่มีอยู่จริงแต่ตั้งใจมาหาเขาโดยตรง

"ว่าไงครับ กินไหม" คำถามชวนงงแต่มือทั้งสองยื่นถ้วยใส่สตอเบอร์รี่สดมาให้หนึ่งถ้วย

"ผมก็มี มีตั้งสองไม่เอาของคุณหรอก" นัดปฏิเสธอย่างรวดเร็วแล้วหันหลังเดินหนี

"เดี๋ยวก่อนสิครับ" ชายคนนั้นก็ยังร้องเรียกอยู่ แต่นัดไม่สนใจรีบก้าวขาหายไปกับผู้คน

จะบ้าหรือไง จู่ๆ ก็มาตีสนิททั้งคำพูดหรือท่าทางต่างจากเมื่อวานที่เจอกันอย่างกับคนละคน แล้วทำไมเราต้องหนีด้วย ไม่เข้าใจ นัดเดินมานั่งหลบในมุมน้ำตกกลางห้าง

ใจหนึ่งก็คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด หรือว่าเขาจะไปคุยกับชายคนนั้นตรงๆ ดี ว่าเขาจำไม่ได้และขอโทษชายหนุ่มคนนั้นไปหรือว่าเขาจะหนีกลับพัทยาเย็นนี้ดี แล้วทำไมต้องหนี เพราะกลัวหรือ

"ตื้ด ตื้ด" เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าดังขึ้น นัดจึงรู้ว่าพี่สาวเขาโทรตามเพราะเขาหายตัวมานาน

เมื่อโดนตามตัวโดยไม่รับโทรศัพท์ เขาจึงรีบกินจนหมดแล้วกลับไปหาพี่สาวกับพี่เขยอย่างรวดเร็วแต่คงไม่ทันเข้าโรงหนังเพราะหนังจบไปเรียบร้อยแล้ว มีแต่คนหน้าสวยทำหน้ายักษ์ยืนรอและมองมาทางเขา

"มาสักที หายไปไหนมา พวกพี่ดูจนจบแล้วนะ" นกบ่นกับการหายตัวไปโดยไม่บอกเธอสักคำว่าจะไปไหน

"ครับ พี่นก พรุ่งนี้ผมกลับแต่เช้านะ"

"อ้าว ทำไมรีบกลับไม่อยากอยู่กับพี่แล้วหรือไง" นกเปลี่ยนจากหน้ายักษ์เป็นน่าเศร้าจนนัดต้องรีบบอก "ไม่ใช่ครับ ผมมีงานด่วนต้องกลับไปทำ"

"แต่ว่า..." นกกำลังจะห้ามแต่ถูกขัดโดยนิกที่จับแขนเธอไม่ให้พูดต่อ

"พรุ่งนี้พี่ไปส่งที่รถตู้นะ" นิกยิ้มน้อยๆ แล้วเสนอตัวจะไปส่งให้ อาจเป็นเพราะเห็นใบหน้าของนัดซีดลงแปลกๆ และเก็บอาการกังวลไม่มิด เขาไม่อาจทนดูน้องชายไม่สบายใจได้จึงรีบช่วย



วันรุ่งขึ้นนิกไปส่งตามที่บอก นัดจึงนั่งรถตรงไปพัทยาอย่างสบายใจ แต่เขายังรู้สึกแปลกๆ กับเรื่องที่พบเจอมันเป็นความรู้สึกปั่นป่วนและไม่มีสมาธิ เขาจึงโทรไปขอแลกเวรกับเพื่อนเพื่อรับโอทีในช่วงเย็น ถึงจะมีคนไข้ไม่มากแต่ถ้าได้ทำงานเยอะๆ อาจจะช่วยได้

"นายไม่สบายหรือเปล่า ไม่น่ารีบทำงานเลยนะ น่าจะรีบกลับไปพักผ่อน" เพื่อนสาวร่วมงานในเย็นนี้กลับสงสัยสีหน้าของนัดที่ดูไม่จะใช่นัดคนเดิมที่เธอรู้จัก

"ขอบคุณครับ ผมถามอะไรหน่อยได้ไหม" นัดนึกอยากหาคนปรึกษาจึงตัดสินใจถามออกมา

"ได้สิ มีอะไร" หญิงสาวยิ้มอย่างจริงใจจนนัดรู้สึกดี

"ผมลืมคนบางคนไปแต่กลับมาเจอเขา แล้วเขาก็รู้สึกไม่ดีที่ผมลืมเขา ผมจะทำยังไงดี" นัดไม่ได้ปิดบังคนตรงหน้าเพราะตอนนี้เขาอยากขจัดความไม่สบายใจนั่นออกไปเสีย คำตอบที่ได้รับเป็นคำง่ายๆ ที่เขาทำได้

"ก็ขอโทษเขาซะสิ มานั่งกังวลทำไม ฉันไปทำงานแล้วนะ"

นัดฟังคำตอบแล้วมาคิดว่าถ้ามันง่ายแบบนั้นก็คงดี ตอนนั้นทำไมไม่คิดบอกไปกันนะ จะบอกตอนนี้คงไม่ทันเสียแล้ว เขาคนนั้นคงไม่กลับมาอีก แถมชื่อก็ยังไม่ได้ถามและทำไมเขาถึงนึกชื่อไม่ออกกัน

นัดขมวดคิ้วมุ่นเครียดกับสิ่งที่ค้างคาใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาคงไม่วิ่งหนีมา เขาคงบอกว่าจำเขาคนนั้นไม่ได้แม้แต่ชื่อก็ยังนึกไม่ออกแต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้เพราะเขาหนีออกมาแล้ว

"ขอโทษครับ ผมมาตามที่หมอนัด"

แผ่นกระดาษนัดคนไข้ถูกส่งมาจากห้องของหมอเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ให้ทำการรักษาตามที่ระบุไว้ แต่สิ่งที่ทำให้นัดนิ่งและค้าง คือ คนไข้ที่ถือกระดาษยื่นมาหาเขา

"คุ...คุณอีกแล้ว"

"ครับ...ผมมาตามนัด"








HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มี.ค. 2562, 09:15:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มี.ค. 2562, 09:15:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 553





<< ความรักดั่งจันทร์สีเลือด   ณ โรงหนังเป็นนัดของสองเรา (Yaoi) >>
สิรินดา 31 ต.ค. 2562, 05:30:19 น.
เย้ๆๆ


HM06 25 มี.ค. 2563, 07:08:04 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account