ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่6 -60%
ประกาศๆ ทีมงานเตรียมส่งฝนเมษาฯ เข้าโรงพิมพ์สัปดาห์หน้าแล้วนะคะ ใครยังไม่ได้สั่งจองอย่าลืมน้าาาาา ปิดจอง 5 พฤษภาคมนะคะ^^
**************
“คนพวกนี้เป็นใคร”
ธรรศถามเมษาเสียงเข้มเมื่อกลับมาถึงโรงแรม รถที่หล่อนสั่งจองไว้มาจอดรอเรียบร้อยแล้วพร้อมคนขับและชายฉกรรจ์ใบหน้าไร้อารมณ์สี่นาย
“ฉันต้องใช้คนค่ะ” เมษาบอกเขาก่อนลงจากรถ
“คุณหมายความว่ายังไง”
“ฉันต้องการบอดี้การ์ด เรากำลังจะเข้าป่านะคะ ต้องได้ปะทะกับพวกที่อยู่ในนั้นแน่นอน หรือแม้แต่คนของเสี่ยสุชาติเองลำพังแค่เราสองคนคงยังไม่พอ อีกอย่างฉันอยากให้มีคนมาดูแลแม่ที่โรงแรมสักคน คอยขับรถให้ คุ้มกันเวลาแม่จะไปไหน...หรือคุณไม่ห่วงยายหนู” เมษาย้อนถาม
ธรรศเข้าใจดีว่าการขัดคอกับนายสุชาติย่อมนำภัยมาให้ไม่น้อย แต่คนพวกนี้เป็นใครเขาเองก็ยังไม่รู้!
“คนพวกนี้คือบอดี้การ์ดที่พ่อฉันส่งมาให้ค่ะ เป็นคนไทย จะได้กลม กลืนกับคนที่นี่หน่อย” เมษาคลี่ยิ้ม นัยน์ตาสีเขียวพราวระยับ
“อะไรนะ! ไหนคุณว่าไม่อยากให้คุณพ่อคุณ...”
“คุณพ่อไม่สงสัยหรอกค่ะ ฉันอ้างว่าขอมาเป็นไม้กันหมา พวกหน้าหม้อที่มาตามจีบแม่”
“เมษา!” เขาร้องเรียกชื่อหล่อนเสียงดังลั่น ดวงตาคมภายใต้แว่นหนาเตอะเต้นระยับ กรุ่นโกรธทำท่าจะตามไปบีบคอเล็กๆ นั่น แต่ชายทั้งสี่ขยับตัวเข้ามาขวางพร้อมกัน ส่วนคุณหนูแห่งคูเปอร์สไตน์ผู้เย่อหยิ่งก็เยื้องย่างหายเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมอย่างสบายอารมณ์
เหมือนกันแม้กระทั่งการคิด! ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงนะ!
*************
รุ่งเช้าที่ลานจอดรถโรงแรมด้านที่ปิดปรับปรุงและค่อนข้างลับตาคนสาวน้อยท่าทางทะมัดทะแมงนางหนึ่งกำลังกำกับให้ชายร่างกายกำยำในชุดรัดกุมสามคนขนกระเป๋าและข้าวของขึ้นหลังรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อสีน้ำเงินเข้มคันหนึ่ง
ธรรศเดินตามหาหล่อนอยู่นานกว่าจะพบ เมษาสวมชุดเดินป่ารัดกุม เสื้อแขนยาวมีฮูดข้างหลัง เนื้อผ้ากันน้ำกันแดด เพียงมองด้วยตาเปล่าก็พอเดาได้ว่าราคาของมันคงไม่น้อย รองเท้าเดินป่าที่หล่อนสวมใส่แบบและสีเข้ากับชุดอย่างกลมกลืน หญิงสาวรวบผมตึงมัดเป็นหางม้า เปิดใบหน้ารูปหัวใจเล็กๆ เครื่องหน้าคมสวยจัด ดวงตาสีเขียววาววับเมื่อหันมาเห็นเขา
“อ้าวมาแล้วหรือคะ พี่ศักดิ์ พี่ขนุน พี่ดาบ นี่คุณธรรศค่ะ ผู้นำทางของพวกเราในทริปนี้ คุณธรรศคงพบพี่เชษฐ์แล้ว ฉันให้เขาอยู่ดูแลคุณแม่กับน้องหนูที่นี่”
แม่เจ้าโว้ย เจ้ากี้เจ้าการอะไรขนาดนี้วะ ใบหน้าคมสันของธรรศเข้มขึ้น ดวงตาที่มักจะสุขุมลุ่มลึกเต้นระยับด้วยความหงุดหงิด
ชายทั้งสามคนที่เมษาเพิ่งแนะนำให้รู้จักนั้น ทำตัวราวกับหุ่นยนต์นักฆ่าที่ยายคุณหนูจอมบงการจะไขลานไปทางไหนก็ได้ ส่วนเขาก็กลับกลายเป็นเพียงพรานนำทางเท่านั้น
“เสี่ยสุชาติเพิ่งส่งคนเข้าไปอีกกลุ่มใหญ่ ดูเหมือนพวกนั้นจะมั่นใจว่าต้องไปตามน้องเมย์ที่ไหน ถ้าเรารีบไปน่าจะไปทันในไม่เกินสองวัน”
“สองวันเชียวหรือ” เมษาอุทานออกมาเมื่อธรรศบอก
“ใช่สิ ป่าดงดิบนะ ไม่ใช่สวนสาธารณะแถวบ้านคุณที่อเมริกา” คนสวมแว่นอดปากไว้ไม่ได้
นี่เจ้าหล่อนจะให้ทุกอย่างได้ดั่งใจไปเสียหมดหรือยังไงนะ!
“ค่ะ” หล่อนพูดเพียงเท่านั้นก็เม้มปากแน่นแล้วพยักหน้าให้นายคนที่ชื่อศักดิ์สตาร์ตรถ พาทั้งหมดออกไปทางประตูหลังโรงแรมมุ่งหน้าออกไปนอกตัวเมืองสู่ขุนเขาทะมึนผาตาดอันเป็นจุดหมายปลายทาง
*************
ที่บ้านวรกาญจน์ เสี่ยสุชาติกำลังหัวเสียอย่างหนัก ไม่เพียงแต่เรื่องไอ้บ้าคนหนึ่งบุกเข้ามาชิงตัวหลานสาวของเมียเขาไปชนิดเหยียบจมูกกันชัดๆ แต่ตอนนี้เมียที่เคยทำท่าร่อแร่ราวกับจะตายวันตายพรุ่งกลับดูมีเรี่ยวมีแรงลุกขึ้นมาไล่เบี้ยกับเขาอีกจนได้
อีแก่หนังเหนียวสงสัยเรื่องโฉนดเหมืองร้างนั่น
“คุณรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป ไอ้เด็กหนุ่มคนนั้นมันเป็นพวกเดียวกับเสือใหญ่ ระวังมันจะเอาลูกตะกั่วเจาะกะโหลกกลวงๆ ของคุณเข้า จำตอนที่มันมาปล้นบ้านเราไม่ได้หรือ ถ้าไม่ใช่เพราะผัวยายแม็กกี้มาช่วยไว้ทัน เราสองคนคงตายไปแล้ว”
“เออ มันเก่งนักไอ้ไมลส์นั่น แล้วทำไมมันไม่ฆ่าไอ้เสือใหญ่เสียล่ะ ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่จนหลานชายมันมาฉุดลูกสาวตัวเองไปปู้ยี่ปู้ยำได้ยังไง”
“นี่คุณแช่งหลานฉันเหรอ คิดหรือว่าใครๆ จะมักมากตัณหากลับอย่างคุณน่ะ หา!”
“เหอะ ผู้ชายร้อยทั้งร้อย หนูเมย์ทั้งสวยทั้งหุ่นดีอย่างนั้นเป็นใครจะอดใจไหว”
“ไอ้ชาติ บัดสีบัดเถลิงนัก แกคิดสกปรกกับหลานฉันใช่ไหม ไอ้ผัวเนรคุณ ไอ้คนเลว!” เสียงนางมาลินีร้องลั่นก่อนจะอ่อนแรงร้องหาหวันสาวใช้ ขณะที่นายสุชาติเบะปากเดินออกจากบ้านไปอย่างไม่แยแส
*************
ทั้งห้าชีวิตเดินตามกันเป็นแถวไปตามทางเดินในป่าที่รกเรื้อมากขึ้นทุกที ขนาดของต้นไม้นานาพันธุ์สูงใหญ่ขึ้นเมื่อเคลื่อนที่เข้าไปในป่าลึกจนแสงอาทิตย์แทบแตะไม่ถึงพื้นดิน ธรรศเดินนำอยู่ด้านหน้า ตามมาด้วยเมษาและบอดี้การ์ดทั้งสาม
เมื่อเวลาเที่ยง ธรรศเตรียมจะหยุดพักรับประทานอาหารกลางวันที่ลานหินใต้ต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง แต่เมษาคัดค้าน ยืนกรานจะเดินไปกินไปเพื่อไม่ให้เสียเวลา ชายหนุ่มระอาใจแต่ไม่อยากเสียเวลาโต้เถียงกับหล่อนจึงเดินนำทางไปเรื่อยๆ จนเวลาบ่ายคล้อย เขาสังเกตเห็นว่าระยะห่างระหว่างเขากับคนที่เคยตามติดแทบชิดแผ่นหลังนั้นทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ
อีกไม่ไกลก็จะถึงที่พักที่เขาหมายตาไว้แล้ว ธรรศเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นไปอีก โดยไม่ใส่ใจต่อร่างผอมเพรียวที่กัดฟันสาวเท้าสวบๆ ตามมาเหงื่อชุ่มโชกไปทั้งร่าง บอดี้การ์ดทั้งสามเริ่มกังวลกับคุณหนู แต่เห็นหล่อนก้มหน้าก้มตากัดฟันเร่งฝีเท้าตามคนนำทางไปก็ไม่ได้ปริปากแต่อย่างใด
“กระท่อมเก่าของพวกเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า คงพอพักได้คืนนี้”
ธรรศหันมาบอก แล้วเดินนำเข้าไปด้านใน
กระท่อมที่ว่านั้นมีลักษณะยกพื้นขึ้นมาง่ายๆ ปลูกด้วยไม้ไผ่และไม้อื่นๆ ปะปนกันอย่างง่ายๆ แบ่งออกเป็นระเบียงกว้างและห้องเล็กด้านในที่ไม่มีหน้าต่างและประตู ข้างๆ มีตุ่มใส่น้ำเต็มปิดฝาไว้ น่าจะพอใช้ชำระล้างร่างกายหรือหุงต้มได้
นายศักดิ์สั่งให้นายดาบและนายขนุนเดินสำรวจรอบๆ กระท่อมแล้วลงมือปัดกวาดห้องด้านในและระเบียงด้านนอกอย่างรวดเร็ว เมษานั่งลงที่ระเบียง ถอดรองเท้าเดินป่าออก วางไว้ข้างๆ ถอดถุงเท้าออกช้าๆ อดสูดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บไม่ได้
หล่อนยังไม่ชินกับรองเท้าเดินป่าคู่ใหม่คู่นี้และสภาพทางเดินที่เต็มไปด้วยหินแหลมคมเกะกะ กิ่งไม้และขวากหนามทำให้เท้าที่ห่อหุ้มไว้ในรอง เท้าทั้งวันเสียดสีจนเกิดแผลถลอก ผิวหนังลอกเลือดซิบ ปวดระบมไปหมด หล่อนค้นหายาแก้ปวดมากินตามด้วยน้ำครึ่งกระบอกและยาทารอบๆ แผลที่เท้า ก่อนจะพันไว้ด้วยผ้าสะอาด
ธรรศมองการปฐมพยาบาลตัวเองเงียบๆ ของอีกฝ่ายอย่างค่อนข้างพอใจ เขาเปิดดูน้ำในตุ่มเห็นว่าสะอาดพอใช้ก็เดินไปบอกศักดิ์ให้จัดการหุงหาอาหารได้ตามสบาย ก่อนจะแยกออกไปดูลาดเลารอบๆ บริเวณที่พักค้างแรมในคืนนั้น
“คุณหนูครับ ห้องด้านในสะอาดดีแล้ว ผมปูผ้ายางรองไว้ให้คุณหนูจะให้กางเต็นท์อีกชั้นไหมครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉีดสเปรย์กันแมลงก็คงได้”
“ครับ น้ำในตุ่มนั่น เห็นคุณธรรศบอกว่าใช้ได้ คุณหนูจะต้มก่อนใช้ไหมครับ”
“พออาบหรือ” เมษาแอบมีความหวัง หล่อนรู้สึกเหนอะนะไปทั้งตัว หากได้น้ำอุ่นๆ อาบหรือแม้แต่ลูบไล้เนื้อตัวคงหายเหนื่อยไปเยอะทีเดียว
“พอครับ น้ำเต็มตุ่ม ผมจะตั้งหม้อให้ คงได้ทีละหม้อ”
“ไม่เป็นไร ต้มมาสักหน่อยก็พอจ้ะ ฉันจะผสมน้ำเย็นใช้เอง ขอบใจมาก”
“ครับ” ศักดิ์ถอยออกไปอย่างนอบน้อม
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
**************
“คนพวกนี้เป็นใคร”
ธรรศถามเมษาเสียงเข้มเมื่อกลับมาถึงโรงแรม รถที่หล่อนสั่งจองไว้มาจอดรอเรียบร้อยแล้วพร้อมคนขับและชายฉกรรจ์ใบหน้าไร้อารมณ์สี่นาย
“ฉันต้องใช้คนค่ะ” เมษาบอกเขาก่อนลงจากรถ
“คุณหมายความว่ายังไง”
“ฉันต้องการบอดี้การ์ด เรากำลังจะเข้าป่านะคะ ต้องได้ปะทะกับพวกที่อยู่ในนั้นแน่นอน หรือแม้แต่คนของเสี่ยสุชาติเองลำพังแค่เราสองคนคงยังไม่พอ อีกอย่างฉันอยากให้มีคนมาดูแลแม่ที่โรงแรมสักคน คอยขับรถให้ คุ้มกันเวลาแม่จะไปไหน...หรือคุณไม่ห่วงยายหนู” เมษาย้อนถาม
ธรรศเข้าใจดีว่าการขัดคอกับนายสุชาติย่อมนำภัยมาให้ไม่น้อย แต่คนพวกนี้เป็นใครเขาเองก็ยังไม่รู้!
“คนพวกนี้คือบอดี้การ์ดที่พ่อฉันส่งมาให้ค่ะ เป็นคนไทย จะได้กลม กลืนกับคนที่นี่หน่อย” เมษาคลี่ยิ้ม นัยน์ตาสีเขียวพราวระยับ
“อะไรนะ! ไหนคุณว่าไม่อยากให้คุณพ่อคุณ...”
“คุณพ่อไม่สงสัยหรอกค่ะ ฉันอ้างว่าขอมาเป็นไม้กันหมา พวกหน้าหม้อที่มาตามจีบแม่”
“เมษา!” เขาร้องเรียกชื่อหล่อนเสียงดังลั่น ดวงตาคมภายใต้แว่นหนาเตอะเต้นระยับ กรุ่นโกรธทำท่าจะตามไปบีบคอเล็กๆ นั่น แต่ชายทั้งสี่ขยับตัวเข้ามาขวางพร้อมกัน ส่วนคุณหนูแห่งคูเปอร์สไตน์ผู้เย่อหยิ่งก็เยื้องย่างหายเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมอย่างสบายอารมณ์
เหมือนกันแม้กระทั่งการคิด! ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงนะ!
*************
รุ่งเช้าที่ลานจอดรถโรงแรมด้านที่ปิดปรับปรุงและค่อนข้างลับตาคนสาวน้อยท่าทางทะมัดทะแมงนางหนึ่งกำลังกำกับให้ชายร่างกายกำยำในชุดรัดกุมสามคนขนกระเป๋าและข้าวของขึ้นหลังรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อสีน้ำเงินเข้มคันหนึ่ง
ธรรศเดินตามหาหล่อนอยู่นานกว่าจะพบ เมษาสวมชุดเดินป่ารัดกุม เสื้อแขนยาวมีฮูดข้างหลัง เนื้อผ้ากันน้ำกันแดด เพียงมองด้วยตาเปล่าก็พอเดาได้ว่าราคาของมันคงไม่น้อย รองเท้าเดินป่าที่หล่อนสวมใส่แบบและสีเข้ากับชุดอย่างกลมกลืน หญิงสาวรวบผมตึงมัดเป็นหางม้า เปิดใบหน้ารูปหัวใจเล็กๆ เครื่องหน้าคมสวยจัด ดวงตาสีเขียววาววับเมื่อหันมาเห็นเขา
“อ้าวมาแล้วหรือคะ พี่ศักดิ์ พี่ขนุน พี่ดาบ นี่คุณธรรศค่ะ ผู้นำทางของพวกเราในทริปนี้ คุณธรรศคงพบพี่เชษฐ์แล้ว ฉันให้เขาอยู่ดูแลคุณแม่กับน้องหนูที่นี่”
แม่เจ้าโว้ย เจ้ากี้เจ้าการอะไรขนาดนี้วะ ใบหน้าคมสันของธรรศเข้มขึ้น ดวงตาที่มักจะสุขุมลุ่มลึกเต้นระยับด้วยความหงุดหงิด
ชายทั้งสามคนที่เมษาเพิ่งแนะนำให้รู้จักนั้น ทำตัวราวกับหุ่นยนต์นักฆ่าที่ยายคุณหนูจอมบงการจะไขลานไปทางไหนก็ได้ ส่วนเขาก็กลับกลายเป็นเพียงพรานนำทางเท่านั้น
“เสี่ยสุชาติเพิ่งส่งคนเข้าไปอีกกลุ่มใหญ่ ดูเหมือนพวกนั้นจะมั่นใจว่าต้องไปตามน้องเมย์ที่ไหน ถ้าเรารีบไปน่าจะไปทันในไม่เกินสองวัน”
“สองวันเชียวหรือ” เมษาอุทานออกมาเมื่อธรรศบอก
“ใช่สิ ป่าดงดิบนะ ไม่ใช่สวนสาธารณะแถวบ้านคุณที่อเมริกา” คนสวมแว่นอดปากไว้ไม่ได้
นี่เจ้าหล่อนจะให้ทุกอย่างได้ดั่งใจไปเสียหมดหรือยังไงนะ!
“ค่ะ” หล่อนพูดเพียงเท่านั้นก็เม้มปากแน่นแล้วพยักหน้าให้นายคนที่ชื่อศักดิ์สตาร์ตรถ พาทั้งหมดออกไปทางประตูหลังโรงแรมมุ่งหน้าออกไปนอกตัวเมืองสู่ขุนเขาทะมึนผาตาดอันเป็นจุดหมายปลายทาง
*************
ที่บ้านวรกาญจน์ เสี่ยสุชาติกำลังหัวเสียอย่างหนัก ไม่เพียงแต่เรื่องไอ้บ้าคนหนึ่งบุกเข้ามาชิงตัวหลานสาวของเมียเขาไปชนิดเหยียบจมูกกันชัดๆ แต่ตอนนี้เมียที่เคยทำท่าร่อแร่ราวกับจะตายวันตายพรุ่งกลับดูมีเรี่ยวมีแรงลุกขึ้นมาไล่เบี้ยกับเขาอีกจนได้
อีแก่หนังเหนียวสงสัยเรื่องโฉนดเหมืองร้างนั่น
“คุณรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป ไอ้เด็กหนุ่มคนนั้นมันเป็นพวกเดียวกับเสือใหญ่ ระวังมันจะเอาลูกตะกั่วเจาะกะโหลกกลวงๆ ของคุณเข้า จำตอนที่มันมาปล้นบ้านเราไม่ได้หรือ ถ้าไม่ใช่เพราะผัวยายแม็กกี้มาช่วยไว้ทัน เราสองคนคงตายไปแล้ว”
“เออ มันเก่งนักไอ้ไมลส์นั่น แล้วทำไมมันไม่ฆ่าไอ้เสือใหญ่เสียล่ะ ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่จนหลานชายมันมาฉุดลูกสาวตัวเองไปปู้ยี่ปู้ยำได้ยังไง”
“นี่คุณแช่งหลานฉันเหรอ คิดหรือว่าใครๆ จะมักมากตัณหากลับอย่างคุณน่ะ หา!”
“เหอะ ผู้ชายร้อยทั้งร้อย หนูเมย์ทั้งสวยทั้งหุ่นดีอย่างนั้นเป็นใครจะอดใจไหว”
“ไอ้ชาติ บัดสีบัดเถลิงนัก แกคิดสกปรกกับหลานฉันใช่ไหม ไอ้ผัวเนรคุณ ไอ้คนเลว!” เสียงนางมาลินีร้องลั่นก่อนจะอ่อนแรงร้องหาหวันสาวใช้ ขณะที่นายสุชาติเบะปากเดินออกจากบ้านไปอย่างไม่แยแส
*************
ทั้งห้าชีวิตเดินตามกันเป็นแถวไปตามทางเดินในป่าที่รกเรื้อมากขึ้นทุกที ขนาดของต้นไม้นานาพันธุ์สูงใหญ่ขึ้นเมื่อเคลื่อนที่เข้าไปในป่าลึกจนแสงอาทิตย์แทบแตะไม่ถึงพื้นดิน ธรรศเดินนำอยู่ด้านหน้า ตามมาด้วยเมษาและบอดี้การ์ดทั้งสาม
เมื่อเวลาเที่ยง ธรรศเตรียมจะหยุดพักรับประทานอาหารกลางวันที่ลานหินใต้ต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง แต่เมษาคัดค้าน ยืนกรานจะเดินไปกินไปเพื่อไม่ให้เสียเวลา ชายหนุ่มระอาใจแต่ไม่อยากเสียเวลาโต้เถียงกับหล่อนจึงเดินนำทางไปเรื่อยๆ จนเวลาบ่ายคล้อย เขาสังเกตเห็นว่าระยะห่างระหว่างเขากับคนที่เคยตามติดแทบชิดแผ่นหลังนั้นทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ
อีกไม่ไกลก็จะถึงที่พักที่เขาหมายตาไว้แล้ว ธรรศเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นไปอีก โดยไม่ใส่ใจต่อร่างผอมเพรียวที่กัดฟันสาวเท้าสวบๆ ตามมาเหงื่อชุ่มโชกไปทั้งร่าง บอดี้การ์ดทั้งสามเริ่มกังวลกับคุณหนู แต่เห็นหล่อนก้มหน้าก้มตากัดฟันเร่งฝีเท้าตามคนนำทางไปก็ไม่ได้ปริปากแต่อย่างใด
“กระท่อมเก่าของพวกเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า คงพอพักได้คืนนี้”
ธรรศหันมาบอก แล้วเดินนำเข้าไปด้านใน
กระท่อมที่ว่านั้นมีลักษณะยกพื้นขึ้นมาง่ายๆ ปลูกด้วยไม้ไผ่และไม้อื่นๆ ปะปนกันอย่างง่ายๆ แบ่งออกเป็นระเบียงกว้างและห้องเล็กด้านในที่ไม่มีหน้าต่างและประตู ข้างๆ มีตุ่มใส่น้ำเต็มปิดฝาไว้ น่าจะพอใช้ชำระล้างร่างกายหรือหุงต้มได้
นายศักดิ์สั่งให้นายดาบและนายขนุนเดินสำรวจรอบๆ กระท่อมแล้วลงมือปัดกวาดห้องด้านในและระเบียงด้านนอกอย่างรวดเร็ว เมษานั่งลงที่ระเบียง ถอดรองเท้าเดินป่าออก วางไว้ข้างๆ ถอดถุงเท้าออกช้าๆ อดสูดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บไม่ได้
หล่อนยังไม่ชินกับรองเท้าเดินป่าคู่ใหม่คู่นี้และสภาพทางเดินที่เต็มไปด้วยหินแหลมคมเกะกะ กิ่งไม้และขวากหนามทำให้เท้าที่ห่อหุ้มไว้ในรอง เท้าทั้งวันเสียดสีจนเกิดแผลถลอก ผิวหนังลอกเลือดซิบ ปวดระบมไปหมด หล่อนค้นหายาแก้ปวดมากินตามด้วยน้ำครึ่งกระบอกและยาทารอบๆ แผลที่เท้า ก่อนจะพันไว้ด้วยผ้าสะอาด
ธรรศมองการปฐมพยาบาลตัวเองเงียบๆ ของอีกฝ่ายอย่างค่อนข้างพอใจ เขาเปิดดูน้ำในตุ่มเห็นว่าสะอาดพอใช้ก็เดินไปบอกศักดิ์ให้จัดการหุงหาอาหารได้ตามสบาย ก่อนจะแยกออกไปดูลาดเลารอบๆ บริเวณที่พักค้างแรมในคืนนั้น
“คุณหนูครับ ห้องด้านในสะอาดดีแล้ว ผมปูผ้ายางรองไว้ให้คุณหนูจะให้กางเต็นท์อีกชั้นไหมครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉีดสเปรย์กันแมลงก็คงได้”
“ครับ น้ำในตุ่มนั่น เห็นคุณธรรศบอกว่าใช้ได้ คุณหนูจะต้มก่อนใช้ไหมครับ”
“พออาบหรือ” เมษาแอบมีความหวัง หล่อนรู้สึกเหนอะนะไปทั้งตัว หากได้น้ำอุ่นๆ อาบหรือแม้แต่ลูบไล้เนื้อตัวคงหายเหนื่อยไปเยอะทีเดียว
“พอครับ น้ำเต็มตุ่ม ผมจะตั้งหม้อให้ คงได้ทีละหม้อ”
“ไม่เป็นไร ต้มมาสักหน่อยก็พอจ้ะ ฉันจะผสมน้ำเย็นใช้เอง ขอบใจมาก”
“ครับ” ศักดิ์ถอยออกไปอย่างนอบน้อม
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2562, 09:19:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2562, 09:19:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 595
<< บทที่5 -100% | บทที่6 -100% >> |