ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่12 -100%
มาต่ออออออ พี่เสือกำลังรุก555+
************
มือที่ประคองท้ายทอยนวดคลึงต้นคอเล็ก อีกมือลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียน ดวงตายังตรึงหล่อนไว้มั่นราวกับจะประเมินใจตน
“ยะ อย่าบังคับฉันได้ไหม” หล่อนอ้อนวอนออกไปในที่สุด
“ไม่อยากให้จูบ ทำไมทำตาหวานเชื่อมยั่วให้เข้าหาแบบนั่นเล่า”
“มะ ไม่ได้ทำนะ” หล่อนร้องลั่น
กล่าวหากันชัดๆ ตาของฉันมันก็หวานแบบนี้มาตั้งนานแล้วละย่ะ ไม่เฉพาะกับนายหรอก...ใช่ไหม?
“หน้าแดง ตาเชื่อม ตัวสั่น ปากสั่นแบบนี้ผู้ชายเขาเรียกสั่นสู้ รู้ไว้ซะด้วย”
“ไม่ใช่...อะ...อื้อ” เขาคงรำคาญเสียงแหลมๆ ของหล่อนกระมังจึงอุดปากหล่อนเสียด้วยปากร้อนๆ ของตนเอง กลืนริมฝีปากล่าง ลิ้นดุนดันให้หล่อนเผยอปากรับปลายลิ้นร้อนจัดที่รุกไล่ปลายลิ้นเล็กๆ ของหล่อน
พฤษภาทุบอกกว้างครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดแรงไปเอง
“อย่าดื้อสิ กับฉันก็เหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ เธออาจจะชอบมากกว่าก็เป็นได้”
“มะ เหมือนใคร พูดมาดีๆ นะ” หล่อนร้องแหวเข้าให้
“จะบอกว่าไม่เคยหรือไง หืม” เขาถอนใบหน้าออกมาอีกครั้ง จ้องมองดวงตาคู่นั้น หล่อนกำลังโกรธมาก สีตาเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลแก่ประกายทองวาววับชวนมอง
“เรื่องของฉัน”
หล่อนเน้นสามคำนั้นชัดๆ พยัคฆ์กัดฟันกรอด กระชับร่างสมส่วนแนบแน่นแทบจะเป็นเนื้อเดียว พฤษภารู้สึกร้อนวาบในช่องท้องเมื่อสัมผัสความแข็งแกร่งของเขา มือหยาบตะปบเข้าที่สะโพกงอนงามหนั่นแน่น
“อยากก็อย่าฝืนเลยน่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” เขาเหยียดยิ้มร้ายกาจ ปากสีสดคลี่ยิ้มเห็นเขี้ยวขาว
“อี๊! ธรรมชาติเถื่อนๆ ของคนเลวอย่างนายน่ะสิ นายคิดจะขืนใจฉันใช่ไหม”
“ข้อหาร้ายแรง แค่จูบๆ ลูบๆ คลำๆ หาว่าข่มขืน นี่มันยังห่างไกลนักคุณหนู อย่าใจร้อนสิ” เขายกร่างที่ทั้งดิ้นทั้งเตะวางลงบนแผ่นหินราบเรียบ รวบข้อมือบางตรึงไว้เหนือศีรษะของหล่อน กดทับขาเรียวงามที่คิดจะทำร้ายเขาไว้แน่น เสร็จแล้วก็บรรจงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวหลวมของตนบนร่างหล่อนออกทีละเม็ดๆ ช้าๆ ราวกับจงใจแกล้งหล่อน
ปลดกระดุมได้เม็ดหนึ่งเขาก็ตบรางวัลตัวเองด้วยจูบหนักหน่วง ฝากไรฟันคมปลาบให้หล่อนหวีดสะดุ้งเล่น กว่าจะปอกเปลือกเชลยคนสำคัญได้หมดสิ้น ร่างกายอวบอิ่มท่อนบนของหล่อนก็แดงเรื่อราวกุ้งต้มเนื้อหวานชวนชิม
“คนเลว” หล่อนร้องไห้กระซิก
“ก็บอกแล้วว่าอย่าดื้อ ไม่เข้าใจหรือไงว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ”
“ธรรมชาติของคนเห็นแก่ตัวน่ะสิ ฉันไม่ต้องการ”
“รออีกเดี๋ยวจะร้องขอนะสิไม่ว่า”
“ไม่มีทาง นายมันคนหยาบคาย ถ้านายข่มขืนฉัน ฉันจะไม่ขออยู่อีกต่อไป นายล้มเลิกความคิดที่จะใช้ฉันหลอกล่อใครๆ ได้เลย”
“โอ๊ย แตะนิดแตะหน่อยหาว่าข่มขืน คนนะไม่ใช่ฤาษี”
“แตะนิดแตะหน่อยที่ไหนกันเล่า” หล่อนร้องใส่ใบหน้าคมที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ จนหูเขาแทบแตก “นายลวนลามหยาบคาย ทั้งจูบ ทั้งกัด ทั้งบีบเคล้น นายมันน่ารังเกียจทำอะไรไม่เคยให้เกียรติผู้หญิงเลย” พูดไปน้ำตาเม็ดโตก็ไหลพรากๆ พยัคฆ์พ่นลมหายใจพรวด
“จะให้กราบก่อนหรือไงถึงจะเอาได้ นอนทับอยู่ทั้งแท่งแบบนี้ไม่รู้บ้างหรือไงว่ามันไม่ไหว มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ผู้ชายอยู่ใกล้เนื้อใกล้นมแบบนี้ใครมันจะอดใจไหว” เขาแกล้งทิ้งน้ำหนักทับลงมาจนหล่อนแทบบี้แบน
พฤษภาหน้าเสีย นึกภาพเกินเลยไปกว่านั้นแล้วใจสั่นระรัว หล่อนต้องตายแน่ๆ
“ก็ไปอยู่ห่างๆ ฉันสิ”
“เธอเป็นเชลยของฉัน จะให้ฉันไปไหนล่ะ” เขาประท้วง ยิ่งเห็นใบหน้างามงอเง้าจนคำพูดยิ่งนึกสนุก
“จะไปไหนก็ไปสิ” คราวนี้หล่อนสะอื้นตัวสั่น พยัคฆ์ทอดถอนใจ จับตัวหล่อนพลิกกลับขึ้นด้านบนให้นอนราบบนตัวเขา หยาดน้ำตาหยดลงบนอกเขาราวหยดเทียนร้อนๆ
“ร้องไห้ยังกับโดนแล้วยังไงยังงั้น ใครเขาไปทำอะไรตัว”
“ไม่ต้องพูดนะ หุบปากไปเลย ฉันเกลียดนาย”
“เข้าท่า ดูละครมากไปใช่ไหมเธอ ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องสัน ดานดิบชั่ววูบของผู้ชาย ซึ่งเธอก็ทำให้มันมอดไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเลิกร้องไห้ได้แล้ว” พยัคฆ์กดหัวของหล่อนลงกับอกกว้าง ลูบไล้เรือนผมหยักศกนุ่มสลวย
พฤษภาทอดถอนใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังไม่ไว้ใจ หล่อนครุ่นคิดหาวิธีหลุดออกไปจากอ้อมแขนกว้าง
“ติดกระดุมเสื้อซะ” เขาสั่งเสียงปร่า ยิ่งหล่อนดิ้นหยุกหยิก ยอดอกอิ่มนุ่มหยุ่นยิ่งเสียดสีกับอกเขาจนไฟที่หลอกหล่อนว่ามอดไหม้ไปแล้วชักจะลุกพึ่บขึ้นมาอีก
พฤษภาลนลานรีบติดกระดุมมือไม้สั่น เรียบร้อยแล้วหล่อนก็มองคนที่เอาแต่นอนปิดเปลือกตานิ่ง แต่ยังไม่ยอมปล่อยหล่อน
“ฉันไปได้หรือยัง” หล่อนถาม
เขาเปิดเปลือกตามองหล่อน ผมยาวรุ่ยร่าย ล้อมกรอบใบหน้าชวนเก็บไปฝัน ดวงตาอ้อนวอน พยัคฆ์เห็นแล้วต้องบอกตัวเองอีกสักกี่ครั้งว่า...ไม่ได้!
“เธอจะไปไหน”
“ไปดูกระเช้าดักปลา” หล่อนตอบเสียงเบา หลบสายตาเขา หันไปทางแอ่งน้ำนั่น พยัคฆ์เลยพยักหน้าหงึกๆ อนุญาตราวกับไม่ใส่ใจ ปล่อยให้พฤษภาลุกขึ้นจากตัวเขา
แต่แค่พยุงตัวลุกขึ้นได้หน่อย พฤษภาก็ขาสั่นทำท่าจะล้มลงไปนอนทับเขาเสียเองอีกรอบ
มันเป็นเรื่องธรรมชาติสินะ บ้าจริง หล่อนนึกโมโหตัวเอง ไม่เคยคิดว่าใจเจ้ากรรมจะเตลิดไปกับสัมผัสของชายใดได้ขนาดนี้!
***************
พยัคฆ์ยังคงนอนเล่นอยู่บนโขดหินแถวนั้น ขณะที่พฤษภาพอตั้งหลักได้ก็เกาะกิ่งไม้ไต่ก้อนหินไปจนถึงแอ่งน้ำใหญ่ที่หล่อนดักจับปลาไว้ ค่อยๆ ดึงเชือกที่ผูกไว้กับต้นไม้ขึ้นมาช้าๆ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ก้นกระเช้ากับอาการสั่นราวกับมีอะไรดิ้นพล่านอยู่ในนั้น ทำให้หัวใจหล่อนเต้นรัว ดวงตางามเบิกกว้างด้วยความดีใจ
“ปลา ปลาเต็มเลย” หล่อนร้องอุทาน หันหาพยัคฆ์ทันทีพลางร้องเรียก
“นายเสือ เราได้ปลาเต็มกระเช้าเลย มาช่วยเอาขึ้นหน่อย”
“ล้อเล่นหรือเปล่า” เขาผุดลุกขึ้น
“ไม่ได้ล้อเล่น มาเร็วๆ เข้า มันดิ้นใหญ่แล้ว” หล่อนร้องสั่งเหยงๆ ออกแรงดึงกระเช้าไว้มั่น พยัคฆ์กระโจนไปหาตามคำสั่งอย่างไม่รู้ตัว
“ค่อยๆ นะเดี๋ยวหลุดมือ ปลาหนีไปหมดแน่”
“รู้แล้วน่า ปล่อยมือสิ”
“อืม เป็นยังไง หนักใช่ไหม ปลาดิ้นใหญ่เลยนะ” หล่อนร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น จับจ้องดูกระเช้าที่เขาค่อยๆ ดึงขึ้นมา พยัคฆ์อมยิ้ม รู้สึกอุ่นวาบในอกจนอยากรั้งร่างบางเข้ามากอด
“ปลาเยอะเลย” เขายกกระเช้าขึ้นมาชูให้หล่อนชมฝีมือตัวเอง พฤษภาเริ่มนับปลาพลวงตัวโตๆ ที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในนั้น
“ห้า หก เจ็ด โอ้โหได้ตั้งเจ็ดตัวแน่ะ ตัวโตๆ ทั้งนั้น ดีจังเลยเนอะ” หล่อนพยักพเยิดกับเขา เผยยิ้มร่าเริงจนตาหยี หมดสิ้นเรื่องที่หมางใจกันไปเมื่อครู่ที่ผ่านมา
“ทำบาปขึ้นนะคุณหนู”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็...” เขาอยากจะยั่วหล่อนอีกหน่อย แต่คิดว่าคงพอแล้วสำหรับวันนี้ เลยตอบไปด้วยเสียงนุ่มๆ ว่า “หมายความว่าตกปลาเก่งไง”
“อืม ขอบคุณค่ะ” หล่อนชักเขินที่โดนเขาชมตรงๆ พยัคฆ์ถือกระเช้าใส่ปลาเดินนำหล่อนกลับที่พักเพื่อจัดการหุงหาอาหารมื้อใหญ่ของวัน
**********************
ยังคงสั่งซื้อฝนเมษาฯ ได้ที่สนพ.โดยตรง และร้านออนไลน์นะคะ มีบางร้านเริ่มหมดแล้ว แต่ทางหน้าร้านยังมีเรื่อยๆค่ะ ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ นะจ๊ะ
ส่วน eBook โหลดได้ที่เว็บ mebmarket
ปล.ช่วงนี้สนพ.มีโปรฯ ซื้อ 3 เล่มส่งฟรี ems ใครเล็งนิยายปลายปากกาไว้หลายเรื่อง ใช้โปรฯ นี้กันได้เลยนะคะ รายละเอียดดูที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
************
มือที่ประคองท้ายทอยนวดคลึงต้นคอเล็ก อีกมือลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียน ดวงตายังตรึงหล่อนไว้มั่นราวกับจะประเมินใจตน
“ยะ อย่าบังคับฉันได้ไหม” หล่อนอ้อนวอนออกไปในที่สุด
“ไม่อยากให้จูบ ทำไมทำตาหวานเชื่อมยั่วให้เข้าหาแบบนั่นเล่า”
“มะ ไม่ได้ทำนะ” หล่อนร้องลั่น
กล่าวหากันชัดๆ ตาของฉันมันก็หวานแบบนี้มาตั้งนานแล้วละย่ะ ไม่เฉพาะกับนายหรอก...ใช่ไหม?
“หน้าแดง ตาเชื่อม ตัวสั่น ปากสั่นแบบนี้ผู้ชายเขาเรียกสั่นสู้ รู้ไว้ซะด้วย”
“ไม่ใช่...อะ...อื้อ” เขาคงรำคาญเสียงแหลมๆ ของหล่อนกระมังจึงอุดปากหล่อนเสียด้วยปากร้อนๆ ของตนเอง กลืนริมฝีปากล่าง ลิ้นดุนดันให้หล่อนเผยอปากรับปลายลิ้นร้อนจัดที่รุกไล่ปลายลิ้นเล็กๆ ของหล่อน
พฤษภาทุบอกกว้างครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดแรงไปเอง
“อย่าดื้อสิ กับฉันก็เหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ เธออาจจะชอบมากกว่าก็เป็นได้”
“มะ เหมือนใคร พูดมาดีๆ นะ” หล่อนร้องแหวเข้าให้
“จะบอกว่าไม่เคยหรือไง หืม” เขาถอนใบหน้าออกมาอีกครั้ง จ้องมองดวงตาคู่นั้น หล่อนกำลังโกรธมาก สีตาเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลแก่ประกายทองวาววับชวนมอง
“เรื่องของฉัน”
หล่อนเน้นสามคำนั้นชัดๆ พยัคฆ์กัดฟันกรอด กระชับร่างสมส่วนแนบแน่นแทบจะเป็นเนื้อเดียว พฤษภารู้สึกร้อนวาบในช่องท้องเมื่อสัมผัสความแข็งแกร่งของเขา มือหยาบตะปบเข้าที่สะโพกงอนงามหนั่นแน่น
“อยากก็อย่าฝืนเลยน่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” เขาเหยียดยิ้มร้ายกาจ ปากสีสดคลี่ยิ้มเห็นเขี้ยวขาว
“อี๊! ธรรมชาติเถื่อนๆ ของคนเลวอย่างนายน่ะสิ นายคิดจะขืนใจฉันใช่ไหม”
“ข้อหาร้ายแรง แค่จูบๆ ลูบๆ คลำๆ หาว่าข่มขืน นี่มันยังห่างไกลนักคุณหนู อย่าใจร้อนสิ” เขายกร่างที่ทั้งดิ้นทั้งเตะวางลงบนแผ่นหินราบเรียบ รวบข้อมือบางตรึงไว้เหนือศีรษะของหล่อน กดทับขาเรียวงามที่คิดจะทำร้ายเขาไว้แน่น เสร็จแล้วก็บรรจงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวหลวมของตนบนร่างหล่อนออกทีละเม็ดๆ ช้าๆ ราวกับจงใจแกล้งหล่อน
ปลดกระดุมได้เม็ดหนึ่งเขาก็ตบรางวัลตัวเองด้วยจูบหนักหน่วง ฝากไรฟันคมปลาบให้หล่อนหวีดสะดุ้งเล่น กว่าจะปอกเปลือกเชลยคนสำคัญได้หมดสิ้น ร่างกายอวบอิ่มท่อนบนของหล่อนก็แดงเรื่อราวกุ้งต้มเนื้อหวานชวนชิม
“คนเลว” หล่อนร้องไห้กระซิก
“ก็บอกแล้วว่าอย่าดื้อ ไม่เข้าใจหรือไงว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ”
“ธรรมชาติของคนเห็นแก่ตัวน่ะสิ ฉันไม่ต้องการ”
“รออีกเดี๋ยวจะร้องขอนะสิไม่ว่า”
“ไม่มีทาง นายมันคนหยาบคาย ถ้านายข่มขืนฉัน ฉันจะไม่ขออยู่อีกต่อไป นายล้มเลิกความคิดที่จะใช้ฉันหลอกล่อใครๆ ได้เลย”
“โอ๊ย แตะนิดแตะหน่อยหาว่าข่มขืน คนนะไม่ใช่ฤาษี”
“แตะนิดแตะหน่อยที่ไหนกันเล่า” หล่อนร้องใส่ใบหน้าคมที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ จนหูเขาแทบแตก “นายลวนลามหยาบคาย ทั้งจูบ ทั้งกัด ทั้งบีบเคล้น นายมันน่ารังเกียจทำอะไรไม่เคยให้เกียรติผู้หญิงเลย” พูดไปน้ำตาเม็ดโตก็ไหลพรากๆ พยัคฆ์พ่นลมหายใจพรวด
“จะให้กราบก่อนหรือไงถึงจะเอาได้ นอนทับอยู่ทั้งแท่งแบบนี้ไม่รู้บ้างหรือไงว่ามันไม่ไหว มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ผู้ชายอยู่ใกล้เนื้อใกล้นมแบบนี้ใครมันจะอดใจไหว” เขาแกล้งทิ้งน้ำหนักทับลงมาจนหล่อนแทบบี้แบน
พฤษภาหน้าเสีย นึกภาพเกินเลยไปกว่านั้นแล้วใจสั่นระรัว หล่อนต้องตายแน่ๆ
“ก็ไปอยู่ห่างๆ ฉันสิ”
“เธอเป็นเชลยของฉัน จะให้ฉันไปไหนล่ะ” เขาประท้วง ยิ่งเห็นใบหน้างามงอเง้าจนคำพูดยิ่งนึกสนุก
“จะไปไหนก็ไปสิ” คราวนี้หล่อนสะอื้นตัวสั่น พยัคฆ์ทอดถอนใจ จับตัวหล่อนพลิกกลับขึ้นด้านบนให้นอนราบบนตัวเขา หยาดน้ำตาหยดลงบนอกเขาราวหยดเทียนร้อนๆ
“ร้องไห้ยังกับโดนแล้วยังไงยังงั้น ใครเขาไปทำอะไรตัว”
“ไม่ต้องพูดนะ หุบปากไปเลย ฉันเกลียดนาย”
“เข้าท่า ดูละครมากไปใช่ไหมเธอ ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องสัน ดานดิบชั่ววูบของผู้ชาย ซึ่งเธอก็ทำให้มันมอดไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเลิกร้องไห้ได้แล้ว” พยัคฆ์กดหัวของหล่อนลงกับอกกว้าง ลูบไล้เรือนผมหยักศกนุ่มสลวย
พฤษภาทอดถอนใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังไม่ไว้ใจ หล่อนครุ่นคิดหาวิธีหลุดออกไปจากอ้อมแขนกว้าง
“ติดกระดุมเสื้อซะ” เขาสั่งเสียงปร่า ยิ่งหล่อนดิ้นหยุกหยิก ยอดอกอิ่มนุ่มหยุ่นยิ่งเสียดสีกับอกเขาจนไฟที่หลอกหล่อนว่ามอดไหม้ไปแล้วชักจะลุกพึ่บขึ้นมาอีก
พฤษภาลนลานรีบติดกระดุมมือไม้สั่น เรียบร้อยแล้วหล่อนก็มองคนที่เอาแต่นอนปิดเปลือกตานิ่ง แต่ยังไม่ยอมปล่อยหล่อน
“ฉันไปได้หรือยัง” หล่อนถาม
เขาเปิดเปลือกตามองหล่อน ผมยาวรุ่ยร่าย ล้อมกรอบใบหน้าชวนเก็บไปฝัน ดวงตาอ้อนวอน พยัคฆ์เห็นแล้วต้องบอกตัวเองอีกสักกี่ครั้งว่า...ไม่ได้!
“เธอจะไปไหน”
“ไปดูกระเช้าดักปลา” หล่อนตอบเสียงเบา หลบสายตาเขา หันไปทางแอ่งน้ำนั่น พยัคฆ์เลยพยักหน้าหงึกๆ อนุญาตราวกับไม่ใส่ใจ ปล่อยให้พฤษภาลุกขึ้นจากตัวเขา
แต่แค่พยุงตัวลุกขึ้นได้หน่อย พฤษภาก็ขาสั่นทำท่าจะล้มลงไปนอนทับเขาเสียเองอีกรอบ
มันเป็นเรื่องธรรมชาติสินะ บ้าจริง หล่อนนึกโมโหตัวเอง ไม่เคยคิดว่าใจเจ้ากรรมจะเตลิดไปกับสัมผัสของชายใดได้ขนาดนี้!
***************
พยัคฆ์ยังคงนอนเล่นอยู่บนโขดหินแถวนั้น ขณะที่พฤษภาพอตั้งหลักได้ก็เกาะกิ่งไม้ไต่ก้อนหินไปจนถึงแอ่งน้ำใหญ่ที่หล่อนดักจับปลาไว้ ค่อยๆ ดึงเชือกที่ผูกไว้กับต้นไม้ขึ้นมาช้าๆ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ก้นกระเช้ากับอาการสั่นราวกับมีอะไรดิ้นพล่านอยู่ในนั้น ทำให้หัวใจหล่อนเต้นรัว ดวงตางามเบิกกว้างด้วยความดีใจ
“ปลา ปลาเต็มเลย” หล่อนร้องอุทาน หันหาพยัคฆ์ทันทีพลางร้องเรียก
“นายเสือ เราได้ปลาเต็มกระเช้าเลย มาช่วยเอาขึ้นหน่อย”
“ล้อเล่นหรือเปล่า” เขาผุดลุกขึ้น
“ไม่ได้ล้อเล่น มาเร็วๆ เข้า มันดิ้นใหญ่แล้ว” หล่อนร้องสั่งเหยงๆ ออกแรงดึงกระเช้าไว้มั่น พยัคฆ์กระโจนไปหาตามคำสั่งอย่างไม่รู้ตัว
“ค่อยๆ นะเดี๋ยวหลุดมือ ปลาหนีไปหมดแน่”
“รู้แล้วน่า ปล่อยมือสิ”
“อืม เป็นยังไง หนักใช่ไหม ปลาดิ้นใหญ่เลยนะ” หล่อนร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น จับจ้องดูกระเช้าที่เขาค่อยๆ ดึงขึ้นมา พยัคฆ์อมยิ้ม รู้สึกอุ่นวาบในอกจนอยากรั้งร่างบางเข้ามากอด
“ปลาเยอะเลย” เขายกกระเช้าขึ้นมาชูให้หล่อนชมฝีมือตัวเอง พฤษภาเริ่มนับปลาพลวงตัวโตๆ ที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในนั้น
“ห้า หก เจ็ด โอ้โหได้ตั้งเจ็ดตัวแน่ะ ตัวโตๆ ทั้งนั้น ดีจังเลยเนอะ” หล่อนพยักพเยิดกับเขา เผยยิ้มร่าเริงจนตาหยี หมดสิ้นเรื่องที่หมางใจกันไปเมื่อครู่ที่ผ่านมา
“ทำบาปขึ้นนะคุณหนู”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็...” เขาอยากจะยั่วหล่อนอีกหน่อย แต่คิดว่าคงพอแล้วสำหรับวันนี้ เลยตอบไปด้วยเสียงนุ่มๆ ว่า “หมายความว่าตกปลาเก่งไง”
“อืม ขอบคุณค่ะ” หล่อนชักเขินที่โดนเขาชมตรงๆ พยัคฆ์ถือกระเช้าใส่ปลาเดินนำหล่อนกลับที่พักเพื่อจัดการหุงหาอาหารมื้อใหญ่ของวัน
**********************
ยังคงสั่งซื้อฝนเมษาฯ ได้ที่สนพ.โดยตรง และร้านออนไลน์นะคะ มีบางร้านเริ่มหมดแล้ว แต่ทางหน้าร้านยังมีเรื่อยๆค่ะ ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ นะจ๊ะ
ส่วน eBook โหลดได้ที่เว็บ mebmarket
ปล.ช่วงนี้สนพ.มีโปรฯ ซื้อ 3 เล่มส่งฟรี ems ใครเล็งนิยายปลายปากกาไว้หลายเรื่อง ใช้โปรฯ นี้กันได้เลยนะคะ รายละเอียดดูที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 พ.ค. 2562, 10:20:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2562, 10:20:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 645
<< บทที่12 -50% | บทสัมภาษณ์นักเขียน 'หอมดึก' >> |