ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่17 -30% + แจ้งข่าวแจกนิยาย
อะแฮ่มๆ ก่อนต่อนิยายวันนี้มาแจ้งก่อน ฮี่ๆ
ตอนนี้ที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ มีกิจกรรมเล่มเกมแจกหนังสือด้วยนะคะ เนื่องจากยอด like เพจทะลุ 1,200 และสนพ.ครบรอบ 1 ปีแล้วด้วยค่ะ^^
ไปร่วมสนุกกันเยอะๆ น้าาาาาา
*****************
ป่าบริเวณที่ทั้งสี่ชีวิตเดินทางมาถึงนั้น เป็นท้องทุ่งกว้าง รายล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ในท้องทุ่งนั้นมีหญ้ายืนต้นสูงเท่าเอวและไม้พุ่มขนาดแค่อกขึ้นอยู่ประปราย ดูช่างอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก
เสือใหญ่ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดและยอบตัวนั่งลง เขา ชี้ไปที่ไม้พุ่มยอดงามเขียวชอุ่มที่ไหวระริกอยู่ห่างออกไปราวยี่สิบเมตร เจ้าสัตว์สี่ขาสามตัว ผิวสีน้ำตาลอ่อน แต้มด้วยจุดสีขาวๆ ระบายช่วงข้างลำตัวกำลังแทะเล็มหญ้าและยอดไม้อย่างเพลิดเพลิน
“กวางนี่” เมษาอุทานเสียงแผ่ว มือบางชักปืนพกขึ้นมาประทับเล็งอย่างว่องไว เสือใหญ่เอื้อมมือมากดปลายปืนของหล่อนลง
“อย่านังหนู ยิงไปก็เป็นภาระเปล่าๆ”
“ทำไมล่ะคะ เนื้อกวางคงเป็นเสบียงได้เป็นอาทิตย์”
“การล่าสัตว์มันไม่ใช่สักแต่จะยิงให้ตายนะคุณหนู ไหนจะต้องมาชำแหละเนื้อ หนัง กระดูก เลือด พวกนี้มันล่อไอ้ลายดีนักแล แถวนี้ไม่มีแหล่งน้ำเสียด้วย”
“ค่ะ ฉันขอโทษ” เมษาเอ่ยแล้วค่อยๆ เก็บปืน
ทั้งสี่ซุ่มดูกวางสามแม่ลูกอยู่ครู่หนึ่งก็ออกเดินจากไป เมษาเหลียวหลังมองกวางทั้งสามที่เพิ่งรับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอม แม่กวางพาลูกๆ ทั้งสองเหยาะย่างหนีเข้าป่าลึก หล่อนรู้สึกสะท้อนในอก ความคิดถึงมารดาและพี่สาวตีตื้นขึ้นมาจนรู้สึกจุกในอก
หล่อนเกือบทำลายชีวิตของพวกมันไปแล้วสินะ
“ส่งกระเป๋ามาสิ” เสียงทุ้มดังอยู่ด้านหลัง เมษาหลุดจากภวังค์หันไปตอบเขาเบาๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่หนัก”
“เก่งจริงๆ ทีเมื่อคืนไม่เห็นเก่งอย่างนี้” เสียงนั้นลอยลมมาเบาๆ เมษาขบฟันแน่น หันไปมองว่าสองเสือเฒ่าจะได้ยินหรือเปล่า แต่เห็นทั้งสองสาวเท้านำไปไกลก็โล่งอก
“คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ”
“แล้วใครบอกล่ะว่าเป็น ผมก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความอดทนจำกัดเท่านั้น”
“ใครใช้ให้มาอดทนกับฉันล่ะ”
“ถ้าเมื่อคืนผมไม่อดใจไว้ คงรู้นะว่าวันนี้คงไม่ได้มาอวดดีแบบนี้ รู้จักประมาณกำลังตนเองเสียบ้างสิคุณหนู”
“ฉะ...ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำกับฉันแน่ จำไว้เลยนะ”
“งั้นรึ ไม่นึกว่าจะติดใจขนาดนี้”
“เอ๊ะ!” หล่อนหยุดปลายเท้า เงื้อง่าทำท่าจะฟาดใบหน้าคมสักหมัด แต่เสียงเสือใหญ่เป่าปากดังมาจากด้านหน้าเร่งให้ตามติดไป หล่อนสะบัดหน้าพรืดจนหางม้าปลิวสะบัด เร่งฝีเท้าหนีเสียงหัวเราะหึๆ ไปอย่างรวดเร็ว
เมษาสาวเท้ามาทันเสือใหญ่กับเสือพูนอย่างรวดเร็ว เสือใหญ่หยุดยืน กวาดสายตามองไปรอบๆ รอจนธรรศเดินตามมาทันจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
“สังเกตอะไรไหม”
“อากาศเย็นลงมาก ต่างจากทุ่งหญ้านั่นลิบลับ” ธรรศตั้งข้อสังเกต “ใช่ เพราะตอนนี้พวกเราอยู่ในดงสางเสือแล้ว ดูต้นไม้อายุหลายร้อยปีพวกนี้สิ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนกล้าเข้ามาตัดเพราะเกรงกลัวเจ้าถิ่น”
ธรรศขยับเข้ามาประชิดร่างบางที่กำลังมองต้นไม้ใหญ่สูงสล้างด้วยความทึ่ง เสือพูนกระชับปืนยาวในมือมั่น
“รัศมีการล่าของเสือแต่ละตัวไม่น้อยกว่ายี่สิบกิโลเมตร ยิ่งเป็นเสือตัวผู้ยิ่งมีอาณาเขตกว้างไกล เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้เราอยู่ในเขตของเสือตัวใดตัวหนึ่งอย่างแน่นอน”
“เสือกินคนหรือคะ”
“ใช่ เดิมมันไม่กินคนหรอก นอกจากว่ามันบาดเจ็บหรือหิวโซมากจริงๆ แต่ในสางเสือมีเสือตัวหนึ่งที่อยู่นอกเหนือกฎธรรมชาตินั่น มันนิยมกินเนื้อคนมากกว่าเนื้อสัตว์ใดๆ ระวังตัวกันไว้หน่อยก็ดี เราต้องไปต่ออีกหน่อย ใช้ที่พักเชิงผาไม่ห่างแหล่งน้ำมากจะได้สะดวก”
พูดจบเสือใหญ่ก็เดินนำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เวลาบ่ายคล้อยมากเท่าใดแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะแสงตะวันที่สอด ส่องลงมาน้อยนิดนัก นั่นยิ่งเพิ่มความเย็นยะเยือกของป่าอันอึมครึมทำให้ผิวกายรู้สึกหนาวสะท้าน ความระแวดระวังเพิ่มสูงขึ้นในทุกย่างก้าว
เสือใหญ่เดินนำไปจนถึงที่พักที่หมายใจไว้ ตำแหน่งนั้นเป็นเชิงผาที่มีผาหินเป็นกำแพงกันภัยถึงสองด้าน ข้างๆ เป็นลาดเขาสูงป้องกันสัตว์ร้ายเข้าโจมตีได้ดี มีซอกหินให้หลับนอนหลบลมและกำบังกายได้ และไม่ห่างจากแหล่งน้ำมากนัก
เสือพูนเริ่มก่อกองไฟ ส่วนเสือใหญ่ลาดตระเวนดูรอบๆ อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ธรรศอาสาออกไปตักน้ำมาให้ ส่วนเมษาเดินลัดเลาะหาฟืนและกิ่งไม้มาให้เสือพูน ไม่นานไฟกองใหญ่ก็ลุกโชติช่วง ไล่ความเหน็บหนาวที่ทวีคูณขึ้นทุกที ลดบรรยากาศอึมครึมของป่าดิบลงได้บางส่วน
เมษาเปิดกระเป๋าหยิบอาหารกระป๋องที่ติดมาด้วยสองกระป๋องออกมาวางรวมกับเสบียงของเสือพูน หล่อนยังเหลือเอนเนอจีบาร์อยู่อีกสองสามแท่ง พื้นที่ที่เหลือในกระเป๋าเป็นเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่ง ของใช้จำเป็นส่วนตัว ยา ปืน และกระสุนอันหนักอึ้ง
เสือพูนมองอาหารกระป๋องที่เจ้าหล่อนวางไว้ข้างๆ กระปุกน้ำพริกแห้งรสเผ็ดจัด ข้าวสาร และถุงใส่เนื้อแห้งถุงใหญ่ เสือพูนใช้น้ำที่ธรรศหิ้วมาให้หุงข้าวหม้อใบเก่าบู้บี้ โดยมีดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองอยู่ใกล้ๆ ด้วยความสนใจ
“หุงข้าวแบบเช็ดน้ำแบบชาวบ้าน ทำเป็นไหม”
“ไม่เป็นค่ะ”
“ทำไม่ยากหรอก ล้างข้าวสักน้ำสองน้ำ ใส่น้ำเยอะหน่อยแล้วยกตั้งไฟ คอยคนให้ทั่วเดี๋ยวมันจับเป็นก้อน พอเดือดข้าวสุกทั่วแล้ว ยกลงเช็ดน้ำให้แห้งไม่งั้นข้าวจะแฉะบูดง่าย แล้วตั้งไฟดงต่อให้สุกทั่วดี”
“ดงคืออะไรคะ”
“ก็คือตั้งไฟให้ข้าวแห้งร่วน น่ากินไงล่ะ พอสุกหอมฉุย เป็นใช้ได้ ข้าวสวยร้อนๆ กินกับน้ำพริก เนื้อย่าง อร่อยนักแล”
“แล้วน้ำข้าวล่ะคะ”
“กินได้ อร่อย ใส่เกลือนิดหน่อย วันนี้จะให้ชิม พี่ใหญ่ก็ชอบกิน”
“ขอบคุณค่ะ” หล่อนกุลีกุจอขอทำนั่นทำนี่จนเสือพูนเพลิดเพลินไป เสือใหญ่มองลูกน้องแล้วก็ทอดถอนใจ
ไอ้พูนมันคงอยากมีลูกมีหลาน มาเป็นเสือให้เขาล่าแบบนี้ความสุขแบบครอบครัวหาไม่ได้เลย อย่างนี้ข้าจะยอมให้ไอ้เสือต้องมีชะตากรรมเดียวกันไม่ได้
**********
eBook โหลดได้ที่เว็บ mebmarket
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ตอนนี้ที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ มีกิจกรรมเล่มเกมแจกหนังสือด้วยนะคะ เนื่องจากยอด like เพจทะลุ 1,200 และสนพ.ครบรอบ 1 ปีแล้วด้วยค่ะ^^
ไปร่วมสนุกกันเยอะๆ น้าาาาาา
*****************
ป่าบริเวณที่ทั้งสี่ชีวิตเดินทางมาถึงนั้น เป็นท้องทุ่งกว้าง รายล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ในท้องทุ่งนั้นมีหญ้ายืนต้นสูงเท่าเอวและไม้พุ่มขนาดแค่อกขึ้นอยู่ประปราย ดูช่างอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก
เสือใหญ่ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดและยอบตัวนั่งลง เขา ชี้ไปที่ไม้พุ่มยอดงามเขียวชอุ่มที่ไหวระริกอยู่ห่างออกไปราวยี่สิบเมตร เจ้าสัตว์สี่ขาสามตัว ผิวสีน้ำตาลอ่อน แต้มด้วยจุดสีขาวๆ ระบายช่วงข้างลำตัวกำลังแทะเล็มหญ้าและยอดไม้อย่างเพลิดเพลิน
“กวางนี่” เมษาอุทานเสียงแผ่ว มือบางชักปืนพกขึ้นมาประทับเล็งอย่างว่องไว เสือใหญ่เอื้อมมือมากดปลายปืนของหล่อนลง
“อย่านังหนู ยิงไปก็เป็นภาระเปล่าๆ”
“ทำไมล่ะคะ เนื้อกวางคงเป็นเสบียงได้เป็นอาทิตย์”
“การล่าสัตว์มันไม่ใช่สักแต่จะยิงให้ตายนะคุณหนู ไหนจะต้องมาชำแหละเนื้อ หนัง กระดูก เลือด พวกนี้มันล่อไอ้ลายดีนักแล แถวนี้ไม่มีแหล่งน้ำเสียด้วย”
“ค่ะ ฉันขอโทษ” เมษาเอ่ยแล้วค่อยๆ เก็บปืน
ทั้งสี่ซุ่มดูกวางสามแม่ลูกอยู่ครู่หนึ่งก็ออกเดินจากไป เมษาเหลียวหลังมองกวางทั้งสามที่เพิ่งรับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอม แม่กวางพาลูกๆ ทั้งสองเหยาะย่างหนีเข้าป่าลึก หล่อนรู้สึกสะท้อนในอก ความคิดถึงมารดาและพี่สาวตีตื้นขึ้นมาจนรู้สึกจุกในอก
หล่อนเกือบทำลายชีวิตของพวกมันไปแล้วสินะ
“ส่งกระเป๋ามาสิ” เสียงทุ้มดังอยู่ด้านหลัง เมษาหลุดจากภวังค์หันไปตอบเขาเบาๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่หนัก”
“เก่งจริงๆ ทีเมื่อคืนไม่เห็นเก่งอย่างนี้” เสียงนั้นลอยลมมาเบาๆ เมษาขบฟันแน่น หันไปมองว่าสองเสือเฒ่าจะได้ยินหรือเปล่า แต่เห็นทั้งสองสาวเท้านำไปไกลก็โล่งอก
“คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ”
“แล้วใครบอกล่ะว่าเป็น ผมก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความอดทนจำกัดเท่านั้น”
“ใครใช้ให้มาอดทนกับฉันล่ะ”
“ถ้าเมื่อคืนผมไม่อดใจไว้ คงรู้นะว่าวันนี้คงไม่ได้มาอวดดีแบบนี้ รู้จักประมาณกำลังตนเองเสียบ้างสิคุณหนู”
“ฉะ...ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำกับฉันแน่ จำไว้เลยนะ”
“งั้นรึ ไม่นึกว่าจะติดใจขนาดนี้”
“เอ๊ะ!” หล่อนหยุดปลายเท้า เงื้อง่าทำท่าจะฟาดใบหน้าคมสักหมัด แต่เสียงเสือใหญ่เป่าปากดังมาจากด้านหน้าเร่งให้ตามติดไป หล่อนสะบัดหน้าพรืดจนหางม้าปลิวสะบัด เร่งฝีเท้าหนีเสียงหัวเราะหึๆ ไปอย่างรวดเร็ว
เมษาสาวเท้ามาทันเสือใหญ่กับเสือพูนอย่างรวดเร็ว เสือใหญ่หยุดยืน กวาดสายตามองไปรอบๆ รอจนธรรศเดินตามมาทันจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
“สังเกตอะไรไหม”
“อากาศเย็นลงมาก ต่างจากทุ่งหญ้านั่นลิบลับ” ธรรศตั้งข้อสังเกต “ใช่ เพราะตอนนี้พวกเราอยู่ในดงสางเสือแล้ว ดูต้นไม้อายุหลายร้อยปีพวกนี้สิ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนกล้าเข้ามาตัดเพราะเกรงกลัวเจ้าถิ่น”
ธรรศขยับเข้ามาประชิดร่างบางที่กำลังมองต้นไม้ใหญ่สูงสล้างด้วยความทึ่ง เสือพูนกระชับปืนยาวในมือมั่น
“รัศมีการล่าของเสือแต่ละตัวไม่น้อยกว่ายี่สิบกิโลเมตร ยิ่งเป็นเสือตัวผู้ยิ่งมีอาณาเขตกว้างไกล เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้เราอยู่ในเขตของเสือตัวใดตัวหนึ่งอย่างแน่นอน”
“เสือกินคนหรือคะ”
“ใช่ เดิมมันไม่กินคนหรอก นอกจากว่ามันบาดเจ็บหรือหิวโซมากจริงๆ แต่ในสางเสือมีเสือตัวหนึ่งที่อยู่นอกเหนือกฎธรรมชาตินั่น มันนิยมกินเนื้อคนมากกว่าเนื้อสัตว์ใดๆ ระวังตัวกันไว้หน่อยก็ดี เราต้องไปต่ออีกหน่อย ใช้ที่พักเชิงผาไม่ห่างแหล่งน้ำมากจะได้สะดวก”
พูดจบเสือใหญ่ก็เดินนำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เวลาบ่ายคล้อยมากเท่าใดแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะแสงตะวันที่สอด ส่องลงมาน้อยนิดนัก นั่นยิ่งเพิ่มความเย็นยะเยือกของป่าอันอึมครึมทำให้ผิวกายรู้สึกหนาวสะท้าน ความระแวดระวังเพิ่มสูงขึ้นในทุกย่างก้าว
เสือใหญ่เดินนำไปจนถึงที่พักที่หมายใจไว้ ตำแหน่งนั้นเป็นเชิงผาที่มีผาหินเป็นกำแพงกันภัยถึงสองด้าน ข้างๆ เป็นลาดเขาสูงป้องกันสัตว์ร้ายเข้าโจมตีได้ดี มีซอกหินให้หลับนอนหลบลมและกำบังกายได้ และไม่ห่างจากแหล่งน้ำมากนัก
เสือพูนเริ่มก่อกองไฟ ส่วนเสือใหญ่ลาดตระเวนดูรอบๆ อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ธรรศอาสาออกไปตักน้ำมาให้ ส่วนเมษาเดินลัดเลาะหาฟืนและกิ่งไม้มาให้เสือพูน ไม่นานไฟกองใหญ่ก็ลุกโชติช่วง ไล่ความเหน็บหนาวที่ทวีคูณขึ้นทุกที ลดบรรยากาศอึมครึมของป่าดิบลงได้บางส่วน
เมษาเปิดกระเป๋าหยิบอาหารกระป๋องที่ติดมาด้วยสองกระป๋องออกมาวางรวมกับเสบียงของเสือพูน หล่อนยังเหลือเอนเนอจีบาร์อยู่อีกสองสามแท่ง พื้นที่ที่เหลือในกระเป๋าเป็นเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่ง ของใช้จำเป็นส่วนตัว ยา ปืน และกระสุนอันหนักอึ้ง
เสือพูนมองอาหารกระป๋องที่เจ้าหล่อนวางไว้ข้างๆ กระปุกน้ำพริกแห้งรสเผ็ดจัด ข้าวสาร และถุงใส่เนื้อแห้งถุงใหญ่ เสือพูนใช้น้ำที่ธรรศหิ้วมาให้หุงข้าวหม้อใบเก่าบู้บี้ โดยมีดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองอยู่ใกล้ๆ ด้วยความสนใจ
“หุงข้าวแบบเช็ดน้ำแบบชาวบ้าน ทำเป็นไหม”
“ไม่เป็นค่ะ”
“ทำไม่ยากหรอก ล้างข้าวสักน้ำสองน้ำ ใส่น้ำเยอะหน่อยแล้วยกตั้งไฟ คอยคนให้ทั่วเดี๋ยวมันจับเป็นก้อน พอเดือดข้าวสุกทั่วแล้ว ยกลงเช็ดน้ำให้แห้งไม่งั้นข้าวจะแฉะบูดง่าย แล้วตั้งไฟดงต่อให้สุกทั่วดี”
“ดงคืออะไรคะ”
“ก็คือตั้งไฟให้ข้าวแห้งร่วน น่ากินไงล่ะ พอสุกหอมฉุย เป็นใช้ได้ ข้าวสวยร้อนๆ กินกับน้ำพริก เนื้อย่าง อร่อยนักแล”
“แล้วน้ำข้าวล่ะคะ”
“กินได้ อร่อย ใส่เกลือนิดหน่อย วันนี้จะให้ชิม พี่ใหญ่ก็ชอบกิน”
“ขอบคุณค่ะ” หล่อนกุลีกุจอขอทำนั่นทำนี่จนเสือพูนเพลิดเพลินไป เสือใหญ่มองลูกน้องแล้วก็ทอดถอนใจ
ไอ้พูนมันคงอยากมีลูกมีหลาน มาเป็นเสือให้เขาล่าแบบนี้ความสุขแบบครอบครัวหาไม่ได้เลย อย่างนี้ข้าจะยอมให้ไอ้เสือต้องมีชะตากรรมเดียวกันไม่ได้
**********
eBook โหลดได้ที่เว็บ mebmarket
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ค. 2562, 07:38:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ค. 2562, 07:38:55 น.
จำนวนการเข้าชม : 833
<< บทที่16 -100% | บทที่17 -70% >> |
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 3 ก.ค. 2562, 07:42:21 น.
แปะลิงก์ให้ค่ะ^^ เล่นเกมแจกนิยายที่เพจ ‘ปลาบปากกา สำนักพิมพ์’
>>> http://bit.ly/3272MsE
แปะลิงก์ให้ค่ะ^^ เล่นเกมแจกนิยายที่เพจ ‘ปลาบปากกา สำนักพิมพ์’
>>> http://bit.ly/3272MsE