ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่ 21 -40%
แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่สาดส่องลอดผ่านผ้าม่านบางเบาเข้ามาในห้อง ตกกระทบที่หัวเตียงคนป่วย นางพยาบาลที่เข้ามาดูอาการของพฤษภาเมื่อฟ้าสาง เลื่อนม่านหนาชั้นนอกออกไว้ให้จึงเผยให้เห็นกิ่งประดู่ต้นใหญ่ไหวเอนอวดช่อสีเหลืองนวลงามตา
พฤษภารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาโต้ตอบกับนางพยาบาลประจำห้องได้ตั้งแต่เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา และนางก็อยู่เป็นเพื่อนพฤษภาจนแน่ใจว่าสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เองแล้ว และเริ่มเป็นปกติทางใจมากขึ้น
‘คนไข้โดนเสือตะปบทำร้ายมาจนแผลอักเสบติดเชื้อค่อนข้างรุนแรง และมีอาการหวาดผวา’
ก่อนหน้านี้แพทย์หญิงได้อธิบายอาการของพฤษภาให้ทีมพยาบาลฟัง พยาบาลอาวุโสที่ทำงานมาร่วมยี่สิบปีคอยดูแลพฤษภา ก็เพิ่งเคยได้ยินเคสนี้เป็นครั้งแรก
พฤษภาผล็อยหลับไปหลังจากที่พยาบาลให้ยาคลายเครียดอีกครั้งจนมาตื่นเอาในตอนเช้า
หล่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง สายตาเหลือบไปเห็นเศษผ้าขาดรุ่งริ่งที่ห่ออะไรบางอย่างวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงใหม่เอี่ยม มันดูผิดที่ผิดทางชอบกล
“นั่นอะไรคะ” พฤษภาเอ่ยถามพยาบาลที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ของที่น้องสาวคุณฝากไว้ให้ค่ะ เธอกำชับให้วางไว้ที่หัวเตียง ฉันเลยเอาไปซักฆ่าเชื้อเสียก่อน เลยเห็นว่าข้างในเป็นก้อนกรวดค่ะ แต่สวยจังนะคะ สีเขียวกับสีม่วงเข้ม สวยมากเชียว แกะดูสิคะ” นางพยาบาลหยิบห่อนั้นยื่นให้มือบางที่แบออกรับไว้สั่นระริก
พยาบาลเดินไปเตรียมอาหารและยาสำหรับมื้อเช้า พฤษภานั่งมองก้อนหินในอุ้งมือเล็กๆ ของตนเอง ความคิดล่องลอยกลับไปถึงวันหนึ่งวันนั้นที่ธารน้ำใส
ไหนล่ะ พลอยสีดอกตะแบกของนาย นี่มันก้อนกรวดไร้ค่าไร้ราคาชัดๆ เอามาให้ฉันทำไม
หล่อนนึกไปน้ำตาอุ่นๆ ก็เอ่อท้น ราดรดหัวใจที่มึนชาให้รู้ร้อนรู้หนาว รู้สึกทั้งโหยหา เจ็บปวด และสับสนไปพร้อมๆ กัน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะกระจกที่กั้นระหว่างห้องของปลอดเชื้อกับส่วนที่ญาติเข้าถึงได้ดังขึ้นติดๆ กันอย่างเร่งเร้า
หลังกระจกบานนั้นมีใบหน้าของคนสามคนที่หล่อนรักและคิดถึงที่สุดในชีวิตปรากฏอยู่ ดวงตาสีเหลืองอำพันของพฤษภาเบิกกว้าง แทบจะถลันลุกจากเตียงคนป่วย บิดา มารดา และน้องสาวรีบโบกไม้โบกมือห้าม เมื่อหล่อนนั่งนิ่งแล้วนั่นละ ทั้งสามก็โอบกอดกันแน่น แนบใบหน้ากับกระจกใส พยายามจะสื่อสารกับหล่อน พยาบาลเดินเข้ามารวบไหล่บางที่สั่นระริกไว้ปลอบโยน
“พ่อขา แม่ขา น้อง อย่าร้องไห้นะ เมย์ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ดีมากค่ะ เห็นไหมคะ ใครๆ ก็มารอเยี่ยมคุณเมย์ เช้านี้ทานข้าว เยอะๆ รอพบคุณหมอ ไม่แน่นะคะ วันสองวันอาจจะเข้าเยี่ยมได้แล้วนะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” พฤษภามองเห็นน้องสาวค้นหาปากกากับกระดาษหยุกหยิก ไม่นานก็เขียนตัวหนังสือโตๆ แนบกับกระจกให้หล่อนอ่าน
‘หายไวๆ นะพี่เมย์ รักมากที่สุดในโลก’
พฤษภาพยักหน้าหงึกๆ ยิ้มทั้งน้ำตาให้ครอบครัว
พยาบาลนำอาหารเช้ามาให้ พฤษภารับประทานมื้อเช้าเป็นอาหารอ่อนๆ ต่อหน้าครอบครัวด้วยสีหน้าสดใสขึ้นมากโข ข้าวต้มเละๆ นั่นทำให้หล่อนนึกถึงข้าวหุงกระบอกไม้ไผ่หอมๆ กับเนื้อปลาย่าง ความหิวโหยและความอยากมีชีวิตรอดทำให้หล่อนกินทุกอย่างได้ราวกับว่ามันเอร็ดอร่อยเสียเหลือเกิน เมื่อหล่อนเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวต้ม บิดาผู้หล่อเหลาก็ยกนิ้วโป้งให้จนหล่อนยิ้มตาหยี ไม่นานทั้งสามจึงโบกมือลา ปล่อยให้หล่อนได้พักผ่อน
พยาบาลเปิดโทรทัศน์เบาๆ ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาให้หล่อน ก่อนที่จะออกไปจากห้อง แต่พฤษภากลับทิ้งศีรษะลงบนหมอนนุ่ม เอื้อมมือไปหยิบก้อนหินในห่อผ้ามาคลึงเล่นไปมา
เมื่อยาคลายเครียดรอบเช้าเริ่มออกฤทธิ์ หล่อนก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ หูแว่วเสียงโตรกธารใสเย็นไหลลัดเลาะรากไม้และโขดหินผ่ากลางพนา เสียงปลาพลวงเงินฝูงใหญ่กระโดดดีดตัวขึ้นเหนือผิวน้ำเย็นเฉียบดังจ๋อมแจ๋ม เสียงซ่าๆ ราวกับใครกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแอ่งหินลึก หล่อนเห็นแผ่นหลังกว้างสักลายเสือโคร่งผงาดตัวมหึมา หน้าตาถมึงทึงแต่กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนหล่อนอยากวางมือลงบนแผ่นหลังนั้นเบาๆ
**************
คืนหนึ่งกลางดงอันเงียบสงัด ร่างที่นั่งโงนเงนไปมาทำท่าจะล้มคลุก ดินผวาตื่น ปากทั้งร่ำไห้ ก่นด่า อ้อนวอนสารพัดแทบไม่เป็นภาษาคน
แน่นอนว่ามันคือสหายของเสือสอน สองวันหนึ่งคืนเต็มๆ แล้วที่มันทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ เชือกยาวๆ ที่ผูกขามันไว้ ทำให้มันทำได้แค่เดินวนไปรอบๆ แต่ก็ไม่อาจหลุดรอดไปได้ มันล้มลงอีกครั้งหมดอาลัยตายอยากไปครู่ใหญ่ก็ลุกขึ้นมาร่ำไห้อย่างน่าเวทนาอีกครั้ง
“พี่ขาว เราเฝ้ามันมาร่วมสองวันแล้วนะพี่ ทำไมไอ้แหว่งมันไม่มาลากเหยื่อไปกินเสียที ไอ้นั่นมันจะตายแล้วนะพี่”
“ใจเย็นๆ รอดูไปก่อน ไอ้แหว่งมันไม่โง่หรอก แต่มันก็ไม่ยอมทิ้งเหยื่ออันโอชะไปได้หรอก คอยดู มึงผ่อนเชือกให้ยาวหน่อย คอยกระตุกให้มันตื่นขึ้นมาแหกปากมากๆ เข้า เดี๋ยวไอ้แหว่งก็มาเอง”
“ครับพี่” เสือธงแกะเชือกที่ผูกไว้ที่โคนต้นมะค่าเฒ่าออก ค่อยๆ ผ่อนให้มันยาวออกไปอีกราวสองวาแล้วก็ผูกเข้าไปใหม่ พร้อมกระตุกปลายเชือก ดึงให้คนที่กำลังโงนเงนใกล้หมดสติตื่นขึ้นมาพบกับฝันร้ายของมันเอง
“พวกมึง ไอ้พวกผีปีศาจ มึงมันชั่วช้านัก กูขอสาปแช่งพวกมึงทุกคน ให้พวกมึงไม่ได้ตายดี ให้ตายในคมเขี้ยวเสือขบตกตามกูไปทุกๆ คน ฮือๆๆๆ”
โฮกกก!
ราวกับได้ยินเสียงสาปแช่งและร่ำไห้นั่น ไอ้เสือกินคนคำรามลั่นพงไพร ประกาศศักดาของมัน
“ยะ อย่า อย่า กลัวแล้วอย่า”
ไอ้เสือชะตาขาดวิ่งวนไปมา ล้มลุกคลุกคลาน เสือธงขนลุกวาบไปทั้งกาย มองสบตาหัวหน้าใหญ่และพรรคพวกรอสัญญาณ
“อย่าเพิ่ง” เสือขาวขยับปากห้าม ประทับปืนยาสลบรั้งรอ ไม่นานไอ้แหว่งก็ก้าวอาดๆ ออกมาจากราวป่า ดวงตาจับจ้องอยู่บนร่างผอมแห้งของเหยื่อที่ถูกล่ามไว้
เสือทั้งหลายขนลุกวาบ ความกล้าตายหดหายไปกว่าครึ่ง เสือขาวมองไอ้เสือแหว่งหยอกล้อเล่นกับเหยื่อที่กลัวจนเสียสติ กรีดร้องไม่เป็นภาษามนุษย์ทุรนทุรายหนี ภาพนั้นแม้โจรร้ายที่ชินชาอย่างมันยังเสียวสันหลัง ขนหัวลุก มือที่จับปืนพลอยสั่นระริกไปด้วย
กร๊วบ!
“อ๊ากก!” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นกึกก้อง แผลที่ไหล่ฉีกขาด ไอ้แหว่งสะบัดหัว ขย้ำย้ำเขี้ยวฝังใน เหยื่อแหกปากร้องอีกครั้งก็สิ้นลมหายใจคาปากไอ้แหว่งนั่นเอง
“ยิง!”
ปัก! ปัก! ปัก!
ฮึ่มมม!
เสียงกระสุนยาสลบพุ่งเข้าเป้าตามมาด้วยเสียงคำรามลึกด้วยความโกรธงุ่นง่านของไอ้แหว่งที่ถูกขัดจังหวะ มันผงกหัวขึ้นมองหาเป้าหมาย ปากกว้าง เขี้ยวขาวเปื้อนเลือดสดๆ คาวคลุ้ง
“พะ พี่ขาว มันมาแล้ว!” เสือหนุ่มคนหนึ่งถอยกรูด
“อย่ายิงมันนะ รออีกสักห้านาที พวกมึงหลบไปก่อน อย่ายิงมัน!”
เสียงเสือขาวสั่งห้ามแตะต้องแท่งทองเดินได้ของมัน
ไอ้แหว่งบ่ายหน้าเข้ามาหาต้นเสียงทันที ดวงตาเรืองโรจน์วาววับจับจ้องเป้าหมาย มันเตะตีนพุ่งเข้ามาแต่ในบัดดลดวงตาของมันกลับพร่าเลือน สองตีนไร้เรี่ยวแรง สติดับไปกลางอากาศ ทรุดฮวบคลุกฝุ่นตกเป็นเหยื่อของพวกมนุษย์ไปในที่สุด
*************
อยากให้ไอ้แหว่งจัดการให้หมดเลย!!!!
ช่วงนี้ทีมงานจะลงเรื่องนี้สลับกับกระซิบรักฯ นะคะ ใครสายเล่มหนังสือสนใจทั้ง 2 เรื่องนี้มีโปรฯ แบบสั่งจองกระซิบรักฯ ร่วมสั่งซื้อฝนเมษาฯ ด้วยนะคะ ราคาตามนี้จ้า
กระซิบรักฯ จำนวน 624 หน้า ราคาสั่งจอง 385 บาท (จากปก 445 บาท) + ฝนเมษาฯ จำนวน 448 หน้า ราคาสั่งซื้อลดเหลือ 345 บาท (จากปก 382 บาท)
ฉะนั้นรวมทั้งสิ้น 730 บาท ส่งฟรีลงทะเบียน!!!!
เพียงแค่ inbox เข้ามาที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ หรือเมล์ plaipakkabooks@gmail.com และแจ้งเรื่องที่ต้องการสั่งซื้อ จากนั้นทีมงานจะสรุปจำนวนเงินที่ต้องโอน และเลขบัญชีให้ทราบเป็นลำดับถัดไปค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
พฤษภารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาโต้ตอบกับนางพยาบาลประจำห้องได้ตั้งแต่เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา และนางก็อยู่เป็นเพื่อนพฤษภาจนแน่ใจว่าสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เองแล้ว และเริ่มเป็นปกติทางใจมากขึ้น
‘คนไข้โดนเสือตะปบทำร้ายมาจนแผลอักเสบติดเชื้อค่อนข้างรุนแรง และมีอาการหวาดผวา’
ก่อนหน้านี้แพทย์หญิงได้อธิบายอาการของพฤษภาให้ทีมพยาบาลฟัง พยาบาลอาวุโสที่ทำงานมาร่วมยี่สิบปีคอยดูแลพฤษภา ก็เพิ่งเคยได้ยินเคสนี้เป็นครั้งแรก
พฤษภาผล็อยหลับไปหลังจากที่พยาบาลให้ยาคลายเครียดอีกครั้งจนมาตื่นเอาในตอนเช้า
หล่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง สายตาเหลือบไปเห็นเศษผ้าขาดรุ่งริ่งที่ห่ออะไรบางอย่างวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงใหม่เอี่ยม มันดูผิดที่ผิดทางชอบกล
“นั่นอะไรคะ” พฤษภาเอ่ยถามพยาบาลที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ของที่น้องสาวคุณฝากไว้ให้ค่ะ เธอกำชับให้วางไว้ที่หัวเตียง ฉันเลยเอาไปซักฆ่าเชื้อเสียก่อน เลยเห็นว่าข้างในเป็นก้อนกรวดค่ะ แต่สวยจังนะคะ สีเขียวกับสีม่วงเข้ม สวยมากเชียว แกะดูสิคะ” นางพยาบาลหยิบห่อนั้นยื่นให้มือบางที่แบออกรับไว้สั่นระริก
พยาบาลเดินไปเตรียมอาหารและยาสำหรับมื้อเช้า พฤษภานั่งมองก้อนหินในอุ้งมือเล็กๆ ของตนเอง ความคิดล่องลอยกลับไปถึงวันหนึ่งวันนั้นที่ธารน้ำใส
ไหนล่ะ พลอยสีดอกตะแบกของนาย นี่มันก้อนกรวดไร้ค่าไร้ราคาชัดๆ เอามาให้ฉันทำไม
หล่อนนึกไปน้ำตาอุ่นๆ ก็เอ่อท้น ราดรดหัวใจที่มึนชาให้รู้ร้อนรู้หนาว รู้สึกทั้งโหยหา เจ็บปวด และสับสนไปพร้อมๆ กัน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะกระจกที่กั้นระหว่างห้องของปลอดเชื้อกับส่วนที่ญาติเข้าถึงได้ดังขึ้นติดๆ กันอย่างเร่งเร้า
หลังกระจกบานนั้นมีใบหน้าของคนสามคนที่หล่อนรักและคิดถึงที่สุดในชีวิตปรากฏอยู่ ดวงตาสีเหลืองอำพันของพฤษภาเบิกกว้าง แทบจะถลันลุกจากเตียงคนป่วย บิดา มารดา และน้องสาวรีบโบกไม้โบกมือห้าม เมื่อหล่อนนั่งนิ่งแล้วนั่นละ ทั้งสามก็โอบกอดกันแน่น แนบใบหน้ากับกระจกใส พยายามจะสื่อสารกับหล่อน พยาบาลเดินเข้ามารวบไหล่บางที่สั่นระริกไว้ปลอบโยน
“พ่อขา แม่ขา น้อง อย่าร้องไห้นะ เมย์ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ดีมากค่ะ เห็นไหมคะ ใครๆ ก็มารอเยี่ยมคุณเมย์ เช้านี้ทานข้าว เยอะๆ รอพบคุณหมอ ไม่แน่นะคะ วันสองวันอาจจะเข้าเยี่ยมได้แล้วนะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” พฤษภามองเห็นน้องสาวค้นหาปากกากับกระดาษหยุกหยิก ไม่นานก็เขียนตัวหนังสือโตๆ แนบกับกระจกให้หล่อนอ่าน
‘หายไวๆ นะพี่เมย์ รักมากที่สุดในโลก’
พฤษภาพยักหน้าหงึกๆ ยิ้มทั้งน้ำตาให้ครอบครัว
พยาบาลนำอาหารเช้ามาให้ พฤษภารับประทานมื้อเช้าเป็นอาหารอ่อนๆ ต่อหน้าครอบครัวด้วยสีหน้าสดใสขึ้นมากโข ข้าวต้มเละๆ นั่นทำให้หล่อนนึกถึงข้าวหุงกระบอกไม้ไผ่หอมๆ กับเนื้อปลาย่าง ความหิวโหยและความอยากมีชีวิตรอดทำให้หล่อนกินทุกอย่างได้ราวกับว่ามันเอร็ดอร่อยเสียเหลือเกิน เมื่อหล่อนเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวต้ม บิดาผู้หล่อเหลาก็ยกนิ้วโป้งให้จนหล่อนยิ้มตาหยี ไม่นานทั้งสามจึงโบกมือลา ปล่อยให้หล่อนได้พักผ่อน
พยาบาลเปิดโทรทัศน์เบาๆ ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาให้หล่อน ก่อนที่จะออกไปจากห้อง แต่พฤษภากลับทิ้งศีรษะลงบนหมอนนุ่ม เอื้อมมือไปหยิบก้อนหินในห่อผ้ามาคลึงเล่นไปมา
เมื่อยาคลายเครียดรอบเช้าเริ่มออกฤทธิ์ หล่อนก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ หูแว่วเสียงโตรกธารใสเย็นไหลลัดเลาะรากไม้และโขดหินผ่ากลางพนา เสียงปลาพลวงเงินฝูงใหญ่กระโดดดีดตัวขึ้นเหนือผิวน้ำเย็นเฉียบดังจ๋อมแจ๋ม เสียงซ่าๆ ราวกับใครกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแอ่งหินลึก หล่อนเห็นแผ่นหลังกว้างสักลายเสือโคร่งผงาดตัวมหึมา หน้าตาถมึงทึงแต่กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนหล่อนอยากวางมือลงบนแผ่นหลังนั้นเบาๆ
**************
คืนหนึ่งกลางดงอันเงียบสงัด ร่างที่นั่งโงนเงนไปมาทำท่าจะล้มคลุก ดินผวาตื่น ปากทั้งร่ำไห้ ก่นด่า อ้อนวอนสารพัดแทบไม่เป็นภาษาคน
แน่นอนว่ามันคือสหายของเสือสอน สองวันหนึ่งคืนเต็มๆ แล้วที่มันทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ เชือกยาวๆ ที่ผูกขามันไว้ ทำให้มันทำได้แค่เดินวนไปรอบๆ แต่ก็ไม่อาจหลุดรอดไปได้ มันล้มลงอีกครั้งหมดอาลัยตายอยากไปครู่ใหญ่ก็ลุกขึ้นมาร่ำไห้อย่างน่าเวทนาอีกครั้ง
“พี่ขาว เราเฝ้ามันมาร่วมสองวันแล้วนะพี่ ทำไมไอ้แหว่งมันไม่มาลากเหยื่อไปกินเสียที ไอ้นั่นมันจะตายแล้วนะพี่”
“ใจเย็นๆ รอดูไปก่อน ไอ้แหว่งมันไม่โง่หรอก แต่มันก็ไม่ยอมทิ้งเหยื่ออันโอชะไปได้หรอก คอยดู มึงผ่อนเชือกให้ยาวหน่อย คอยกระตุกให้มันตื่นขึ้นมาแหกปากมากๆ เข้า เดี๋ยวไอ้แหว่งก็มาเอง”
“ครับพี่” เสือธงแกะเชือกที่ผูกไว้ที่โคนต้นมะค่าเฒ่าออก ค่อยๆ ผ่อนให้มันยาวออกไปอีกราวสองวาแล้วก็ผูกเข้าไปใหม่ พร้อมกระตุกปลายเชือก ดึงให้คนที่กำลังโงนเงนใกล้หมดสติตื่นขึ้นมาพบกับฝันร้ายของมันเอง
“พวกมึง ไอ้พวกผีปีศาจ มึงมันชั่วช้านัก กูขอสาปแช่งพวกมึงทุกคน ให้พวกมึงไม่ได้ตายดี ให้ตายในคมเขี้ยวเสือขบตกตามกูไปทุกๆ คน ฮือๆๆๆ”
โฮกกก!
ราวกับได้ยินเสียงสาปแช่งและร่ำไห้นั่น ไอ้เสือกินคนคำรามลั่นพงไพร ประกาศศักดาของมัน
“ยะ อย่า อย่า กลัวแล้วอย่า”
ไอ้เสือชะตาขาดวิ่งวนไปมา ล้มลุกคลุกคลาน เสือธงขนลุกวาบไปทั้งกาย มองสบตาหัวหน้าใหญ่และพรรคพวกรอสัญญาณ
“อย่าเพิ่ง” เสือขาวขยับปากห้าม ประทับปืนยาสลบรั้งรอ ไม่นานไอ้แหว่งก็ก้าวอาดๆ ออกมาจากราวป่า ดวงตาจับจ้องอยู่บนร่างผอมแห้งของเหยื่อที่ถูกล่ามไว้
เสือทั้งหลายขนลุกวาบ ความกล้าตายหดหายไปกว่าครึ่ง เสือขาวมองไอ้เสือแหว่งหยอกล้อเล่นกับเหยื่อที่กลัวจนเสียสติ กรีดร้องไม่เป็นภาษามนุษย์ทุรนทุรายหนี ภาพนั้นแม้โจรร้ายที่ชินชาอย่างมันยังเสียวสันหลัง ขนหัวลุก มือที่จับปืนพลอยสั่นระริกไปด้วย
กร๊วบ!
“อ๊ากก!” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นกึกก้อง แผลที่ไหล่ฉีกขาด ไอ้แหว่งสะบัดหัว ขย้ำย้ำเขี้ยวฝังใน เหยื่อแหกปากร้องอีกครั้งก็สิ้นลมหายใจคาปากไอ้แหว่งนั่นเอง
“ยิง!”
ปัก! ปัก! ปัก!
ฮึ่มมม!
เสียงกระสุนยาสลบพุ่งเข้าเป้าตามมาด้วยเสียงคำรามลึกด้วยความโกรธงุ่นง่านของไอ้แหว่งที่ถูกขัดจังหวะ มันผงกหัวขึ้นมองหาเป้าหมาย ปากกว้าง เขี้ยวขาวเปื้อนเลือดสดๆ คาวคลุ้ง
“พะ พี่ขาว มันมาแล้ว!” เสือหนุ่มคนหนึ่งถอยกรูด
“อย่ายิงมันนะ รออีกสักห้านาที พวกมึงหลบไปก่อน อย่ายิงมัน!”
เสียงเสือขาวสั่งห้ามแตะต้องแท่งทองเดินได้ของมัน
ไอ้แหว่งบ่ายหน้าเข้ามาหาต้นเสียงทันที ดวงตาเรืองโรจน์วาววับจับจ้องเป้าหมาย มันเตะตีนพุ่งเข้ามาแต่ในบัดดลดวงตาของมันกลับพร่าเลือน สองตีนไร้เรี่ยวแรง สติดับไปกลางอากาศ ทรุดฮวบคลุกฝุ่นตกเป็นเหยื่อของพวกมนุษย์ไปในที่สุด
*************
อยากให้ไอ้แหว่งจัดการให้หมดเลย!!!!
ช่วงนี้ทีมงานจะลงเรื่องนี้สลับกับกระซิบรักฯ นะคะ ใครสายเล่มหนังสือสนใจทั้ง 2 เรื่องนี้มีโปรฯ แบบสั่งจองกระซิบรักฯ ร่วมสั่งซื้อฝนเมษาฯ ด้วยนะคะ ราคาตามนี้จ้า
กระซิบรักฯ จำนวน 624 หน้า ราคาสั่งจอง 385 บาท (จากปก 445 บาท) + ฝนเมษาฯ จำนวน 448 หน้า ราคาสั่งซื้อลดเหลือ 345 บาท (จากปก 382 บาท)
ฉะนั้นรวมทั้งสิ้น 730 บาท ส่งฟรีลงทะเบียน!!!!
เพียงแค่ inbox เข้ามาที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ หรือเมล์ plaipakkabooks@gmail.com และแจ้งเรื่องที่ต้องการสั่งซื้อ จากนั้นทีมงานจะสรุปจำนวนเงินที่ต้องโอน และเลขบัญชีให้ทราบเป็นลำดับถัดไปค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2562, 09:14:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2562, 09:14:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 543
<< บทที่ 20 -100% | บทที่ 21 -100% >> |