กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 4 -100%
เอรินอยู่เป็นเพื่อนต่ออีกสักพัก จนมั่นใจว่าชานนท์พ้นอาการโคม่าแล้วถึงค่อยขอตัวกลับห้องพัก
แต่อันที่จริงต้องบอกว่าเพราะเขายอมปล่อยตัวหล่อนมาได้แล้วมากกว่า หล่อนคงหมดประโยชน์สำหรับเขาแล้ว ไม่วายก่อนแยกกันที่รถชานนท์ยังอุตส่าห์หัวเราะขื่นๆ ส่งท้าย
‘ขอบคุณนะคุณ ที่ยอมอยู่เป็นเพื่อน ถือเสียว่าได้ฟังนิทานกล่อมนอนก็แล้วกัน’
‘ฉันโตแล้วนะคุณ งดฟังนิทานก่อนนอนมาชาติกว่าแล้ว’ เอรินแยกเขี้ยวใส่เขา
‘โอเค งั้นเปลี่ยนเป็นนิยายรักก่อนนอนก็ได้’ เขายอมหล่อนง่ายๆ ‘แต่ตอนจบพระเอกคงไม่มีวันได้สมหวังกับนางเอก ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าก็ตาม’
ชานนท์ถอนใจยืดยาว พร้อมสีหน้าที่บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกเช่นไร แต่ก็นับว่าดูดีกว่าเดิมมากแล้ว จึงส่งยิ้มอ่อนๆ ให้หล่อนตบท้าย
ตั้งแต่แยกกับชานนท์จนเข้าโรงแรมมา เอรินยังคงนึกถึงแต่สิ่งที่คุยกับเขา แล้วอดไม่ได้เผลอยิ้มกับตัวเองขณะก้าวออกมาจากลิฟต์ของโรงแรมชั้นที่หล่อนพัก
ไม่เพียงแค่คำขอบคุณแกมหยอกล้อของเขาเท่านั้น ภาพตอนที่เขาส่งยิ้มอ่อนๆ ให้หล่อนตบท้าย เป็นภาพที่หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เอรินสัมผัสได้ว่าชานนท์ยิ้มให้จากใจจริงแทนคำขอบคุณกวนๆ นั้น พานหน้าแดงก่ำ ใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนต้องแตะที่อกข้างซ้ายของตัวเอง
...คงเพราะความเหงา
ใช่ ต้องเป็นเหตุผลนี้แน่ๆ หล่อนถึงชอบรู้สึกแปลกๆ กับเขาตลอด
หล่อนอาจกำลังเป็นโรคโฮมซิก!
เอรินมัวแต่พยายามสงบจิตสงบใจตัวเอง กระทั่งเดินมาถึงหน้าห้องพัก
“ยายเอริน!”
คนถูกเรียกถึงกับสะดุ้งโหยง ชะงักฝีเท้าพลัน ทั้งตกใจทั้งประหลาดใจเมื่อเห็นวินซ์ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง!
“หายไปไหนมา ฉันให้รอที่ร้านทำไมไม่อยู่รอ” วินซ์ดีใจอย่างบอกไม่ถูก รีบตรงรี่เข้ามาจับเนื้อจับตัวเอรินสำรวจตรวจตราด้วยความเป็นห่วง ขณะที่เอรินยังคงมองเพื่อนอย่างงงๆ
“เธอมารอฉันนานแล้วเหรอ”
“ก็ใช่สิยะ พอดีฉันเสร็จธุระเร็วเลยกลับไปหาเธอที่ร้าน แต่ก็ไม่เจอแล้ว เด็กที่ร้านบอกว่าเธอออกไปกับคุณอเล็กซ์”
“อืมก็ใช่ แล้วตอนนี้ฉันก็เหนื่อยและง่วงมากเลย” เอรินตอบเนือยๆ
“ต๊าย! ไปไหนทำอะไรกันมายะ! แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์”
“มือถือแบตหมดน่ะ แต่คุณอเล็กซ์บอกว่าโทร.คุยกับเธอแล้วนี่”
ประโยคท้ายเอรินมีสีหน้าฉงนหนักกว่าเก่าเมื่อเพื่อนทำตาเล็กตาน้อย หรี่ตามองมาคล้ายจับผิด
“บอกอะไรกัน ถ้ารู้ฉันก็ไม่ต้องรีบไปรับเธอหรอก อ้อ ฉันซื้อซิมมาให้เธอด้วย เอาไปใส่โทรศัพท์เธอซะ เพื่อนฝูงจะได้ติดต่อได้”
“ขอบใจจ้ะ” เอรินรับซิมโทรศัพท์จากเพื่อน แล้วคืนเครื่องที่เพื่อนทิ้งไว้ให้ แต่ค่อนข้างทุลักทุเล จังหวะนั้นเองวินซ์เพิ่งสังเกตเห็นว่าเอรินหอบหิ้วชุดราตรีมาด้วยถึงสองชุด แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพราะเอรินยังคงสงสัย เอ่ยถามต่อ
“แล้วทำไมเธอไม่โทร.เข้าเบอร์คุณอเล็กซ์เขาล่ะ ไม่เห็นต้องแกร่วรอฉันเลย ฉันก็อยู่กับเขาตลอด เพิ่งแยกกันเมื่อกี้นี้เอง”
“นี่เขาอยู่กับเธอตลอดเลยเหรอ เหลือเชื่อ!” วินซ์ถึงกับตบอกอุทาน“ผู้ชายโลกส่วนตัวสูงขนาดนั้นคุยกับเธอรู้เรื่อง แถมอยู่ด้วยกันตลอด โอมายก้อด! อะเมซิ่งมาก หรือว่าเขาปิ๊งเธอ!”
“บ้า! อย่าพูดไปเรื่อย” เอรินตีเพียะเข้าให้ที่หัวไหล่เพื่อน
“เขาแค่ใจดีพาไปเลี้ยงข้าว กับพาไปเที่ยวที่อื่นอีกนิดหน่อยเอง”
“พาเที่ยวด้วย อุ๊ยตายแล้ว” วินซ์ทำหน้าล้อเลียน “เป็นบุญของเธอแล้วที่ให้เสือยิ้มยากคนนั้นพาเที่ยวได้”
“ปกติเขาไม่เคยเหรอ...”
ถามเพื่อนแล้วเอรินเริ่มขยับตัวอึดอัด เพราะวินซ์เล่นจ้องตาหล่อนไม่กะพริบ แถมด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
แต่ครู่เดียวว่าที่เจ้าสาวก็ขอตัว
“ฉันไปดีกว่า เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เช้ามืด ฉันจะโทร.มาปลุกนะ”
เอรินได้แต่พยักหน้า ยังไม่ทันได้อธิบายให้วินซ์เข้าใจว่า ระหว่างหล่อนกับพ่อเสือยิ้มยากมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น วินซ์ก็ผละไปแล้ว
**************
วิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟจากริมแม่น้ำเทมส์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมพาร์ค พลาซ่านัก แต่ในเวลาเดียวกันนั้น แสงสีสวยงามจากวงล้อลอนดอนอายดับไปแล้ว บ่งบอกว่าเป็นเวลาเช้ามืดของอังกฤษ
เอรินรู้สึกตัวผุดลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นดูเวลา ตีสี่เป็นเวลาที่วินซ์นัดช่างแต่งหน้าทำผมสำหรับเพื่อนเจ้าสาวไว้ เพื่อพร้อมสำหรับพิธีเช้าที่โบสถ์
เอรินบิดขี้เกียจพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ในสมองยังจำภาพในความฝันก่อนตื่นนอนได้ชัดเจน
หล่อนฝันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเหมือนเคย ใบหน้าไม่ชัดนัก แต่ได้ยินเสียงของเขาชัดเจนทุกถ้อยคำ โดยเฉพาะน้ำเสียงบาดจิตที่คล้ายกับเสียงของซีอีโอหนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ...
“ฝันบ้าๆ อีกแล้ว” เอรินสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านนั้น
“จำเอาไว้ว่าเธอไม่ใช่นางเอกในนิยายนะ จะได้หลงรักเจ้าชายเพียงเพราะมีเสียงคล้ายกัน”
หล่อนถอนใจหนักหน่วงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร.หาเพื่อนรัก เพราะเห็นบอกไว้ว่าจะโทร.มาปลุก แต่กลับเงียบไปเลย รอสายอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าเพื่อนจะรับจนสายดับไปเอง
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะยายวี”
ไม่นานเสียงกริ่งหน้าประตูห้องก็ดังขึ้น
ร่างเพรียวบางหันหลังให้บานหน้าต่างห้อง ตรงไปที่ประตูมองผ่านช่องตาแมวเห็นเพื่อนรักแต่งหน้าฉ่ำยืนยิ้มเผล่อยู่ก็รีบเปิดประตูรับ
“ฉันโทร.หาทำไมไม่รับ” เอรินตัดพ้อทันทีที่เห็นหน้า
“ฉันเพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ตอนนี้ช่างก็กำลังรอทำผมอยู่ ฉันกลัวเธอจะไม่ตื่นเลยแวะมาดูเนี่ย”
“ฉันตื่นแล้ว เธอรีบกลับไปทำผมเถอะ”
“งั้นเธอแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปที่ห้องรับรองวีไอพีชั้นเดียวกับที่จัดงานเลยนะ ฉันสั่งอาหารเช้าไว้ให้แล้วด้วย อย่าลืมกินรองท้องก่อน พิธีนานจะเป็นลมเป็นแล้งเอา อ้อ! แล้วอย่าลืมรีบทำเวลาด้วยละ”
“โอเค อาบน้ำเสร็จจะรีบลงไปเลย”
เอรินรับปากแล้วรีบปิดประตูกลับเข้าห้องไปทันที โดยที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่า วินซ์เพื่อนรักยังคงยืนอ้าปากค้างอยู่หน้าห้อง เพราะยังพูดธุระไม่จบเลย เพื่อนเจ้าสาวเล่นหายเข้าห้องไปแล้ว
*********************
อะแฮ่มๆ สำหรับใครที่สนใจสั่งจอง ตอนนี้สนพ.เหลือของแถมเป็นแม็กเน็ตลายตัวละครจากนักเขียนอยู่แค่ 10 อันแล้วนะคะ >< ตื่นเต้นแทน5555 รีบๆ กันน้าาาา ขอบคุณนักอ่านที่สั่งจองแล้วด้วยค่ะ ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม ชื่นใจที่สุดเลย ฝากเอรินและชานนท์ด้วยนะคะ น่ารักและสนุกมว๊าก
รายละเอียดและช่องทางสั่งจอง คลิกที่ปุ่มอ่านเรื่องย่อด้านบนนะคะ^^
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
แต่อันที่จริงต้องบอกว่าเพราะเขายอมปล่อยตัวหล่อนมาได้แล้วมากกว่า หล่อนคงหมดประโยชน์สำหรับเขาแล้ว ไม่วายก่อนแยกกันที่รถชานนท์ยังอุตส่าห์หัวเราะขื่นๆ ส่งท้าย
‘ขอบคุณนะคุณ ที่ยอมอยู่เป็นเพื่อน ถือเสียว่าได้ฟังนิทานกล่อมนอนก็แล้วกัน’
‘ฉันโตแล้วนะคุณ งดฟังนิทานก่อนนอนมาชาติกว่าแล้ว’ เอรินแยกเขี้ยวใส่เขา
‘โอเค งั้นเปลี่ยนเป็นนิยายรักก่อนนอนก็ได้’ เขายอมหล่อนง่ายๆ ‘แต่ตอนจบพระเอกคงไม่มีวันได้สมหวังกับนางเอก ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าก็ตาม’
ชานนท์ถอนใจยืดยาว พร้อมสีหน้าที่บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกเช่นไร แต่ก็นับว่าดูดีกว่าเดิมมากแล้ว จึงส่งยิ้มอ่อนๆ ให้หล่อนตบท้าย
ตั้งแต่แยกกับชานนท์จนเข้าโรงแรมมา เอรินยังคงนึกถึงแต่สิ่งที่คุยกับเขา แล้วอดไม่ได้เผลอยิ้มกับตัวเองขณะก้าวออกมาจากลิฟต์ของโรงแรมชั้นที่หล่อนพัก
ไม่เพียงแค่คำขอบคุณแกมหยอกล้อของเขาเท่านั้น ภาพตอนที่เขาส่งยิ้มอ่อนๆ ให้หล่อนตบท้าย เป็นภาพที่หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เอรินสัมผัสได้ว่าชานนท์ยิ้มให้จากใจจริงแทนคำขอบคุณกวนๆ นั้น พานหน้าแดงก่ำ ใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนต้องแตะที่อกข้างซ้ายของตัวเอง
...คงเพราะความเหงา
ใช่ ต้องเป็นเหตุผลนี้แน่ๆ หล่อนถึงชอบรู้สึกแปลกๆ กับเขาตลอด
หล่อนอาจกำลังเป็นโรคโฮมซิก!
เอรินมัวแต่พยายามสงบจิตสงบใจตัวเอง กระทั่งเดินมาถึงหน้าห้องพัก
“ยายเอริน!”
คนถูกเรียกถึงกับสะดุ้งโหยง ชะงักฝีเท้าพลัน ทั้งตกใจทั้งประหลาดใจเมื่อเห็นวินซ์ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง!
“หายไปไหนมา ฉันให้รอที่ร้านทำไมไม่อยู่รอ” วินซ์ดีใจอย่างบอกไม่ถูก รีบตรงรี่เข้ามาจับเนื้อจับตัวเอรินสำรวจตรวจตราด้วยความเป็นห่วง ขณะที่เอรินยังคงมองเพื่อนอย่างงงๆ
“เธอมารอฉันนานแล้วเหรอ”
“ก็ใช่สิยะ พอดีฉันเสร็จธุระเร็วเลยกลับไปหาเธอที่ร้าน แต่ก็ไม่เจอแล้ว เด็กที่ร้านบอกว่าเธอออกไปกับคุณอเล็กซ์”
“อืมก็ใช่ แล้วตอนนี้ฉันก็เหนื่อยและง่วงมากเลย” เอรินตอบเนือยๆ
“ต๊าย! ไปไหนทำอะไรกันมายะ! แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์”
“มือถือแบตหมดน่ะ แต่คุณอเล็กซ์บอกว่าโทร.คุยกับเธอแล้วนี่”
ประโยคท้ายเอรินมีสีหน้าฉงนหนักกว่าเก่าเมื่อเพื่อนทำตาเล็กตาน้อย หรี่ตามองมาคล้ายจับผิด
“บอกอะไรกัน ถ้ารู้ฉันก็ไม่ต้องรีบไปรับเธอหรอก อ้อ ฉันซื้อซิมมาให้เธอด้วย เอาไปใส่โทรศัพท์เธอซะ เพื่อนฝูงจะได้ติดต่อได้”
“ขอบใจจ้ะ” เอรินรับซิมโทรศัพท์จากเพื่อน แล้วคืนเครื่องที่เพื่อนทิ้งไว้ให้ แต่ค่อนข้างทุลักทุเล จังหวะนั้นเองวินซ์เพิ่งสังเกตเห็นว่าเอรินหอบหิ้วชุดราตรีมาด้วยถึงสองชุด แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพราะเอรินยังคงสงสัย เอ่ยถามต่อ
“แล้วทำไมเธอไม่โทร.เข้าเบอร์คุณอเล็กซ์เขาล่ะ ไม่เห็นต้องแกร่วรอฉันเลย ฉันก็อยู่กับเขาตลอด เพิ่งแยกกันเมื่อกี้นี้เอง”
“นี่เขาอยู่กับเธอตลอดเลยเหรอ เหลือเชื่อ!” วินซ์ถึงกับตบอกอุทาน“ผู้ชายโลกส่วนตัวสูงขนาดนั้นคุยกับเธอรู้เรื่อง แถมอยู่ด้วยกันตลอด โอมายก้อด! อะเมซิ่งมาก หรือว่าเขาปิ๊งเธอ!”
“บ้า! อย่าพูดไปเรื่อย” เอรินตีเพียะเข้าให้ที่หัวไหล่เพื่อน
“เขาแค่ใจดีพาไปเลี้ยงข้าว กับพาไปเที่ยวที่อื่นอีกนิดหน่อยเอง”
“พาเที่ยวด้วย อุ๊ยตายแล้ว” วินซ์ทำหน้าล้อเลียน “เป็นบุญของเธอแล้วที่ให้เสือยิ้มยากคนนั้นพาเที่ยวได้”
“ปกติเขาไม่เคยเหรอ...”
ถามเพื่อนแล้วเอรินเริ่มขยับตัวอึดอัด เพราะวินซ์เล่นจ้องตาหล่อนไม่กะพริบ แถมด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
แต่ครู่เดียวว่าที่เจ้าสาวก็ขอตัว
“ฉันไปดีกว่า เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เช้ามืด ฉันจะโทร.มาปลุกนะ”
เอรินได้แต่พยักหน้า ยังไม่ทันได้อธิบายให้วินซ์เข้าใจว่า ระหว่างหล่อนกับพ่อเสือยิ้มยากมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น วินซ์ก็ผละไปแล้ว
**************
วิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟจากริมแม่น้ำเทมส์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมพาร์ค พลาซ่านัก แต่ในเวลาเดียวกันนั้น แสงสีสวยงามจากวงล้อลอนดอนอายดับไปแล้ว บ่งบอกว่าเป็นเวลาเช้ามืดของอังกฤษ
เอรินรู้สึกตัวผุดลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นดูเวลา ตีสี่เป็นเวลาที่วินซ์นัดช่างแต่งหน้าทำผมสำหรับเพื่อนเจ้าสาวไว้ เพื่อพร้อมสำหรับพิธีเช้าที่โบสถ์
เอรินบิดขี้เกียจพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ในสมองยังจำภาพในความฝันก่อนตื่นนอนได้ชัดเจน
หล่อนฝันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเหมือนเคย ใบหน้าไม่ชัดนัก แต่ได้ยินเสียงของเขาชัดเจนทุกถ้อยคำ โดยเฉพาะน้ำเสียงบาดจิตที่คล้ายกับเสียงของซีอีโอหนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ...
“ฝันบ้าๆ อีกแล้ว” เอรินสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านนั้น
“จำเอาไว้ว่าเธอไม่ใช่นางเอกในนิยายนะ จะได้หลงรักเจ้าชายเพียงเพราะมีเสียงคล้ายกัน”
หล่อนถอนใจหนักหน่วงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร.หาเพื่อนรัก เพราะเห็นบอกไว้ว่าจะโทร.มาปลุก แต่กลับเงียบไปเลย รอสายอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าเพื่อนจะรับจนสายดับไปเอง
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะยายวี”
ไม่นานเสียงกริ่งหน้าประตูห้องก็ดังขึ้น
ร่างเพรียวบางหันหลังให้บานหน้าต่างห้อง ตรงไปที่ประตูมองผ่านช่องตาแมวเห็นเพื่อนรักแต่งหน้าฉ่ำยืนยิ้มเผล่อยู่ก็รีบเปิดประตูรับ
“ฉันโทร.หาทำไมไม่รับ” เอรินตัดพ้อทันทีที่เห็นหน้า
“ฉันเพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ตอนนี้ช่างก็กำลังรอทำผมอยู่ ฉันกลัวเธอจะไม่ตื่นเลยแวะมาดูเนี่ย”
“ฉันตื่นแล้ว เธอรีบกลับไปทำผมเถอะ”
“งั้นเธอแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปที่ห้องรับรองวีไอพีชั้นเดียวกับที่จัดงานเลยนะ ฉันสั่งอาหารเช้าไว้ให้แล้วด้วย อย่าลืมกินรองท้องก่อน พิธีนานจะเป็นลมเป็นแล้งเอา อ้อ! แล้วอย่าลืมรีบทำเวลาด้วยละ”
“โอเค อาบน้ำเสร็จจะรีบลงไปเลย”
เอรินรับปากแล้วรีบปิดประตูกลับเข้าห้องไปทันที โดยที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่า วินซ์เพื่อนรักยังคงยืนอ้าปากค้างอยู่หน้าห้อง เพราะยังพูดธุระไม่จบเลย เพื่อนเจ้าสาวเล่นหายเข้าห้องไปแล้ว
*********************
อะแฮ่มๆ สำหรับใครที่สนใจสั่งจอง ตอนนี้สนพ.เหลือของแถมเป็นแม็กเน็ตลายตัวละครจากนักเขียนอยู่แค่ 10 อันแล้วนะคะ >< ตื่นเต้นแทน5555 รีบๆ กันน้าาาา ขอบคุณนักอ่านที่สั่งจองแล้วด้วยค่ะ ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม ชื่นใจที่สุดเลย ฝากเอรินและชานนท์ด้วยนะคะ น่ารักและสนุกมว๊าก
รายละเอียดและช่องทางสั่งจอง คลิกที่ปุ่มอ่านเรื่องย่อด้านบนนะคะ^^
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2562, 12:27:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2562, 14:23:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 586
<< บทที่ 4 -50% | บทที่ 5 -50% >> |