กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 16 -100%
เที่ยวบินจากโรมแล่นลงแตะรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เช้าตรู่ ชานนท์นั่งมองผู้โดยสารทยอยลงจากเครื่องอย่างใจเย็น เกือบยี่สิบปีที่จากไป กรุงเทพมหานครเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเพียงแค่มองด้วยตาเปล่าจากหน้าต่างก่อนเครื่องบินจะแล่นลงจอด
หากทว่าท่าทีนิ่งเฉยของชานนท์นั้น ดึงดูดความสนใจสาวลูกครึ่งที่นั่งอยู่ข้างกันมาตลอดการเดินทาง เอ่ยทักเขาเป็นภาษาไทยแบบกระท่อนกระแท่นทำนองชวนคุย ยังไม่ลุกออกไปเช่นกัน
“มาคนเดียวหรือคะ”
“ครับ” ชานนท์ยิ้มให้ แต่หารู้ไม่ว่าแค่คำตอบสั้นๆ ของเขายังผลให้เจ้าหล่อนเผยยิ้มกว้าง ส่งสายตาหวานฉ่ำ
“เหมือนกันเลยค่ะ ต้องการเพื่อนร่วมเดินทางไหมคะ”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ ผมมีคนที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกันแล้ว ขอบคุณนะครับ” ชานนท์พยายามปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุด ก่อนจะค้อมศีรษะให้แล้วลุกเดินตัวปลิวจากไป
ทันทีที่พ้นประตูผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชานนท์ก็ยิ้มกว้าง เดินตรงไปหาสองสามีภรรยาที่ยืนรออยู่ไม่ไกล สิมิลันนั่นเอง เจ้าหล่อนดูตื่นเต้นไม่น้อย ข้างกายมีอธิปกยืนโบกมือให้สัญญาณเป็นระยะ ชานนท์เห็นก็โบกมือทักกลับก่อนจะเดินเข้าไปหา
“ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยค่ะพี่นนท์ คุณพ่อบอกว่าพี่นนท์จะมาวันนี้ มินก็เลยชวนโอมมารับพี่นนท์ค่ะ”
“ขอบใจมาก...ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะนายโอม” ประโยคหลังชานนท์หันมาตบบ่าอธิปกอย่างสนิทสนมเช่นทุกครั้งที่เจอะเจอกัน
“สบายดีนะพี่ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นพี่กลับมาเมืองไทย มินเขารบเร้าให้ผมพามารับพี่ให้ได้เลย นี่ก็เลยทิ้งลูกไว้ให้คุณปู่คุณย่าเขาดูแล” อธิปกเองก็ทักทายชานนท์กลับอย่างเป็นกันเองเช่นกัน แล้วหันไปโอบเอวสิมิลันอย่างรักใคร่
ถ้าเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อน ภาพสองสามีภรรยาที่มีแต่รอยยิ้มสดใสให้กัน คงเป็นภาพบาดตาบาดใจชานนท์ไม่น้อย แต่ตอนนี้อะไรๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เขากลับมีแต่ความรู้สึกยินดีและพลอยยิ้มมีความสุขตามไปด้วย ที่ในที่สุดสิมิลัน ก็ได้อยู่กับผู้ชายที่หล่อนรัก ซึ่งก็คืออธิปก ทั้งสองตกลงแต่งงานกันหลังจากที่สิมิลันปฏิเสธชานนท์ที่ลอนดอน และกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยด้วยกันได้สักพักแล้วพร้อมลูกชายตัวน้อยของทั้งสองอย่างที่ควรจะเป็น
“เอ...มินดูอวบขึ้นนะพี่ว่า จะมีข่าวดีหรือเปล่า”
ชานนท์เอ่ยเย้าระหว่างที่เดินออกมาจากสนามบินโดยมีอธิปกช่วยลากกระเป๋าให้อยู่รั้งท้าย
“แหงล่ะ ก็เรากำลังเร่งมีน้องให้อาร์มอยู่” คนตอบเป็นอธิปกเลยถูกสิมิลันทำตาเขียวใส่ รีบหันมาบอกพี่ชายหน้าแดงก่ำ
“อย่าไปฟังนะพี่นนท์ โอมก็พูดไปเรื่อย”
“ฮ่าๆๆ ฉันว่านายเตรียมตัวเป็นคุณพ่อลูกสองได้เลย” ชานนท์เอ่ยกลั้วหัวเราะ “แต่คราวนี้ต้องดูแลกันเองแล้วนะ ฉันไม่อยู่ช่วยแล้ว มีภารกิจต้องไปตามหายายตัวยุ่งจอมป่วน”
“โอ้ เปิดเผยนะพี่ จะตกลงปลงใจกับยายเอรินแน่แล้วใช่ไหม ระวังนางพูดจนลิงหลับหูดับเลยนะพี่” พูดถึงเอรินแล้วอธิปกก็อดไม่ได้ขำเสียเอง เขายังจำสาวน้อยมากวีรกรรมคนนั้นได้ดี โดยเฉพาะตอนที่ปะทะฝีปากกันบนเครื่องบินขาไปลอนดอน นึกแล้วเขายังขยาดไม่หาย
“นี่แน่ะ” สิมิลันตีแขนสามี “ปากคอเราะร้ายใหญ่แล้วนะคะโอม ไปแซวอะไรเอรินเขาแบบนั้น”
“โอเคจ้า ไม่พูดแล้วจ้า”
อธิปกยอมภรรยาทันทีเสียงอ่อนเสียงหวานเรียกเสียงหัวเราะจากชานนท์ได้อีกรอบ ถูกใจที่เห็นน้องเขยอยู่ในโอวาท ไม่กล้าหืออือกับสิมิลัน
แต่จะว่าไปก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่รายนั้นพูดมา เรื่องจริงทุกคำ!
ชานนท์เลยเอ่ยยิ้มๆ ว่า
“ถ้าเป็นคนอื่นพี่ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน แต่กับเอรินพี่ยอมให้บ่นหูดับเลย นึกถึงหน้าตาเหลอหลากับแก้มยุ้ยน่าหยิกแล้วมันเขี้ยวนัก”
****************
ฮัดชิ้ววววว
“เอริน เป็นอะไรลูก ไม่สบายรึเปล่า” อติมาถามด้วยความเป็นห่วง
เอรินหน้ามุ่ยทำจมูกฟุดฟิด “ไม่หรอกจ้ะแม่ หนูรู้สึกเหมือนโดนใครนินทามากกว่า”
“ใครเขาจะมานินทาเรา ลูกคนนี้” อติมาส่ายหน้า “นี่แหละผลของการเที่ยวเล่นทั้งวัน เจอทั้งไอแดดลมทะเล แม่ยังไม่ได้ชำระความที่แอบไปบ้านร้างคนเดียวเลยนะ”
“โธ่ แม่คะ ก็แค่แดดแรงเอง หนูเลยมึนหัวนิดหน่อย”
“ไม่รู้ล่ะ คราวหน้าจะไปไหนทำอะไรให้บอกแม่ด้วย ลูกยิ่งไม่ค่อยแข็งแรงอยู่”
“ก็ได้ค่ะ ต่อไปนี้หนูจะรายงานแม่ทุกอย่างเลย” คนโดนบ่นยิ้มแป้นรับคำโดยดี แล้วรีบทำทีกระตือรือร้นขึ้นมาทันใด
“งั้นหนูไปดูวิลลาต้นไม้ดีกว่า เกือบเสร็จแล้วใช่ไหมคะพ่อ” เอรินหันไปถามบิดาถึงส่วนที่พักใหม่ของโฮมสเตย์ ซึ่งเตรียมจะเปิดให้บริการแล้วแต่ยังไม่เสร็จดีนัก
พัชระนั้นเพิ่งกลับมาจากออกไปส่งแขกที่หน้าบ้าน พอลูกสาวหันมาคุยด้วยเลยเดินเข้ามาร่วมวงสองแม่ลูก
“ตื่นเต้นสิเรา ฝากขอบคุณเพื่อนลูกด้วยนะที่อุตส่าห์ออกแบบให้ฟรี ดูสวยมีสไตล์มาก”
“คุณมินเธอเป็นคนเก่งค่ะ” เอรินเอ่ยถึง ‘เพื่อน’ แล้วมีรอยยิ้มฝาดเฝื่อนไม่รู้ตัว
ใช่ เพื่อนที่บิดาของหล่อนหมายถึง...คือสิมิลันนั่นเอง!
เอรินรู้เรื่องที่สิมิลันแต่งงานกับอธิปกและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยนานแล้ว เพราะหล่อนมักนำใบโบรชัวร์บ้านสวนไปฝากวางที่บริษัททัวร์ของอธิปกอยู่บ่อยๆ เลยเจอกับสิมิลันเข้า ทั้งสองมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากบ้านสวนโฮมสเตย์ของเอรินนัก หลังจากนั้นมาทั้งหล่อนทั้งสิมิลันเลยไปมาหาสู่สนิทสนมกัน ถึงขั้นที่สิมิลันพอรู้เรื่องที่บ้านของเอรินจะเปิดส่วนที่พักใหม่ ก็อาสาออกแบบให้โดยไม่คิดเงินสักบาท เอรินยอมรับเลยว่าสิมิลันเป็นสถาปนิกฝีมือดีอย่างที่ ‘เขาคนนั้น’ เคยบอกไว้จริงๆ เพราะสามารถนิรมิตวิลลาต้นไม้ออกมาได้สวยถูกใจบิดาของหล่อนอยู่ไม่น้อย ถึงกับออกปากชม
“หนูว่าจะหาของฝากไปให้คุณมิน ตอบแทนที่เธอออกแบบบ้านพักให้เรา พ่อว่าดีไหมคะ พอหนูไปช่วยงานยักษ์ที่กรุงเทพฯ แล้วคงไม่ได้เจอกันอีกนาน”
“งั้นไปวันไหนบอกนะลูก แม่จะฝากปิ่นโตชุดใหญ่ไปขอบคุณด้วย”
“จ้าแม่ แต่ตอนนี้หนูขอไปดูวิลลาต้นไม้ก่อนนะ อยากรู้จังว่าไปถึงไหนแล้ว” บอกมารดาเรียบร้อยเอรินก็วิ่งแจ้นออกจากบ้านไปทันที
คนเป็นแม่เพิ่งพูดไม่ทันขาดคำถึงกับส่ายหัว แต่ยิ้มขำเอ็นดู
“ดู๊ดูเจ้าลูกคนนี้ เพิ่งบอกหยกๆ เผลอแป๊บเดียววิ่งปรู๊ดไปโน่นแล้ว...จะมีแขกมาพักที่วิลลาต้นไม้แล้วเหรอพ่อ”
“ยังหรอกแม่ แต่มีรายแรกจองเข้ามาแล้ว กะอยู่นานแถมไม่เกี่ยงราคาด้วย เราคงสบายถ้าได้แขกกล้าจ่ายแบบนี้สักสิบคน”
“ทำไมเร็วจัง บ้านยังเสร็จไม่เรียบร้อยดีเลย พ่อเอาลงเว็บแล้วหรือ”
พัชระสั่นหน้าแล้วขมวดคิ้วครุ่นคิดต่อ
“นี่ละที่พ่อยังสงสัย แขกรู้ได้ยังไงว่าที่พักใหม่ของเรากำลังจะเปิดจองแล้ว”
พัชระเปิดแฟ้มหาใบจองของแขกที่ว่าส่งให้ภรรยาดู ซึ่งเพิ่งโทร.มาจองกับเขาเมื่อวาน แจ้งความจำนงชัดเจนว่าจะขอเข้าพักที่วิลลาต้นไม้เร็วๆ นี้ ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่
“หืม หนึ่งเดือนเต็มเลยหรือพ่อ...แสดงว่าเขาต้องเคยมาพักบ้านเราแน่ จองยาวหนึ่งเดือนนี่ไม่ธรรมดานะ คูณราคาห้องคืนละตั้งเท่าไร”
“ถ้าเงินไม่เหลือเฟือจริงๆ ก็คงเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายมาก เราต้องรับรองเขาให้ดีล่ะ อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียว”
พัชระกำชับภรรยาระคนอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
ช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี้บ้านสวนโฮมสเตย์ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะมีพวกนายทุนเข้ามากว้านซื้อที่กันเป็นจำนวนมาก รีสอร์ตขนาดใหญ่ก็ผุดตามกันมาอย่างกับดอกเห็ด โฮมสเตย์ของเขาซึ่งเป็นแค่กิจการเล็กๆ เลยนักท่องเที่ยวหดหาย แต่ยังดีที่ยังพออยู่พอกิน เหตุนี้พัชระเลยตัดสินใจเปิดส่วนที่พักใหม่เพิ่มซึ่งก็คือวิลลาต้นไม้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแยกจากตัวบ้านใหญ่ เนื่องจากเดิมทีบ้านสวนโฮมสเตย์เริ่มจากแค่ต่อเติมจากบ้านหลังเก่าที่เป็นมรดกตกทอดรุ่นสู่รุ่น ที่นี่จึงมีลักษณะแปลกแยกจากรีสอร์ตทั่วไป เพราะเป็นบ้านยกโบราณอยุธยาตามพื้นดั้งเดิมของปู่ที่เป็นคนภาคกลาง และมาเสริมต่อเติมชั้นล่างเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบบลองสเตย์
“แม่ดีใจจังเลยพ่อ อย่างน้อยหน้าโลว์แบบนี้ เราก็จะได้สบายใจไปเปลาะนึงว่ามีเงินจ่ายหนี้แบงค์ได้แน่”
“พ่อก็เหมือนกัน เอ้อ ขอดูชื่ออีกทีซิแม่ ทำไมพ่อไม่คุ้นเลย” ว่าแล้วพัชระก็ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเพ่งสายตาอ่านชื่อแขกในใบจอง
“ชานนท์ คิม...น่าจะเป็นคนเกาหลี”
สองสามีภรรยามองหน้ากันรู้สึกกังวลลึกๆ กลัวรับรองแขกได้ไม่ดีพอ แต่ขณะเดียวกันทั้งสองก็ดีใจไปกว่าครึ่งแล้ว เพราะการมาของแขกที่ชื่อ ‘ชานนท์ คิม’ นั้นหมายถึงรายได้ระยะยาวที่จะเข้าสู่บ้านสวนโฮมสเตย์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเริ่มขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
**************
ebook โหลดได้ที่เว็บ mebmarket
กระซิบรักฯ จำนวน 624 หน้า
ตอนนี้ยังอยู่ช่วงโปรโมชั่นสั่งซื้อออนไลน์อยู่นะคะ ในราคา 385 บาท (จากราคาปก 445 บาท) ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
หมดเขต 18 ตุลาคม 2562
**สั่งซื้อได้โดย inbox เข้ามาที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ แจ้งว่าต้องการสั่งซื้อกระซิบรักนะคะ และแอดมินจะแจ้งเลขบัญชีสำหรับโอนเงินให้ทราบ และส่งหนังสือให้เป็นลำดับถัดไปค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
หากทว่าท่าทีนิ่งเฉยของชานนท์นั้น ดึงดูดความสนใจสาวลูกครึ่งที่นั่งอยู่ข้างกันมาตลอดการเดินทาง เอ่ยทักเขาเป็นภาษาไทยแบบกระท่อนกระแท่นทำนองชวนคุย ยังไม่ลุกออกไปเช่นกัน
“มาคนเดียวหรือคะ”
“ครับ” ชานนท์ยิ้มให้ แต่หารู้ไม่ว่าแค่คำตอบสั้นๆ ของเขายังผลให้เจ้าหล่อนเผยยิ้มกว้าง ส่งสายตาหวานฉ่ำ
“เหมือนกันเลยค่ะ ต้องการเพื่อนร่วมเดินทางไหมคะ”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ ผมมีคนที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกันแล้ว ขอบคุณนะครับ” ชานนท์พยายามปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุด ก่อนจะค้อมศีรษะให้แล้วลุกเดินตัวปลิวจากไป
ทันทีที่พ้นประตูผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชานนท์ก็ยิ้มกว้าง เดินตรงไปหาสองสามีภรรยาที่ยืนรออยู่ไม่ไกล สิมิลันนั่นเอง เจ้าหล่อนดูตื่นเต้นไม่น้อย ข้างกายมีอธิปกยืนโบกมือให้สัญญาณเป็นระยะ ชานนท์เห็นก็โบกมือทักกลับก่อนจะเดินเข้าไปหา
“ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยค่ะพี่นนท์ คุณพ่อบอกว่าพี่นนท์จะมาวันนี้ มินก็เลยชวนโอมมารับพี่นนท์ค่ะ”
“ขอบใจมาก...ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะนายโอม” ประโยคหลังชานนท์หันมาตบบ่าอธิปกอย่างสนิทสนมเช่นทุกครั้งที่เจอะเจอกัน
“สบายดีนะพี่ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นพี่กลับมาเมืองไทย มินเขารบเร้าให้ผมพามารับพี่ให้ได้เลย นี่ก็เลยทิ้งลูกไว้ให้คุณปู่คุณย่าเขาดูแล” อธิปกเองก็ทักทายชานนท์กลับอย่างเป็นกันเองเช่นกัน แล้วหันไปโอบเอวสิมิลันอย่างรักใคร่
ถ้าเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อน ภาพสองสามีภรรยาที่มีแต่รอยยิ้มสดใสให้กัน คงเป็นภาพบาดตาบาดใจชานนท์ไม่น้อย แต่ตอนนี้อะไรๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เขากลับมีแต่ความรู้สึกยินดีและพลอยยิ้มมีความสุขตามไปด้วย ที่ในที่สุดสิมิลัน ก็ได้อยู่กับผู้ชายที่หล่อนรัก ซึ่งก็คืออธิปก ทั้งสองตกลงแต่งงานกันหลังจากที่สิมิลันปฏิเสธชานนท์ที่ลอนดอน และกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยด้วยกันได้สักพักแล้วพร้อมลูกชายตัวน้อยของทั้งสองอย่างที่ควรจะเป็น
“เอ...มินดูอวบขึ้นนะพี่ว่า จะมีข่าวดีหรือเปล่า”
ชานนท์เอ่ยเย้าระหว่างที่เดินออกมาจากสนามบินโดยมีอธิปกช่วยลากกระเป๋าให้อยู่รั้งท้าย
“แหงล่ะ ก็เรากำลังเร่งมีน้องให้อาร์มอยู่” คนตอบเป็นอธิปกเลยถูกสิมิลันทำตาเขียวใส่ รีบหันมาบอกพี่ชายหน้าแดงก่ำ
“อย่าไปฟังนะพี่นนท์ โอมก็พูดไปเรื่อย”
“ฮ่าๆๆ ฉันว่านายเตรียมตัวเป็นคุณพ่อลูกสองได้เลย” ชานนท์เอ่ยกลั้วหัวเราะ “แต่คราวนี้ต้องดูแลกันเองแล้วนะ ฉันไม่อยู่ช่วยแล้ว มีภารกิจต้องไปตามหายายตัวยุ่งจอมป่วน”
“โอ้ เปิดเผยนะพี่ จะตกลงปลงใจกับยายเอรินแน่แล้วใช่ไหม ระวังนางพูดจนลิงหลับหูดับเลยนะพี่” พูดถึงเอรินแล้วอธิปกก็อดไม่ได้ขำเสียเอง เขายังจำสาวน้อยมากวีรกรรมคนนั้นได้ดี โดยเฉพาะตอนที่ปะทะฝีปากกันบนเครื่องบินขาไปลอนดอน นึกแล้วเขายังขยาดไม่หาย
“นี่แน่ะ” สิมิลันตีแขนสามี “ปากคอเราะร้ายใหญ่แล้วนะคะโอม ไปแซวอะไรเอรินเขาแบบนั้น”
“โอเคจ้า ไม่พูดแล้วจ้า”
อธิปกยอมภรรยาทันทีเสียงอ่อนเสียงหวานเรียกเสียงหัวเราะจากชานนท์ได้อีกรอบ ถูกใจที่เห็นน้องเขยอยู่ในโอวาท ไม่กล้าหืออือกับสิมิลัน
แต่จะว่าไปก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่รายนั้นพูดมา เรื่องจริงทุกคำ!
ชานนท์เลยเอ่ยยิ้มๆ ว่า
“ถ้าเป็นคนอื่นพี่ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน แต่กับเอรินพี่ยอมให้บ่นหูดับเลย นึกถึงหน้าตาเหลอหลากับแก้มยุ้ยน่าหยิกแล้วมันเขี้ยวนัก”
****************
ฮัดชิ้ววววว
“เอริน เป็นอะไรลูก ไม่สบายรึเปล่า” อติมาถามด้วยความเป็นห่วง
เอรินหน้ามุ่ยทำจมูกฟุดฟิด “ไม่หรอกจ้ะแม่ หนูรู้สึกเหมือนโดนใครนินทามากกว่า”
“ใครเขาจะมานินทาเรา ลูกคนนี้” อติมาส่ายหน้า “นี่แหละผลของการเที่ยวเล่นทั้งวัน เจอทั้งไอแดดลมทะเล แม่ยังไม่ได้ชำระความที่แอบไปบ้านร้างคนเดียวเลยนะ”
“โธ่ แม่คะ ก็แค่แดดแรงเอง หนูเลยมึนหัวนิดหน่อย”
“ไม่รู้ล่ะ คราวหน้าจะไปไหนทำอะไรให้บอกแม่ด้วย ลูกยิ่งไม่ค่อยแข็งแรงอยู่”
“ก็ได้ค่ะ ต่อไปนี้หนูจะรายงานแม่ทุกอย่างเลย” คนโดนบ่นยิ้มแป้นรับคำโดยดี แล้วรีบทำทีกระตือรือร้นขึ้นมาทันใด
“งั้นหนูไปดูวิลลาต้นไม้ดีกว่า เกือบเสร็จแล้วใช่ไหมคะพ่อ” เอรินหันไปถามบิดาถึงส่วนที่พักใหม่ของโฮมสเตย์ ซึ่งเตรียมจะเปิดให้บริการแล้วแต่ยังไม่เสร็จดีนัก
พัชระนั้นเพิ่งกลับมาจากออกไปส่งแขกที่หน้าบ้าน พอลูกสาวหันมาคุยด้วยเลยเดินเข้ามาร่วมวงสองแม่ลูก
“ตื่นเต้นสิเรา ฝากขอบคุณเพื่อนลูกด้วยนะที่อุตส่าห์ออกแบบให้ฟรี ดูสวยมีสไตล์มาก”
“คุณมินเธอเป็นคนเก่งค่ะ” เอรินเอ่ยถึง ‘เพื่อน’ แล้วมีรอยยิ้มฝาดเฝื่อนไม่รู้ตัว
ใช่ เพื่อนที่บิดาของหล่อนหมายถึง...คือสิมิลันนั่นเอง!
เอรินรู้เรื่องที่สิมิลันแต่งงานกับอธิปกและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยนานแล้ว เพราะหล่อนมักนำใบโบรชัวร์บ้านสวนไปฝากวางที่บริษัททัวร์ของอธิปกอยู่บ่อยๆ เลยเจอกับสิมิลันเข้า ทั้งสองมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากบ้านสวนโฮมสเตย์ของเอรินนัก หลังจากนั้นมาทั้งหล่อนทั้งสิมิลันเลยไปมาหาสู่สนิทสนมกัน ถึงขั้นที่สิมิลันพอรู้เรื่องที่บ้านของเอรินจะเปิดส่วนที่พักใหม่ ก็อาสาออกแบบให้โดยไม่คิดเงินสักบาท เอรินยอมรับเลยว่าสิมิลันเป็นสถาปนิกฝีมือดีอย่างที่ ‘เขาคนนั้น’ เคยบอกไว้จริงๆ เพราะสามารถนิรมิตวิลลาต้นไม้ออกมาได้สวยถูกใจบิดาของหล่อนอยู่ไม่น้อย ถึงกับออกปากชม
“หนูว่าจะหาของฝากไปให้คุณมิน ตอบแทนที่เธอออกแบบบ้านพักให้เรา พ่อว่าดีไหมคะ พอหนูไปช่วยงานยักษ์ที่กรุงเทพฯ แล้วคงไม่ได้เจอกันอีกนาน”
“งั้นไปวันไหนบอกนะลูก แม่จะฝากปิ่นโตชุดใหญ่ไปขอบคุณด้วย”
“จ้าแม่ แต่ตอนนี้หนูขอไปดูวิลลาต้นไม้ก่อนนะ อยากรู้จังว่าไปถึงไหนแล้ว” บอกมารดาเรียบร้อยเอรินก็วิ่งแจ้นออกจากบ้านไปทันที
คนเป็นแม่เพิ่งพูดไม่ทันขาดคำถึงกับส่ายหัว แต่ยิ้มขำเอ็นดู
“ดู๊ดูเจ้าลูกคนนี้ เพิ่งบอกหยกๆ เผลอแป๊บเดียววิ่งปรู๊ดไปโน่นแล้ว...จะมีแขกมาพักที่วิลลาต้นไม้แล้วเหรอพ่อ”
“ยังหรอกแม่ แต่มีรายแรกจองเข้ามาแล้ว กะอยู่นานแถมไม่เกี่ยงราคาด้วย เราคงสบายถ้าได้แขกกล้าจ่ายแบบนี้สักสิบคน”
“ทำไมเร็วจัง บ้านยังเสร็จไม่เรียบร้อยดีเลย พ่อเอาลงเว็บแล้วหรือ”
พัชระสั่นหน้าแล้วขมวดคิ้วครุ่นคิดต่อ
“นี่ละที่พ่อยังสงสัย แขกรู้ได้ยังไงว่าที่พักใหม่ของเรากำลังจะเปิดจองแล้ว”
พัชระเปิดแฟ้มหาใบจองของแขกที่ว่าส่งให้ภรรยาดู ซึ่งเพิ่งโทร.มาจองกับเขาเมื่อวาน แจ้งความจำนงชัดเจนว่าจะขอเข้าพักที่วิลลาต้นไม้เร็วๆ นี้ ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่
“หืม หนึ่งเดือนเต็มเลยหรือพ่อ...แสดงว่าเขาต้องเคยมาพักบ้านเราแน่ จองยาวหนึ่งเดือนนี่ไม่ธรรมดานะ คูณราคาห้องคืนละตั้งเท่าไร”
“ถ้าเงินไม่เหลือเฟือจริงๆ ก็คงเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายมาก เราต้องรับรองเขาให้ดีล่ะ อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียว”
พัชระกำชับภรรยาระคนอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
ช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี้บ้านสวนโฮมสเตย์ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะมีพวกนายทุนเข้ามากว้านซื้อที่กันเป็นจำนวนมาก รีสอร์ตขนาดใหญ่ก็ผุดตามกันมาอย่างกับดอกเห็ด โฮมสเตย์ของเขาซึ่งเป็นแค่กิจการเล็กๆ เลยนักท่องเที่ยวหดหาย แต่ยังดีที่ยังพออยู่พอกิน เหตุนี้พัชระเลยตัดสินใจเปิดส่วนที่พักใหม่เพิ่มซึ่งก็คือวิลลาต้นไม้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแยกจากตัวบ้านใหญ่ เนื่องจากเดิมทีบ้านสวนโฮมสเตย์เริ่มจากแค่ต่อเติมจากบ้านหลังเก่าที่เป็นมรดกตกทอดรุ่นสู่รุ่น ที่นี่จึงมีลักษณะแปลกแยกจากรีสอร์ตทั่วไป เพราะเป็นบ้านยกโบราณอยุธยาตามพื้นดั้งเดิมของปู่ที่เป็นคนภาคกลาง และมาเสริมต่อเติมชั้นล่างเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบบลองสเตย์
“แม่ดีใจจังเลยพ่อ อย่างน้อยหน้าโลว์แบบนี้ เราก็จะได้สบายใจไปเปลาะนึงว่ามีเงินจ่ายหนี้แบงค์ได้แน่”
“พ่อก็เหมือนกัน เอ้อ ขอดูชื่ออีกทีซิแม่ ทำไมพ่อไม่คุ้นเลย” ว่าแล้วพัชระก็ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเพ่งสายตาอ่านชื่อแขกในใบจอง
“ชานนท์ คิม...น่าจะเป็นคนเกาหลี”
สองสามีภรรยามองหน้ากันรู้สึกกังวลลึกๆ กลัวรับรองแขกได้ไม่ดีพอ แต่ขณะเดียวกันทั้งสองก็ดีใจไปกว่าครึ่งแล้ว เพราะการมาของแขกที่ชื่อ ‘ชานนท์ คิม’ นั้นหมายถึงรายได้ระยะยาวที่จะเข้าสู่บ้านสวนโฮมสเตย์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเริ่มขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
**************
ebook โหลดได้ที่เว็บ mebmarket
กระซิบรักฯ จำนวน 624 หน้า
ตอนนี้ยังอยู่ช่วงโปรโมชั่นสั่งซื้อออนไลน์อยู่นะคะ ในราคา 385 บาท (จากราคาปก 445 บาท) ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
หมดเขต 18 ตุลาคม 2562
**สั่งซื้อได้โดย inbox เข้ามาที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ แจ้งว่าต้องการสั่งซื้อกระซิบรักนะคะ และแอดมินจะแจ้งเลขบัญชีสำหรับโอนเงินให้ทราบ และส่งหนังสือให้เป็นลำดับถัดไปค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ต.ค. 2562, 09:17:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ต.ค. 2562, 09:17:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 535
<< บทที่ 16 -60% | บทที่ 17 -60% + โปรโมชั่นทิ้งทวนงานหนังสือ >> |