กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 17 -60% + โปรโมชั่นทิ้งทวนงานหนังสือ
วันนี้โผล่มาดึกเลยค่ะ>< มัวแต่ปั่นงาน มาพร้อมโปรโมชั่นทิ้งทวนก่อนหมดงานหนังสือด้วย เผื่อใครสนใจหลายเรื่อง สนพ.จัดโปรฯ Special Price ให้ค่ะ^^ ก็คือสั่งซื้อขั้นต่ำ 3 เล่ม ได้ลดอีก 100 บาททันที โปรฯ นี้แค่ 5 วันเท่านั้น!!
รายละเอียดใส่ไว้ให้ท้ายเรื่องนะคะ
*************
รถบีเอ็มดับบลิวคันสีดำสนิทของอธิปก แล่นปราดเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หรูโบราณย่านชานเมืองแห่งหนึ่ง เป็นคฤหาสน์ของ ‘สิทธิ์’ ชายผู้ซึ่งรับอุปการะชานนท์เอาไว้ตั้งแต่อายุได้เพียงสิบแปดปี หลังจากที่ฟื้นจากอุบัติเหตุและสูญเสียครอบครัวไปอย่างกะทันหัน ตอนนั้นชานนท์บาดเจ็บสาหัสและตกอยู่ในสภาวะช็อกจำอะไรไม่ได้ สิทธิ์สงสารเขาจึงรับไว้ในความดูแล
ถึงอย่างนั้น สิทธิ์มีลูกสาวอยู่แล้วสองคน ซึ่งก็คือ สริน ลูกสาวคนโต และสิมิลัน ลูกสาวคนเล็ก และด้วยความที่ทั้งสองเป็นลูกสาวต่างมารดา จึงเป็นเรื่องให้บาดหมางใจกันมาตลอด รวมทั้งเรื่องของอธิปกด้วย ยังดีที่สุดท้ายสรินแต่งงานใหม่ไปแล้ว เพราะอันที่จริงเจ้าหล่อนก็ไม่ได้รักใคร่อธิปก แต่ที่แต่งงานกับอธิปกแต่แรกเพียงแค่ต้องการแก้แค้นเท่านั้น เนื่องจากมารดาของสิมิลันทำให้มารดาของหล่อนต้องอยู่อย่างทุกข์ระทม หล่อนจึงใช้ความรักที่สิมิลันมีให้อธิปกเป็นเครื่องมือสร้างความเจ็บปวดแก่มารดาของสิมิลัน
แต่ทว่าตอนนี้สองพี่น้องอโหสิต่อกันแล้ว ทุกสิ่งแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้เพียงเพราะต่างฝ่ายต่าง ‘อภัย’ ให้กัน สิมิลันจึงได้ปรับความเข้าใจกับอธิปก และแต่งงานกันที่ลอนดอนก่อนจะย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยอย่างที่เห็น
“พี่นนท์คะ เข้าบ้านเถอะค่ะ”
สิมิลันเรียกชานนท์ที่ยังคงนั่งนิ่งเหม่อมองคฤหาสน์อยู่อย่างนั้น
ชานนท์เพิ่งรู้ตัวเลยเปิดประตูลงจากรถไล่เลี่ยกับสิมิลัน ส่วนอธิปกเดินหายไปท้ายรถก่อนแล้ว วุ่นอยู่กับการช่วยสาวใช้ขนกระเป๋าเดินทาง ชานนท์จากที่จะขึ้นบันไดตามไปก็หยุดแหงนหน้ามองคฤหาสน์หรูตรงหน้า
มันดูทรุดโทรมลงไปมากตามกาลเวลาจนน่าเศร้าใจ
“ที่นี่เปลี่ยนไปมาก พี่จำได้ว่ามันเคยสวยมากยังกับวังก่อนที่จะไปอังกฤษ”
“หืม พี่นนท์ไม่ได้อยู่ที่นี่มานานเกือบยี่สิบปีแล้วนะคะ แล้วคุณพ่อก็อยู่คนเดียว พี่สรินเองก็ต้องไปทำงานแทนพี่ที่อังกฤษ บ้านเราก็เลยไม่มีใครดูแล นี่ดีขึ้นมากแล้วนะคะ เพราะแม่มินย้ายจากภูเก็ตมาอยู่ดูแลคุณพ่อที่นี่”
“นี่ป้าอินคืนดีกับคุณลุงแล้วรึ ดีใจด้วยนะ”
“ใช่ค่ะ ต่างคนต่างไม่มีใคร แม่ใหญ่ก็จากไปนานแล้ว พี่สรินก็ไม่ได้รังเกียจ แม่เลยได้ย้ายเข้ามา”
“อืม ดีแล้วล่ะ อีรุงตุงนังกันมานาน สิ้นเรื่องสิ้นราวเสียที” ชานนท์พยักหน้ารับรู้
“มินว่าตอนนี้เราเข้าไปหาพวกท่านกันดีกว่านะคะ”
ชายหนุ่มเหลียวมองดวงหน้าสวยอิ่มเอิบที่เคยรักใคร่ แล้วส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ เป็นรอยยิ้มของพี่ชายที่มีต่อน้องสาว ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดตามไปไม่ห่าง
ทันทีที่เข้ามาภายในตัวบ้าน ชานนท์ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแสนอบอุ่นที่แตกต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง
“คุณตาแกล้งอาร์ม คุณยายช่วยด้วยฮะ”
มีเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยดังมาแต่ไกล จากในห้องใดห้องหนึ่ง
ต่อให้ไม่เห็นตัวชานนท์ก็จำได้แม่นว่าเป็นเสียงของอาร์ม ลูกชายตัวน้อยของสิมิลันและอธิปกนำพาความสดใสมาให้คนเพิ่งมาถึงอย่างเขาได้ทันตา เผยยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว อย่างว่าเขาเคยช่วยสิมิลันดูแลเจ้าตัวน้อยมาตลอดตอนอยู่ที่ลอนดอน รู้สึกผูกพันเสมือนลูกชายของเขาไปแล้ว
“ตัวแค่นี้หัดฟ้องยายเขาแล้วรึ ก็ตารักอาร์มนี่ มาให้อุ้มเสียดีๆ”
ชายชราบนรถเข็นดึงหลานชายตัวกลมน่าหยิกมาอุ้มไว้บนตักไม่ยอมปล่อย ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคักของหลานชายเพราะจั๊กจี้ที่ถูกคุณตากอดเสียแน่น แต่พอหันไปเห็นสาวใช้ยกกล้วยบวชชีหอมฉุยตามหลังคุณยายเข้ามาในห้องด้วยเท่านั้น หลานชายถึงกับน้ำลายสอ ดิ้นขลุกขลักจะลงจากตักคุณตาให้ได้ท่าเดียว
“คุณคะ ปล่อยหลานเถอะค่ะ แกคงคิดถึงของโปรดแล้ว มาอาร์ม มาอ้ำๆ ดีกว่า”
อินทิรายกช้อนที่มีกล้วยบวชชีครึ่งซีกเป่าเบาๆ ป้อนหลานชายตัวน้อยที่ยังถูกอุ้มไว้บนตัก แววตาสุกใสคู่นั้นยามได้ลิ้มรสของโปรดเรียกรอยยิ้มขันจากคนเป็นตา ต้องยอมปล่อยหลานชายเป็นอิสระ
“ท่าทางจะตะกละนะคะ”
จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งลอยมาตามลม เจ้าของเสียงนั้นเป็นหญิงมีอายุอีกคน เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ทันเห็นพฤติกรรมของอาร์มก็หัวเราะชอบใจโพล่งออกมา สิทธิ์ได้ยินถึงกับหันขวับไปมองปรามน้องสาวด้วยสายตา
“แหม...รู้แล้วค่ะ น้องก็แค่เอ็นดู”
ภิรณีย์ น้องสาวแท้ๆ ของสิทธิ์นั่นเอง เจ้าหล่อนแต่งงานไปกับสามีชาวเกาหลีแต่ไม่มีลูกด้วยกัน จึงรับชานนท์เป็นบุตรบุญธรรมหลังจากที่หายป่วยจากอุบัติเหตุ และส่งชานนท์ไปเรียนที่อังกฤษ โดยมีสิทธิ์ช่วยอุปการะส่งเสียเลี้ยงดู เพราะส่วนใหญ่ภิรณีย์ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของสามีเสียมากกว่า
ชานนท์เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องนั้น เห็นภิรณีย์ก็ถึงกับมองนิ่งนานทีเดียว นานทีปีหนมารดาบุญธรรมจะกลับมาอยู่เมืองไทย เขาเลยไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าจะได้เจอ จนสิมิลันต้องสะกิด
“เหมือนรู้ว่าพี่นนท์จะมานะคะ อาภิเพิ่งกลับมาก่อนหน้าพี่นนท์ไม่กี่วันนี้เองค่ะ”
ชานนท์แค่พยักหน้ารับรู้ กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง แต่แล้วต้องหยุดชะงักอีกรอบ
“มาหายายคนนี้ดีกว่าลูก อยากหอมสักฟอด เมื่อไหร่อเล็กซ์ของเราจะมีสักคนก็ไม่รู้นะคะคุณพี่” ภิรณีย์เปรยกับสิทธิ์อย่างอารมณ์ดี
อเล็กซ์ของเรา... ชานนท์นึกทวนคำพูดนั้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขารู้สึกมาเสมอว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของครอบครัว อาจเพราะภายใต้ท่าทางที่ดูใจดีและหน้าตาที่สะสวยของมารดาบุญธรรมนั้น กลับมีบางสิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจเข้าหาท่านได้อย่างสนิทใจ มันเป็นความรู้สึกปั่นป่วนในจิตใจที่ไม่อาจอธิบายได้ อีกทั้งชานนท์ไม่เคยแม้แต่จะได้รับความรักจากบิดาบุญธรรมชาวเกาหลีของเขา
ทีแรกเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ระยะหลังมานี้ความทรงจำของเขาที่เคยขาดหายไปค่อยๆ กลับคืน ภาพเลือนรางในหัวสมองของเขาก็เริ่มปะติดปะต่อมากขึ้น มันเริ่มมาจากที่เขาให้คนตามสืบหาเอรินจากที่อยู่ที่ให้ไว้ตอนมาพักที่โรงแรมของเขาเมื่อปีที่แล้วเพื่อที่จะได้รู้จักหล่อนให้มากขึ้น แต่กลับพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวพันเขาและหล่อนไว้อย่างน่าประหลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของเด็กหญิงแก้มกลมตัวเล็กน่ารักผูกผมเปียสองข้าง และภาพของเด็กหนุ่มตัวโชกเลือดในคืนฝนตก...
“ตายแล้วตาอาร์มเอ๊ย ค่อยๆ ก็ได้ลูก ปากพองกันพอดี”
เสียงของอินทิราฉุดชานนท์หลุดจากภวังค์ เมื่อเห็นยายหลานกำลังสังสรรค์กันด้วยกล้วยบวชชี ชานนท์ก็มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า จำต้องสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปชั่วขณะแล้วเดินเข้าไปในห้องนั้น
“ผมกลับมาแล้วครับ”
ชานนท์เอ่ยบอกพวกท่าน ไม่ลืมยกมือไหว้ทำความเคารพสิทธิ์ก่อน จากนั้นก็หันมาทางภิรณีย์ สวมกอดทักทายแต่ท่าทางเงอะงะขัดเขินพอกัน
“สวัสดีครับคุณแม่ สบายดีนะครับ”
“แม่สบายดี จะกลับมานี่ทำไมไม่บอกแม่ก่อน ถ้าแม่ไม่ได้โทร.คุยกับหนูราเชลก็คงไม่รู้”
“ผมขอโทษครับ” ชานนท์ตอบน้ำเสียงราบเรียบ นิ่งขรึมดังเคย
ระหว่างนั้น สิทธิ์มองดูท่าทีของสองแม่ลูกอยู่เช่นกัน ลักษณะคอยจับสังเกต พอเห็นต่างฝ่ายต่างเงียบไป แถมด้วยอาการฝืดเฝือนต่อกัน ชายชราจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะอเล็กซ์ นั่นยายหลานเขากำลังเอร็ดอร่อยกันอยู่ตรงนั้น จะไปร่วมวงกับเขาไหมล่ะ”
“แด๊ดดี้!”
อาร์มหันมาเห็นชานนท์พอดี ดีใจร้องเรียกเสียงดังลั่น ทิ้งกล้วยบวชชีพลัน “แด๊ดดี้มาแล้ว แด๊ดดี้...”
“ไงหนุ่มน้อย นึกว่าจะลืมกันแล้ว” ชานนท์อุ้มหลานชายที่วิ่งโร่มาหาจนตัวลอย อดใจไม่ไหวหอมแก้มยุ้ยดังฟอดทั้งยังอุ้มไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะหันไปไหว้ทำความเคารพภรรยาของลุงสิทธิ์ด้วย
“สวัสดีครับคุณป้า ผมขอโทษนะครับที่ทำให้ลำบากกันไปหมดเลย ที่จริงผมนั่งแท็กซี่มาเองก็ได้ มินกับโอมจะได้ไม่ต้องทิ้งอาร์มมาด้วย”
“พูดอะไรอย่างนั้นอเล็กซ์” อินทิราเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ป้ากับลุงเต็มใจเลี้ยงหลานอยู่แล้วจ้ะ มินเขาพามาที่นี่อยู่บ่อยๆ ตอนนี้แยกไม่ออกแล้วว่าหลานติดตา หรือตาติดหลานกันแน่” คำแซวของอินทิราเรียกเสียงหัวเราะครืนจากทุกคนในห้อง
“แด๊ดดี้ๆ อาร์มคิดถึงแด๊ดดี้ที่สุดเลย”
“แด๊ดดี้ก็คิดถึงอาร์มเหมือนกัน ไหนขอดูซิว่าหนักกี่โลแล้ว”
ลุงหลานหยอกล้อกัน คุณตาที่เพิ่งถูกคุณยายแซวว่าติดหลานเลยได้แต่ยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ส่วนสิมิลันกับอธิปกนั้นแค่เพียงยืนมองอยู่ตรงประตูห้องไม่เข้ามาขัดจังหวะ แต่อธิปกยังอุตส่าห์กระแอมเบาๆ หมั่นไส้เจ้าลูกชายตัวดี
“ลุงมา ลืมพ่อเลยนะตัวแสบ”
“แด๊ดดี้ก็ คิกๆ อาร์มมีแด๊ดดี้...จ๋องคนแน่ะ” เด็กน้อยชูมือเป็นรูปตัววีขวยเขิน
ชานนท์ยอมปล่อยหลานชายส่งคืนให้คนเป็นพ่อตัวจริง แล้วว่าจะขอตัวออกไปจัดการกับกระเป๋าเดินทางของตัวเองที่ป่านนี้สาวใช้คงเอาขึ้นไปไว้บนห้องนอนให้แล้วเรียบร้อย
“กลับมาเที่ยวนี้ลูกจะอยู่ยาวเลยหรือเปล่า”
ภิรณีย์เงียบอยู่นานจู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ชานนท์เลยชะงักเล็กน้อย
“ยังไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ผมคุยกับคุณลุงแล้ว เอ่อ ผมจะมาทำธุระส่วนตัวด้วย อาจมีต้องไปค้างที่อื่น...ขอตัวก่อนนะครับ” บอกแล้วชานนท์ก็จะผละออกจากห้องไป แต่แววตาสุดท้ายเหลือบมองมาทางสิทธิ์
คนเป็นลุงนั้นส่งสายตามาทำนองไม่ว่าอะไร ชานนท์ถึงค่อยออกจากห้องไป โดยมีสิมิลันและอธิปกที่ยังอยู่เป็นเพื่อนลูกชายตัวดีฟาดกล้วยบวชชีฝีมืออินทิราเสียอิ่มแปล้จึงค่อยพากันกลับบ้านตัวเองเช่นกัน
**************
อย่าลืมใช้โปรฯ Special Price กันน้าาา ราคาลดเหลือเท่าเปิดจองอยู่แล้วด้วยค่ะในช่วงงานหนังสือ แต่โปรฯ นี้ยังลดให้อีก 100 บาทจากราคาสั่งซื้อทั้งหมด 3 เล่มนะคะ เลยแจงราคาแต่ละเรื่องไว้ให้ค่ะ (ก็คือให้นำราคาลดตามด้านล่างมาบวกกัน และลดอีก 100 บาท)
-กระซิบรักฯ #พิมมาศ 385 บาท (จากปก 445 บาท)
-ฝนเมษาฯ #หอมดึก 345 บาท (จากปก 382 บาท)
-รักรออุ้ม #ทักษิณา 365 บาท (จากปก 395 บาท)
-มาลีเริงไฟ #รังสี 319 บาท (จากปก 340 บาท)
-ราคีสีเพลิง #รังสี ดุจดาริน รางนาก 205 บาท (จากปก 218 บาท)
-นาฏกรรมลวง #ขวัญของใจ 299 บาท (จากปก 329 บาท)
-ทรายล้อมเพชร #สะมะเรีย 280 บาท (จากปก 372 บาท) เฉพาะเรื่องนี้เป็นเล่มมีตำหนิ เนื่องจากแบบสภาพดีหมดเกลี้ยงสต็อกแล้วค่ะ
ใครสนใจ inbox สั่งซื้อที่เพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือเมล์ plaipakkabooks@gmail.com นะคะ
ย้ำว่าโปรฯ นี้แค่ 5 วันเท่านั้น!!
**หมดเขตเที่ยงคืนวันที่ 14 ตุลาคม 2562
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
รายละเอียดใส่ไว้ให้ท้ายเรื่องนะคะ
*************
รถบีเอ็มดับบลิวคันสีดำสนิทของอธิปก แล่นปราดเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หรูโบราณย่านชานเมืองแห่งหนึ่ง เป็นคฤหาสน์ของ ‘สิทธิ์’ ชายผู้ซึ่งรับอุปการะชานนท์เอาไว้ตั้งแต่อายุได้เพียงสิบแปดปี หลังจากที่ฟื้นจากอุบัติเหตุและสูญเสียครอบครัวไปอย่างกะทันหัน ตอนนั้นชานนท์บาดเจ็บสาหัสและตกอยู่ในสภาวะช็อกจำอะไรไม่ได้ สิทธิ์สงสารเขาจึงรับไว้ในความดูแล
ถึงอย่างนั้น สิทธิ์มีลูกสาวอยู่แล้วสองคน ซึ่งก็คือ สริน ลูกสาวคนโต และสิมิลัน ลูกสาวคนเล็ก และด้วยความที่ทั้งสองเป็นลูกสาวต่างมารดา จึงเป็นเรื่องให้บาดหมางใจกันมาตลอด รวมทั้งเรื่องของอธิปกด้วย ยังดีที่สุดท้ายสรินแต่งงานใหม่ไปแล้ว เพราะอันที่จริงเจ้าหล่อนก็ไม่ได้รักใคร่อธิปก แต่ที่แต่งงานกับอธิปกแต่แรกเพียงแค่ต้องการแก้แค้นเท่านั้น เนื่องจากมารดาของสิมิลันทำให้มารดาของหล่อนต้องอยู่อย่างทุกข์ระทม หล่อนจึงใช้ความรักที่สิมิลันมีให้อธิปกเป็นเครื่องมือสร้างความเจ็บปวดแก่มารดาของสิมิลัน
แต่ทว่าตอนนี้สองพี่น้องอโหสิต่อกันแล้ว ทุกสิ่งแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้เพียงเพราะต่างฝ่ายต่าง ‘อภัย’ ให้กัน สิมิลันจึงได้ปรับความเข้าใจกับอธิปก และแต่งงานกันที่ลอนดอนก่อนจะย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยอย่างที่เห็น
“พี่นนท์คะ เข้าบ้านเถอะค่ะ”
สิมิลันเรียกชานนท์ที่ยังคงนั่งนิ่งเหม่อมองคฤหาสน์อยู่อย่างนั้น
ชานนท์เพิ่งรู้ตัวเลยเปิดประตูลงจากรถไล่เลี่ยกับสิมิลัน ส่วนอธิปกเดินหายไปท้ายรถก่อนแล้ว วุ่นอยู่กับการช่วยสาวใช้ขนกระเป๋าเดินทาง ชานนท์จากที่จะขึ้นบันไดตามไปก็หยุดแหงนหน้ามองคฤหาสน์หรูตรงหน้า
มันดูทรุดโทรมลงไปมากตามกาลเวลาจนน่าเศร้าใจ
“ที่นี่เปลี่ยนไปมาก พี่จำได้ว่ามันเคยสวยมากยังกับวังก่อนที่จะไปอังกฤษ”
“หืม พี่นนท์ไม่ได้อยู่ที่นี่มานานเกือบยี่สิบปีแล้วนะคะ แล้วคุณพ่อก็อยู่คนเดียว พี่สรินเองก็ต้องไปทำงานแทนพี่ที่อังกฤษ บ้านเราก็เลยไม่มีใครดูแล นี่ดีขึ้นมากแล้วนะคะ เพราะแม่มินย้ายจากภูเก็ตมาอยู่ดูแลคุณพ่อที่นี่”
“นี่ป้าอินคืนดีกับคุณลุงแล้วรึ ดีใจด้วยนะ”
“ใช่ค่ะ ต่างคนต่างไม่มีใคร แม่ใหญ่ก็จากไปนานแล้ว พี่สรินก็ไม่ได้รังเกียจ แม่เลยได้ย้ายเข้ามา”
“อืม ดีแล้วล่ะ อีรุงตุงนังกันมานาน สิ้นเรื่องสิ้นราวเสียที” ชานนท์พยักหน้ารับรู้
“มินว่าตอนนี้เราเข้าไปหาพวกท่านกันดีกว่านะคะ”
ชายหนุ่มเหลียวมองดวงหน้าสวยอิ่มเอิบที่เคยรักใคร่ แล้วส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ เป็นรอยยิ้มของพี่ชายที่มีต่อน้องสาว ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดตามไปไม่ห่าง
ทันทีที่เข้ามาภายในตัวบ้าน ชานนท์ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแสนอบอุ่นที่แตกต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง
“คุณตาแกล้งอาร์ม คุณยายช่วยด้วยฮะ”
มีเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยดังมาแต่ไกล จากในห้องใดห้องหนึ่ง
ต่อให้ไม่เห็นตัวชานนท์ก็จำได้แม่นว่าเป็นเสียงของอาร์ม ลูกชายตัวน้อยของสิมิลันและอธิปกนำพาความสดใสมาให้คนเพิ่งมาถึงอย่างเขาได้ทันตา เผยยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว อย่างว่าเขาเคยช่วยสิมิลันดูแลเจ้าตัวน้อยมาตลอดตอนอยู่ที่ลอนดอน รู้สึกผูกพันเสมือนลูกชายของเขาไปแล้ว
“ตัวแค่นี้หัดฟ้องยายเขาแล้วรึ ก็ตารักอาร์มนี่ มาให้อุ้มเสียดีๆ”
ชายชราบนรถเข็นดึงหลานชายตัวกลมน่าหยิกมาอุ้มไว้บนตักไม่ยอมปล่อย ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคักของหลานชายเพราะจั๊กจี้ที่ถูกคุณตากอดเสียแน่น แต่พอหันไปเห็นสาวใช้ยกกล้วยบวชชีหอมฉุยตามหลังคุณยายเข้ามาในห้องด้วยเท่านั้น หลานชายถึงกับน้ำลายสอ ดิ้นขลุกขลักจะลงจากตักคุณตาให้ได้ท่าเดียว
“คุณคะ ปล่อยหลานเถอะค่ะ แกคงคิดถึงของโปรดแล้ว มาอาร์ม มาอ้ำๆ ดีกว่า”
อินทิรายกช้อนที่มีกล้วยบวชชีครึ่งซีกเป่าเบาๆ ป้อนหลานชายตัวน้อยที่ยังถูกอุ้มไว้บนตัก แววตาสุกใสคู่นั้นยามได้ลิ้มรสของโปรดเรียกรอยยิ้มขันจากคนเป็นตา ต้องยอมปล่อยหลานชายเป็นอิสระ
“ท่าทางจะตะกละนะคะ”
จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งลอยมาตามลม เจ้าของเสียงนั้นเป็นหญิงมีอายุอีกคน เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ทันเห็นพฤติกรรมของอาร์มก็หัวเราะชอบใจโพล่งออกมา สิทธิ์ได้ยินถึงกับหันขวับไปมองปรามน้องสาวด้วยสายตา
“แหม...รู้แล้วค่ะ น้องก็แค่เอ็นดู”
ภิรณีย์ น้องสาวแท้ๆ ของสิทธิ์นั่นเอง เจ้าหล่อนแต่งงานไปกับสามีชาวเกาหลีแต่ไม่มีลูกด้วยกัน จึงรับชานนท์เป็นบุตรบุญธรรมหลังจากที่หายป่วยจากอุบัติเหตุ และส่งชานนท์ไปเรียนที่อังกฤษ โดยมีสิทธิ์ช่วยอุปการะส่งเสียเลี้ยงดู เพราะส่วนใหญ่ภิรณีย์ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของสามีเสียมากกว่า
ชานนท์เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องนั้น เห็นภิรณีย์ก็ถึงกับมองนิ่งนานทีเดียว นานทีปีหนมารดาบุญธรรมจะกลับมาอยู่เมืองไทย เขาเลยไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าจะได้เจอ จนสิมิลันต้องสะกิด
“เหมือนรู้ว่าพี่นนท์จะมานะคะ อาภิเพิ่งกลับมาก่อนหน้าพี่นนท์ไม่กี่วันนี้เองค่ะ”
ชานนท์แค่พยักหน้ารับรู้ กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง แต่แล้วต้องหยุดชะงักอีกรอบ
“มาหายายคนนี้ดีกว่าลูก อยากหอมสักฟอด เมื่อไหร่อเล็กซ์ของเราจะมีสักคนก็ไม่รู้นะคะคุณพี่” ภิรณีย์เปรยกับสิทธิ์อย่างอารมณ์ดี
อเล็กซ์ของเรา... ชานนท์นึกทวนคำพูดนั้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขารู้สึกมาเสมอว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของครอบครัว อาจเพราะภายใต้ท่าทางที่ดูใจดีและหน้าตาที่สะสวยของมารดาบุญธรรมนั้น กลับมีบางสิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจเข้าหาท่านได้อย่างสนิทใจ มันเป็นความรู้สึกปั่นป่วนในจิตใจที่ไม่อาจอธิบายได้ อีกทั้งชานนท์ไม่เคยแม้แต่จะได้รับความรักจากบิดาบุญธรรมชาวเกาหลีของเขา
ทีแรกเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ระยะหลังมานี้ความทรงจำของเขาที่เคยขาดหายไปค่อยๆ กลับคืน ภาพเลือนรางในหัวสมองของเขาก็เริ่มปะติดปะต่อมากขึ้น มันเริ่มมาจากที่เขาให้คนตามสืบหาเอรินจากที่อยู่ที่ให้ไว้ตอนมาพักที่โรงแรมของเขาเมื่อปีที่แล้วเพื่อที่จะได้รู้จักหล่อนให้มากขึ้น แต่กลับพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวพันเขาและหล่อนไว้อย่างน่าประหลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของเด็กหญิงแก้มกลมตัวเล็กน่ารักผูกผมเปียสองข้าง และภาพของเด็กหนุ่มตัวโชกเลือดในคืนฝนตก...
“ตายแล้วตาอาร์มเอ๊ย ค่อยๆ ก็ได้ลูก ปากพองกันพอดี”
เสียงของอินทิราฉุดชานนท์หลุดจากภวังค์ เมื่อเห็นยายหลานกำลังสังสรรค์กันด้วยกล้วยบวชชี ชานนท์ก็มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า จำต้องสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปชั่วขณะแล้วเดินเข้าไปในห้องนั้น
“ผมกลับมาแล้วครับ”
ชานนท์เอ่ยบอกพวกท่าน ไม่ลืมยกมือไหว้ทำความเคารพสิทธิ์ก่อน จากนั้นก็หันมาทางภิรณีย์ สวมกอดทักทายแต่ท่าทางเงอะงะขัดเขินพอกัน
“สวัสดีครับคุณแม่ สบายดีนะครับ”
“แม่สบายดี จะกลับมานี่ทำไมไม่บอกแม่ก่อน ถ้าแม่ไม่ได้โทร.คุยกับหนูราเชลก็คงไม่รู้”
“ผมขอโทษครับ” ชานนท์ตอบน้ำเสียงราบเรียบ นิ่งขรึมดังเคย
ระหว่างนั้น สิทธิ์มองดูท่าทีของสองแม่ลูกอยู่เช่นกัน ลักษณะคอยจับสังเกต พอเห็นต่างฝ่ายต่างเงียบไป แถมด้วยอาการฝืดเฝือนต่อกัน ชายชราจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะอเล็กซ์ นั่นยายหลานเขากำลังเอร็ดอร่อยกันอยู่ตรงนั้น จะไปร่วมวงกับเขาไหมล่ะ”
“แด๊ดดี้!”
อาร์มหันมาเห็นชานนท์พอดี ดีใจร้องเรียกเสียงดังลั่น ทิ้งกล้วยบวชชีพลัน “แด๊ดดี้มาแล้ว แด๊ดดี้...”
“ไงหนุ่มน้อย นึกว่าจะลืมกันแล้ว” ชานนท์อุ้มหลานชายที่วิ่งโร่มาหาจนตัวลอย อดใจไม่ไหวหอมแก้มยุ้ยดังฟอดทั้งยังอุ้มไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะหันไปไหว้ทำความเคารพภรรยาของลุงสิทธิ์ด้วย
“สวัสดีครับคุณป้า ผมขอโทษนะครับที่ทำให้ลำบากกันไปหมดเลย ที่จริงผมนั่งแท็กซี่มาเองก็ได้ มินกับโอมจะได้ไม่ต้องทิ้งอาร์มมาด้วย”
“พูดอะไรอย่างนั้นอเล็กซ์” อินทิราเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ป้ากับลุงเต็มใจเลี้ยงหลานอยู่แล้วจ้ะ มินเขาพามาที่นี่อยู่บ่อยๆ ตอนนี้แยกไม่ออกแล้วว่าหลานติดตา หรือตาติดหลานกันแน่” คำแซวของอินทิราเรียกเสียงหัวเราะครืนจากทุกคนในห้อง
“แด๊ดดี้ๆ อาร์มคิดถึงแด๊ดดี้ที่สุดเลย”
“แด๊ดดี้ก็คิดถึงอาร์มเหมือนกัน ไหนขอดูซิว่าหนักกี่โลแล้ว”
ลุงหลานหยอกล้อกัน คุณตาที่เพิ่งถูกคุณยายแซวว่าติดหลานเลยได้แต่ยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ส่วนสิมิลันกับอธิปกนั้นแค่เพียงยืนมองอยู่ตรงประตูห้องไม่เข้ามาขัดจังหวะ แต่อธิปกยังอุตส่าห์กระแอมเบาๆ หมั่นไส้เจ้าลูกชายตัวดี
“ลุงมา ลืมพ่อเลยนะตัวแสบ”
“แด๊ดดี้ก็ คิกๆ อาร์มมีแด๊ดดี้...จ๋องคนแน่ะ” เด็กน้อยชูมือเป็นรูปตัววีขวยเขิน
ชานนท์ยอมปล่อยหลานชายส่งคืนให้คนเป็นพ่อตัวจริง แล้วว่าจะขอตัวออกไปจัดการกับกระเป๋าเดินทางของตัวเองที่ป่านนี้สาวใช้คงเอาขึ้นไปไว้บนห้องนอนให้แล้วเรียบร้อย
“กลับมาเที่ยวนี้ลูกจะอยู่ยาวเลยหรือเปล่า”
ภิรณีย์เงียบอยู่นานจู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ชานนท์เลยชะงักเล็กน้อย
“ยังไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ผมคุยกับคุณลุงแล้ว เอ่อ ผมจะมาทำธุระส่วนตัวด้วย อาจมีต้องไปค้างที่อื่น...ขอตัวก่อนนะครับ” บอกแล้วชานนท์ก็จะผละออกจากห้องไป แต่แววตาสุดท้ายเหลือบมองมาทางสิทธิ์
คนเป็นลุงนั้นส่งสายตามาทำนองไม่ว่าอะไร ชานนท์ถึงค่อยออกจากห้องไป โดยมีสิมิลันและอธิปกที่ยังอยู่เป็นเพื่อนลูกชายตัวดีฟาดกล้วยบวชชีฝีมืออินทิราเสียอิ่มแปล้จึงค่อยพากันกลับบ้านตัวเองเช่นกัน
**************
อย่าลืมใช้โปรฯ Special Price กันน้าาา ราคาลดเหลือเท่าเปิดจองอยู่แล้วด้วยค่ะในช่วงงานหนังสือ แต่โปรฯ นี้ยังลดให้อีก 100 บาทจากราคาสั่งซื้อทั้งหมด 3 เล่มนะคะ เลยแจงราคาแต่ละเรื่องไว้ให้ค่ะ (ก็คือให้นำราคาลดตามด้านล่างมาบวกกัน และลดอีก 100 บาท)
-กระซิบรักฯ #พิมมาศ 385 บาท (จากปก 445 บาท)
-ฝนเมษาฯ #หอมดึก 345 บาท (จากปก 382 บาท)
-รักรออุ้ม #ทักษิณา 365 บาท (จากปก 395 บาท)
-มาลีเริงไฟ #รังสี 319 บาท (จากปก 340 บาท)
-ราคีสีเพลิง #รังสี ดุจดาริน รางนาก 205 บาท (จากปก 218 บาท)
-นาฏกรรมลวง #ขวัญของใจ 299 บาท (จากปก 329 บาท)
-ทรายล้อมเพชร #สะมะเรีย 280 บาท (จากปก 372 บาท) เฉพาะเรื่องนี้เป็นเล่มมีตำหนิ เนื่องจากแบบสภาพดีหมดเกลี้ยงสต็อกแล้วค่ะ
ใครสนใจ inbox สั่งซื้อที่เพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือเมล์ plaipakkabooks@gmail.com นะคะ
ย้ำว่าโปรฯ นี้แค่ 5 วันเท่านั้น!!
**หมดเขตเที่ยงคืนวันที่ 14 ตุลาคม 2562
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2562, 00:01:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2562, 00:02:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 603
<< บทที่ 16 -100% | บทที่ 17 -100% >> |