โอบรักธารรุ้ง: อัยย์ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
หมู่บ้านธารรุ้ง แผ่นดินผืนนี้คือทำเลทองของธุรกิจเขา
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรแมนติก คู่กัด เกษตรกร รีสอร์ต รุ่นพี่ รุ่นน้อง
ตอน: บทที่ 9 -100% + วางขาย eBook แล้ว!!
มาหายามเช้าเลยค่า โอบรักธารรุ้งวางขายในรูปแบบ eBook แล้วนะคะ สดๆร้อนๆเลย ให้เป็นของขวัญส่งท้ายปีจ้าาาาาา โหลดได้ที่เว็บ Mebmarket
สำหรับแบบเล่มหนังสือเปิดจองถึงสิ้นเดือนมกราคม 2563 แต่แพลนส่งเข้าโรงพิมพ์หลังพ้นวันหยุดปีใหม่ทันที! ใครยังไม่ได้จองรีบจองนะคะ ฮี่ๆ ถ้าสั่งซื้อครบ 400฿ ได้ของขวัญปีใหม่เป็นถุงผ้าน่ารักๆ จากสนพ.ด้วยค่ะ
รายละเอียดคลิดที่ปุ่มอ่านเรื่องย่อด้านบน
**************
ดึกคืนนั้น ภาณุรุจยกแล็ปท็อปออกมานั่งทำงานที่โต๊ะนั่งเล่นตรงระเบียงบ้าน เขาชอบทำงานกลางคืน เพราะบรรยากาศที่เย็นสบายทำให้สมองปลอดโปร่ง ทำงานไปด้วยจิบเบียร์ไปด้วย...โลกส่วนตัวยามราตรีของเขาก็มีแค่นี้ ซึ่งต่างกับเพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกัน เพื่อนเขาแทบทุกคนยังอยู่กับสังคมเมืองที่ต้องพบปะสังสรรค์ เที่ยวเตร่ยามราตรี หลายคนก็แต่งงาน มีชีวิตอบอุ่นกับครอบครัว
คงไม่มีใครคิดว่า ‘ประธานไผ่’ นักกิจกรรมตัวยงตั้งแต่สมัยเรียนจะมามีอนาคตแบบนี้ อนาคตที่ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอกหากแต่นิ่งสนิทอย่างน่าใจหาย เพราะเขาหมกตัวอยู่บ้านนอกทั้งวันทั้งคืน วันแล้ววันเล่า คืนแล้วก็คืนเล่า
‘ไผ่ไม่เหงาบ้างหรือ ไปอยู่ที่แบบนั้น พี่ว่าให้คนอื่นเขาดูแล แล้วไผ่มาหาอะไรทำที่กรุงเทพฯ ดีกว่า’
พี่สาวคนที่มีธุรกิจรีสอร์ตที่เมืองชายทะเล เคยพูดกับเขาแบบนั้น เธอไปลงทุนที่นั่น แต่ไม่ได้ไปปักหลักแบบเขา เธอยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ทำในกรุงเทพฯ
‘หรือไปติดผู้หญิง ยังไงก็ดูดีๆ หน่อยนะไผ่’
คราวนี้คนพูดคือมารดา ซึ่งหลังจากที่เขาไม่พาเมียแหม่มมาให้ มารดาเขาก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ก่อนจะเริ่มหวั่นว่าเขาคิดจะพาเมียชาวไร่ชาวสวนไปฝากอีก
‘เอาน่าคุณ’ บิดาเอ่ยขึ้นบ้าง ‘ลูกผู้ชายก็ต้องไปเผชิญโชค ตอนนี้ไผ่มันยังสนุกกับชีวิตก็ปล่อยมัน เออ แต่พ่อขออะไรอย่างนะไผ่’
‘ขออะไรครับ คนมีพร้อมทุกอย่างอย่างคุณพ่อ ยังต้องการอะไรจากผมอีกหรือครับ’
ชายหนุ่มถามยิ้มๆ เขากับบิดามีความสนิทสนมและเข้าใจกันดี ไม่เหมือนอีกหลายครอบครัวที่มักไม่ลงรอยกัน
บิดาเขาเป็นคนร่ำรวยมีฐานะ แต่เลี้ยงลูกให้แกร่งกล้าและยืนหยัดด้วยตัวเอง ขาดเหลืออะไรบิดาจะสนับสนุน แต่ไม่ใช่ป้อนให้เขาทุกอย่าง เขาต้องเริ่มเอง ทำเองด้วยสมองและสองมือก่อนที่บิดาจะช่วยเป็นกองหนุน และทุนที่บิดาให้ ไม่ได้ฟรี แค่เงินยืมที่ไม่มีดอกเบี้ยเท่านั้น
ภาณุรุจคิดเสมอว่าเขาโชคดีที่มีบิดาที่เป็นลูกผู้ชาย มีใจนักเลง ไม่คิดเอาลูกมาเป็นตัวแทนหรือหน้าตาของครอบครัว บิดาให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเอง แต่ขณะเดียวกันบิดาก็ย่อมรู้ว่า แม้ไม้ไผ่จะต่างปล้องบ้าง แต่ไผ่ย่อมไม่แตกกอ วันหนึ่ง ลูกชายคนนี้ก็ต้องกลับมาดูแลกิจการทุกอย่างของครอบ ครัวจนได้
‘ฟังนะไผ่ พ่อไม่บังคับให้แกกลับมา แต่พ่อขอให้แกเติบโต’
เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงขอให้ขยายความ บิดาลุกขึ้นมาตบไหล่เขาเบาๆ พลางบอก
‘แกจะอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ต้องอยู่อย่างพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ อย่าลืมว่าเราคือนักธุรกิจ เราจะหยุดนิ่ง หรือพอใจกับสิ่งที่ทำสำเร็จแค่สิ่งเดียวไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้น เราก็เหมือนน้ำนิ่งในคลองที่พร้อมจะเน่า มันเสี่ยงเกินไปที่จะพอใจอยู่แค่นั้น เราต้องต่อยอด ขยายฐาน สร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้น นี่คือปรัชญาของนักธุรกิจ’
‘ครับ คุณพ่อ’
จำได้ว่าเขารับคำแข็งขัน แต่มาถึงวันนี้ ไม่มีอะไรง่ายเหมือนที่ได้ตอบบิดาไปแบบง่ายๆ เสียแล้ว...
ภาณุรุจวางมือจากงาน หันมาหยิบเบียร์ จิบไปหนึ่งจิบแล้วเอนตัวไปข้างหลัง เอาสองมือประสานท้ายทอย วันนี้เขาตะลอนมาทั้งวันกับพิมริสา ทุกอย่างดูสวยงาม แต่ก็ลงท้ายแบบที่เขาเองทำลายความสวยงามทั้งหมดลงไป
แต่เขาต้องทำ เขาพูดไปโดยไม่ปรึกษานทีด้วยซ้ำเรื่องขอซื้อที่ดินแบบแบ่งครึ่ง เพราะอยากให้พิมริสากลับไปคิดอีกครั้งจริงๆ
ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ใจจริงเขาอยากได้ที่ทั้งหมดของเธอมาทำรีสอร์ต แต่ก็อยากให้เธอขายให้อย่างบริสุทธิ์ใจ เขารอให้เธอยินยอมได้ ถึงแม้เธอจะเริ่มงานไร่ไปแล้วก็เถอะ เขาก็ยังมีความหวัง แต่เมื่อนทีผุดความคิดเรื่องที่จะไป ‘ทำให้เธอรัก’ เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ตรงนั้นง่ายๆ เขาก็รู้สึกกังวลจนไม่อาจใจเย็นได้อีก
พิมริสาจะเกลียดโกรธอย่างไร เขาก็ยอม แต่ที่ดินผืนนั้น เธอควรขายให้เขา ขายเพราะโกรธหรือเพราะอะไรก็ได้ ดีกว่าที่เธอจะทำไร่ดอกไม้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอตกหลุมรักนที และถ้าเรื่องมันไปไกลถึงขั้นที่ทั้งคู่แต่งงานกัน ก็แปลว่า นทีได้เป็นเจ้าของที่ผืนนั้นไปโดยปริยาย
และต่อให้เขาได้ร่วมเป็นเจ้าของรีสอร์ตนั้นด้วย
แต่...มันใช่หรือ?
มันน่ายินดีนักหรือ?
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บแปลบปลาบ นี่เขาเป็นอะไรไป ทำไมเขาถึงคิดว่า นทีกับพิมริสาอาจจะเป็นคนรักกันในไม่ช้า ที่จริงยายรุ่นน้องแค่เอ่ยถึงนทีสองสามคำ ดูเธอยังไม่มีทีท่าว่าจะไปรักนทีสักหน่อย
แต่จะประมาทได้อย่างไร นทีมีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำให้ผู้หญิงรัก และนทีก็เป็นคนที่ทำทุกอย่างสำเร็จมาตลอด ถ้าเขาคิดทำให้พิมริสารัก ทำไมจะทำไม่ได้
ภาณุรุจพาตัวเองไปนอนก่ายหน้าผากที่เตียงแล้วพลิกตัวไปมาด้วยความร้อนรุ่มราวถูกไฟลนไปอีกนานแสนนาน และเมื่อข่มตาหลับลงได้ก็ได้ยินเสียงไก่ขันประสานเสียงอยู่หลายตัวแล้ว
(((โหลดอีบุ๊คได้ที่เว็บ mebmarket)))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
สำหรับแบบเล่มหนังสือเปิดจองถึงสิ้นเดือนมกราคม 2563 แต่แพลนส่งเข้าโรงพิมพ์หลังพ้นวันหยุดปีใหม่ทันที! ใครยังไม่ได้จองรีบจองนะคะ ฮี่ๆ ถ้าสั่งซื้อครบ 400฿ ได้ของขวัญปีใหม่เป็นถุงผ้าน่ารักๆ จากสนพ.ด้วยค่ะ
รายละเอียดคลิดที่ปุ่มอ่านเรื่องย่อด้านบน
**************
ดึกคืนนั้น ภาณุรุจยกแล็ปท็อปออกมานั่งทำงานที่โต๊ะนั่งเล่นตรงระเบียงบ้าน เขาชอบทำงานกลางคืน เพราะบรรยากาศที่เย็นสบายทำให้สมองปลอดโปร่ง ทำงานไปด้วยจิบเบียร์ไปด้วย...โลกส่วนตัวยามราตรีของเขาก็มีแค่นี้ ซึ่งต่างกับเพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกัน เพื่อนเขาแทบทุกคนยังอยู่กับสังคมเมืองที่ต้องพบปะสังสรรค์ เที่ยวเตร่ยามราตรี หลายคนก็แต่งงาน มีชีวิตอบอุ่นกับครอบครัว
คงไม่มีใครคิดว่า ‘ประธานไผ่’ นักกิจกรรมตัวยงตั้งแต่สมัยเรียนจะมามีอนาคตแบบนี้ อนาคตที่ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอกหากแต่นิ่งสนิทอย่างน่าใจหาย เพราะเขาหมกตัวอยู่บ้านนอกทั้งวันทั้งคืน วันแล้ววันเล่า คืนแล้วก็คืนเล่า
‘ไผ่ไม่เหงาบ้างหรือ ไปอยู่ที่แบบนั้น พี่ว่าให้คนอื่นเขาดูแล แล้วไผ่มาหาอะไรทำที่กรุงเทพฯ ดีกว่า’
พี่สาวคนที่มีธุรกิจรีสอร์ตที่เมืองชายทะเล เคยพูดกับเขาแบบนั้น เธอไปลงทุนที่นั่น แต่ไม่ได้ไปปักหลักแบบเขา เธอยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ทำในกรุงเทพฯ
‘หรือไปติดผู้หญิง ยังไงก็ดูดีๆ หน่อยนะไผ่’
คราวนี้คนพูดคือมารดา ซึ่งหลังจากที่เขาไม่พาเมียแหม่มมาให้ มารดาเขาก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ก่อนจะเริ่มหวั่นว่าเขาคิดจะพาเมียชาวไร่ชาวสวนไปฝากอีก
‘เอาน่าคุณ’ บิดาเอ่ยขึ้นบ้าง ‘ลูกผู้ชายก็ต้องไปเผชิญโชค ตอนนี้ไผ่มันยังสนุกกับชีวิตก็ปล่อยมัน เออ แต่พ่อขออะไรอย่างนะไผ่’
‘ขออะไรครับ คนมีพร้อมทุกอย่างอย่างคุณพ่อ ยังต้องการอะไรจากผมอีกหรือครับ’
ชายหนุ่มถามยิ้มๆ เขากับบิดามีความสนิทสนมและเข้าใจกันดี ไม่เหมือนอีกหลายครอบครัวที่มักไม่ลงรอยกัน
บิดาเขาเป็นคนร่ำรวยมีฐานะ แต่เลี้ยงลูกให้แกร่งกล้าและยืนหยัดด้วยตัวเอง ขาดเหลืออะไรบิดาจะสนับสนุน แต่ไม่ใช่ป้อนให้เขาทุกอย่าง เขาต้องเริ่มเอง ทำเองด้วยสมองและสองมือก่อนที่บิดาจะช่วยเป็นกองหนุน และทุนที่บิดาให้ ไม่ได้ฟรี แค่เงินยืมที่ไม่มีดอกเบี้ยเท่านั้น
ภาณุรุจคิดเสมอว่าเขาโชคดีที่มีบิดาที่เป็นลูกผู้ชาย มีใจนักเลง ไม่คิดเอาลูกมาเป็นตัวแทนหรือหน้าตาของครอบครัว บิดาให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเอง แต่ขณะเดียวกันบิดาก็ย่อมรู้ว่า แม้ไม้ไผ่จะต่างปล้องบ้าง แต่ไผ่ย่อมไม่แตกกอ วันหนึ่ง ลูกชายคนนี้ก็ต้องกลับมาดูแลกิจการทุกอย่างของครอบ ครัวจนได้
‘ฟังนะไผ่ พ่อไม่บังคับให้แกกลับมา แต่พ่อขอให้แกเติบโต’
เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงขอให้ขยายความ บิดาลุกขึ้นมาตบไหล่เขาเบาๆ พลางบอก
‘แกจะอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ต้องอยู่อย่างพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ อย่าลืมว่าเราคือนักธุรกิจ เราจะหยุดนิ่ง หรือพอใจกับสิ่งที่ทำสำเร็จแค่สิ่งเดียวไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้น เราก็เหมือนน้ำนิ่งในคลองที่พร้อมจะเน่า มันเสี่ยงเกินไปที่จะพอใจอยู่แค่นั้น เราต้องต่อยอด ขยายฐาน สร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้น นี่คือปรัชญาของนักธุรกิจ’
‘ครับ คุณพ่อ’
จำได้ว่าเขารับคำแข็งขัน แต่มาถึงวันนี้ ไม่มีอะไรง่ายเหมือนที่ได้ตอบบิดาไปแบบง่ายๆ เสียแล้ว...
ภาณุรุจวางมือจากงาน หันมาหยิบเบียร์ จิบไปหนึ่งจิบแล้วเอนตัวไปข้างหลัง เอาสองมือประสานท้ายทอย วันนี้เขาตะลอนมาทั้งวันกับพิมริสา ทุกอย่างดูสวยงาม แต่ก็ลงท้ายแบบที่เขาเองทำลายความสวยงามทั้งหมดลงไป
แต่เขาต้องทำ เขาพูดไปโดยไม่ปรึกษานทีด้วยซ้ำเรื่องขอซื้อที่ดินแบบแบ่งครึ่ง เพราะอยากให้พิมริสากลับไปคิดอีกครั้งจริงๆ
ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ใจจริงเขาอยากได้ที่ทั้งหมดของเธอมาทำรีสอร์ต แต่ก็อยากให้เธอขายให้อย่างบริสุทธิ์ใจ เขารอให้เธอยินยอมได้ ถึงแม้เธอจะเริ่มงานไร่ไปแล้วก็เถอะ เขาก็ยังมีความหวัง แต่เมื่อนทีผุดความคิดเรื่องที่จะไป ‘ทำให้เธอรัก’ เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ตรงนั้นง่ายๆ เขาก็รู้สึกกังวลจนไม่อาจใจเย็นได้อีก
พิมริสาจะเกลียดโกรธอย่างไร เขาก็ยอม แต่ที่ดินผืนนั้น เธอควรขายให้เขา ขายเพราะโกรธหรือเพราะอะไรก็ได้ ดีกว่าที่เธอจะทำไร่ดอกไม้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอตกหลุมรักนที และถ้าเรื่องมันไปไกลถึงขั้นที่ทั้งคู่แต่งงานกัน ก็แปลว่า นทีได้เป็นเจ้าของที่ผืนนั้นไปโดยปริยาย
และต่อให้เขาได้ร่วมเป็นเจ้าของรีสอร์ตนั้นด้วย
แต่...มันใช่หรือ?
มันน่ายินดีนักหรือ?
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บแปลบปลาบ นี่เขาเป็นอะไรไป ทำไมเขาถึงคิดว่า นทีกับพิมริสาอาจจะเป็นคนรักกันในไม่ช้า ที่จริงยายรุ่นน้องแค่เอ่ยถึงนทีสองสามคำ ดูเธอยังไม่มีทีท่าว่าจะไปรักนทีสักหน่อย
แต่จะประมาทได้อย่างไร นทีมีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำให้ผู้หญิงรัก และนทีก็เป็นคนที่ทำทุกอย่างสำเร็จมาตลอด ถ้าเขาคิดทำให้พิมริสารัก ทำไมจะทำไม่ได้
ภาณุรุจพาตัวเองไปนอนก่ายหน้าผากที่เตียงแล้วพลิกตัวไปมาด้วยความร้อนรุ่มราวถูกไฟลนไปอีกนานแสนนาน และเมื่อข่มตาหลับลงได้ก็ได้ยินเสียงไก่ขันประสานเสียงอยู่หลายตัวแล้ว
(((โหลดอีบุ๊คได้ที่เว็บ mebmarket)))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ธ.ค. 2562, 09:32:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2562, 09:32:22 น.
จำนวนการเข้าชม : 562
| << บทที่ 9 -70% | บทที่ 10 -60% >> |