โอบรักธารรุ้ง: อัยย์ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
หมู่บ้านธารรุ้ง แผ่นดินผืนนี้คือทำเลทองของธุรกิจเขา
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรแมนติก คู่กัด เกษตรกร รีสอร์ต รุ่นพี่ รุ่นน้อง
ตอน: บทที่ 13 -100%
“น้ำตกนี้พิมไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่เปลี่ยวอะไรเลย แล้วที่พี่มานี่ส่วนหนึ่งจะมาสำรวจสักหน่อยว่าช่วงนี้มีน้ำไหม เพราะจะได้บอกแขกที่เข้าพักได้ บางทีเขาถามกันว่ามีน้ำหรือเปล่า ไอ้เราก็ใบ้กิน บอกไม่ถูก เสียชื่อคนถิ่นหมด”
ฟังเขาพูดแบบนั้น พิมริสาค่อยมีสีหน้าดีขึ้น ที่จริงเธอก็อยากอยู่กับเขา แล้วทำไมรู้สึกหวั่นใจกับอีแค่เขาพารถเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางป่าโปร่งๆ เพียงไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรก็ถึงตัวน้ำตก
เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอ เธอเชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา คราวก่อนเข้าเมืองไปกับเขาทั้งวัน แม้แต่ปลายก้อยเขาก็ไม่คิดแตะ แต่ที่กลัว เธอกลัวความใกล้ชิดเกินไปกระมัง และกลัวอะไรอีกหลายอย่างที่เธอเองก็บอกไม่ถูก
แต่ความกังวลทั้งหลายของพิมริสาก็หายไปหมดสิ้น เมื่อย่างเท้าลงจากรถ หูของเธอแว่วเสียงครึกโครมของสายน้ำ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยากเห็นภาพเจ้าของเสียงโดยเร็ว จริงอย่างภาณุรุจพูด น้ำตกอยู่ใกล้แค่นี้ แต่เธอไม่เคยคิดจะเข้ามา อ้อ เคยสิ เคยมาเมื่อนานมาแล้ว น่าจะสักสองครั้งสมัยเป็นเด็ก ภาพจึงเลือนรางมาก คลับคล้ายคลับคลาว่ามันรกทึบน่ากลัว แต่ต่อจาก นั้น เจ้าน้ำตกที่ชื่อเดียวกับหมู่บ้านนี้ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธออีก
“เสียดาย” ภาณุรุจพูด ขณะเดินนำเธอไปตามเส้นทางดิน รอบตัวเป็นสุมทุมพุ่มไม้เขียวสด อากาศเย็นสดชื่น
“พี่ไม่ได้เอากางเกงขาสั้นมาด้วย ไม่งั้นจะลงเล่นน้ำสักพัก”
“วันหลังพี่ก็มาเล่นสิคะ น้ำตกมันไม่หนีไปไหนนี่นา จะเสียดายทำ ไม”
“ชวนพิมมาด้วยได้ไหมล่ะ เล่นคนเดียวจะไปสนุกอะไร”
“พิมไม่ชอบเล่นน้ำ”
“อ้อ ลืมไปว่าพิมกลัวน้ำ กลัวหลายอย่างเลย กลัวช้างมาอันดับหนึ่ง กลัวน้ำมาอันดับสอง”
เขาพูดแล้วหัวเราะ หญิงสาวเองก็พลอยหัวเราะเสียงใสตามไปด้วย พิมริสาอยากจะกระโดดโลดเต้นไปตามทางเดินที่มีสายลมและเสียงนกเป็นเพื่อนร่วมทาง
ความสุขมาจากไหนนะ มันเข้าจู่โจมจนนึกกลัวว่ามันจะรีบมาและรีบหลุดลอยไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะคว้าทันไหม
เสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ ไม่นานภาพที่ปรากฏแก่สายตาของทั้งสองก็คือ สายน้ำสีขาวที่ร่วงหล่นเป็นแนวดิ่งจากผาสูงชัน ทะยานลงกระแทกแผ่นหินเบื้องล่างจนสายน้ำแตกกระจาย แผ่ละอองไอปกคลุมไปทั่วบริเวณก่อนไหลไปตามซอกหินลาดชันลงในแอ่งกว้าง
พิมริสาต้องร้องอู้ด้วยความตื่นตะลึง เพราะในน้ำแอ่งนั้นเป็นสีฟ้าสดแบบสีเทอร์ควอยซ์กันเลยทีเดียว และเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่ามันเป็นแอ่งน้ำที่ใสกริบจนเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายแหวกไปมา
เหลียวมองรอบๆ ก็มองไม่เห็นใคร นอกจากภาณุรุจคนเดียว เขายืนยิ้มๆ มองเธอเหมือนผู้ใหญ่พาเด็กมาเที่ยว สองมือเขากอดอก กางขาเล็ก น้อยตามสไตล์
พิมริสาถอดรองเท้า พับกางเกงขายาวขึ้นครึ่งน่อง แล้วเดินลงไปในแอ่งตื้นๆ ใครว่าเธอกลัวน้ำ เธอไม่ได้เป็นโรคพิษสุนัขบ้าเสียหน่อย อีตาไผ่เอ๊ย
รอบขอบแอ่งมีกรวดทรายเม็ดละเอียด เดินไปก็ไม่ลื่น รู้สึกสบายเท้า น้ำที่ไหลมากระทบ เย็นสะใจจนพิมริสาเองก็นึกเสียดายที่ไม่ได้นุ่งขาสั้นมา ไม่เช่นนั้นก็ลงแช่เสียเลยหมดเรื่อง
พิมริสาเดินลากขาเล่นเพลินๆ จนกระทั่งเข้าไปใกล้ซอกหินผาด้านตัวน้ำตก แล้วหญิงสาวก็ต้องร้องโอ๊ะ รีบเบี่ยงตัวหลบพัลวันเพราะจู่ๆ ก็มีลมกระโชกพัดพาละอองน้ำตกสาดซัดมาที่เธอจนเต็มหน้า แถมมันยังทำให้เสื้อตัวที่ใส่มาเปียกโชกอีกด้วย
*******************
ภาณุรุจมองพิมริสาที่เดินกลับขึ้นมาด้วยใจที่ปั่นป่วน ภาพยายรุ่นน้องที่เปียกปอนเหมือนลูกสุนัขตกน้ำ ทั้งน่ารักและน่า... ผมเผ้าที่รวบไว้บางปอยหลุดลุ่ย เธอช่างเซ็กซี่เย้ายวนใจ
นั่นเธอจะรู้ไหม เสื้อเชิ้ตสีขาวที่โดนน้ำมันบางแนบเนื้อจนเห็นรูป ทรงหน้าอกอันงดงามกลมกลึงชัดเจน และยังพานเห็นไปถึงส่วนโค้งส่วนเว้าของเอวกับสะโพกด้วย
“เปียกหมดเลย” เธอเดินขึ้นมาฟ้องเขา ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“พิมเพลินไปหน่อย”
ภาณุรุจยังยืนตาค้างตัวแข็ง พูดอะไรไม่ออก
ถึงตอนนี้ พิมริสาดูเหมือนจะรู้ตัว สายตาภาณุรุจทำเอาเธอร้อนผ่าวไปทั้งตัว...ทันใดภาพอดีตก็ผุดขึ้นมา เสียงใครคนหนึ่งตะโกนสั่ง
‘จับยายนี่แก้ผ้า!’
พิมริสารู้สึกตัวสั่นขึ้นมาโดยไร้เหตุผล เธอดึงชายเสื้อลงรีบหันหลังให้เขาแล้วบอกว่า
“กลับเถอะค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ เราเพิ่งมานะ”
เธอไม่ตอบ แต่ก้าวเท้าออกไป ชายหนุ่มเดินตามพลางต่อรอง
“ไหนๆ พิมก็เปียกแล้ว อาบไปเลยดีไหม พี่รอ”
“ไม่ละค่ะ ไม่มีเสื้อผ้าใส่กลับ”
“เดี๋ยวใส่เสื้อพี่คลุมก็ได้ พี่มีแจ็กเก็ตอยู่ในรถ”
“ค่ะ เดี๋ยวไปเอาในรถ แต่พิมไม่เล่นน้ำ” เธอพูดเสียงสั่นๆ แล้วเร่งก้าวสวบๆ ไปตามทางจนกลายเป็นวิ่ง
“เดี๋ยวสิพิม จะรีบไปไหน รอพี่ด้วย”
ภาณุรจตะโกนไล่หลังพร้อมวิ่งเหยาะๆ ตามมา เขารู้สึกตกใจกับท่า ทางตื่นๆ ของเธอ บ้าชะมัด นี่เธอกลัวว่าเขาจะทำอะไร
“อย่าวิ่ง ระวังกิ่งไม้ด้วย” เขาตะโกนไล่หลัง
แล้วเขาก็ตามเธอไปทัน ภาณุรุจฉุดข้อมือหญิงสาวเอาไว้จนเธอต้องหันมา แล้วโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดอะไร ชายหนุ่มก็ดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขน เขากอดเธอไว้แน่นจนหน้าอกเสื้อที่แห้งสนิทของเขาเปียกไปด้วยเพราะเสื้อเธอ
เธอดิ้นขลุกขลักพยายามหลุดพ้นจากอ้อมกอดของรุ่นพี่ใจร้าย แต่สองแขนเขารัดแน่นจนเธอต้องยอมแพ้ ปล่อยให้ใบหน้าตัวเองซบลงที่บ่าเขาอย่างสิ้นแรง
“พิมกลัวอะไร” เขาถามเสียงแตกพร่าอยู่ข้างหูเธอ “วิ่งหนีพี่ทำไม”
เธอไม่ตอบ เพราะตอบไม่ถูก
เขาถามอีก “พิมกลัวอะไรพี่ พี่ยังไม่ได้ทำอะไรพิมเลย”
“ไม่...ไม่รู้สิ”
“ก็เราสัญญากันแล้วใช่ไหมว่าวันนี้ ต้องจบสวยๆ”
“พิม...”
เธอพูดได้แค่นั้น ทุกอย่างสับสนไปหมด ในอกเธอมันดังโครมครามแข่งเสียงน้ำตก ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น นี่พี่ไผ่กอดเธออยู่หรือ ทำไมเธอมายืนให้เขากอด แล้วเขาจะทำอะไรต่อ
ชายหนุ่มคลายวงแขนออกเล็กน้อย ตาสีเข้มที่ตอนนี้ปราศจากแว่นสีฟ้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ตื่นกลัวของเธอ แล้วเขาก็ก้มหน้าลงมา
“นั่น...พี่...พี่ไผ่จะทำอะไร”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า” เสียงเขาแผ่วจนเธอสั่นสะท้าน
((eBook โหลดได้ที่ mebmarket))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ฟังเขาพูดแบบนั้น พิมริสาค่อยมีสีหน้าดีขึ้น ที่จริงเธอก็อยากอยู่กับเขา แล้วทำไมรู้สึกหวั่นใจกับอีแค่เขาพารถเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางป่าโปร่งๆ เพียงไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรก็ถึงตัวน้ำตก
เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอ เธอเชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา คราวก่อนเข้าเมืองไปกับเขาทั้งวัน แม้แต่ปลายก้อยเขาก็ไม่คิดแตะ แต่ที่กลัว เธอกลัวความใกล้ชิดเกินไปกระมัง และกลัวอะไรอีกหลายอย่างที่เธอเองก็บอกไม่ถูก
แต่ความกังวลทั้งหลายของพิมริสาก็หายไปหมดสิ้น เมื่อย่างเท้าลงจากรถ หูของเธอแว่วเสียงครึกโครมของสายน้ำ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยากเห็นภาพเจ้าของเสียงโดยเร็ว จริงอย่างภาณุรุจพูด น้ำตกอยู่ใกล้แค่นี้ แต่เธอไม่เคยคิดจะเข้ามา อ้อ เคยสิ เคยมาเมื่อนานมาแล้ว น่าจะสักสองครั้งสมัยเป็นเด็ก ภาพจึงเลือนรางมาก คลับคล้ายคลับคลาว่ามันรกทึบน่ากลัว แต่ต่อจาก นั้น เจ้าน้ำตกที่ชื่อเดียวกับหมู่บ้านนี้ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธออีก
“เสียดาย” ภาณุรุจพูด ขณะเดินนำเธอไปตามเส้นทางดิน รอบตัวเป็นสุมทุมพุ่มไม้เขียวสด อากาศเย็นสดชื่น
“พี่ไม่ได้เอากางเกงขาสั้นมาด้วย ไม่งั้นจะลงเล่นน้ำสักพัก”
“วันหลังพี่ก็มาเล่นสิคะ น้ำตกมันไม่หนีไปไหนนี่นา จะเสียดายทำ ไม”
“ชวนพิมมาด้วยได้ไหมล่ะ เล่นคนเดียวจะไปสนุกอะไร”
“พิมไม่ชอบเล่นน้ำ”
“อ้อ ลืมไปว่าพิมกลัวน้ำ กลัวหลายอย่างเลย กลัวช้างมาอันดับหนึ่ง กลัวน้ำมาอันดับสอง”
เขาพูดแล้วหัวเราะ หญิงสาวเองก็พลอยหัวเราะเสียงใสตามไปด้วย พิมริสาอยากจะกระโดดโลดเต้นไปตามทางเดินที่มีสายลมและเสียงนกเป็นเพื่อนร่วมทาง
ความสุขมาจากไหนนะ มันเข้าจู่โจมจนนึกกลัวว่ามันจะรีบมาและรีบหลุดลอยไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะคว้าทันไหม
เสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ ไม่นานภาพที่ปรากฏแก่สายตาของทั้งสองก็คือ สายน้ำสีขาวที่ร่วงหล่นเป็นแนวดิ่งจากผาสูงชัน ทะยานลงกระแทกแผ่นหินเบื้องล่างจนสายน้ำแตกกระจาย แผ่ละอองไอปกคลุมไปทั่วบริเวณก่อนไหลไปตามซอกหินลาดชันลงในแอ่งกว้าง
พิมริสาต้องร้องอู้ด้วยความตื่นตะลึง เพราะในน้ำแอ่งนั้นเป็นสีฟ้าสดแบบสีเทอร์ควอยซ์กันเลยทีเดียว และเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่ามันเป็นแอ่งน้ำที่ใสกริบจนเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายแหวกไปมา
เหลียวมองรอบๆ ก็มองไม่เห็นใคร นอกจากภาณุรุจคนเดียว เขายืนยิ้มๆ มองเธอเหมือนผู้ใหญ่พาเด็กมาเที่ยว สองมือเขากอดอก กางขาเล็ก น้อยตามสไตล์
พิมริสาถอดรองเท้า พับกางเกงขายาวขึ้นครึ่งน่อง แล้วเดินลงไปในแอ่งตื้นๆ ใครว่าเธอกลัวน้ำ เธอไม่ได้เป็นโรคพิษสุนัขบ้าเสียหน่อย อีตาไผ่เอ๊ย
รอบขอบแอ่งมีกรวดทรายเม็ดละเอียด เดินไปก็ไม่ลื่น รู้สึกสบายเท้า น้ำที่ไหลมากระทบ เย็นสะใจจนพิมริสาเองก็นึกเสียดายที่ไม่ได้นุ่งขาสั้นมา ไม่เช่นนั้นก็ลงแช่เสียเลยหมดเรื่อง
พิมริสาเดินลากขาเล่นเพลินๆ จนกระทั่งเข้าไปใกล้ซอกหินผาด้านตัวน้ำตก แล้วหญิงสาวก็ต้องร้องโอ๊ะ รีบเบี่ยงตัวหลบพัลวันเพราะจู่ๆ ก็มีลมกระโชกพัดพาละอองน้ำตกสาดซัดมาที่เธอจนเต็มหน้า แถมมันยังทำให้เสื้อตัวที่ใส่มาเปียกโชกอีกด้วย
*******************
ภาณุรุจมองพิมริสาที่เดินกลับขึ้นมาด้วยใจที่ปั่นป่วน ภาพยายรุ่นน้องที่เปียกปอนเหมือนลูกสุนัขตกน้ำ ทั้งน่ารักและน่า... ผมเผ้าที่รวบไว้บางปอยหลุดลุ่ย เธอช่างเซ็กซี่เย้ายวนใจ
นั่นเธอจะรู้ไหม เสื้อเชิ้ตสีขาวที่โดนน้ำมันบางแนบเนื้อจนเห็นรูป ทรงหน้าอกอันงดงามกลมกลึงชัดเจน และยังพานเห็นไปถึงส่วนโค้งส่วนเว้าของเอวกับสะโพกด้วย
“เปียกหมดเลย” เธอเดินขึ้นมาฟ้องเขา ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“พิมเพลินไปหน่อย”
ภาณุรุจยังยืนตาค้างตัวแข็ง พูดอะไรไม่ออก
ถึงตอนนี้ พิมริสาดูเหมือนจะรู้ตัว สายตาภาณุรุจทำเอาเธอร้อนผ่าวไปทั้งตัว...ทันใดภาพอดีตก็ผุดขึ้นมา เสียงใครคนหนึ่งตะโกนสั่ง
‘จับยายนี่แก้ผ้า!’
พิมริสารู้สึกตัวสั่นขึ้นมาโดยไร้เหตุผล เธอดึงชายเสื้อลงรีบหันหลังให้เขาแล้วบอกว่า
“กลับเถอะค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ เราเพิ่งมานะ”
เธอไม่ตอบ แต่ก้าวเท้าออกไป ชายหนุ่มเดินตามพลางต่อรอง
“ไหนๆ พิมก็เปียกแล้ว อาบไปเลยดีไหม พี่รอ”
“ไม่ละค่ะ ไม่มีเสื้อผ้าใส่กลับ”
“เดี๋ยวใส่เสื้อพี่คลุมก็ได้ พี่มีแจ็กเก็ตอยู่ในรถ”
“ค่ะ เดี๋ยวไปเอาในรถ แต่พิมไม่เล่นน้ำ” เธอพูดเสียงสั่นๆ แล้วเร่งก้าวสวบๆ ไปตามทางจนกลายเป็นวิ่ง
“เดี๋ยวสิพิม จะรีบไปไหน รอพี่ด้วย”
ภาณุรจตะโกนไล่หลังพร้อมวิ่งเหยาะๆ ตามมา เขารู้สึกตกใจกับท่า ทางตื่นๆ ของเธอ บ้าชะมัด นี่เธอกลัวว่าเขาจะทำอะไร
“อย่าวิ่ง ระวังกิ่งไม้ด้วย” เขาตะโกนไล่หลัง
แล้วเขาก็ตามเธอไปทัน ภาณุรุจฉุดข้อมือหญิงสาวเอาไว้จนเธอต้องหันมา แล้วโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดอะไร ชายหนุ่มก็ดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขน เขากอดเธอไว้แน่นจนหน้าอกเสื้อที่แห้งสนิทของเขาเปียกไปด้วยเพราะเสื้อเธอ
เธอดิ้นขลุกขลักพยายามหลุดพ้นจากอ้อมกอดของรุ่นพี่ใจร้าย แต่สองแขนเขารัดแน่นจนเธอต้องยอมแพ้ ปล่อยให้ใบหน้าตัวเองซบลงที่บ่าเขาอย่างสิ้นแรง
“พิมกลัวอะไร” เขาถามเสียงแตกพร่าอยู่ข้างหูเธอ “วิ่งหนีพี่ทำไม”
เธอไม่ตอบ เพราะตอบไม่ถูก
เขาถามอีก “พิมกลัวอะไรพี่ พี่ยังไม่ได้ทำอะไรพิมเลย”
“ไม่...ไม่รู้สิ”
“ก็เราสัญญากันแล้วใช่ไหมว่าวันนี้ ต้องจบสวยๆ”
“พิม...”
เธอพูดได้แค่นั้น ทุกอย่างสับสนไปหมด ในอกเธอมันดังโครมครามแข่งเสียงน้ำตก ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น นี่พี่ไผ่กอดเธออยู่หรือ ทำไมเธอมายืนให้เขากอด แล้วเขาจะทำอะไรต่อ
ชายหนุ่มคลายวงแขนออกเล็กน้อย ตาสีเข้มที่ตอนนี้ปราศจากแว่นสีฟ้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ตื่นกลัวของเธอ แล้วเขาก็ก้มหน้าลงมา
“นั่น...พี่...พี่ไผ่จะทำอะไร”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า” เสียงเขาแผ่วจนเธอสั่นสะท้าน
((eBook โหลดได้ที่ mebmarket))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 มี.ค. 2563, 22:27:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 มี.ค. 2563, 22:27:57 น.
จำนวนการเข้าชม : 488
<< บทที่ 13 -60% | บทที่ 14 -30% >> |