โอบรักธารรุ้ง: อัยย์ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
หมู่บ้านธารรุ้ง แผ่นดินผืนนี้คือทำเลทองของธุรกิจเขา
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร

'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ


******************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!

***************************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ

2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile

3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks

4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee

หนังสือพร้อมส่ง

คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า

สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรแมนติก คู่กัด เกษตรกร รีสอร์ต รุ่นพี่ รุ่นน้อง

ตอน: บทที่ 14 -100%

ราตรีของธารรุ้งเงียบเหงาเช่นทุกคืน แต่ภายในบ้านอันสว่างไสวของครอบครัวชื่นบุญยังกลับอึกทึกเช่นทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าที่โต๊ะกินข้าว

วันนี้ทุกคนเหมือนมีเรื่องมากมายที่จะต้องมาเล่าให้พี่ๆ น้องๆ ฟังต่างคุยไปรับประทานไป นอกจากพิมริสาที่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านแล้ว การมีสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่มอีกคนอย่างชด ยิ่งทำให้บรรยากาศอบอุ่นและสนุก สนานยิ่งขึ้น เพราะชดเป็นทั้งตัวชง ตัวไกล่เกลี่ย และเป็นตัวแซวหลานๆ ได้แบบไม่เคยหมดมุก

“คุยอยู่นั่นแหละแก” พิมพ์ใจเอ็ดน้องชายหนุ่มใหญ่ เธอสังเกตว่าปีนี้ ชดเริ่มมีผมขาวขึ้นหลายเส้นแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่หัวเขาไม่เถิก ริ้วรอยที่ใบหน้าคล้ำๆ นั้น แม้เป็นร่องลึกขึ้นตามวัย แต่ก็ยังดูดีกว่าหนุ่มรุ่นเดียวกัน 

“กินข้าวบ้าง จะได้มีแรงลงไร่กับหลานพรุ่งนี้”

“นั่นสิน้าชด วันนี้พรอุตส่าห์เจียวไข่ของชอบให้น้า ทำไมเมินซะงั้น เห็นซดแต่แกงจืด”

ชดหัวเราะหึ “น้ากินไม่ลงจริงๆ หนูพร ตอนเที่ยงฟาดไปสองฟองแล้ว ขืนกินอีก คอเลสเตอรอลพุ่งแน่”

“กลัวอ้วนหรือไงชด” ไพโรจน์ถามน้องเมีย   

“ต้องคุมนิดนึงครับพี่โรจน์ คนวัยผม ต่อให้ทำงานกลางแจ้งทุกวันแต่ระบบเผาผลาญไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เผลอนิดหน่อยลงพุงทันที” ชดว่าพลางเอามือลูบท้อง “แล้วตั้งแต่มาอยู่บ้านนี้ มีแต่ของอร่อยครบสามมื้อ”

“แกห่วงหล่อตั้งแต่เมื่อไหร่ กินเยอะๆ เถอะ หลานมันอุตส่าห์ตั้งใจทำกับข้าวให้” พูดแล้วพิมพ์ใจก็เลื่อนจานไข่เจียวมาตรงหน้า ทำให้ชดต้องฝืนใจตักใส่จานก่อนจะรับประทานด้วยสีหน้าสุดเลี่ยน

จบการจัดแจงเรื่องน้องชาย พิมพ์ใจก็มองไปทางลูกสาวคนเล็กแล้วร้องขึ้น “อ้าว ยายพิม แม่เห็นแกนั่งดมๆ อยู่นั่นแหละ นั่นอิ่มแล้วรึ จะรีบลุกไปไหน” 

“สงสัยจะอิ่มกันมาตั้งแต่กลางวันแหละแม่” เป็นเสียงของภพพิชัย

“วันนี้ประชุมเสร็จ ยายพิมก็ไปกินหรูถึงร้านอิงไพร ส่วนน้าชด ข่าวว่าเกดแก้วก็เลี้ยงใหญ่”

“แล้วแกล่ะภพ ไม่มีใครเขาเลี้ยงแกบ้างหรือ เออนี่แม่” แล้วไพโรจน์ก็หันไปทางภรรยา “แม่ว่าบ้านเราแปลกไหม ลูกสามคน อายุอานามก็ไม่น้อยแล้วทำไมยังเป็นโสดกันหมด แม้แต่แฟนก็ไม่มี มาที่ชดนี่ก็โสดอีก แบบนี้มันผิดปกติไหม”

“ยังไม่ถึงเวลามั้งคะพ่อ” พรผกาว่า

“ตอนถึงเวลา พ่อกับแม่แกคงแก่ตายพอดี คงไม่ได้อยู่จนเห็นหน้าหลาน”

ไพโรจน์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าจะพูดเล่น มาถึงวันนี้ แม้ครอบครัวจะอบอุ่นด้วยลูกๆ แต่เขาคิดว่า ควรจะมีใครแยกไปมีครอบครัวกันบ้างแล้ว เพราะเมื่อดูตัวอย่างชดที่อยู่เป็นโสดจนวัยล่วงเลย แม้จะพยายามทำตัวสนุกสนานแค่ไหน แต่เขาก็มองเห็นภาพของคนที่อ้างว้างเดียวดาย นี่ยังโชคดีที่ชดยังมีพี่สาวอีกคนที่รักน้อง หาไม่แล้ว ชดก็คงกลายเป็นชายที่โดดเดี่ยวไร้คนเหลียวแลยามแก่เฒ่า



*****************



หลังมื้อค่ำผ่านไป ประมุขของไร่ปทุมมาก็ยังนำเรื่องที่ติดค้างใจมาพูด คุยกับภรรยาสองคนที่ระเบียงบ้าน 

“จริงๆ นะแม่ ลูกๆ เราไม่มีใครออกเหย้าออกเรือนกันเลย พ่อว่าก็น่าห่วงอยู่นา ดูจะเป็นหนุ่มทึนทึกสาวทึนทึกคาบ้านกันทั้งนั้น”

“แม่ก็คิดเหมือนพ่อ ทีแรกเราก็หวงลูกสาว แต่ตอนนี้ แม่ก็อยากให้ยายพรกับยายพิมมีใครบ้าง เจ้าภพก็เหมือนกันพ่อได้ข่าวว่ามันชอบใครบ้างไหม”

ไพโรจน์ส่ายหน้า “ไม่ได้ข่าวเลย เอ๊ะ! หรือภพ มันจะชอบผู้ชาย”

“พ่อก็พูดไป ภพมันชายทั้งแท่ง สมัยวัยรุ่นก็เห็นเคยจีบเกดแก้วอยู่พักนึง ไปๆ มาๆ ไม่รู้ทำไมเลิกกันได้ หนูเกดเป็นคนขยัน เขาคงไม่ชอบคนขี้เกียจอย่างลูกเรามั้ง เขาก็ต้องนู่นแหละคบกับหนุ่มกรุงรวยๆ อย่างคุณไผ่”

“แต่คุณไผ่จะชอบด้วยหรือเปล่านี่สิ ทีแรกพ่อก็คิดแบบนั้น” ถึงตรงนี้ ไพโรจน์ลดกวาดตาไปรอบๆ และเสียงเบาลงจนเกือบกระซิบกับผู้เป็นเมีย 

“แต่แม่คิดดูสิ วันนี้ลูกเราไปกับคุณไผ่ ไปเที่ยวน้ำตกกันมาแล้วเขาก็เอาต้นไม้มาให้ลูกเราเยอะแยะ พ่อว่ามันจะยังไงๆ อยู่”

“ถ้าคุณไผ่ชอบยายพิม แล้วคุณนทีล่ะ นี่ก็เข้าๆ ออกๆ บ้านเราเห็นขนหนังสือ ขนขนมมาฝากยายพิม แม่ว่ามันแปลกพิลึก พวกเขาสนใจแต่ลูกคนเล็ก แต่ไม่ยักมีใครสนใจยายพรเลย พรมันก็สวยคม นิสัยก็น่ารักกว่าน้องอีก”

ไพโรจน์มีสีหน้าขบคิด เขามองสบตาภรรยา แล้วทันใดนั้นต่างเห็นแววกังวลซึ่งกันและกัน ในที่สุดพิมพ์ใจเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน

“แม่ไม่อยากคิดในแง่ร้ายเลยนะพ่อ สองหนุ่มเขามาหาลูกเราด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่ ก็สองคนนี้ เขาอยากได้ที่เราจนตัวสั่น พ่อว่าไหม”

“ใช่ แต่ตอนนี้เขาบอกว่ายุติโครงการกันแล้วนี่”

“เชื่อได้แค่ไหนก็ไม่รู้ แล้วพ่อลองคิดไกลๆ อีกนิด สมมุติว่า คนของเราไปชอบใครคนใดคนหนึ่งเข้า ผลของมันจะเป็นยังไง อะ สมมุติถึงขั้นยาย พิมจดทะเบียนสมรส เอ้า”

ไพโรจน์รู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลัง ทำไมเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน จริงอย่างพิมพ์ใจว่า ถ้าพิมริสาปลงใจไปกับใครสักคน ที่ผืนนี้ สามีของลูกสาวก็ย่อมมีสิทธิ์แน่นอน

“แต่ถ้าลูกเรารัก แล้วเขาก็รักลูกเราจริงล่ะ สองคนนี้เขาก็มีฐานะดี ประวัติก็ดี ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ เขาจะมีสิทธิ์ในทรัพย์สินเราด้วยมันก็ไม่แปลก ไม่ใช่หรือ” ไพโรจน์พยายามมองมุมบวก

“ถ้าเขารักจริง มันก็ไม่แปลกหรอกพ่อ เราได้ลูกเขยรวยยังไงก็ดี กว่าจน แต่แม่กลัวว่าเขาจะมาหลอกลูกเราเพื่อเอาที่น่ะสิ ตรงนี้มันจะพิสูจน์ยังไงล่ะ”

“ก็ต้องให้กาลเวลาพิสูจน์มั้ง วันนี้เท่าที่พ่อคุยกับคุณไผ่ เขาเป็นคนดีมาก บอกตรงๆ ว่าพ่อรู้สึกถูกชะตากับเขา”

“แต่แม่ไม่ค่อยอยากไว้ใจใคร พ่ออย่าลืมว่า เขาอยากซื้อที่เราไปทำรีสอร์ตมาก ถึงขั้นเสนอราคาสูงๆ มาแล้ว คุณนทีนั่นก็เหมือนกัน แต่รายนี้ดูท่าทีลูกเราไม่ค่อยจะอะไร ไม่เหมือนกับนายไผ่รุ่นพี่แก ปากบอกว่าเกลียดๆ แต่วันนี้พอกลับมา พ่อเห็นไหม ดูเหม่อๆ ข้าวปลาก็กินไม่ลง เหมือนคนอิ่มทิพย์ยังไงยังงั้น”

สองตายายต่างขบคิดกันหนักหน่วง ถ้าเพียงแต่ผู้ชายสองคนที่มาพัวพันกับลูกสาวยามนี้ ไม่ใช่นักธุรกิจที่พยายามจะมาซื้อที่ดิน ทั้งคู่ก็จะดีใจด้วยซ้ำ

“เอาไงดีพ่อ หรือเราจะเตือนยายพิมให้ระวังดี แม่ว่าแกไม่ทันฉุกคิดเรื่องนี้แน่”

“อย่าเลยแม่ เดี๋ยวจะกลายเป็นไปทำให้ทุกข์ใจหรือระแวงกันเปล่าๆ ลูกเรากำลังทำงานอย่างมีความสุข แม่จะไปทำให้ลูกมีอะไรในใจทำไม พ่อว่ารอดูกันไปก่อน ถ้าไม่ชอบมาพากลจริงๆ ค่อยเตือนก็น่าจะทัน เรารู้ตัวอยู่อย่างนี้แล้ว ต้องถือว่าโชคดีกว่าไม่รู้ จริงไหมล่ะ”

พิมพ์ใจถอนใจเฮือกใหญ่ เธออยากให้ลูกๆ ได้มีคนรักกันบ้าง ครั้นพอลูกทำท่าว่าจะมีคนชอบพอ ก็กลายเป็นว่ามาสร้างความหนักอกหนักใจให้เสียอีก



หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มี.ค. 2563, 19:11:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มี.ค. 2563, 19:11:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 369





<< บทที่ 14 -60%   บทที่ 15 -35% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account