โอบรักธารรุ้ง: อัยย์ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
หมู่บ้านธารรุ้ง แผ่นดินผืนนี้คือทำเลทองของธุรกิจเขา
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรแมนติก คู่กัด เกษตรกร รีสอร์ต รุ่นพี่ รุ่นน้อง
ตอน: บทที่ 17 -40%
นทียืนมองช้างที่ตกลูกตัวใหม่แล้วเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา บางทีการเอาใจผู้หญิงบางคน แค่เอาข้าวตอกดอกไม้ไปให้อาจจะไม่ได้ใจเธอเท่าที่ควร
พิมริสากลัวช้าง...ถ้าเขาสามารถทำให้เธอหายกลัวได้ นั่นอาจหมาย ถึงการสร้างความประทับใจให้กับเธอ ลูกช้างตัวน้อยๆ ดูน่ารัก ผู้หญิงรายไหนรายนั้นต้องหลงใหล เขาน่าจะให้เธอได้เห็นและทำความคุ้นเคยกับมัน เขาอาจได้คะแนนกับเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงพิเศษอย่างนั้น อาจต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง
ความคิดใกล้ตกผลึก ก็พอดีมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ภาณุรุจนั่นเอง
“เป็นไงไผ่ ไปกรุงเทพฯ คืนเดียวก็โทร.ถึงผมซะแล้ว ยังไงอยู่นา”
นทีเย้าหุ้นส่วนรุ่นน้องด้วยเสียงร่าเริง อดรู้สึกไม่ได้ว่า ธารรุ้งยามที่ภาณุรุจไม่อยู่นั้น อากาศช่างปลอดโปร่งดีแท้...ภาพความสนิทสนมของเขากับพิมริสาในห้องประชุมวันก่อนยังติดตาติดใจ การที่เธอปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กลับยอมนั่งรถไปในเมืองกับภาณุรุจ ยอมไปรับประทานอาหารที่อิงไพรรีสอร์ต ท่าทีเหล่านี้ ทำให้เขาต้องคิดหนัก
ผู้ชายด้วยกัน ยังไงก็มองกันออก ช่วงที่ผ่านมาก่อนที่ภาณุรุจจะไปกรุงเทพฯ เขาก็ต้องกลับเข้าไปทำงานหลายอย่างในตัวจังหวัดเสียด้วย พักอยู่ที่นั่นหลายวัน ก็ไม่รู้ว่าทางนี้มีอะไรที่ทำให้เขาต้องหลุดเฟรมไปบ้าง
“เปล่าครับพี่ แค่โทร.มาดูว่าพี่กลับหรือยัง เพราะทั้งผมทั้งพี่ไม่อยู่เดี๋ยวหนูจะร่าเริงกันใหญ่ ผมอยากฝากพี่ช่วยดูว่าพี่ปื๊ดพาแขกไปนั่งช้างบ้างไหม คนใหม่คนนี้ของผมยังไม่เวิร์กเท่าพี่ชดครับ”
“อ๋อ ได้สิ แค่นี้เองหรือ”
“ครับ”
“โอเค คุณไปพักผ่อนกับครอบครัวให้สบายใจ ไม่ต้องห่วงงานทางนี้หรอกน่า ฝากกราบคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยนะ พวกท่านสบายดีไหม”
“สบายดีครับพี่ ท่านแข็งแรงทั้งคู่ ขอบคุณครับ”
แล้วต่างก็วางหูกันไป นทีมองไปที่ช้างน้อยอีกครั้ง เขาคิดอะไรบางอย่างเพิ่มเติมขึ้นมาได้แล้วก็ยิ้มอยู่ในใจ และหลังจากสะสางงานเสร็จเรียบร้อย ไม่นานเขาก็พาตัวเองมาอยู่ที่ไร่พิมปทุมมาแล้ว
พรผกาเป็นคนที่เดินออกมาต้อนรับ นทีอดแปลกใจไม่ได้ที่เขาต้องเจอเธอด้วยเสมอ ครูอนุบาลสาวโสดที่สวยคมขำ อุปนิสัยเธอน่ารักทุกอย่าง แต่กลับไม่ทำให้ใจเขาหวั่นไหวได้แม้แต่น้อย...เป็นเพราะอะไรนะ หรือเพราะเธอไม่ได้รับพื้นที่อันกว้างขวางสวยงามเป็นมรดกด้วยนั่นอย่างหนึ่ง
“วันนี้ไม่ไปสอนเหรอครับครู”
ชายหนุ่มถามไปตามมารยาทอย่างนั้นเอง สายตาสอดส่ายไปรอบๆ
“ไปค่ะ กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้ แล้วก็เจอคุณนทีพอดี มีธุระอะไรกับใครหรือเปล่าคะ มาเช้าเชียว”
พรผกาเองก็ถามไปอย่างนั้นเช่นกัน รู้อยู่เต็มอกว่าเขามาหาใคร ผู้ชายที่มาบ้านนี้ ไม่ว่าใครๆ ก็ล้วนไม่มาหาเธอ
“ครับ ปางช้างของผมโชคดี เราเพิ่งมีช้างให้ดอกออกผล เอ่อ หมายถึงมันตกลูกน่ะครับ เป็นเพศเมีย ควาญที่เลี้ยงเขาบอกว่า ถ้ามีหญิงสาวโสดที่ขยันขันแข็ง รู้จักสร้างตัวสู้งานมาตั้งชื่อให้ จะส่งผลดีกับปาง”
หญิงสาวเลิกคิ้ว ทำท่าสงสัย “เอ มีแบบนี้ด้วยเหรอคะ พรไม่เคยได้ยิน”
“นั่นสิครับ ผมทำปางช้างมาก็เพิ่งได้ยินนี่แหละ ก็ไม่รู้ควาญไปเอาความเชื่อมาจากไหน แต่พอเขาทักแบบนั้นไอ้ครั้นจะนิ่งเฉยก็ดูยังไงอยู่ มานึกดู เราทำตามก็ไม่เสียหาย ผมก็เลยนึกถึงคุณพิม อยากให้เธอช่วยน่ะครับคุณพร”
“โอ๊ย คุณนทีคะ นึกถึงใครไม่นึก มานึกถึงยายพิม ”
พรผกาพูดแล้วอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ นี่นทีจะมาไม้ไหนกัน เขามาหาคนที่เกลียดและกลัวช้างอย่างที่สุดไปทำพิธีตั้งชื่อช้าง ที่จริงเรื่องนี้เขารู้เต็มอก
“สาวโสดที่ขยันสู้งาน ก็มีน้องเกดอีกคนนึงนะคะ รายนั้นขยันกว่ายายพิมอีก น้องสาวพรน่ะแกกลัวช้างขนาดหนัก เกรงว่าแกคงช่วยคุณนทีไม่ ได้สิคะ”
“ครับ ผมทราบดีว่าเธอกลัวช้าง” นทีพูดอย่างใจเย็น คำตอบทั้งหลาย เขาเตรียมมาแล้วตั้งแต่ที่บ้าน “แต่ผมถามครูนิดนึงนะครับว่าครูอยากเห็นน้องสาวจมอยู่กับความกลัวที่ไร้สาระนี้ไปตลอดหรือครับ เราไม่คิดหา ทางขจัดมันออกไปหรือ เราไม่คิดจะช่วยเธอตรงนี้หรือครับครู เธอจะได้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ไม่ใช่เดินไประแวงไปตลอดเวลา”
คราวนี้พรผกานิ่ง คำพูดของนทีดูมีน้ำหนักทุกคำ
“ผมคิดว่าเราน่าจะเริ่มที่ลูกช้างตัวเล็กๆ น่ารักๆ กับเธอนะครับ ให้เธอคุ้นเคย และรู้สึกว่ามันไม่น่ากลัว มันไม่ทำร้ายเธอ...ก่อนจะมาขอร้อง ผมก็ไตร่ตรองมาดีแล้ว ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ผมจะพาเธอไปเจอเจ้าช้างตัวโตตัวดุนี่ครับ”
“อืม ก็จริงอย่างที่คุณนทีพูด” พรผกาพยักหน้าช้าๆ เธอคล้อยตามเขาทุกถ้อยวลี “พรเองไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แต่ตอนนี้น้องเขาอยู่ในไร่ ออกไปเช้าแบบนี้ กว่าจะกลับเข้าบ้านก็เที่ยง คุณจะรอไหมคะ หรือจะเดินไปหา แต่ก็ไกลหน่อย เดินลำบากด้วย รองเท้าเสื้อผ้าคุณนทีจะเปื้อนเอาด้วยน่ะค่ะ”
นทีรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เจอคนที่ต้องการพบ ต่อไปเขาต้องมาให้ติดเที่ยง บ่ายก็อาจมาไม่ได้อีกเพราะเธอเข้างานบ่ายเหมือนพวกรับราชการ จะมาที่นี่เพื่อเจอสาวชาวไร่สักคน ก็ต้องมานอกเวลาราชการ คิดแล้วขำไม่ออกจริงๆ
“งั้นครูช่วยโทร.เรียกเธอหน่อยได้ไหมครับ”
“เมื่อเช้าพอดีเห็นน้องบ่นๆ ว่าโทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ด้วยสิคะ แต่ถ้าคุณนทีอยากเจอจริงๆ พรโทร.เรียกน้าชดให้บอกยายพิมก็ได้ค่ะ”
“โอ๊ะ ดูจะยุ่งยากเหลือเกิน ดูรบกวนมากไป ถ้างั้นผมฝากครูให้ช่วยหน่อยแล้วกันครับเรื่องนี้ ผมเองไม่เคยขอร้องอะไรคุณพิมเลย ก็อยากจะรบกวนแค่นี้ และก็อย่างที่บอกครูนั่นแหละว่า มันก็เป็นผลดีต่อตัวน้องสาวคุณเองด้วย”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพรจะช่วยค่ะ”
((((ตอนนี้โอบรักธารรุ้งมีขายที่ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช แล้วนะคะ ส่วนแบบ eBook ลด 30% ถึงแค่ศุกร์นี้น้าาา จาก 402฿ เหลือ 280฿))))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
พิมริสากลัวช้าง...ถ้าเขาสามารถทำให้เธอหายกลัวได้ นั่นอาจหมาย ถึงการสร้างความประทับใจให้กับเธอ ลูกช้างตัวน้อยๆ ดูน่ารัก ผู้หญิงรายไหนรายนั้นต้องหลงใหล เขาน่าจะให้เธอได้เห็นและทำความคุ้นเคยกับมัน เขาอาจได้คะแนนกับเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงพิเศษอย่างนั้น อาจต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง
ความคิดใกล้ตกผลึก ก็พอดีมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ภาณุรุจนั่นเอง
“เป็นไงไผ่ ไปกรุงเทพฯ คืนเดียวก็โทร.ถึงผมซะแล้ว ยังไงอยู่นา”
นทีเย้าหุ้นส่วนรุ่นน้องด้วยเสียงร่าเริง อดรู้สึกไม่ได้ว่า ธารรุ้งยามที่ภาณุรุจไม่อยู่นั้น อากาศช่างปลอดโปร่งดีแท้...ภาพความสนิทสนมของเขากับพิมริสาในห้องประชุมวันก่อนยังติดตาติดใจ การที่เธอปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กลับยอมนั่งรถไปในเมืองกับภาณุรุจ ยอมไปรับประทานอาหารที่อิงไพรรีสอร์ต ท่าทีเหล่านี้ ทำให้เขาต้องคิดหนัก
ผู้ชายด้วยกัน ยังไงก็มองกันออก ช่วงที่ผ่านมาก่อนที่ภาณุรุจจะไปกรุงเทพฯ เขาก็ต้องกลับเข้าไปทำงานหลายอย่างในตัวจังหวัดเสียด้วย พักอยู่ที่นั่นหลายวัน ก็ไม่รู้ว่าทางนี้มีอะไรที่ทำให้เขาต้องหลุดเฟรมไปบ้าง
“เปล่าครับพี่ แค่โทร.มาดูว่าพี่กลับหรือยัง เพราะทั้งผมทั้งพี่ไม่อยู่เดี๋ยวหนูจะร่าเริงกันใหญ่ ผมอยากฝากพี่ช่วยดูว่าพี่ปื๊ดพาแขกไปนั่งช้างบ้างไหม คนใหม่คนนี้ของผมยังไม่เวิร์กเท่าพี่ชดครับ”
“อ๋อ ได้สิ แค่นี้เองหรือ”
“ครับ”
“โอเค คุณไปพักผ่อนกับครอบครัวให้สบายใจ ไม่ต้องห่วงงานทางนี้หรอกน่า ฝากกราบคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยนะ พวกท่านสบายดีไหม”
“สบายดีครับพี่ ท่านแข็งแรงทั้งคู่ ขอบคุณครับ”
แล้วต่างก็วางหูกันไป นทีมองไปที่ช้างน้อยอีกครั้ง เขาคิดอะไรบางอย่างเพิ่มเติมขึ้นมาได้แล้วก็ยิ้มอยู่ในใจ และหลังจากสะสางงานเสร็จเรียบร้อย ไม่นานเขาก็พาตัวเองมาอยู่ที่ไร่พิมปทุมมาแล้ว
พรผกาเป็นคนที่เดินออกมาต้อนรับ นทีอดแปลกใจไม่ได้ที่เขาต้องเจอเธอด้วยเสมอ ครูอนุบาลสาวโสดที่สวยคมขำ อุปนิสัยเธอน่ารักทุกอย่าง แต่กลับไม่ทำให้ใจเขาหวั่นไหวได้แม้แต่น้อย...เป็นเพราะอะไรนะ หรือเพราะเธอไม่ได้รับพื้นที่อันกว้างขวางสวยงามเป็นมรดกด้วยนั่นอย่างหนึ่ง
“วันนี้ไม่ไปสอนเหรอครับครู”
ชายหนุ่มถามไปตามมารยาทอย่างนั้นเอง สายตาสอดส่ายไปรอบๆ
“ไปค่ะ กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้ แล้วก็เจอคุณนทีพอดี มีธุระอะไรกับใครหรือเปล่าคะ มาเช้าเชียว”
พรผกาเองก็ถามไปอย่างนั้นเช่นกัน รู้อยู่เต็มอกว่าเขามาหาใคร ผู้ชายที่มาบ้านนี้ ไม่ว่าใครๆ ก็ล้วนไม่มาหาเธอ
“ครับ ปางช้างของผมโชคดี เราเพิ่งมีช้างให้ดอกออกผล เอ่อ หมายถึงมันตกลูกน่ะครับ เป็นเพศเมีย ควาญที่เลี้ยงเขาบอกว่า ถ้ามีหญิงสาวโสดที่ขยันขันแข็ง รู้จักสร้างตัวสู้งานมาตั้งชื่อให้ จะส่งผลดีกับปาง”
หญิงสาวเลิกคิ้ว ทำท่าสงสัย “เอ มีแบบนี้ด้วยเหรอคะ พรไม่เคยได้ยิน”
“นั่นสิครับ ผมทำปางช้างมาก็เพิ่งได้ยินนี่แหละ ก็ไม่รู้ควาญไปเอาความเชื่อมาจากไหน แต่พอเขาทักแบบนั้นไอ้ครั้นจะนิ่งเฉยก็ดูยังไงอยู่ มานึกดู เราทำตามก็ไม่เสียหาย ผมก็เลยนึกถึงคุณพิม อยากให้เธอช่วยน่ะครับคุณพร”
“โอ๊ย คุณนทีคะ นึกถึงใครไม่นึก มานึกถึงยายพิม ”
พรผกาพูดแล้วอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ นี่นทีจะมาไม้ไหนกัน เขามาหาคนที่เกลียดและกลัวช้างอย่างที่สุดไปทำพิธีตั้งชื่อช้าง ที่จริงเรื่องนี้เขารู้เต็มอก
“สาวโสดที่ขยันสู้งาน ก็มีน้องเกดอีกคนนึงนะคะ รายนั้นขยันกว่ายายพิมอีก น้องสาวพรน่ะแกกลัวช้างขนาดหนัก เกรงว่าแกคงช่วยคุณนทีไม่ ได้สิคะ”
“ครับ ผมทราบดีว่าเธอกลัวช้าง” นทีพูดอย่างใจเย็น คำตอบทั้งหลาย เขาเตรียมมาแล้วตั้งแต่ที่บ้าน “แต่ผมถามครูนิดนึงนะครับว่าครูอยากเห็นน้องสาวจมอยู่กับความกลัวที่ไร้สาระนี้ไปตลอดหรือครับ เราไม่คิดหา ทางขจัดมันออกไปหรือ เราไม่คิดจะช่วยเธอตรงนี้หรือครับครู เธอจะได้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ไม่ใช่เดินไประแวงไปตลอดเวลา”
คราวนี้พรผกานิ่ง คำพูดของนทีดูมีน้ำหนักทุกคำ
“ผมคิดว่าเราน่าจะเริ่มที่ลูกช้างตัวเล็กๆ น่ารักๆ กับเธอนะครับ ให้เธอคุ้นเคย และรู้สึกว่ามันไม่น่ากลัว มันไม่ทำร้ายเธอ...ก่อนจะมาขอร้อง ผมก็ไตร่ตรองมาดีแล้ว ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ผมจะพาเธอไปเจอเจ้าช้างตัวโตตัวดุนี่ครับ”
“อืม ก็จริงอย่างที่คุณนทีพูด” พรผกาพยักหน้าช้าๆ เธอคล้อยตามเขาทุกถ้อยวลี “พรเองไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แต่ตอนนี้น้องเขาอยู่ในไร่ ออกไปเช้าแบบนี้ กว่าจะกลับเข้าบ้านก็เที่ยง คุณจะรอไหมคะ หรือจะเดินไปหา แต่ก็ไกลหน่อย เดินลำบากด้วย รองเท้าเสื้อผ้าคุณนทีจะเปื้อนเอาด้วยน่ะค่ะ”
นทีรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เจอคนที่ต้องการพบ ต่อไปเขาต้องมาให้ติดเที่ยง บ่ายก็อาจมาไม่ได้อีกเพราะเธอเข้างานบ่ายเหมือนพวกรับราชการ จะมาที่นี่เพื่อเจอสาวชาวไร่สักคน ก็ต้องมานอกเวลาราชการ คิดแล้วขำไม่ออกจริงๆ
“งั้นครูช่วยโทร.เรียกเธอหน่อยได้ไหมครับ”
“เมื่อเช้าพอดีเห็นน้องบ่นๆ ว่าโทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ด้วยสิคะ แต่ถ้าคุณนทีอยากเจอจริงๆ พรโทร.เรียกน้าชดให้บอกยายพิมก็ได้ค่ะ”
“โอ๊ะ ดูจะยุ่งยากเหลือเกิน ดูรบกวนมากไป ถ้างั้นผมฝากครูให้ช่วยหน่อยแล้วกันครับเรื่องนี้ ผมเองไม่เคยขอร้องอะไรคุณพิมเลย ก็อยากจะรบกวนแค่นี้ และก็อย่างที่บอกครูนั่นแหละว่า มันก็เป็นผลดีต่อตัวน้องสาวคุณเองด้วย”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพรจะช่วยค่ะ”
((((ตอนนี้โอบรักธารรุ้งมีขายที่ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช แล้วนะคะ ส่วนแบบ eBook ลด 30% ถึงแค่ศุกร์นี้น้าาา จาก 402฿ เหลือ 280฿))))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 พ.ค. 2563, 10:27:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 พ.ค. 2563, 10:27:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 441
<< บทที่ 16 -100% | บทที่ 17 -70% >> |