Cause of Love...เล่ห์อำพรางใจ: เอบิช (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะความจำเป็นในชีวิต บีบบังคับให้ ‘มิวาร์’
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา
อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!
เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย
ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)
หนังสือพร้อมส่ง
จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา
อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!
เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย
ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)
หนังสือพร้อมส่ง
จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 9 -35%
เล่ห์อำพรางใจ มีวางขายที่ “ศูนย์หนังสือจุฬาฯ” แล้วค่ะ รีดเดอร์ท่านใดสะดวกหน้าร้าน แวะไปอุดหนุนกันได้เลยจ้า
**************
‘เพื่อน’ ของเธอมาตามนัดจริงๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้นัดใครเลยในวันนี้ อีรอส ไททัน ยืนอิงสะโพกกับประตูฝั่งผู้โดยสารของรถพอร์ช นิ้วมือข้างหนึ่งเกี่ยวเสื้อสูทที่พาดบ่าไว้ด้านหลังและยืนเท้าไขว้สลับกันในท่าทีสบายๆ ด้วยมาดสุดเท่ เขาถอดแว่นกันแดดยี่ห้อแพงลิบออกทันทีที่เห็นเธอเดินออกมาจากโรงพยาบาลท่ามกลางแสงจันทร์สีเงินยวงที่ส่องสว่างในยามหัวค่ำ
“ฉันคิดว่าวันนี้ฉันคงไม่มีอารมณ์บริการคุณหรอกค่ะ” เธอแสร้งทำน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นแรงกับการปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันของเขา
“คุณคิดว่าการวางยาถ่ายผมเป็นการให้บริการของคุณงั้นหรือ”
“แน่นอนสิคะ คุณคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมล่ะว่านอนหลับสบายตลอดทั้งคืน” เพราะหมดแรง...มุมปากของเธอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ใช่ หลับสบายเพราะไปนอนให้น้ำเกลือมาหนึ่งคืนเต็มๆ”
ครานี้...มิวาร์อยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ แต่เธอจำต้องกลั้นเสียงหัวเราะจนปวดแก้ม เธอยังหยุดยืนห่างจากเขาหลายก้าว ในขณะที่เขายังยืนท่าเดิมด้วยความใจเย็น
“คุณไม่โกรธฉันใช่ไหม”
“สัญญาไปแล้วนี่ อีกอย่างสิ่งที่คุณทำทำให้ผมขำมากกว่า แผนการของคุณนี่ตลกชะมัด วางยาถ่าย ทั้งตลกและแสบถึงกึ๋นจริงๆ”
“ขอบคุณนะคะที่คุณไม่โกรธ” เธอยิ้มได้เต็มปาก
“งั้นก็ตามใจผมเสียที...คืนนี้ ไม่งั้นผมอาจจะโกรธจริงๆ ขึ้นมาก็ได้”
มิวาร์ถอนหายใจดังๆ อย่างไม่ปิดบังก่อนจะมองเขาด้วยสายตาขรึมเครียดแกมอ้อนวอน
“อีรอสคะ คืนนี้ฉันต้องอ่านเอกสารชันสูตรศพ ฉันต้องใช้สมาธิ ไม่มีเวลาไปบริการคุณตามสัญญาหรอกค่ะ”
“เอกสารชันสูตรศพแมคคอยล์สินะ”
“ค่ะ ฉันคงปิดบังอะไรจากสายของคุณไม่ได้เลยใช่ไหม”
“กลับไปอ่านที่เพนท์เฮาส์ของผม” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเผด็จการ
“อีรอส!” มิวาร์เตือนด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไม่แพ้กัน
“ผมไม่ชอบที่คุณไม่อยู่ใกล้ๆ ผม” เขายอมเปิดเผยความรู้สึกบาง ส่วน ทั้งที่ใจจริงอยากจะให้ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีต่อแม่ตุ๊กตาบลายธ์เป็นความลับส่วนตัว
“ฉันมีงานต้องทำค่ะ ขอยกเว้นสักวันนึงจะได้ไหมคะ ฉันอยากได้ความเป็นส่วนตัวจริงๆ เพื่องานน่ะค่ะ” เธอลงทุนวิงวอนเขา
“สัญญาก็คือสัญญา ทูนหัว”
“แต่อีรอสคะ...” มิวาร์พยายามทำหน้าน่าสงสารสุดฤทธิ์ แต่อีรอสก็ไม่ตกหลุมพราง
“คุณจะรู้สึกยังไง ถ้าจู่ๆ ผมขอเปลี่ยนสัญญาดื้อๆ ขึ้นมาบ้าง ฟังนะ...เบบี๋ ถ้าคุณทำให้ผมหงุดหงิดมากๆ ผมจะเปลี่ยนสัญญาทันที จากที่คุณมีโลกส่วนตัวทุกวันคี่ เราอาจจะต้องเจอกันมากขึ้น”
ใบหน้าของมิวาร์บูดบึ้งทันควัน เธอพูดเสียงโกรธๆ ว่า “อ้อ ฉันลืมไปว่าคุณเป็นเจ้านายเหนือคำสัญญานี่นะ คุณคิดกฎนี้ขึ้นมาเอง และสัญญาของคุณมันเป็นแค่ลมปาก ไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร”
“มาขึ้นรถเถอะ ถึงตาที่ผมจะบริการคุณบ้างแล้ว หวังว่าคุณจะดีใจนะ”
“ค่ะ ดีใจจนแทบเต้นระบำได้แน่ะ” เธอประชด เดินกระแทกส้นตรงไปยังประตูที่เขาเปิดกว้างรอเธอ อีรอสลอบยิ้มขันในหน้า เขาชอบที่จะทำให้เธออารมณ์เสียมากกว่าการดูเธอทำสีหน้าไร้อารมณ์ใส่เขา
เมื่อมาถึงเพนท์เฮาส์ มิวาร์ทำสิ่งที่เริ่มคุ้นชินภายในห้องชุดสุดหรูนี้ด้วยการวางกระเป๋าและข้าวของต่างๆ ในมือลงบนโต๊ะตัวเดิม แล้วเดินฉับๆ เข้าไปยังส่วนครัวเปิดโล่งโดยส่งเสียงถามคนตัวโตดังๆ ว่า
“เย็นนี้ คุณอยากกินอะไรคะฉันจะทำให้”
“เพื่อที่คุณจะวางยาผมอีกน่ะหรือ ไม่ละ ผมมีวิธีดีกว่านั้น”
คำพูดของเขาทำให้เธอต้องขบริมฝีปากล่างด้วยความหนักใจ หมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวมากขึ้น
“คุณจะทำอาหารให้ฉันกินหรือไง”
“ก็อาจจะ... พอดีผมสั่งเชฟที่บ้านให้ทำอาหารมาส่งเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ดูเหมือนเขาจะจัดโต๊ะให้เราทั้งคู่พร้อมแล้วที่สวนดาดฟ้า”
มิวาร์รู้ดีว่านี่ฟังดูเป็นคำพูดที่โรแมนติกมากแค่ไหน แต่มันจะดีกว่านี้...ถ้าชายตรงหน้านั้นรักเธอ เป็นคู่รักที่เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตกับเขา ไม่ใช่ในฐานะเจ้าชีวิตของนางบำเรอเยี่ยงเธอ
“ขึ้นไปข้างบนกันเถอะ หรือคุณอยากจะให้ผมอุ้มขึ้นไปก็ได้นะ ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่สาวๆ ส่วนใหญ่ฝันถึงใช่ไหม” เขาถามพร้อมรอยยิ้ม
“สำหรับบางคนเท่านั้นค่ะ” เธอตอบอย่างเฉยเมย
“ก่อนอื่นผมต้องผูกตาคุณก่อน”
“ไม่นะ...” มิวาร์ถอยหลังกรูดทันที อีรอสหัวเราะร่วน คว้าแขนดึงเข้าหาตัว
“ผมไม่ปล้ำคุณโดยไม่ได้เห็นดวงตาของคุณหรอก มันไม่เร้าใจ”
“ชิ!” เธอค้อนปะหลับปะเหลือกก่อนยืนนิ่งมองดูเขาล้วงผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ออกจากกระเป๋าเสื้อสูท
“เหม็นหรือเปล่าน่ะ” เธอแสร้งว่า
“หอมเหมือนกลิ่นตัวของผมนี่แหละ” เขาตอบ แล้วหมุนตัวเธอไปยืนข้างหน้าเขา ก่อนบรรจงผูกผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นปิดสองตาของเธออย่างนุ่มนวล
“เอาละ มีกี่นิ้ว” เขาผละมายืนตรงหน้าและโบกมือทั้งสองไปมา
“เราคงไม่เล่นทายปัญหาปัญญาอ่อนกันหรอกใช่ไหม”
“เฮ้อ...คุณนี่อารมณ์ขันน้อยกว่าผมเสียอีกนะ” อีรอสบ่นพึม
“เอาละ...ผมจะจูงมือคุณ อย่าปล่อยมือผมเป็นอันขาดนะ ไม่งั้นร่วงตกตึกไปผมคงรับมือกับครอบครัวของคุณไม่ไหว”
“ย่ะ...และฉันจะเป็นผีมาหลอกคุณทั้งวันทั้งคืน”
“โอ...แบบนี้สิชอบ ผีตุ๊กตาบลายธ์ จะจับขังไว้ไม่ให้ไปไหนเลย”
“คุณจะจับขังฉันไว้ที่ไหน ฉันเป็นผีนะ”
“ขังไว้ในหัวใจไง”
โห...มุกเสี่ยวได้อีก อีรอส ไททัน ขยันปล่อยมุกกับเธอจริงๆ ผิดกับภาพลักษณ์ของเขาที่เธอรู้มาจากเลขาสาวชนิดหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
แล้วอีรอสก็กุมมือเธอแน่นพอที่ไม่ทำให้เจ็บ แล้วค่อยๆ จูงเธอเดินตามเขาไป มิวาร์รู้จากการจับสังเกตทิศทางว่าเขาพาเธอตรงไปยังประตูบานกระจกเลื่อนซึ่งเธอเคยเห็นว่าข้างนอกเป็นระเบียงที่ตกแต่งเป็นสวนสวยมีน้ำตกเล็กๆ ทันทีที่เธอได้ยินเสียงบานประตูกระจกเลื่อนเปิด ลมเย็นๆ ก็พัดกรูเกรียวเข้ามาปะทะหน้าผมของเธอ มันทั้งเย็นและแรงจนกระโปรงทรงสอบบานพะเยิบพะยาบ
เขาค่อยๆ นำเธอก้าวขึ้นบันไดที่มีลักษณะเป็นโค้งวน เธอก้าวขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะมองไม่เห็นทาง จนกระทั่ง...อีรอสกระซิบเบาๆ ว่า ถึงพื้นดาดฟ้าแล้ว เธอจึงเดินตามแรงจูงของเขาต่อไปเรื่อยๆ จนเขาปล่อยมือเธอออก เกิดเสียงครูดของโลหะบนพื้นปูนดังขึ้น
“เชิญนั่ง...ที่รัก”
เขาเรียกเธอว่า ‘ที่รัก’ มันทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ ก่อนจะคิดได้ว่าเขาคงเรียกจนชินปากกับผู้หญิงทุกคนที่เขาควงด้วย
มิวาร์นั่งลงบนเก้าอี้ที่นุ่มมากๆ มีหมอนอิงรองแผ่นหลัง เธอได้กลิ่นหอมของอาหารที่ชวนน้ำลายสอกับสัมผัสเบาๆ ที่หลังศีรษะ จากนั้นผ้าที่ปิดตาอยู่ก็คลายออก เผยให้เห็นภาพอันน่าทึ่งสำหรับเธอ
มีแต่ดอกกุหลาบสีแดง...เต็มไปหมด
เธอนั่งอยู่ภายในซุ้มไม้สไตล์วินเทจที่มีไม้เลื้อยสีเขียวสดออกดอกสีขาวทอดตัวคดเคี้ยวอยู่เหนือซุ้ม อีกทั้งห้อยระย้าลงมาเหมือนม่านมู่ลี่ แต่พื้นที่โดยรอบโต๊ะทานอาหารที่เรียบหรูคลาสสิกคือแจกันคริสตัลใสใบใหญ่เล็กที่ประดับไปด้วยกุหลาบสีแดงสดดอกโตๆ จัดวางอย่างลงตัวในทุกซอกทุกมุม เมื่อนับดูกระถางแล้วเหมือนจะมีดอกกุหลาบมากกว่าพันดอกทีเดียว กลิ่นหอมฟุ้งของกุหลาบผสมปนเปไปกับกลิ่นอาหารเกิดเป็นกลิ่นหอมยวนใจอย่างน่าเหลือเชื่อ
ครั้นมองผ่านซุ้มเถาวัลย์ออกไป คือแสงสียามราตรีของแมนแฮตตันมุมสูงที่เธอเพิ่งจะได้มีโอกาสเห็นกับตาตัวเอง ตึกสูงเสียดฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีสันสะท้อนขึ้นไปบนฟากฟ้าอันมืดมิดสีเทา แสงไฟจากตึกนับร้อยนั้นดูงดงามก็จริง แต่จันทร์กลมโตที่ลอยเด่นเปล่งแสงเงินยวงทอดเป็นลำในท้องน้ำฮัดสันที่อยู่ห่างออกไปดูสวยสดงดงามยิ่งกว่า น่าเสียดายที่ไม่เห็นแสงดาว กระนั้น...แสงสีขาวสลับแดงเล็กจ้อยที่กะพริบไปมาอยู่บนถนนสายยาวทอดตรงก็ดูคล้ายแสงดาวที่ลอยอยู่เหนือพื้นในสายตาของมิวาร์
“ชอบไหม” อีรอสถามขึ้นมา
“ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบก็คงต้องไปเช็กประสาทแล้วละค่ะ”
“ดีใจที่คุณชอบ” เขาเลื่อนเก้าอี้อีกตัวลงนั่ง แล้วเริ่มลงมือเปิดฝาครอบอาหารแต่ละอย่างออก อาหารไทยหน้าตาน่ารับประทานอย่างยิ่งสี่ห้าอย่างอวดโฉมของมัน และทำให้ท้องไส้ของหนุ่มสาวทั้งคู่ปั่นป่วนได้ทันตา
“คุณชอบอาหารไทยหรือคะ”
“ก็แม่ผมเป็นคนไทยนี่”
“จริงสิ ฉันก็ลืมไป...แต่หน้าคุณดูไม่ใช่ลูกครึ่งเลยนะ”
“ลองนอนกับผมก่อน แล้วผมจะเล่าชีวิตของผมให้ฟัง”
“ไม่เห็นจะอยากรู้เลย” มิวาร์ทำจมูกย่น ดูน่ารักมากกว่าสะบัดค้อนเสียอีกในสายตาคนมอง
“กินอาหารกันเถอะ...ผมรู้ว่าคุณหิว”
แล้วทั้งสองก็ทานมื้อค่ำกันเงียบๆ ก่อนอีรอสจะเป็นฝ่ายชวนคุยขึ้น มา
“วันนี้ผมรู้ว่าคุณไปขึ้นให้การในศาล แต่ครั้งนี้คุณขึ้นให้การในฐานะผู้เชี่ยวชาญของฝ่ายจำเลย ทำไมล่ะ...มิวาร์”
“เพราะฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนฆ่าน่ะสิ ที่สำคัญเธอมีฐานะยากจนและทนายของเธอก็ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ” มิวาร์ตอบหลังจากเคี้ยวอาหารคำแรกจนหมด
“คุณช่วยให้จำเลยชนะคดี ผมรู้จากเคน” เขายิ้ม
“ผมดีใจที่ผู้หญิงของผมเป็นคนเก่งและมีความสามารถ”
“ฉันก็ไม่ได้ชนะไปซะทุกคดีหรอกค่ะ” เธอไม่สบตาเขา แต่ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารเพราะมันมีรสชาติดีกว่าที่เธอทำเองเสียอีก
“ไม่น่าเชื่อ...” หลังคำพูด อีรอสยกเบียร์กระป๋องขึ้นซด มองคนก้มหน้ากินอาหารอย่างพินิจพิเคราะห์
“มีคดีหนึ่งค่ะ...” มิวาร์เงยหน้าขึ้นจากจาน
“ผู้ตายกินยานอนหลับเข้าไปกว่าสามสิบเม็ด ฉันเชื่อว่าเธอจงใจกินยา มันระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่พอขึ้นศาล จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การแย้งว่าผู้ตายมีภาวะนอนหลับไม่สนิท จนเกิดอาการ Automatism”
“Automatism คืออะไร”
มิวาร์อธิบายความหมายของศัพท์ทางการแพทย์นั้นให้อีรอสฟังโดยละเอียด
“ดังนั้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอจึงลืมไปว่าได้กินยานอนหลับแล้ว เธอก็กินใหม่ครั้งละสองเม็ด เธอทำแบบนี้หลายครั้งในคืนนั้นรวมแล้วสิบห้าครั้งได้ จิตแพทย์ให้การเช่นนี้ ฉันแพ้ค่ะ คณะลูกขุนเชื่อตามจิตแพทย์ท่านนั้น”
ฟังคำพูดของเธอจบ ดวงตาคมกล้าก็หรี่ลง “ให้ผมเดานะ เรื่องนี้มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องใช่ไหม”
“ค่ะ...ผู้ตายทำประกันชีวิตเอาไว้ ครอบครัวผู้ตายจึงคัดค้านผลการชันสูตรถึงสาเหตุการตายที่เคลมเงินประกันไม่ได้ ถ้าลูกขุนเชื่อตามผลการชันสูตรของฉัน ครอบครัวนี้จะไม่ได้อะไรเลย”
“นึกแล้วเชียว” อีรอสหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าอีกครั้ง
“เรื่องนี้ทำให้ฉันนึกถึงการตายของวุฒิสมาชิกอีริกค่ะ”
อีรอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มิวาร์จึงตักอาหารเข้าปากคำหนึ่งเคี้ยวจนหมด แล้วเล่าเรื่องที่เธอกับเฮเลนได้พูดคุยกันเมื่อเย็นวานโดยไม่ปิดบัง
“และวันนี้ฉันเพิ่งพบนักสืบกอสส์ คนที่เฮเลนจ้างให้สืบหาสาเหตุการตายของท่านวุฒิสมาชิกค่ะ เขาให้หลักฐานบางอย่างกับฉัน ฉันเลยตั้งใจจะตรวจสอบคืนนี้ค่ะ”
“คุณจะบอกเป็นนัยว่าคืนนี้ให้ผมงดหาวิธีพาคุณขึ้นเตียงใช่ไหม”
“ค่ะ...ได้โปรดเถอะ อีรอส เห็นแก่งานของฉันนะคะ” เธออ้อนวอน โดยดัดเสียงให้แหบเครือในตอนท้าย
เขามองตาเธอราวกับจะจับพิรุธ พลางยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซดอั้กๆ
ในที่สุดเขาก็พูดออกมาว่า
“เอาละ ผมเข้าใจว่าคุณรักงานของคุณ จะเป็นไรไปในเมื่อผมยังมีเวลาอยู่กับคุณอีกนาน ถ้าคุณจะยอมทำงานที่นี่และนอนค้างเสียที่นี่ไปด้วยเลย”
“นอนค้างที่นี่!” เสียงเธอแหลมเกินกว่าเหตุ จนต้องรีบเก็บอาการ
“เพื่องานน่ะทูนหัว ผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องคุณ แต่คุณควรจะให้ผมมีส่วนร่วมในงานของคุณด้วยสักนิดก็ยังดี”
“คุณอยากอ่านแฟ้มชันสูตรศพกับฉันงั้นหรือคะ” เธอทำหน้าแปลกใจ
“ถ้าคุณคิดว่าผมช่วยคุณได้ละก็ แต่ถ้าไม่...ผมยินดีบริการคุณด้วยการชงน้ำขิงร้อนๆ ให้ตลอดเวลา”
คำพูดนั้นของอีรอส ทำให้มิวาร์ทั้งประหลาดใจและแปลกใจในคราวเดียว ผู้ชายที่เป็นจอมเผด็จการในสายตาเธอ ทำไมถึงยอมอะลุ้มอล่วยให้กับเธอง่ายๆ มิหนำซ้ำยังใจดีแสดงความเอื้อเฟื้อ ถ้าเธอไม่เตือนใจตัวเองเสมอว่าเธอกับเขาอยู่ในความสัมพันธ์แบบใด อีรอส...อาจจะทำให้เธอหลงชอบเขาโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
“คุณไม่มีงานของคุณหรือไง” เธอพยายามพูดแข็งกระด้างกับเขา กลัวเขาคิดว่าเธอจะใจอ่อนกับความมีน้ำใจนั้น
“ความจริงผมเป็นนักธุรกิจที่มีตัวเลขและข้อตกลงทางธุรกิจสามสี่เรื่องเต็มหัวไปหมด แต่ผมไม่ชอบให้มันมาคุกคามผมขณะที่ใช้เวลาอยู่กับคุณ”
ฟังดูอ่อนหวานและน่าเชื่อถือในคราวเดียวกัน ถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายในสายตามิวาร์หาดียากในปัจจุบัน เธอคงหัวใจอ่อนระทวยไปแล้วก็เป็นได้
“เอาอย่างนี้สิคะ คุณทำงานของคุณไป ฉันทำงานของฉัน เสร็จแล้วเราจะนอนพักผ่อนด้วยกันค่ะ”
“แสดงว่าคุณตกลง” ใบหน้าคมคายเจือรอยยิ้มชอบใจ
“ฉันเชื่อว่าคุณจะทำตามที่คุณพูดออกมาจริงๆ รู้ไหมคะ...ฉันพยา ยามที่จะไว้วางใจคุณนะ”
“นั่นหมายความว่าถ้าผมทำดีกับคุณเสมอ คุณจะยอมนอนกับผมหรือไง”
“จนกว่าฉันจะหมดวิธีกับคุณต่างหากล่ะ” เธอยิ้มท้าทายขึ้นมาบ้าง
“คุณลืมอะไรไปอย่างนะ มิวาร์”
“คะ?”
“ผู้ชายน่ะถ้าลองเอาจริงขึ้นมา ผู้หญิงอย่างคุณก็ขวางไม่อยู่หรอก” เสียงของเขาเย็นเยือก และจับจ้องเธอด้วยดวงตาเข้มข้นชนิดเจาะทะลุไปถึงแก่นใจ มิวาร์ขนลุกซู่เมื่อคิดตาม เริ่มตระหนักได้ทีละนิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา อีรอสยอมลงให้กับความดื้อดึงของเธอมาตลอด เขายังไม่เคยเอาจริง และถ้าหากเขาเกิดเอาจริงขึ้นมา มันคงจะน่ากลัวมากทีเดียว
“กินต่อเถอะ ที่รัก อย่าให้ความกลัวบั่นทอนความหิวของคุณเลย”
เขาขยิบตาอย่างรู้ทัน ยิ่งทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนเหมือนมีพายุตั้งเค้าอยู่ในช่องท้อง
*************
eBook โหลดได้ที่ mebmarket
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
**************
‘เพื่อน’ ของเธอมาตามนัดจริงๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้นัดใครเลยในวันนี้ อีรอส ไททัน ยืนอิงสะโพกกับประตูฝั่งผู้โดยสารของรถพอร์ช นิ้วมือข้างหนึ่งเกี่ยวเสื้อสูทที่พาดบ่าไว้ด้านหลังและยืนเท้าไขว้สลับกันในท่าทีสบายๆ ด้วยมาดสุดเท่ เขาถอดแว่นกันแดดยี่ห้อแพงลิบออกทันทีที่เห็นเธอเดินออกมาจากโรงพยาบาลท่ามกลางแสงจันทร์สีเงินยวงที่ส่องสว่างในยามหัวค่ำ
“ฉันคิดว่าวันนี้ฉันคงไม่มีอารมณ์บริการคุณหรอกค่ะ” เธอแสร้งทำน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นแรงกับการปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันของเขา
“คุณคิดว่าการวางยาถ่ายผมเป็นการให้บริการของคุณงั้นหรือ”
“แน่นอนสิคะ คุณคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมล่ะว่านอนหลับสบายตลอดทั้งคืน” เพราะหมดแรง...มุมปากของเธอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ใช่ หลับสบายเพราะไปนอนให้น้ำเกลือมาหนึ่งคืนเต็มๆ”
ครานี้...มิวาร์อยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ แต่เธอจำต้องกลั้นเสียงหัวเราะจนปวดแก้ม เธอยังหยุดยืนห่างจากเขาหลายก้าว ในขณะที่เขายังยืนท่าเดิมด้วยความใจเย็น
“คุณไม่โกรธฉันใช่ไหม”
“สัญญาไปแล้วนี่ อีกอย่างสิ่งที่คุณทำทำให้ผมขำมากกว่า แผนการของคุณนี่ตลกชะมัด วางยาถ่าย ทั้งตลกและแสบถึงกึ๋นจริงๆ”
“ขอบคุณนะคะที่คุณไม่โกรธ” เธอยิ้มได้เต็มปาก
“งั้นก็ตามใจผมเสียที...คืนนี้ ไม่งั้นผมอาจจะโกรธจริงๆ ขึ้นมาก็ได้”
มิวาร์ถอนหายใจดังๆ อย่างไม่ปิดบังก่อนจะมองเขาด้วยสายตาขรึมเครียดแกมอ้อนวอน
“อีรอสคะ คืนนี้ฉันต้องอ่านเอกสารชันสูตรศพ ฉันต้องใช้สมาธิ ไม่มีเวลาไปบริการคุณตามสัญญาหรอกค่ะ”
“เอกสารชันสูตรศพแมคคอยล์สินะ”
“ค่ะ ฉันคงปิดบังอะไรจากสายของคุณไม่ได้เลยใช่ไหม”
“กลับไปอ่านที่เพนท์เฮาส์ของผม” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเผด็จการ
“อีรอส!” มิวาร์เตือนด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไม่แพ้กัน
“ผมไม่ชอบที่คุณไม่อยู่ใกล้ๆ ผม” เขายอมเปิดเผยความรู้สึกบาง ส่วน ทั้งที่ใจจริงอยากจะให้ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีต่อแม่ตุ๊กตาบลายธ์เป็นความลับส่วนตัว
“ฉันมีงานต้องทำค่ะ ขอยกเว้นสักวันนึงจะได้ไหมคะ ฉันอยากได้ความเป็นส่วนตัวจริงๆ เพื่องานน่ะค่ะ” เธอลงทุนวิงวอนเขา
“สัญญาก็คือสัญญา ทูนหัว”
“แต่อีรอสคะ...” มิวาร์พยายามทำหน้าน่าสงสารสุดฤทธิ์ แต่อีรอสก็ไม่ตกหลุมพราง
“คุณจะรู้สึกยังไง ถ้าจู่ๆ ผมขอเปลี่ยนสัญญาดื้อๆ ขึ้นมาบ้าง ฟังนะ...เบบี๋ ถ้าคุณทำให้ผมหงุดหงิดมากๆ ผมจะเปลี่ยนสัญญาทันที จากที่คุณมีโลกส่วนตัวทุกวันคี่ เราอาจจะต้องเจอกันมากขึ้น”
ใบหน้าของมิวาร์บูดบึ้งทันควัน เธอพูดเสียงโกรธๆ ว่า “อ้อ ฉันลืมไปว่าคุณเป็นเจ้านายเหนือคำสัญญานี่นะ คุณคิดกฎนี้ขึ้นมาเอง และสัญญาของคุณมันเป็นแค่ลมปาก ไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร”
“มาขึ้นรถเถอะ ถึงตาที่ผมจะบริการคุณบ้างแล้ว หวังว่าคุณจะดีใจนะ”
“ค่ะ ดีใจจนแทบเต้นระบำได้แน่ะ” เธอประชด เดินกระแทกส้นตรงไปยังประตูที่เขาเปิดกว้างรอเธอ อีรอสลอบยิ้มขันในหน้า เขาชอบที่จะทำให้เธออารมณ์เสียมากกว่าการดูเธอทำสีหน้าไร้อารมณ์ใส่เขา
เมื่อมาถึงเพนท์เฮาส์ มิวาร์ทำสิ่งที่เริ่มคุ้นชินภายในห้องชุดสุดหรูนี้ด้วยการวางกระเป๋าและข้าวของต่างๆ ในมือลงบนโต๊ะตัวเดิม แล้วเดินฉับๆ เข้าไปยังส่วนครัวเปิดโล่งโดยส่งเสียงถามคนตัวโตดังๆ ว่า
“เย็นนี้ คุณอยากกินอะไรคะฉันจะทำให้”
“เพื่อที่คุณจะวางยาผมอีกน่ะหรือ ไม่ละ ผมมีวิธีดีกว่านั้น”
คำพูดของเขาทำให้เธอต้องขบริมฝีปากล่างด้วยความหนักใจ หมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวมากขึ้น
“คุณจะทำอาหารให้ฉันกินหรือไง”
“ก็อาจจะ... พอดีผมสั่งเชฟที่บ้านให้ทำอาหารมาส่งเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ดูเหมือนเขาจะจัดโต๊ะให้เราทั้งคู่พร้อมแล้วที่สวนดาดฟ้า”
มิวาร์รู้ดีว่านี่ฟังดูเป็นคำพูดที่โรแมนติกมากแค่ไหน แต่มันจะดีกว่านี้...ถ้าชายตรงหน้านั้นรักเธอ เป็นคู่รักที่เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตกับเขา ไม่ใช่ในฐานะเจ้าชีวิตของนางบำเรอเยี่ยงเธอ
“ขึ้นไปข้างบนกันเถอะ หรือคุณอยากจะให้ผมอุ้มขึ้นไปก็ได้นะ ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่สาวๆ ส่วนใหญ่ฝันถึงใช่ไหม” เขาถามพร้อมรอยยิ้ม
“สำหรับบางคนเท่านั้นค่ะ” เธอตอบอย่างเฉยเมย
“ก่อนอื่นผมต้องผูกตาคุณก่อน”
“ไม่นะ...” มิวาร์ถอยหลังกรูดทันที อีรอสหัวเราะร่วน คว้าแขนดึงเข้าหาตัว
“ผมไม่ปล้ำคุณโดยไม่ได้เห็นดวงตาของคุณหรอก มันไม่เร้าใจ”
“ชิ!” เธอค้อนปะหลับปะเหลือกก่อนยืนนิ่งมองดูเขาล้วงผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ออกจากกระเป๋าเสื้อสูท
“เหม็นหรือเปล่าน่ะ” เธอแสร้งว่า
“หอมเหมือนกลิ่นตัวของผมนี่แหละ” เขาตอบ แล้วหมุนตัวเธอไปยืนข้างหน้าเขา ก่อนบรรจงผูกผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นปิดสองตาของเธออย่างนุ่มนวล
“เอาละ มีกี่นิ้ว” เขาผละมายืนตรงหน้าและโบกมือทั้งสองไปมา
“เราคงไม่เล่นทายปัญหาปัญญาอ่อนกันหรอกใช่ไหม”
“เฮ้อ...คุณนี่อารมณ์ขันน้อยกว่าผมเสียอีกนะ” อีรอสบ่นพึม
“เอาละ...ผมจะจูงมือคุณ อย่าปล่อยมือผมเป็นอันขาดนะ ไม่งั้นร่วงตกตึกไปผมคงรับมือกับครอบครัวของคุณไม่ไหว”
“ย่ะ...และฉันจะเป็นผีมาหลอกคุณทั้งวันทั้งคืน”
“โอ...แบบนี้สิชอบ ผีตุ๊กตาบลายธ์ จะจับขังไว้ไม่ให้ไปไหนเลย”
“คุณจะจับขังฉันไว้ที่ไหน ฉันเป็นผีนะ”
“ขังไว้ในหัวใจไง”
โห...มุกเสี่ยวได้อีก อีรอส ไททัน ขยันปล่อยมุกกับเธอจริงๆ ผิดกับภาพลักษณ์ของเขาที่เธอรู้มาจากเลขาสาวชนิดหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
แล้วอีรอสก็กุมมือเธอแน่นพอที่ไม่ทำให้เจ็บ แล้วค่อยๆ จูงเธอเดินตามเขาไป มิวาร์รู้จากการจับสังเกตทิศทางว่าเขาพาเธอตรงไปยังประตูบานกระจกเลื่อนซึ่งเธอเคยเห็นว่าข้างนอกเป็นระเบียงที่ตกแต่งเป็นสวนสวยมีน้ำตกเล็กๆ ทันทีที่เธอได้ยินเสียงบานประตูกระจกเลื่อนเปิด ลมเย็นๆ ก็พัดกรูเกรียวเข้ามาปะทะหน้าผมของเธอ มันทั้งเย็นและแรงจนกระโปรงทรงสอบบานพะเยิบพะยาบ
เขาค่อยๆ นำเธอก้าวขึ้นบันไดที่มีลักษณะเป็นโค้งวน เธอก้าวขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะมองไม่เห็นทาง จนกระทั่ง...อีรอสกระซิบเบาๆ ว่า ถึงพื้นดาดฟ้าแล้ว เธอจึงเดินตามแรงจูงของเขาต่อไปเรื่อยๆ จนเขาปล่อยมือเธอออก เกิดเสียงครูดของโลหะบนพื้นปูนดังขึ้น
“เชิญนั่ง...ที่รัก”
เขาเรียกเธอว่า ‘ที่รัก’ มันทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ ก่อนจะคิดได้ว่าเขาคงเรียกจนชินปากกับผู้หญิงทุกคนที่เขาควงด้วย
มิวาร์นั่งลงบนเก้าอี้ที่นุ่มมากๆ มีหมอนอิงรองแผ่นหลัง เธอได้กลิ่นหอมของอาหารที่ชวนน้ำลายสอกับสัมผัสเบาๆ ที่หลังศีรษะ จากนั้นผ้าที่ปิดตาอยู่ก็คลายออก เผยให้เห็นภาพอันน่าทึ่งสำหรับเธอ
มีแต่ดอกกุหลาบสีแดง...เต็มไปหมด
เธอนั่งอยู่ภายในซุ้มไม้สไตล์วินเทจที่มีไม้เลื้อยสีเขียวสดออกดอกสีขาวทอดตัวคดเคี้ยวอยู่เหนือซุ้ม อีกทั้งห้อยระย้าลงมาเหมือนม่านมู่ลี่ แต่พื้นที่โดยรอบโต๊ะทานอาหารที่เรียบหรูคลาสสิกคือแจกันคริสตัลใสใบใหญ่เล็กที่ประดับไปด้วยกุหลาบสีแดงสดดอกโตๆ จัดวางอย่างลงตัวในทุกซอกทุกมุม เมื่อนับดูกระถางแล้วเหมือนจะมีดอกกุหลาบมากกว่าพันดอกทีเดียว กลิ่นหอมฟุ้งของกุหลาบผสมปนเปไปกับกลิ่นอาหารเกิดเป็นกลิ่นหอมยวนใจอย่างน่าเหลือเชื่อ
ครั้นมองผ่านซุ้มเถาวัลย์ออกไป คือแสงสียามราตรีของแมนแฮตตันมุมสูงที่เธอเพิ่งจะได้มีโอกาสเห็นกับตาตัวเอง ตึกสูงเสียดฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีสันสะท้อนขึ้นไปบนฟากฟ้าอันมืดมิดสีเทา แสงไฟจากตึกนับร้อยนั้นดูงดงามก็จริง แต่จันทร์กลมโตที่ลอยเด่นเปล่งแสงเงินยวงทอดเป็นลำในท้องน้ำฮัดสันที่อยู่ห่างออกไปดูสวยสดงดงามยิ่งกว่า น่าเสียดายที่ไม่เห็นแสงดาว กระนั้น...แสงสีขาวสลับแดงเล็กจ้อยที่กะพริบไปมาอยู่บนถนนสายยาวทอดตรงก็ดูคล้ายแสงดาวที่ลอยอยู่เหนือพื้นในสายตาของมิวาร์
“ชอบไหม” อีรอสถามขึ้นมา
“ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบก็คงต้องไปเช็กประสาทแล้วละค่ะ”
“ดีใจที่คุณชอบ” เขาเลื่อนเก้าอี้อีกตัวลงนั่ง แล้วเริ่มลงมือเปิดฝาครอบอาหารแต่ละอย่างออก อาหารไทยหน้าตาน่ารับประทานอย่างยิ่งสี่ห้าอย่างอวดโฉมของมัน และทำให้ท้องไส้ของหนุ่มสาวทั้งคู่ปั่นป่วนได้ทันตา
“คุณชอบอาหารไทยหรือคะ”
“ก็แม่ผมเป็นคนไทยนี่”
“จริงสิ ฉันก็ลืมไป...แต่หน้าคุณดูไม่ใช่ลูกครึ่งเลยนะ”
“ลองนอนกับผมก่อน แล้วผมจะเล่าชีวิตของผมให้ฟัง”
“ไม่เห็นจะอยากรู้เลย” มิวาร์ทำจมูกย่น ดูน่ารักมากกว่าสะบัดค้อนเสียอีกในสายตาคนมอง
“กินอาหารกันเถอะ...ผมรู้ว่าคุณหิว”
แล้วทั้งสองก็ทานมื้อค่ำกันเงียบๆ ก่อนอีรอสจะเป็นฝ่ายชวนคุยขึ้น มา
“วันนี้ผมรู้ว่าคุณไปขึ้นให้การในศาล แต่ครั้งนี้คุณขึ้นให้การในฐานะผู้เชี่ยวชาญของฝ่ายจำเลย ทำไมล่ะ...มิวาร์”
“เพราะฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนฆ่าน่ะสิ ที่สำคัญเธอมีฐานะยากจนและทนายของเธอก็ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ” มิวาร์ตอบหลังจากเคี้ยวอาหารคำแรกจนหมด
“คุณช่วยให้จำเลยชนะคดี ผมรู้จากเคน” เขายิ้ม
“ผมดีใจที่ผู้หญิงของผมเป็นคนเก่งและมีความสามารถ”
“ฉันก็ไม่ได้ชนะไปซะทุกคดีหรอกค่ะ” เธอไม่สบตาเขา แต่ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารเพราะมันมีรสชาติดีกว่าที่เธอทำเองเสียอีก
“ไม่น่าเชื่อ...” หลังคำพูด อีรอสยกเบียร์กระป๋องขึ้นซด มองคนก้มหน้ากินอาหารอย่างพินิจพิเคราะห์
“มีคดีหนึ่งค่ะ...” มิวาร์เงยหน้าขึ้นจากจาน
“ผู้ตายกินยานอนหลับเข้าไปกว่าสามสิบเม็ด ฉันเชื่อว่าเธอจงใจกินยา มันระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่พอขึ้นศาล จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การแย้งว่าผู้ตายมีภาวะนอนหลับไม่สนิท จนเกิดอาการ Automatism”
“Automatism คืออะไร”
มิวาร์อธิบายความหมายของศัพท์ทางการแพทย์นั้นให้อีรอสฟังโดยละเอียด
“ดังนั้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอจึงลืมไปว่าได้กินยานอนหลับแล้ว เธอก็กินใหม่ครั้งละสองเม็ด เธอทำแบบนี้หลายครั้งในคืนนั้นรวมแล้วสิบห้าครั้งได้ จิตแพทย์ให้การเช่นนี้ ฉันแพ้ค่ะ คณะลูกขุนเชื่อตามจิตแพทย์ท่านนั้น”
ฟังคำพูดของเธอจบ ดวงตาคมกล้าก็หรี่ลง “ให้ผมเดานะ เรื่องนี้มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องใช่ไหม”
“ค่ะ...ผู้ตายทำประกันชีวิตเอาไว้ ครอบครัวผู้ตายจึงคัดค้านผลการชันสูตรถึงสาเหตุการตายที่เคลมเงินประกันไม่ได้ ถ้าลูกขุนเชื่อตามผลการชันสูตรของฉัน ครอบครัวนี้จะไม่ได้อะไรเลย”
“นึกแล้วเชียว” อีรอสหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าอีกครั้ง
“เรื่องนี้ทำให้ฉันนึกถึงการตายของวุฒิสมาชิกอีริกค่ะ”
อีรอสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มิวาร์จึงตักอาหารเข้าปากคำหนึ่งเคี้ยวจนหมด แล้วเล่าเรื่องที่เธอกับเฮเลนได้พูดคุยกันเมื่อเย็นวานโดยไม่ปิดบัง
“และวันนี้ฉันเพิ่งพบนักสืบกอสส์ คนที่เฮเลนจ้างให้สืบหาสาเหตุการตายของท่านวุฒิสมาชิกค่ะ เขาให้หลักฐานบางอย่างกับฉัน ฉันเลยตั้งใจจะตรวจสอบคืนนี้ค่ะ”
“คุณจะบอกเป็นนัยว่าคืนนี้ให้ผมงดหาวิธีพาคุณขึ้นเตียงใช่ไหม”
“ค่ะ...ได้โปรดเถอะ อีรอส เห็นแก่งานของฉันนะคะ” เธออ้อนวอน โดยดัดเสียงให้แหบเครือในตอนท้าย
เขามองตาเธอราวกับจะจับพิรุธ พลางยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซดอั้กๆ
ในที่สุดเขาก็พูดออกมาว่า
“เอาละ ผมเข้าใจว่าคุณรักงานของคุณ จะเป็นไรไปในเมื่อผมยังมีเวลาอยู่กับคุณอีกนาน ถ้าคุณจะยอมทำงานที่นี่และนอนค้างเสียที่นี่ไปด้วยเลย”
“นอนค้างที่นี่!” เสียงเธอแหลมเกินกว่าเหตุ จนต้องรีบเก็บอาการ
“เพื่องานน่ะทูนหัว ผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องคุณ แต่คุณควรจะให้ผมมีส่วนร่วมในงานของคุณด้วยสักนิดก็ยังดี”
“คุณอยากอ่านแฟ้มชันสูตรศพกับฉันงั้นหรือคะ” เธอทำหน้าแปลกใจ
“ถ้าคุณคิดว่าผมช่วยคุณได้ละก็ แต่ถ้าไม่...ผมยินดีบริการคุณด้วยการชงน้ำขิงร้อนๆ ให้ตลอดเวลา”
คำพูดนั้นของอีรอส ทำให้มิวาร์ทั้งประหลาดใจและแปลกใจในคราวเดียว ผู้ชายที่เป็นจอมเผด็จการในสายตาเธอ ทำไมถึงยอมอะลุ้มอล่วยให้กับเธอง่ายๆ มิหนำซ้ำยังใจดีแสดงความเอื้อเฟื้อ ถ้าเธอไม่เตือนใจตัวเองเสมอว่าเธอกับเขาอยู่ในความสัมพันธ์แบบใด อีรอส...อาจจะทำให้เธอหลงชอบเขาโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
“คุณไม่มีงานของคุณหรือไง” เธอพยายามพูดแข็งกระด้างกับเขา กลัวเขาคิดว่าเธอจะใจอ่อนกับความมีน้ำใจนั้น
“ความจริงผมเป็นนักธุรกิจที่มีตัวเลขและข้อตกลงทางธุรกิจสามสี่เรื่องเต็มหัวไปหมด แต่ผมไม่ชอบให้มันมาคุกคามผมขณะที่ใช้เวลาอยู่กับคุณ”
ฟังดูอ่อนหวานและน่าเชื่อถือในคราวเดียวกัน ถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายในสายตามิวาร์หาดียากในปัจจุบัน เธอคงหัวใจอ่อนระทวยไปแล้วก็เป็นได้
“เอาอย่างนี้สิคะ คุณทำงานของคุณไป ฉันทำงานของฉัน เสร็จแล้วเราจะนอนพักผ่อนด้วยกันค่ะ”
“แสดงว่าคุณตกลง” ใบหน้าคมคายเจือรอยยิ้มชอบใจ
“ฉันเชื่อว่าคุณจะทำตามที่คุณพูดออกมาจริงๆ รู้ไหมคะ...ฉันพยา ยามที่จะไว้วางใจคุณนะ”
“นั่นหมายความว่าถ้าผมทำดีกับคุณเสมอ คุณจะยอมนอนกับผมหรือไง”
“จนกว่าฉันจะหมดวิธีกับคุณต่างหากล่ะ” เธอยิ้มท้าทายขึ้นมาบ้าง
“คุณลืมอะไรไปอย่างนะ มิวาร์”
“คะ?”
“ผู้ชายน่ะถ้าลองเอาจริงขึ้นมา ผู้หญิงอย่างคุณก็ขวางไม่อยู่หรอก” เสียงของเขาเย็นเยือก และจับจ้องเธอด้วยดวงตาเข้มข้นชนิดเจาะทะลุไปถึงแก่นใจ มิวาร์ขนลุกซู่เมื่อคิดตาม เริ่มตระหนักได้ทีละนิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา อีรอสยอมลงให้กับความดื้อดึงของเธอมาตลอด เขายังไม่เคยเอาจริง และถ้าหากเขาเกิดเอาจริงขึ้นมา มันคงจะน่ากลัวมากทีเดียว
“กินต่อเถอะ ที่รัก อย่าให้ความกลัวบั่นทอนความหิวของคุณเลย”
เขาขยิบตาอย่างรู้ทัน ยิ่งทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนเหมือนมีพายุตั้งเค้าอยู่ในช่องท้อง
*************
eBook โหลดได้ที่ mebmarket
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ย. 2563, 09:30:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2563, 09:30:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 394
<< บทที่ 8 -100% | บทที่ 9 -65% >> |