ดุจจันทร์ดั้นเมฆ: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ตรีเมฆ’ ไม่ได้เกิดมามีชีวิตเลวร้าย เขาไม่ได้มีปมด้อยจนต้องสร้างจุดเด่น ตรงกันข้ามเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ความ ‘พร้อม’ นั้นทำให้ชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างประมาทจนสุดท้ายต้องถูกตราหน้าว่าเป็น ‘ไอ้ขี้คุก’ เขาผลาญทำลายชีวิตทุกคนที่รักเขา และในวันที่เขาได้รับอิสรภาพทางกาย จิตใจเขากลับถูกความรู้สึกผิดพันธนาการแน่นหนา
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 6 -75%
“ยังรวยไม่พออีกหรือจ๊ะป้ามาลี ถึงต้องมาเปิดร้านขายผลไม้เพิ่ม”
สาวในกลุ่มเดียวกับสายสุดาเอ่ยเย้าเมื่อเดินเตร็ดเตร่มาดูแผงขายผลไม้ใหม่ของเจ้าของห้องแถวตรีเนตรในช่วงหัวค่ำ ตอนนั้นลำดวนกำลังเก็บของที่เหลือจากขายเข้าลัง และรอให้พ่อสามีกับตรีเมฆมาส่งผลไม้รอบของวันรุ่งขึ้นและมารับกลับบ้าน
เด็กชายตรีเพชรเองก็ช่วยคุณยายเก็บข้าวเก็บของอยู่ใกล้ๆ สลับกับวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อไปดูคุณครูคนสวยในครัว
“ไม่รวยหรอก ไม่ขายมันก็เน่าเสียเหมือนปากคน สู้ขายเอาเงินดีกว่า”
“เพชรปากหอม ยายดมดู เพชรแปรงฟันสะอาด” เด็กชายยิงฟันกว้าง ดึงกระพุ้งแก้มให้ดู ลำดวนผู้เงียบขรึมเองยังหันมามองพลางยิ้มบางๆ
“ขยันจังเลยนะเธอ อุ๊ย กำลังท้องอยู่เหรอ อย่าบอกนะว่านี่ลูกสะใภ้ป้า ตายละสงสารอีสายสุดามัน วันก่อนมันร้องไห้ฟูมฟาย”
“พูดอะไรเลอะเทอะ นี่ลำดวน ฉันจ้างเขามาช่วยขายผลไม้” ป้ามาลีเอ็ดตาเขียว
“อ้อ งั้นที่อีสายสุดามันร้องไห้ เพราะคุณครูคนสวยของหนูเพชรกระมัง แหม...ป้านี่ก็รอบคอบดีเนาะ ลูกชายออกจากคุกทั้งที อุตส่าห์หาเมียสวยๆ มาไว้รอท่า”
“นี่เธอ! หุบปากเน่าๆ ได้แล้วนะ ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อ”
เสียงดังก้องนั้นตรงใจป้ามาลีนัก นางอยากพูดกับหญิงสาวที่มาเช่าห้องกลุ่มนี้นานแล้ว แต่ไม่กล้าพูด เพราะหอพักสมัยใหม่ผุดขึ้นมากมาย คนย้ายออกมีอยู่แทบทุกเดือน จะดีจะร้ายยังไงป้ามาลีพยายามอดทนอยู่เสมอจนถึงรายของไอ้ศักดิ์นั่นละที่นางทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ ถึงได้เอาเรื่องเอาราวถึงตำรวจและไล่ออกไป นันทนาเองก็เคยคบหาอยู่กินกับนายศักดิ์มาก่อนก็คงคิดแค้นนางแทนผัวเก่า
“อ้าว นี่พี่ที่เป็นผัวอีสายสุดาใช่ไหม” เสียงของนันทนาดังขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนๆ ที่มาด้วยต่างพยักพเยิด ชาวห้องแถวเริ่มเข้ามารุมล้อม แม้กระทั่งห้องที่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครก็ยังอดมาแง้มประตูมองไม่ได้
“คืนละไม่กี่พัน เรียกผัวได้ด้วยเหรอ” ใบหน้าของตรีเมฆดำทะมึน ตรีเพชรรีบวิ่งจู๊ดขึ้นไปตามคุณครูบนบ้าน เหมือนในห้องเรียนไม่มีผิด ถ้ามีคนตีกันก็ต้องไปตามคุณครูมาดุ
“เหอะ อีสายสุดามันบอกว่าพี่ฟันมันแล้วทิ้ง”
“ไม่จริง กูฟันแล้วจ่ายต่างหาก”
“ตรีเมฆ พอแล้ว” ป้ามาลีแทบจะเข่าอ่อนลงตรงนั้น
หญิงสาวคนนั้นเห็นใบหน้าซีดเหลืองของป้าเจ้าของห้องเช่าที่พวกตนเคยขู่เข็ญได้ตามใจชอบก็กระหยิ่มใจ หล่อนถลกชายผ้าถุงพลางเอ่ย
“เป็นถึงลูกชายเจ้าของห้องแถว กลับหลอกคนเช่าว่าจะเข้าไปซ่อมไฟให้แล้วก็ขืนใจเขา ถึงอีสายสุดามันจะทำงานบาร์ ก็ไม่ใช่ว่ามันจะอ้าขาให้ใครง่ายๆ”
“อย่างงั้นเรอะ” ตรีเมฆคำราม
“คุณเมฆ พอเถอะ” จันทน์กะพ้อมาทันได้ยินพอดีรีบเข้ามาร้องขอ
ขณะนั้นคนเริ่มมุงมากขึ้นทุกที แม้ลูกค้ามาจอดรถซื้อผลไม้ก็ยังเข้ามามุงดูจนแน่นไปหมด
“พาแม่ขึ้นบ้านไป” เขาบอกเสียงเข้ม หันมาจ้องหล่อนเขม็งแกมบังคับ จันทน์กะพ้อเข้ามาพยุงป้ามาลีที่กำลังจะเป็นลม เดินกลับไปที่เรือนด้านหลัง
“ลำดวน ลุงเกิด ปิดร้าน”
“อ้าว จะปิดหนีทำไมล่ะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิวะ เรื่องที่ผู้หญิงเขาพูดมันจริงหรือเปล่า กูก็มีเมียอยู่ห้องแถวนี้เหมือนกัน อย่างนี้จะไว้ใจได้ยังไงวะว่าลูกชายเจ้าของห้องแถวจะไม่แอบเข้ามาทำระยำน่ะ หา!” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินทำหน้าตาถมึงทึงเข้ามาหา ลุงเกิดกำพร้า ถลันเข้ามาขวาง
“ปิดร้าน” ดวงตาของตรีเมฆกำลังลุกเป็นไฟ ลุงเกิดผงะ หันกลับไปช่วยลูกสะใภ้เก็บร้าน แต่ไม่วายวางพร้าไว้ใกล้ๆ มือ
“ไหน ใครหน้าไหนบ้างที่มีปัญหากับแม่กู”
“ใครจะไปมีปัญหากับป้ามาลี แกต่างหากที่กลับมาก็ก่อเรื่องไปหมด นับตั้งแต่ยัดข้อหาไอ้ศักดิ์แล้ว”
“ใครที่ชอบข่มขู่แม่กูให้ผ่อนปรนตามใจไม่อย่างนั้นจะย้ายหนี ใครบ้างที่รวมหัวกันทำเหมือนแม่กูเป็นหัวหลักหัวตอตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่”
“จะมีใคร พวกเราต่างหากที่ช่วยดูแลห้องแถวให้ป้า ช่วงที่ลูกชายอย่างแกไปติดคุกอยู่ไง ห้องแถวโทรมๆ แบบนี้ ถ้าไม่เห็นแก่ป้าแก่ๆ พวกกูไม่อยู่หรอก” ชายฉกรรจ์ร่วมวงเหล้าอีกคนหนึ่งพูด ตั้งแต่ตรีเมฆกลับมาก็มักออกมาเดินตรวจตราแถวห้องแถวยามดึกดื่น ใครที่คิดจะตั้งวงกินเหล้าเป็นอันเสียฤกษ์ไปทุกราย
“ไม่อยากอยู่ก็เชิญออกไป” ตรีเมฆเอ่ยเสียงดังชัดเจน กวาดสายตามองใบหน้าของไทยมุงแต่ละคน ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยและที่เพียงอยากรู้อยากเห็น ท่าทางแข็งกร้าวของชายผู้เพิ่งออกมาจากคุกหมาดๆ พร้อมชื่อเสียงฉาวโฉ่นำมาซึ่งเสียงเอะอะอืออา บ้างไม่พอใจ บ้างหวาดหวั่น
“กูกลับมาแล้ว ไม่ต้องอาศัยใครให้มาคุ้มครองแม่กูหรือห้องแถวนี้ให้เป็นบุญคุณกันอีก ขอเชิญออกไป”
“ละ...แล้วเงินมัดจำล่ะ”
“เอาของมึงคืนไป” เอ่ยแล้วตรีเมฆก็ยกนิ้วชี้กราด “นอกจากมึง อีสายสุดา แล้วก็เธอ ยังมีใครอีกที่อยากย้ายออกจากห้องแถวตรีเนตร พรุ่งนี้มาบอกได้เลย”
“ฉันมะ...ไม่ได้จะย้ายออกนะ พี่!” สายสุดาหอบใบหน้าที่แต่งได้ไม่ถึงครึ่งกระหืดกระหอบวิ่งตัวปลิ้นออกมาจากห้อง “อี่นี่มันปากมากไปเอง อีนัน อีเพื่อนเฮงซวย”
“เอ๊ะ! กูพูดไปเพื่อมึงนะ” นันทนาผงะ หน้าซีด
“พูดทำไม กูโอเคกับพี่เขาจะตาย” สายสุดาเอ่ยหน้าแดง รสรักร้อนแรงของชายหนุ่มยังฝังใจ
“โอเคยังไง ก็มัน...” นันทนาพูดได้แค่นั้นเพราะตรีเมฆตวัดตากวาดมอง เดือดร้อนสายสุดากระซิบทำหน้าแหยๆ
“หุบปาก! พี่เขาจ่ายกูแล้ว ตั้งสองพัน”
“สองพันเรอะ อีดอก ทำไมมึงไม่เคยบอกกู”
“อย่าแส่ พี่ ขอฉันอยู่ต่อเถอะนะ ฉันไม่มีที่ไปจริงๆ หอพักอื่นมันก็แพง มีห้องแถวป้ามาลีนี่ละที่ไม่เคยขึ้นราคาอะไรเราเลย มีที่ไหน เดือนละไม่ถึงสองพัน นะพี่นะ” สายสุดาเลิกใส่ใจเพื่อน หล่อนหันมาอ้อนวอนชายหนุ่ม
ตรีเมฆหรี่ตามอง ก่อนจะพยักหน้า
“งั้นเธออยู่ต่อได้” เขาพูดแล้วกวาดสายตามาทางนันทนาและผู้ชายอีกสองคน “แต่เธอกับไอ้สองคนนี้ต้องย้ายออกไปภายในพรุ่งนี้”
พูดจบตรีเมฆก็เดินตรงไปที่รถที่ลุงเกิดกับลำดวนรออยู่แล้ว เขาขับรถออกไปส่งทั้งสองคนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนในห้องแถวหายกลับเข้าห้องไป แว่วเสียงโอดครวญขอความยุติธรรม เสียงด่าทอกันและกันและเสียงสาปแช่งลูกชายเจ้าของห้องแถวตรีเนตรดังมาเป็นระยะๆ
“ทำแบบนั้นจะดีเหรอ คนเช่าสมัยนี้ไม่ใช่หายากเรอะ หอพักสร้างใหม่เยอะแยะ” ลุงเกิดเอ่ยเบาๆ ตามองไปในถนนที่เริ่มมืด ลำดวนนั่งเงียบไม่พูดไม่จาตามเคย
“คนพวกนี้มันเอาเปรียบ ข่มขู่แม่มานานแล้ว คงเห็นว่าเป็นผู้หญิงแก่ๆ ไม่มีใครปกป้อง ต่อไปผมจะยอมไม่ได้”
“อาจารย์คนนั้นก็ดีนะ เห็นว่ามาอยู่ดูแลคุณนายมาลีพักใหญ่แล้ว”
“อืม แต่ก็แค่ผู้หญิง” ตรีเมฆพูด สายตามองตรงไปข้างหน้า มือแกร่งหมุนพวงมาลัยไปตามท้องถนนเลียบคลองที่ทั้งแคบและรกอย่างแม่นยำ มั่นใจ ลำดวนอดเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมนั้นไม่ได้ ใจคิดว่าเขาช่างแตกต่างจากผัวของตัวเหลือเกิน
รายนั้นขอแค่มันไม่เมายากลับมาอาละวาดตบตีหล่อน ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว!
“ขอบใจนะเมฆ”
“ขึ้นบ้านไปก่อนลุง ผมจะรออีกหน่อยค่อยกลับ นั่นรถมอเตอร์ไซค์ไอ้จอมใช่ไหม”
“ใช่ กลับไปเถอะ ที่ห้องแถวอาจจะมีเรื่องอีก ไอ้จอมมันไม่บ้ามากอย่างแต่ก่อนแล้วละ จริงไหมลำดวน”
“จ้ะพ่อ”
ลำดวนบอกแล้วยกมือไหว้ตรีเมฆ ก่อนจะลงจากรถเดินตามพ่อสามีผู้ชราไปเงียบๆ ตรีเมฆยังซุ่มอยู่ตรงนั้นอีกราวๆ สิบห้านาทีจึงค่อยยอมออกรถกลับบ้านไป
*************************
เล่มตัวอย่างมาแล้วนะคะ^^ ส่องได้ที่เฟซบุ๊กเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’
ปิดจอง 4 พ.ค.63
หนังสือพร้อมส่งสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปค่ะ
สาวในกลุ่มเดียวกับสายสุดาเอ่ยเย้าเมื่อเดินเตร็ดเตร่มาดูแผงขายผลไม้ใหม่ของเจ้าของห้องแถวตรีเนตรในช่วงหัวค่ำ ตอนนั้นลำดวนกำลังเก็บของที่เหลือจากขายเข้าลัง และรอให้พ่อสามีกับตรีเมฆมาส่งผลไม้รอบของวันรุ่งขึ้นและมารับกลับบ้าน
เด็กชายตรีเพชรเองก็ช่วยคุณยายเก็บข้าวเก็บของอยู่ใกล้ๆ สลับกับวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อไปดูคุณครูคนสวยในครัว
“ไม่รวยหรอก ไม่ขายมันก็เน่าเสียเหมือนปากคน สู้ขายเอาเงินดีกว่า”
“เพชรปากหอม ยายดมดู เพชรแปรงฟันสะอาด” เด็กชายยิงฟันกว้าง ดึงกระพุ้งแก้มให้ดู ลำดวนผู้เงียบขรึมเองยังหันมามองพลางยิ้มบางๆ
“ขยันจังเลยนะเธอ อุ๊ย กำลังท้องอยู่เหรอ อย่าบอกนะว่านี่ลูกสะใภ้ป้า ตายละสงสารอีสายสุดามัน วันก่อนมันร้องไห้ฟูมฟาย”
“พูดอะไรเลอะเทอะ นี่ลำดวน ฉันจ้างเขามาช่วยขายผลไม้” ป้ามาลีเอ็ดตาเขียว
“อ้อ งั้นที่อีสายสุดามันร้องไห้ เพราะคุณครูคนสวยของหนูเพชรกระมัง แหม...ป้านี่ก็รอบคอบดีเนาะ ลูกชายออกจากคุกทั้งที อุตส่าห์หาเมียสวยๆ มาไว้รอท่า”
“นี่เธอ! หุบปากเน่าๆ ได้แล้วนะ ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อ”
เสียงดังก้องนั้นตรงใจป้ามาลีนัก นางอยากพูดกับหญิงสาวที่มาเช่าห้องกลุ่มนี้นานแล้ว แต่ไม่กล้าพูด เพราะหอพักสมัยใหม่ผุดขึ้นมากมาย คนย้ายออกมีอยู่แทบทุกเดือน จะดีจะร้ายยังไงป้ามาลีพยายามอดทนอยู่เสมอจนถึงรายของไอ้ศักดิ์นั่นละที่นางทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ ถึงได้เอาเรื่องเอาราวถึงตำรวจและไล่ออกไป นันทนาเองก็เคยคบหาอยู่กินกับนายศักดิ์มาก่อนก็คงคิดแค้นนางแทนผัวเก่า
“อ้าว นี่พี่ที่เป็นผัวอีสายสุดาใช่ไหม” เสียงของนันทนาดังขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนๆ ที่มาด้วยต่างพยักพเยิด ชาวห้องแถวเริ่มเข้ามารุมล้อม แม้กระทั่งห้องที่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครก็ยังอดมาแง้มประตูมองไม่ได้
“คืนละไม่กี่พัน เรียกผัวได้ด้วยเหรอ” ใบหน้าของตรีเมฆดำทะมึน ตรีเพชรรีบวิ่งจู๊ดขึ้นไปตามคุณครูบนบ้าน เหมือนในห้องเรียนไม่มีผิด ถ้ามีคนตีกันก็ต้องไปตามคุณครูมาดุ
“เหอะ อีสายสุดามันบอกว่าพี่ฟันมันแล้วทิ้ง”
“ไม่จริง กูฟันแล้วจ่ายต่างหาก”
“ตรีเมฆ พอแล้ว” ป้ามาลีแทบจะเข่าอ่อนลงตรงนั้น
หญิงสาวคนนั้นเห็นใบหน้าซีดเหลืองของป้าเจ้าของห้องเช่าที่พวกตนเคยขู่เข็ญได้ตามใจชอบก็กระหยิ่มใจ หล่อนถลกชายผ้าถุงพลางเอ่ย
“เป็นถึงลูกชายเจ้าของห้องแถว กลับหลอกคนเช่าว่าจะเข้าไปซ่อมไฟให้แล้วก็ขืนใจเขา ถึงอีสายสุดามันจะทำงานบาร์ ก็ไม่ใช่ว่ามันจะอ้าขาให้ใครง่ายๆ”
“อย่างงั้นเรอะ” ตรีเมฆคำราม
“คุณเมฆ พอเถอะ” จันทน์กะพ้อมาทันได้ยินพอดีรีบเข้ามาร้องขอ
ขณะนั้นคนเริ่มมุงมากขึ้นทุกที แม้ลูกค้ามาจอดรถซื้อผลไม้ก็ยังเข้ามามุงดูจนแน่นไปหมด
“พาแม่ขึ้นบ้านไป” เขาบอกเสียงเข้ม หันมาจ้องหล่อนเขม็งแกมบังคับ จันทน์กะพ้อเข้ามาพยุงป้ามาลีที่กำลังจะเป็นลม เดินกลับไปที่เรือนด้านหลัง
“ลำดวน ลุงเกิด ปิดร้าน”
“อ้าว จะปิดหนีทำไมล่ะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิวะ เรื่องที่ผู้หญิงเขาพูดมันจริงหรือเปล่า กูก็มีเมียอยู่ห้องแถวนี้เหมือนกัน อย่างนี้จะไว้ใจได้ยังไงวะว่าลูกชายเจ้าของห้องแถวจะไม่แอบเข้ามาทำระยำน่ะ หา!” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินทำหน้าตาถมึงทึงเข้ามาหา ลุงเกิดกำพร้า ถลันเข้ามาขวาง
“ปิดร้าน” ดวงตาของตรีเมฆกำลังลุกเป็นไฟ ลุงเกิดผงะ หันกลับไปช่วยลูกสะใภ้เก็บร้าน แต่ไม่วายวางพร้าไว้ใกล้ๆ มือ
“ไหน ใครหน้าไหนบ้างที่มีปัญหากับแม่กู”
“ใครจะไปมีปัญหากับป้ามาลี แกต่างหากที่กลับมาก็ก่อเรื่องไปหมด นับตั้งแต่ยัดข้อหาไอ้ศักดิ์แล้ว”
“ใครที่ชอบข่มขู่แม่กูให้ผ่อนปรนตามใจไม่อย่างนั้นจะย้ายหนี ใครบ้างที่รวมหัวกันทำเหมือนแม่กูเป็นหัวหลักหัวตอตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่”
“จะมีใคร พวกเราต่างหากที่ช่วยดูแลห้องแถวให้ป้า ช่วงที่ลูกชายอย่างแกไปติดคุกอยู่ไง ห้องแถวโทรมๆ แบบนี้ ถ้าไม่เห็นแก่ป้าแก่ๆ พวกกูไม่อยู่หรอก” ชายฉกรรจ์ร่วมวงเหล้าอีกคนหนึ่งพูด ตั้งแต่ตรีเมฆกลับมาก็มักออกมาเดินตรวจตราแถวห้องแถวยามดึกดื่น ใครที่คิดจะตั้งวงกินเหล้าเป็นอันเสียฤกษ์ไปทุกราย
“ไม่อยากอยู่ก็เชิญออกไป” ตรีเมฆเอ่ยเสียงดังชัดเจน กวาดสายตามองใบหน้าของไทยมุงแต่ละคน ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยและที่เพียงอยากรู้อยากเห็น ท่าทางแข็งกร้าวของชายผู้เพิ่งออกมาจากคุกหมาดๆ พร้อมชื่อเสียงฉาวโฉ่นำมาซึ่งเสียงเอะอะอืออา บ้างไม่พอใจ บ้างหวาดหวั่น
“กูกลับมาแล้ว ไม่ต้องอาศัยใครให้มาคุ้มครองแม่กูหรือห้องแถวนี้ให้เป็นบุญคุณกันอีก ขอเชิญออกไป”
“ละ...แล้วเงินมัดจำล่ะ”
“เอาของมึงคืนไป” เอ่ยแล้วตรีเมฆก็ยกนิ้วชี้กราด “นอกจากมึง อีสายสุดา แล้วก็เธอ ยังมีใครอีกที่อยากย้ายออกจากห้องแถวตรีเนตร พรุ่งนี้มาบอกได้เลย”
“ฉันมะ...ไม่ได้จะย้ายออกนะ พี่!” สายสุดาหอบใบหน้าที่แต่งได้ไม่ถึงครึ่งกระหืดกระหอบวิ่งตัวปลิ้นออกมาจากห้อง “อี่นี่มันปากมากไปเอง อีนัน อีเพื่อนเฮงซวย”
“เอ๊ะ! กูพูดไปเพื่อมึงนะ” นันทนาผงะ หน้าซีด
“พูดทำไม กูโอเคกับพี่เขาจะตาย” สายสุดาเอ่ยหน้าแดง รสรักร้อนแรงของชายหนุ่มยังฝังใจ
“โอเคยังไง ก็มัน...” นันทนาพูดได้แค่นั้นเพราะตรีเมฆตวัดตากวาดมอง เดือดร้อนสายสุดากระซิบทำหน้าแหยๆ
“หุบปาก! พี่เขาจ่ายกูแล้ว ตั้งสองพัน”
“สองพันเรอะ อีดอก ทำไมมึงไม่เคยบอกกู”
“อย่าแส่ พี่ ขอฉันอยู่ต่อเถอะนะ ฉันไม่มีที่ไปจริงๆ หอพักอื่นมันก็แพง มีห้องแถวป้ามาลีนี่ละที่ไม่เคยขึ้นราคาอะไรเราเลย มีที่ไหน เดือนละไม่ถึงสองพัน นะพี่นะ” สายสุดาเลิกใส่ใจเพื่อน หล่อนหันมาอ้อนวอนชายหนุ่ม
ตรีเมฆหรี่ตามอง ก่อนจะพยักหน้า
“งั้นเธออยู่ต่อได้” เขาพูดแล้วกวาดสายตามาทางนันทนาและผู้ชายอีกสองคน “แต่เธอกับไอ้สองคนนี้ต้องย้ายออกไปภายในพรุ่งนี้”
พูดจบตรีเมฆก็เดินตรงไปที่รถที่ลุงเกิดกับลำดวนรออยู่แล้ว เขาขับรถออกไปส่งทั้งสองคนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนในห้องแถวหายกลับเข้าห้องไป แว่วเสียงโอดครวญขอความยุติธรรม เสียงด่าทอกันและกันและเสียงสาปแช่งลูกชายเจ้าของห้องแถวตรีเนตรดังมาเป็นระยะๆ
“ทำแบบนั้นจะดีเหรอ คนเช่าสมัยนี้ไม่ใช่หายากเรอะ หอพักสร้างใหม่เยอะแยะ” ลุงเกิดเอ่ยเบาๆ ตามองไปในถนนที่เริ่มมืด ลำดวนนั่งเงียบไม่พูดไม่จาตามเคย
“คนพวกนี้มันเอาเปรียบ ข่มขู่แม่มานานแล้ว คงเห็นว่าเป็นผู้หญิงแก่ๆ ไม่มีใครปกป้อง ต่อไปผมจะยอมไม่ได้”
“อาจารย์คนนั้นก็ดีนะ เห็นว่ามาอยู่ดูแลคุณนายมาลีพักใหญ่แล้ว”
“อืม แต่ก็แค่ผู้หญิง” ตรีเมฆพูด สายตามองตรงไปข้างหน้า มือแกร่งหมุนพวงมาลัยไปตามท้องถนนเลียบคลองที่ทั้งแคบและรกอย่างแม่นยำ มั่นใจ ลำดวนอดเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมนั้นไม่ได้ ใจคิดว่าเขาช่างแตกต่างจากผัวของตัวเหลือเกิน
รายนั้นขอแค่มันไม่เมายากลับมาอาละวาดตบตีหล่อน ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว!
“ขอบใจนะเมฆ”
“ขึ้นบ้านไปก่อนลุง ผมจะรออีกหน่อยค่อยกลับ นั่นรถมอเตอร์ไซค์ไอ้จอมใช่ไหม”
“ใช่ กลับไปเถอะ ที่ห้องแถวอาจจะมีเรื่องอีก ไอ้จอมมันไม่บ้ามากอย่างแต่ก่อนแล้วละ จริงไหมลำดวน”
“จ้ะพ่อ”
ลำดวนบอกแล้วยกมือไหว้ตรีเมฆ ก่อนจะลงจากรถเดินตามพ่อสามีผู้ชราไปเงียบๆ ตรีเมฆยังซุ่มอยู่ตรงนั้นอีกราวๆ สิบห้านาทีจึงค่อยยอมออกรถกลับบ้านไป
*************************
เล่มตัวอย่างมาแล้วนะคะ^^ ส่องได้ที่เฟซบุ๊กเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’
ปิดจอง 4 พ.ค.63
หนังสือพร้อมส่งสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปค่ะ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2563, 11:54:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2563, 11:54:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 475
<< บทที่ 6 -50% | บทที่ 6 -100% >> |