ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์
เขียนนิยายรักแนวหวานมาหลายเรื่อง อยากลองแนวอิโรติกดูบ้าง มาดูกันว่าจะได้แค่ไหน
Tags: สิรินดา, รักเล่ห์, นิยายรัก

ตอน: 8: จำไว้ว่าผมชื่อเหมันต์

"นาย...มาอยู่ห้องของฉันได้ยังไง"  ฉันเปล่งเสียงตะกุกตะกัก ดึงผ้าห่มออกจากตัวลุกขึ้น แล้วก็ต้องรีบดึงปิดไว้ที่เดิมเพราะข้างใต้ผ้าห่มมีเพียงเสื้อชั้นในตัวบางและกางเกงในตัวจิ๋วเท่านั้น

มันเกิดอะไรขึ้น ฉันพยายามย้อนความทรงจำแต่ก็ย้อนไปถึงบ่ายเมื่อวานเท่านั้น ฉันชวนเด็กหนุ่มซึ่งเป็นช่างทำโรงเรือนปลูกต้นไม้อยู่กินข้าวกลางวันด้วย จากนั้นปรเมศขึ้นมาหาที่ห้อง เรามีปากเสียงกันเพราะเขาเข้าใจผิดว่าฉันแอบนัดนายเพื่อนของเขาไว้ก่อน

ซึ่งมันก็ไม่ผิด ฉันนัดเพื่อนของปรเมศไว้ก่อน แต่นัดเรื่องงานช่าง ไม่ใช่เรื่องแบบอย่างที่ปรเมศคิด

"คุณเมา" เขาตอบยิ้มๆ "นี่จำอะไรไม่ได้เลยหรือไง" แววตาแปลกๆ นั่นทำให้ฉันหายใจไม่ทั่วท้อง

เขาไม่เคยทำแววตาแบบนี้ใส่ฉันมาก่อน มันเป็นแววตาแบบที่คนใกล้ชิดกันจะส่งให้กันเท่านั้น...หมายความว่า

ฉันหยุดหายใจ ไม่อยากจะคิดต่อ มองร่างสูงที่ตอนนี้กำลังยืนเปลือยอกมีผ้าขนหนูสีชมพูของฉันพันกายอยู่ ก้าวยาวๆ มาที่กลางห้องซึ่งมีกางเกงยีนของเขาวางอยู่หมิ่นๆ ที่ปลายเตียง

"นั่นมันผ้าขนหนูของฉัน"

"ผมต้องอาบน้ำ หาอะไรไม่ได้จริงๆ จะปลุกก็เกรงใจ ผมกลับแล้วคุณเอามันส่งซักก็แล้วกัน" 

คนพูดดูเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด ได้ของก็เดินหายตัวไปในห้องน้ำ ปิดประตูตามหลังเบาๆ จังหวะนั้นเองฉันมองหาไปรอบห้อง และวิ่งอย่างรวดเร็วไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อคลุมตัวโคร่งสีเข้มมาสวมทับ 

"เป็นอย่างไรบ้างหายมึนหัวหรือยัง" เด็กหนุ่มสวมกางเกงเดินออกมาแต่ไม่สวมเสื้อมองเลยไปที่หัวเตียง ฉันมองตามสายตาของเขา 

"เกือบตีหนึ่งแล้ว" คนพูดอมยิ้ม "จะนอนต่อไหม"

คนพูดดึงผ้าปูที่นอนออก แล้วก็นั่งแปะลงบนที่นอนราวกับคุ้นเคยกับที่นี่เสียเต็มประดา แววตาที่นิ่งๆ ของเขาเปลี่ยนไปมันรวมไว้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยม ร้ายลึก และ...ยากจะเข้าใจ

"ดะ...เดี๋ยว บอกมาก่อนเกิดอะไรขึ้น นายทำอะไรฉัน ทำไมฉันถึงไม่ใส่อะไรเลยนอน แล้วทำไม..."

"ไว้อารมณ์ดีๆ ค่อยเล่าให้ฟัง ตอนนี้ผมง่วงแล้ว เหนื่อยมาทั้งวัน ตั้งแต่บ่ายจนเย็นคุณยังกวนผมวุ่นวายไปหมด ตอนนี้หมดแรง อยากนอนแล้ว โอเคไหม"

ร่างสูงแทรกตัวลงใต้ผ้าห่ม หยิบรีโมตออกมาปิดไฟปล่อยให้ฉันยืนคว้างทำอะไรไม่ถูกอยู่กลางห้องนอนของตัวเอง

มันเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไม...

ฉันเอื้อมมือไปหยิบรีโมตเปิดไฟ กระชากผ้าห่มออกจากตัวคนที่นอนอยู่ ภาพที่เห็นมัน...วาบหวิวพิลึก จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มเปลือยอกมานอนทำหน้าง่วงอยู่บนเตียง

"ลุกออกมาจากเตียงฉันเดี๋ยวนี้นะ!"

"ผมจะนอน" คนอยู่ใต้ผ้าห่มหยีตา "อะไรกันเนี่ย ตอนเย็นไม่ให้กลับ ตอนนี้ไม่ให้นอน คุณจะเอายังไงของคุณหือ"

"....ฉัน ทำอย่างนั้นเหรอ"

เด็กหนุ่มที่ตอนนี้เปลือยท่อนบนพยักหน้ากอดอก "คุณเมาหนัก ผมกินข้าวเสร็จกจะกลับ ไม่ให้ผมกลับแล้วก็...." เขาหยุดนิดหนึ่ง "ทำให้ผมวุ่นวายไม่ได้นอน กว่าจะทำให้คุณเงียบเรียบร้อย นอนหลับได้ก็ดึกมากแล้ว"

ฉันหน้าแดง เขาหมายความว่าฉันปล้ำเขาหรือเปล่านะ 

อาการเมา มึนหัวนิดๆ ยังคงอยู่ ฉันรู้สึกว่าร่างกายไม่ปกติ ปวดนิดๆ บริเวณแขน และต้นขา...โอ พระเจ้า อย่านะ หมายความว่าฉันกับเด็กหนุ่มคนนี้...เรา เอิ่มมมม

เขายิ้มมุมปาก นิดเดียว เหมือนจะเดาความคิดของฉันออก

"ถ้านอนไม่หลับ คุณช่วยไปนั่งคิดอะไรข้างนอกห้อง ผมขอนอนสักชั่วโมงสองชั่วโมงได้ไหม ตื่นมาอารมณ์ดีอาจเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น"

"แต่..."

"มันเตียงของคุณ แต่คุณอนุญาตให้ผมนอนได้ ถ้าคุณจำไม่ได้ ก็ช่วยไม่ได้...ราตรีสวัสดิ์"

....

คอนโดของฉัน ห้องนอนของฉัน แต่เจ้าของต้องระเห็จตัวเองออกมานอนที่โซฟารับแขกหน้าห้องนอน ในขณะที่ผู้ชายอีกคนนอนหลับสบายอยู่ในห้อง และตอนนี้ตีสามแล้ว ฉันยังนอนไม่หลับ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังจากพลิกซ้ายพลิกขวาก็พบว่าตัวเองยังนอนไม่หลับ ฉันเดินไปส่วนที่เป็นครัวพบว่าข้าวของที่วางระเกะระกะถูกเก็บเรียบร้อยแล้ว และจานถูกล้างเก็บเข้าที่เช่นเดียวกัน 

ในถังขยะ เบียร์หกกระป๋องอยู่ในนั้น ...มิน่าเล่าถึงหลับไม่รู้เรื่อง ปกติแค่สองกระป๋องก็แย่แล้ว

จำได้ว่าเครียด เบื่อ หงุดหงิดกับความเจ้าอารมณ์ของปรเมศ อยากประชดเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยการเมาให้ลืมๆ ทุกอย่างไป ลืมไปว่าตัวเองเป็นพวกเมาแล้วขาดสติ จำอะไรไม่ค่อยได้

ออกจากห้องครัวฉันเดินเข้าห้องนอน ตอนนี้แขกแปลกหน้านอนอยู่บนเตียงเรียบร้อย ฉันเดินเลยไปเปิดประตูออกไปที่ระเบียง ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างถูกเก็บเรียบร้อย สวนแนวตั้งที่มีเมล์ดดอกไม้ ผักขนาดเล็กปลูกครบทุกชั้น พร้อมกับอุปกรณ์เซนเซอร์เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อแจ้งการเติบโตและการดูแลต้นไม้ตั้งอยู่มุมด้านหนึ่ง อีกหนึ่งหรือสองเดือนต้นไม่ส่วนนั้นคงขึ้นเต็มและออกดอกให้ได้เชยชม อีกด้านโรงเรือนที่คนที่นอนอยู่ปรับให้อย่างเรียบร้อยเมื่อวาน ทุกอย่างดูสวยงามอย่างที่ฉันเคยฝันไว้

ฉันควรจะมีความสุขกับภาพบรรยากาศยามค่ำคืนของแสงไฟยามค่ำคืนจากมุมสูงของกรุงเทพฯ ควรจะมีความสุขจากสวนที่จัดอย่างเรียบร้อยสวยงามอย่างที่จินตนาการไว้ แต่ก็ไม่เลยสักนิด

ฉันทำเรื่องให้ตัวเองอีกแล้ว นอกจากเรื่องของปรเมศ ตอนนี้มีอีกหนึ่งเรื่องที่เหมือนจะหนักกว่าเดิม ตอนนี้ฉันอาจจะมีอะไรกับเพื่อนของเขาอย่างที่โดนตราหน้าไว้จริงๆ เพราะความเมาขาดสติของตัวเองแท้ๆ

...นี่คุณจบดอกเตอร์มาจริงๆ หรือเปล่า...คำพูดเหมือนจะดูล้อเล่นของอีกฝ่าย แต่เจ็บจี๊ดเข้าไปในหัวใจ 

"ดึกมากแล้วนะทำไมยังไม่นอน" เสียงเบาๆ ดังขึ้นเบื้องหลังพร้อมๆ กับไฟริมระเบียงดวงเล็กเปิดขึ้น ร่างสูงผมยุ่งนิดๆ หุ่นยังกับนักมวยฝึกหัดเอ่ยขึ้น

"ใครจะไปนอนหลับล่ะ"

"แล้วไม่มึนหัวหรือไง"

"ก็"

"เอายามากินซะ อยู่ไหน ผมไปหยิบให้"

"ไม่ต้อง ห้องของฉัน หยิบเองได้" ฉันทำเสียงเรียบ พอมีอะไรกันมาทำน้ำเสียงสนิทสนม ให้ตายเถอะ ก่อนหน้านี้ฉันคิดได้ยังไงนะว่าเขาเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย 

"ผมหยิบให้" เขาเดินหายเข้าไปในห้อง กลับมาพร้อมยาและน้ำหนึ่งแก้ว

"นายค้นห้องของฉัน"

"ผมเห็นมันตั้งแต่มาทำงานวันแรก คุณเอากล่องยาไว้บนตู้ใกล้ทางออก" เขาตอบส่งยาให้ "กินซะ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าคุณไปทำงานไม่ได้แน่  อ้อ พรุ่งนี้วันหยุด โชคดีหน่อย"

ใช่สิ ช่วงนี้วันหยุดยาว ไม่ต้องไปทำงานอีกสองวัน

ตอนแรกวางแผนจะไปเดทกับปรเมศ ตอนนี้จะเป็นอย่างไรไม่รู้เลย ให้ตายสิ ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้นะ

"ตอนคุณเมา คุณโวยวายมากเลยนะ" อีกฝ่ายพูดต่อ "อย่าไปกินเหล้า หรือดื่มเบียร์แบบนี้ที่ไหนอีกนะ ถ้าผมไม่อยู่ด้วย"

อ๊ะ...หมายความว่ายังไง

"เกี่ยวอะไรกับนาย"

"ก็...เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนี่ครับ หรือคุณจะกลับไปหาเจ้าเมศ มันสาปส่งคุณแบบนั้น ไม่มีทางหรอก นี่มันคงกำลังหาทางจัดการทั้งผมและคุณอยู่แน่ๆ"

ใจหาย โอยยย พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ แล้วฉันจะทำยังไงกับเรื่องนี้

"แต่ไม่ต้องกลัวนะ ผมจัดการได้ ผมรู้ทางเจ้าเมศดี รับรองว่ามันไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ถ้าคุณเป็นของผมแล้วแบบนี้"

อ๊ะ....อะไรนะ!!! 

บอกได้เลยว่าตอนนี้ฉันกำลังอ้าปากค้างกับประโยคสุดท้ายของพ่อหนุ่มเปลือยอกนั่น

"ฉันไม่...."

"คุณจำอะไรไม่ได้เลยรึ คุณปล้ำผมเองนะ สงสัยอารมณ์ค้างจากเจ้าเมศ"

"ฉัน..." บอกได้คำเดียวว่าตอนนี้หน้าแดงหูแดงไปหมดแล้ว จำอะไรไม่ได้เลย 

"คุณคงไม่อยากจำด้วย ผมว่า ผมมันไม่ใช่คนหน้าตาดี ดูดีแบบเพื่อนผมนี่นะ" คนพูดยักไหล่ 

....

เสียงหาวเป็นครั้งที่สาม

"นี่คุณจะนั่งอย่างนี้จนถึงเช้าเลยเหรอ" 

หลังจากต่างฝ่ายต่างเงียบกันมาราวครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มร่างสูง ที่ตอนนี้ไปเอาผ้าห่ม (ของฉัน) มาพันตัวด้านบน นั่งอยู่ที่เก้าอี้อีกฟากหนึ่งของโต๊ะริมระเบียงห้องเอ่ยถามขึ้น

"ฉันกำลังใช้ความคิด"

"คิดอะไร"

"คิดว่าทำแบบนั้นไปได้ยังไง" 

ฉันเป็นเด็กเรียนดี อยู่ในกรอบมาตลอดเวลาหลายปี เหล้าเบียร์แทบไม่แตะ และการงานกำลังทำท่าว่าจะก้าวหน้าได้เรื่อยๆ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะพังเพราะ...เพราะอะไรก็ไม่รู้

ฉันมีอะไรกับเด็กคนนี้ อายุห่างกันหลายปี ที่สำคัญ ไม่เคยคิด ไม่เคยสนใจเขาด้วยซ้ำ

"คิดมาก...คิดไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ผมรับผิดชอบสิ่งที่ทำน่า ไม่ต้อง..."

"นายก็พูดได้นี่ นายยังเรียนอยู่ เรื่องนี้อย่างมากมหาวิทยาลัยก็อาจพักการเรียน แต่ฉันสิ จะเอาหน้าไปไว้ที่..."

"เอาตัวเองเป็นใหญ่ชะมัด" เสียงอีกฝ่ายเข้มขึ้น "อย่างมากคุณก็ถูกพักงาน ย้ายงาน หรือไม่ก็ให้ลาออก แต่เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าคงไม่มีใครให้ออกกันหรอก หรือออกคุณก็หางานใหม่ได้เพราะดีกรีขนาดนี้ บริษัทที่ไหนคงอยากได้ แต่ผมสิ อนาคตที่เหลือจะเป็นอย่างไร ไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีกินมีใช้สบายเหมือนคุณนะ"

นี่คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่ฉันเคยได้ฟังจากเขามา 

"ตอนทำไม่คิด จะมาคิดอะไรตอนที่ทำไปแล้ว ผมขอสั่งให้คุณไปนอนเดี๋ยวนี้"

"แต่ว่า..."

"ผมจะไปนอนที่โซฟาเอง ถ้ากลัวนอนไม่หลับล่ะก็ ตกลงไหม เราจะได้นอนกันเสียที"

"ก็...ได้" จริงๆ แล้วยาแก้ปวดที่กินไว้คงเริ่มออกฤทธิ์ รู้สึกตาหนักๆ แล้วเช่นกัน

"แล้วก็จำไว้ด้วยนะว่าผมชื่อเหมันต์ อย่าเรียกผมว่านายโน่น นายนี่อีก ... จะเรียกเหนือเหมือนที่เพื่อนๆ เรียกก็ได้ ผมไม่ว่า" พูดจบคนพูดก็ก้าวเข้าห้อง เดินเลยไปยังอีกห้องที่เป็นส่วนรับแขก "นอนได้แล้วนะ ถ้าไม่นอน ผมจะกลับเข้าไปปล้ำคุณอีกรอบ" เสียงตะโกนข้ามห้องมาไม่เบานัก

.....



สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 เม.ย. 2563, 17:16:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 เม.ย. 2563, 17:16:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 626





<< 7: เรื่องที่เป็นเรื่อง   9: แค่กินอาหารญี่ปุ่นเท่านั้นนะ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account