ดุจจันทร์ดั้นเมฆ: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ตรีเมฆ’ ไม่ได้เกิดมามีชีวิตเลวร้าย เขาไม่ได้มีปมด้อยจนต้องสร้างจุดเด่น ตรงกันข้ามเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ความ ‘พร้อม’ นั้นทำให้ชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างประมาทจนสุดท้ายต้องถูกตราหน้าว่าเป็น ‘ไอ้ขี้คุก’ เขาผลาญทำลายชีวิตทุกคนที่รักเขา และในวันที่เขาได้รับอิสรภาพทางกาย จิตใจเขากลับถูกความรู้สึกผิดพันธนาการแน่นหนา
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 11 -100%
“ว่าไง ถ้าคิดจะย้ายก็ย้ายลงมาอยู่ห้องนี้ด้วยกันเลยเป็นไง”
เสียงทุ้มต่ำแผ่วเบาของเขา กลับดังกึกก้องในหัวของหล่อนเสียยิ่งกว่าเวลาเขาพูดด้วยเสียงกร้าวแข็งตามปกติ
“บ้า ใครจะอยากลงมาอยู่กับคุณกันล่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“อ้าว” เขาร้อง “ไม่ชอบหรอกรึ ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายกลับขึ้นไปอยู่ด้วยกันบนห้องผม รับรองว่ากว้างขวาง สะดวกสบายทุกอย่าง คุณก็เคยเข้าไปหลายรอบแล้วไม่ใช่เหรอ”
“คุณเมฆคะ” หล่อนเผลอร้องเสียงดัง มีอย่างหรืออยู่ดีๆ ก็มาชวนย้ายเข้าห้องนั้นห้องนี้เป็นว่าเล่น เขาเห็นหล่อนเป็นคนยังไงกันนะ
“เบาๆ เจ้าอ้วนตื่นแล้วเห็นไหม”
เขาบุ้ยปากไปทางเด็กชายตรีเพชรที่ขยับตัวหยุกหยิกทั้งสะอึกสะอื้นราวกับกำลังฝันร้าย จันทน์กะพ้องับริมฝีปากแดงอิ่มของตนไว้แน่นด้วยไรฟันสีขาวราวไข่มุก ตรีเมฆหัวเราะหึๆ ในลำคอ
“คุณกับตาลุงอยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว ปลอดภัยกว่าที่อื่นเยอะรู้ไหม” วงแขนคลายลงเล็กน้อย แต่น้ำเสียงกลับจริงจังมากขึ้น “ผมเองก็ต้องอาศัยคุณดูแลแม่กับเจ้าอ้วนนี่ เพราะผมไม่มีปัญญาทำได้ แม่แทบจะไม่พูดกับผมด้วยซ้ำ” น้ำเสียงของเขาฟังอ่อนล้าลงเล็กน้อย “ส่วนคุณเองก็มีที่พักให้พ่ออยู่อย่างไม่ลำบากนัก ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์จริงไหม”
“แล้วถ้าพ่อไม่กลับง่ายๆ ล่ะคะ” หล่อนถามด้วยความลังเล
“ก็อยู่กันไปเรื่อยๆ อยู่ตลอดไปเลยก็ได้”
“แต่ว่า...”
“ทำไมต้องมีแต่”
“ก็ฉันมีเหตุผลของฉันนี่คะ คุณไม่ยอมฟังฉันเลย”
“ช่างพูด ต้องทำอย่างนี้ใช่ไหมถึงจะเงียบ หืม”
อย่างนี้ของเขาก็คือการกดริมฝีปากหนาหนักได้รูปลงบนกลีบปากอิ่มแดงเต่งตึงจนแนบสนิท ปกปิดโอกาสที่หล่อนจะได้โต้แย้ง บดเบียดเคล้าคลึงจงใจให้อีกฝ่ายงุนงงจนไม่มีเวลาคิดขัดใจเขา จากนั้นก็และเล็มอ้อยอิ่งกับความชุ่มฉ่ำหอมหวานเนิ่นนาน กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อหล่อนส่งเสียงครางประท้วงให้เขาผละออกให้หล่อนได้หายใจหายคอกันบ้าง ตรีเมฆผละออกเพียงน้อย เผยอกกว้างในเสื้อยืดเก่าตัวนิ่มให้หล่อนมีโอกาสเอาคืนด้วยการข่วนแควกเข้าให้
“โอ๊ย”
“นี่แน่ะ ชอบเอาเปรียบนัก”
“คนหรือแมวนี่ เล็บคมชะมัด แสบไปหมดแล้วนี่” เขาแบะคอเสื้อให้หล่อนดูแผลในความมืดสลัว ราวกับว่าหล่อนจะเห็นมันอย่างนั้นล่ะ
จันทน์กะพ้อเบือนหน้าหนีจากอกเปลือยที่ตอนนี้คงมีรอยแดงเถือก เดชะบุญของหล่อนที่มีเสียงครางอืออาดังมาจากร่างอ้วนป้อมที่นอนขดอยู่ ไม่นานเด็กชายก็ลุกขึ้นนั่งขยี้ตางัวเงีย เหลียวมองไปมาในห้องไม่คุ้นตานั้น
จันทน์กะพ้อผละออกจากอกกว้าง ขยับเข้าไปใกล้เจ้าตัวอ้วนทันที ตรีเพชรเองพอหันมาเห็นก็โผเข้าหาอ้อมแขนของคุณครูสาวทันควันก่อนจะเปิดปากร้องไห้จ้าอีกรอบ สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ
“อย่าทิ้งเพชรไปนะครับคุณครู อย่าไปนะครับ ฮือๆ”
“เพชร...” เสียงหวานแผ่วเบา นุ่มนวลช่วยปัดเป่าความหวาดกลัวในใจเด็กน้อย
“อย่าทิ้งเพชรกับยายนะครับ” แขนอวบรัดรอบคอหล่อนไว้ แนบหน้าเปื้อนน้ำตากับเรือนผมหอมกรุ่น คางเกยกับไหล่บางสะอื้นเบาๆ ตรีเมฆยกมือเท้าสะเอวสอบที่มีกางเกงนอนเกาะอยู่หมิ่นเหม่ หรี่ตามองด้วยความหมั่นไส้
เจ้าอ้วนนี่มันดราม่าได้โล่เลยว่ะ
“ครูไม่ไปแล้วค่ะเพชร ไม่ร้องนะ เด็กดีของครู...” จันทน์กะพ้อลูบหลังเด็กชายที่ใช้ทั้งมือทั้งขาเกาะเกี่ยวหล่อนไว้แน่น
น้ำหนักมันเบาเสียที่ไหนเล่า เดี๋ยวก็ได้ล้มลงไปทั้งคู่
ตรีเมฆนึกแล้วก็ขยับเข้ามาใกล้ ก้มลงมองสบตาคนที่ถูกเกาะราวกับปลิง จันทน์กะพ้ออึกอักทำอะไรไม่ถูก
“ไอ้เสือมานี่ จะพาขึ้นบ้านไปนอน” ตรีเพชรเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ยังเกาะเกี่ยวร่างบางไว้ไม่ปล่อย
“ครูนอนไหนครับ”
จันทน์กะพ้อหน้าแดงก่ำ นึกอยากจะหยิกเนื้อนิ่มของเด็กน้อยขึ้นมาทันควัน
“ก็ นอนห้องครูสิคะ”
“แล้วลุงยักษ์นอนไหน”
ตัวเล็กยังหน้ามุ่ยถามต่อ ตรีเมฆถลึงตาดุใส่
“นอนไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องของเด็กแก่แดด” เขาใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเด็กเล่นจนเจ้าตัวเอี้ยวหนี เขาจึงได้โอกาสสอดมือเข้าไปช้อนรักแร้ของเด็กน้อยจากอ้อมอกของจันทน์กะพ้อ หลังมือและปลายนิ้วแกร่งสัมผัสกับนวลเนื้อนุ่มปานบัวตูมตึงแน่นเข้าเต็มๆ จันทน์กะพ้อสะดุ้งเฮือกราวกับโดนกระแสไฟฟ้าดูด ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน จนตรีเมฆเอ่ยเสียงพร่าออกมาว่า
“ไปนอนได้แล้ว”
ตอนนั้นเองหล่อนก็ได้สติ รีบลนลานเดินไปผลักประตูห้องเขาออกแล้วเดินนำคนที่กลายเป็นพ่อลิงยักษ์ขึ้นบันไดเรือนไปเงียบๆ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเขาดังสม่ำเสมอในความเงียบสงัดยามดึก จันทน์กะพ้อเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของตนเอง ก่อนจะหันมามองร่างเล็กในอ้อมแขนเขา ตรีเมฆเบี่ยงกายให้ใบหน้าเด็กน้อยหันมาทางหล่อน จันทน์กะพ้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ไม่ต้องสู้สายตาคมคู่นั้น หล่อนเอื้อมมือไปแตะแก้มย้วยของเด็กชายที่กำลังปรือตาขึ้นมองคนโปรดของตน
“ฝันดีนะครับเพชรคนเก่ง” หล่อนเอ่ยจบก็เงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของร่างสูงใหญ่ ก่อนจะหลุบเปลือกตาที่มีขนตางอนเช้งลง เปิดประตูห้องแล้วผลักเข้าไปก่อนจะปิดตามเบาๆ
ตรีเมฆสูดลมหายใจเข้าปอดลึกล้ำก่อนจะอุ้มเด็กชายไปที่ห้องนอนใหญ่ที่เคยเป็นห้องนอนประจำของพ่อตรีเนตรและแม่ของเขา
ความทรงจำในวัยเยาว์ของเขาหลั่งไหลกลับมาในทุกย่างก้าวที่ใกล้ห้องนอนใหญ่เข้าไปทุกที ในค่ำคืนแห่งฝันร้าย เด็กชายตรีเมฆเคยเดินคลำความมืดมาเคาะห้องนอนพ่อแม่ขอพักพิงชั่วคราวจนรุ่งเช้า บางครั้งที่เจ็บป่วย พ่อตรีเนตรมักสงสารเขามากจนทนไม่ไหว ต้องไปอุ้มเขามานอนด้วยกลางดึก
ตรีเมฆสูดลมหายใจเข้าลึกล้ำอีกครั้ง หากคราวนี้ความหอมหวานกลับมลายหายไป เหลือเพียงความรู้สึกปวดปลาบราวมีมีดแหลมคมปักอยู่ในเนื้อหัวใจที่อกซ้าย
ประตูห้องนอนใหญ่เปิดออกก่อนที่เขาจะได้เคาะ ราวกับว่าเจ้าของห้องรอคอยอยู่แล้ว นางมาลีแม่ผู้ชราของเขายืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของนางแดงก่ำ มือผอมบางสั่นเทาเมื่อเอื้อมออกมาหาจะรับเด็กชายไปจากเขา แต่ตรีเมฆส่ายหน้า เป็นฝ่ายอุ้มเด็กชายที่หลับไปแล้วไปวางลงบนเตียงไม้เก่า แก่สลักเสลาสวยงามให้เอง ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปที่ประตูห้องเงียบๆ
“เมฆ”
“ครับ” เขาขานรับ หากนางมาลีลืมไปเสียแล้วว่านางจะพูดอะไรกับเขา
ตรีเมฆหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องห่วงนะครับ จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น ผมสัญญา”
***อย่าลืมน้าา ตอนนี้มีลดเพิ่มอีก 10% จากราคาขาย เมื่อสั่งซื้อผ่านไลน์ plaipakkabooks
ฉะนั้น ดุจจันทร์จากราคาขาย 369฿ (ปก 402฿) ลด 10%
เหลือ 332฿ นะคะ
(((ราคานี้ยังไม่รวมค่าส่ง)))
สาย eBook โหลดได้ที่ mebmarket จ้า
เสียงทุ้มต่ำแผ่วเบาของเขา กลับดังกึกก้องในหัวของหล่อนเสียยิ่งกว่าเวลาเขาพูดด้วยเสียงกร้าวแข็งตามปกติ
“บ้า ใครจะอยากลงมาอยู่กับคุณกันล่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“อ้าว” เขาร้อง “ไม่ชอบหรอกรึ ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายกลับขึ้นไปอยู่ด้วยกันบนห้องผม รับรองว่ากว้างขวาง สะดวกสบายทุกอย่าง คุณก็เคยเข้าไปหลายรอบแล้วไม่ใช่เหรอ”
“คุณเมฆคะ” หล่อนเผลอร้องเสียงดัง มีอย่างหรืออยู่ดีๆ ก็มาชวนย้ายเข้าห้องนั้นห้องนี้เป็นว่าเล่น เขาเห็นหล่อนเป็นคนยังไงกันนะ
“เบาๆ เจ้าอ้วนตื่นแล้วเห็นไหม”
เขาบุ้ยปากไปทางเด็กชายตรีเพชรที่ขยับตัวหยุกหยิกทั้งสะอึกสะอื้นราวกับกำลังฝันร้าย จันทน์กะพ้องับริมฝีปากแดงอิ่มของตนไว้แน่นด้วยไรฟันสีขาวราวไข่มุก ตรีเมฆหัวเราะหึๆ ในลำคอ
“คุณกับตาลุงอยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว ปลอดภัยกว่าที่อื่นเยอะรู้ไหม” วงแขนคลายลงเล็กน้อย แต่น้ำเสียงกลับจริงจังมากขึ้น “ผมเองก็ต้องอาศัยคุณดูแลแม่กับเจ้าอ้วนนี่ เพราะผมไม่มีปัญญาทำได้ แม่แทบจะไม่พูดกับผมด้วยซ้ำ” น้ำเสียงของเขาฟังอ่อนล้าลงเล็กน้อย “ส่วนคุณเองก็มีที่พักให้พ่ออยู่อย่างไม่ลำบากนัก ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์จริงไหม”
“แล้วถ้าพ่อไม่กลับง่ายๆ ล่ะคะ” หล่อนถามด้วยความลังเล
“ก็อยู่กันไปเรื่อยๆ อยู่ตลอดไปเลยก็ได้”
“แต่ว่า...”
“ทำไมต้องมีแต่”
“ก็ฉันมีเหตุผลของฉันนี่คะ คุณไม่ยอมฟังฉันเลย”
“ช่างพูด ต้องทำอย่างนี้ใช่ไหมถึงจะเงียบ หืม”
อย่างนี้ของเขาก็คือการกดริมฝีปากหนาหนักได้รูปลงบนกลีบปากอิ่มแดงเต่งตึงจนแนบสนิท ปกปิดโอกาสที่หล่อนจะได้โต้แย้ง บดเบียดเคล้าคลึงจงใจให้อีกฝ่ายงุนงงจนไม่มีเวลาคิดขัดใจเขา จากนั้นก็และเล็มอ้อยอิ่งกับความชุ่มฉ่ำหอมหวานเนิ่นนาน กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อหล่อนส่งเสียงครางประท้วงให้เขาผละออกให้หล่อนได้หายใจหายคอกันบ้าง ตรีเมฆผละออกเพียงน้อย เผยอกกว้างในเสื้อยืดเก่าตัวนิ่มให้หล่อนมีโอกาสเอาคืนด้วยการข่วนแควกเข้าให้
“โอ๊ย”
“นี่แน่ะ ชอบเอาเปรียบนัก”
“คนหรือแมวนี่ เล็บคมชะมัด แสบไปหมดแล้วนี่” เขาแบะคอเสื้อให้หล่อนดูแผลในความมืดสลัว ราวกับว่าหล่อนจะเห็นมันอย่างนั้นล่ะ
จันทน์กะพ้อเบือนหน้าหนีจากอกเปลือยที่ตอนนี้คงมีรอยแดงเถือก เดชะบุญของหล่อนที่มีเสียงครางอืออาดังมาจากร่างอ้วนป้อมที่นอนขดอยู่ ไม่นานเด็กชายก็ลุกขึ้นนั่งขยี้ตางัวเงีย เหลียวมองไปมาในห้องไม่คุ้นตานั้น
จันทน์กะพ้อผละออกจากอกกว้าง ขยับเข้าไปใกล้เจ้าตัวอ้วนทันที ตรีเพชรเองพอหันมาเห็นก็โผเข้าหาอ้อมแขนของคุณครูสาวทันควันก่อนจะเปิดปากร้องไห้จ้าอีกรอบ สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ
“อย่าทิ้งเพชรไปนะครับคุณครู อย่าไปนะครับ ฮือๆ”
“เพชร...” เสียงหวานแผ่วเบา นุ่มนวลช่วยปัดเป่าความหวาดกลัวในใจเด็กน้อย
“อย่าทิ้งเพชรกับยายนะครับ” แขนอวบรัดรอบคอหล่อนไว้ แนบหน้าเปื้อนน้ำตากับเรือนผมหอมกรุ่น คางเกยกับไหล่บางสะอื้นเบาๆ ตรีเมฆยกมือเท้าสะเอวสอบที่มีกางเกงนอนเกาะอยู่หมิ่นเหม่ หรี่ตามองด้วยความหมั่นไส้
เจ้าอ้วนนี่มันดราม่าได้โล่เลยว่ะ
“ครูไม่ไปแล้วค่ะเพชร ไม่ร้องนะ เด็กดีของครู...” จันทน์กะพ้อลูบหลังเด็กชายที่ใช้ทั้งมือทั้งขาเกาะเกี่ยวหล่อนไว้แน่น
น้ำหนักมันเบาเสียที่ไหนเล่า เดี๋ยวก็ได้ล้มลงไปทั้งคู่
ตรีเมฆนึกแล้วก็ขยับเข้ามาใกล้ ก้มลงมองสบตาคนที่ถูกเกาะราวกับปลิง จันทน์กะพ้ออึกอักทำอะไรไม่ถูก
“ไอ้เสือมานี่ จะพาขึ้นบ้านไปนอน” ตรีเพชรเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ยังเกาะเกี่ยวร่างบางไว้ไม่ปล่อย
“ครูนอนไหนครับ”
จันทน์กะพ้อหน้าแดงก่ำ นึกอยากจะหยิกเนื้อนิ่มของเด็กน้อยขึ้นมาทันควัน
“ก็ นอนห้องครูสิคะ”
“แล้วลุงยักษ์นอนไหน”
ตัวเล็กยังหน้ามุ่ยถามต่อ ตรีเมฆถลึงตาดุใส่
“นอนไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องของเด็กแก่แดด” เขาใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเด็กเล่นจนเจ้าตัวเอี้ยวหนี เขาจึงได้โอกาสสอดมือเข้าไปช้อนรักแร้ของเด็กน้อยจากอ้อมอกของจันทน์กะพ้อ หลังมือและปลายนิ้วแกร่งสัมผัสกับนวลเนื้อนุ่มปานบัวตูมตึงแน่นเข้าเต็มๆ จันทน์กะพ้อสะดุ้งเฮือกราวกับโดนกระแสไฟฟ้าดูด ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน จนตรีเมฆเอ่ยเสียงพร่าออกมาว่า
“ไปนอนได้แล้ว”
ตอนนั้นเองหล่อนก็ได้สติ รีบลนลานเดินไปผลักประตูห้องเขาออกแล้วเดินนำคนที่กลายเป็นพ่อลิงยักษ์ขึ้นบันไดเรือนไปเงียบๆ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเขาดังสม่ำเสมอในความเงียบสงัดยามดึก จันทน์กะพ้อเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของตนเอง ก่อนจะหันมามองร่างเล็กในอ้อมแขนเขา ตรีเมฆเบี่ยงกายให้ใบหน้าเด็กน้อยหันมาทางหล่อน จันทน์กะพ้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ไม่ต้องสู้สายตาคมคู่นั้น หล่อนเอื้อมมือไปแตะแก้มย้วยของเด็กชายที่กำลังปรือตาขึ้นมองคนโปรดของตน
“ฝันดีนะครับเพชรคนเก่ง” หล่อนเอ่ยจบก็เงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของร่างสูงใหญ่ ก่อนจะหลุบเปลือกตาที่มีขนตางอนเช้งลง เปิดประตูห้องแล้วผลักเข้าไปก่อนจะปิดตามเบาๆ
ตรีเมฆสูดลมหายใจเข้าปอดลึกล้ำก่อนจะอุ้มเด็กชายไปที่ห้องนอนใหญ่ที่เคยเป็นห้องนอนประจำของพ่อตรีเนตรและแม่ของเขา
ความทรงจำในวัยเยาว์ของเขาหลั่งไหลกลับมาในทุกย่างก้าวที่ใกล้ห้องนอนใหญ่เข้าไปทุกที ในค่ำคืนแห่งฝันร้าย เด็กชายตรีเมฆเคยเดินคลำความมืดมาเคาะห้องนอนพ่อแม่ขอพักพิงชั่วคราวจนรุ่งเช้า บางครั้งที่เจ็บป่วย พ่อตรีเนตรมักสงสารเขามากจนทนไม่ไหว ต้องไปอุ้มเขามานอนด้วยกลางดึก
ตรีเมฆสูดลมหายใจเข้าลึกล้ำอีกครั้ง หากคราวนี้ความหอมหวานกลับมลายหายไป เหลือเพียงความรู้สึกปวดปลาบราวมีมีดแหลมคมปักอยู่ในเนื้อหัวใจที่อกซ้าย
ประตูห้องนอนใหญ่เปิดออกก่อนที่เขาจะได้เคาะ ราวกับว่าเจ้าของห้องรอคอยอยู่แล้ว นางมาลีแม่ผู้ชราของเขายืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของนางแดงก่ำ มือผอมบางสั่นเทาเมื่อเอื้อมออกมาหาจะรับเด็กชายไปจากเขา แต่ตรีเมฆส่ายหน้า เป็นฝ่ายอุ้มเด็กชายที่หลับไปแล้วไปวางลงบนเตียงไม้เก่า แก่สลักเสลาสวยงามให้เอง ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปที่ประตูห้องเงียบๆ
“เมฆ”
“ครับ” เขาขานรับ หากนางมาลีลืมไปเสียแล้วว่านางจะพูดอะไรกับเขา
ตรีเมฆหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องห่วงนะครับ จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น ผมสัญญา”
***อย่าลืมน้าา ตอนนี้มีลดเพิ่มอีก 10% จากราคาขาย เมื่อสั่งซื้อผ่านไลน์ plaipakkabooks
ฉะนั้น ดุจจันทร์จากราคาขาย 369฿ (ปก 402฿) ลด 10%
เหลือ 332฿ นะคะ
(((ราคานี้ยังไม่รวมค่าส่ง)))
สาย eBook โหลดได้ที่ mebmarket จ้า
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ค. 2563, 09:20:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ค. 2563, 09:20:09 น.
จำนวนการเข้าชม : 610
<< บทที่ 11 -75% | บทที่ 12 -25% >> |