ม่านมนตกานต์: รางนาก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ญาตาวี เสน่ห์จันทน์’ ดาราเจ้าบทบาทแถวหน้าของเมืองไทย
เธอประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน
แต่! กลับล้มเหลวในชีวิตรักอย่างยับเยิน
เธอหอบร่างกายบอบช้ำและหัวใจที่แหลกสลายกลับมายัง ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’
ที่นี่เธอได้พบกับ ‘นางฟ้าน้อย’ พรายกุมารที่คอยช่วยเหลือ และปลอบโยนเธอจากความเศร้า
หัวใจของเธอได้รับการเยียวยาจนได้พบกับ ‘สารวัตรเขมินทร์’
ผู้ชายที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของหญิงสาวไปตลอดกาล
ทว่า...เงื่อนงำในเรือนเสน่ห์จันทน์ยังคงเป็นปริศนา!!!
ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รอวันร่วงหล่นลงขุม ‘อวิชชา’ เลวร้าย
เธอและเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือไม่...
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย รางนาก(สะมะเรีย) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ เล่มจบของซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ค่ะ เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก, ร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อม่านมนตกานต์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ม่านมนตกานต์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(ม่านมนตกานต์ เป็นเรื่องราวของหนึ่งในหลานสาวบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
เธอประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน
แต่! กลับล้มเหลวในชีวิตรักอย่างยับเยิน
เธอหอบร่างกายบอบช้ำและหัวใจที่แหลกสลายกลับมายัง ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’
ที่นี่เธอได้พบกับ ‘นางฟ้าน้อย’ พรายกุมารที่คอยช่วยเหลือ และปลอบโยนเธอจากความเศร้า
หัวใจของเธอได้รับการเยียวยาจนได้พบกับ ‘สารวัตรเขมินทร์’
ผู้ชายที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของหญิงสาวไปตลอดกาล
ทว่า...เงื่อนงำในเรือนเสน่ห์จันทน์ยังคงเป็นปริศนา!!!
ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รอวันร่วงหล่นลงขุม ‘อวิชชา’ เลวร้าย
เธอและเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือไม่...
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย รางนาก(สะมะเรีย) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ เล่มจบของซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ค่ะ เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก, ร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อม่านมนตกานต์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ม่านมนตกานต์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(ม่านมนตกานต์ เป็นเรื่องราวของหนึ่งในหลานสาวบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทนำ (ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์)
แนะนำกันก่อนเลยค่า ม่านมนตกานต์ เป็นเล่มจบของ “ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์” เป็นชีวิตของ “ญาตาวี” พี่สาวของ “ญานีน” ในมาลีเริงไฟ และเป็นคู่กัดของ “ดมิสา หรือมิ้งค์” ในเลื่อมลายพรายจันทร์นะคะ ฉะนั้นใครที่ตามเรื่อง ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์ ตามกันต่อที่เรื่องนี้โลดดดด
เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
***************
ร่างสูงปราดเปรียวก้าวลงจากรถยุโรปหรู กระโปรงสั้นเผยให้เห็นขาเรียวยาวสวมรองเท้าคัตชูสีแดงเลือดนก เธอขยับแว่นตากันแดดแบรนด์ดังที่ปิดบังใบหน้ากว่าครึ่ง สวมหมวกปีกกว้างทั้งที่ไม่มีแสงแดดเลยสักนิด ชั่ววินาทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาภายใต้แว่นดำก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ดาราสาวรีบชักเท้ากลับเข้ามาในรถแล้วปิดประตูด้วยความรวดเร็ว
“นักข่าว!”
หญิงสาวอุทานราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน เมื่อจู่ๆ นักข่าวก็พุ่งเข้าหาเธอราวกับฝูงไฮยีนาทั้งที่ก่อนหน้านี้บริเวณหน้าคอนโดฯ มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่สองนายเท่านั้น แสดงว่านักข่าวแอบซุ่มอยู่ตามมุมต่างๆ พอเห็นเธอจึงพุ่งเข้ามาหา กระเหี้ยนกระหือรือที่จะเค้นข่าวจากเธอ ยิ่งคาวโลกีย์ ฉาวโฉ่ ทุกข์ใจแสนสาหัสเจียนตายมากเท่าไร ยิ่งขายดีเป็นที่น่าติดตามของคนทั่วไปมากเท่านั้น
ด้วยสัญชาตญาณที่สั่งสมมานานหลายปีเธอจึงเหยียบคันเร่งขับรถออกไปจากคอนโดมิเนียมทันที
“คุณญาตาวีเดี๋ยวก่อนสิคะ รอก่อน!” นักข่าวหญิงคนหนึ่งร้องเรียก พยายามจะวิ่งตามดาราสาวไปแต่ไม่ทัน เธอและนักข่าวคนอื่นๆ จึงพากันวิ่งกลับไปที่รถของตนเองแล้วขับตามไปทันที
แน่นอนว่าญาตาวีไม่ขับไปทางถนนใหญ่ให้เป็นเป้าสายตาเด็ดขาด เธอหักรถเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ขับซอกแซกอย่างชำนาญทาง ด้วยเส้นทางนี้เธอหนีนักข่าวมานับครั้งไม่ถ้วน ซอยที่แตกแขนงแบ่งเป็นซอยเล็กมากมายดังรากแก้ว สามารถขับไปโผล่ออกถนนใหญ่หรือจะทะลุขึ้นทางด่วนหนีออกนอกเมืองเลยก็ย่อมได้
ดาราสาวมองกระจกมองหลัง แม้จะไม่เห็นนักข่าวตามมาแล้ว แต่เธอก็ยังไม่วางใจ ยังคงขับซอกแซกเข้าไปในซอยจนแน่ใจว่านักข่าวตามมาไม่ทันแน่ๆ แล้วจึงมุ่งตรงไปหาน้องสาว...ญานีน วณิชพิพัฒน์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องวายอีเอส โดยตอนนี้น้องสาวของเธอบริหารสถานีร่วมกับอัคนี รุทธวณิชย์ ผู้เป็นสามี ซึ่งบิดาอุปการะชุบเลี้ยงมาตั้งแต่อายุสิบขวบ
ญาตาวีชะงัก เมื่อพบว่าตนเองขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ โตโอ่อ่าราวกับวัง
“วันนี้มันวันเฮงซวย!”
ดาราสาวเม้มริมฝีปากที่สั่นระริกก่อนจะแสร้งขับผ่านคฤหาสน์หลังนั้นไปทำเหมือนไม่สนใจ ก่อนจะจอดหลบข้างทาง
ญาตาวีกำพวงมาลัยรถแน่นฟุบหน้าลงไปอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง แผ่นหลังสั่นเทิ้มคล้ายสะอื้น เธอควรจะไปหาน้องสาว แต่เหตุใดกลับขับมาที่บ้านของบิดา ทั้งที่บ้านของบิดากับบ้านของน้องสาวอยู่คนละมุมเมืองเลยทีเดียว!
ช่วงเวลาที่ลูกผู้หญิงคนหนึ่งอ่อนแอจนถึงขีดสุด เธอกลับคิดถึงผู้ให้กำเนิด โหยหาอ้อมกอดอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับ อ้อมกอดที่บิดาพร้อมจะอ้าแขนมอบให้ใครต่อใคร แต่ไม่ใช่เธอ...
บุตรสาวคนโตที่ท่านไม่เคยรัก
หญิงสาวถอดแว่นดำออกเผยให้เห็นใบหน้าบวมจนเป็นสีม่วง มุมปากห้อเลือดจากการโดนตบ ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสีขาวพันไว้โดยรอบ ดวงตาปูดโปนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา สภาพของเธอบอบช้ำจากการโดนทำร้ายร่างกายอย่างหนัก
กี่ปีแล้วนะ...ที่เธอไม่พูดกับบิดาเลย เมื่อต้องเผชิญหน้าก็มองเมินราวกับคนไม่รู้จัก เธอบอกตัวเองมาตลอดว่าเธอโกรธ เธอเกลียดบิดาที่ทรยศหักหลังมารดาผู้น่าสงสาร ท่านไปมีครอบครัวใหม่ มีบุตรสาวคนใหม่ มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของภรรยาและบุตรสาวอีกสองคนที่ท่านไม่ต้องการ ทิ้งให้มารดาของเธอต้องชอกช้ำใจ เธอซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตจมอยู่กับน้ำตาและความโศกเศร้าของมารดา นานวันเข้าญาตาวีก็โอบอุ้มความรู้สึกของมารดามาเป็นของตนเอง
เมื่อเธอโตพอที่จะดูแลตนเองได้ เธอก็เปลี่ยนนามสกุลจาก ‘วณิชพิพัฒน์’ ของบิดา ไปใช้นามสกุล ‘เสน่ห์จันทน์’ ของมารดา หญิงสาวใช้หลังมือเช็ดหยาดน้ำตาก่อนจะขับรถออกไป มุ่งหน้าไปหาญานีน แต่ดูเหมือนนักข่าวจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดไปอย่างง่ายดาย เพราะมีนักข่าวอยู่กลุ่มหนึ่งกระหายข่าวเสียจนมาดักรอเธอที่หน้าบ้านญานีน หญิงสาวจึงตัดสินใจขับรถไปหายายที่เรือนเสน่ห์จันทน์...
****************
อ่านเรื่องย่อได้โดยกดปุ่ม “อ่านเรื่องย่อ” ด้านบนสุด
เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
***************
ร่างสูงปราดเปรียวก้าวลงจากรถยุโรปหรู กระโปรงสั้นเผยให้เห็นขาเรียวยาวสวมรองเท้าคัตชูสีแดงเลือดนก เธอขยับแว่นตากันแดดแบรนด์ดังที่ปิดบังใบหน้ากว่าครึ่ง สวมหมวกปีกกว้างทั้งที่ไม่มีแสงแดดเลยสักนิด ชั่ววินาทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาภายใต้แว่นดำก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ดาราสาวรีบชักเท้ากลับเข้ามาในรถแล้วปิดประตูด้วยความรวดเร็ว
“นักข่าว!”
หญิงสาวอุทานราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน เมื่อจู่ๆ นักข่าวก็พุ่งเข้าหาเธอราวกับฝูงไฮยีนาทั้งที่ก่อนหน้านี้บริเวณหน้าคอนโดฯ มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่สองนายเท่านั้น แสดงว่านักข่าวแอบซุ่มอยู่ตามมุมต่างๆ พอเห็นเธอจึงพุ่งเข้ามาหา กระเหี้ยนกระหือรือที่จะเค้นข่าวจากเธอ ยิ่งคาวโลกีย์ ฉาวโฉ่ ทุกข์ใจแสนสาหัสเจียนตายมากเท่าไร ยิ่งขายดีเป็นที่น่าติดตามของคนทั่วไปมากเท่านั้น
ด้วยสัญชาตญาณที่สั่งสมมานานหลายปีเธอจึงเหยียบคันเร่งขับรถออกไปจากคอนโดมิเนียมทันที
“คุณญาตาวีเดี๋ยวก่อนสิคะ รอก่อน!” นักข่าวหญิงคนหนึ่งร้องเรียก พยายามจะวิ่งตามดาราสาวไปแต่ไม่ทัน เธอและนักข่าวคนอื่นๆ จึงพากันวิ่งกลับไปที่รถของตนเองแล้วขับตามไปทันที
แน่นอนว่าญาตาวีไม่ขับไปทางถนนใหญ่ให้เป็นเป้าสายตาเด็ดขาด เธอหักรถเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ขับซอกแซกอย่างชำนาญทาง ด้วยเส้นทางนี้เธอหนีนักข่าวมานับครั้งไม่ถ้วน ซอยที่แตกแขนงแบ่งเป็นซอยเล็กมากมายดังรากแก้ว สามารถขับไปโผล่ออกถนนใหญ่หรือจะทะลุขึ้นทางด่วนหนีออกนอกเมืองเลยก็ย่อมได้
ดาราสาวมองกระจกมองหลัง แม้จะไม่เห็นนักข่าวตามมาแล้ว แต่เธอก็ยังไม่วางใจ ยังคงขับซอกแซกเข้าไปในซอยจนแน่ใจว่านักข่าวตามมาไม่ทันแน่ๆ แล้วจึงมุ่งตรงไปหาน้องสาว...ญานีน วณิชพิพัฒน์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องวายอีเอส โดยตอนนี้น้องสาวของเธอบริหารสถานีร่วมกับอัคนี รุทธวณิชย์ ผู้เป็นสามี ซึ่งบิดาอุปการะชุบเลี้ยงมาตั้งแต่อายุสิบขวบ
ญาตาวีชะงัก เมื่อพบว่าตนเองขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ โตโอ่อ่าราวกับวัง
“วันนี้มันวันเฮงซวย!”
ดาราสาวเม้มริมฝีปากที่สั่นระริกก่อนจะแสร้งขับผ่านคฤหาสน์หลังนั้นไปทำเหมือนไม่สนใจ ก่อนจะจอดหลบข้างทาง
ญาตาวีกำพวงมาลัยรถแน่นฟุบหน้าลงไปอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง แผ่นหลังสั่นเทิ้มคล้ายสะอื้น เธอควรจะไปหาน้องสาว แต่เหตุใดกลับขับมาที่บ้านของบิดา ทั้งที่บ้านของบิดากับบ้านของน้องสาวอยู่คนละมุมเมืองเลยทีเดียว!
ช่วงเวลาที่ลูกผู้หญิงคนหนึ่งอ่อนแอจนถึงขีดสุด เธอกลับคิดถึงผู้ให้กำเนิด โหยหาอ้อมกอดอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับ อ้อมกอดที่บิดาพร้อมจะอ้าแขนมอบให้ใครต่อใคร แต่ไม่ใช่เธอ...
บุตรสาวคนโตที่ท่านไม่เคยรัก
หญิงสาวถอดแว่นดำออกเผยให้เห็นใบหน้าบวมจนเป็นสีม่วง มุมปากห้อเลือดจากการโดนตบ ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสีขาวพันไว้โดยรอบ ดวงตาปูดโปนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา สภาพของเธอบอบช้ำจากการโดนทำร้ายร่างกายอย่างหนัก
กี่ปีแล้วนะ...ที่เธอไม่พูดกับบิดาเลย เมื่อต้องเผชิญหน้าก็มองเมินราวกับคนไม่รู้จัก เธอบอกตัวเองมาตลอดว่าเธอโกรธ เธอเกลียดบิดาที่ทรยศหักหลังมารดาผู้น่าสงสาร ท่านไปมีครอบครัวใหม่ มีบุตรสาวคนใหม่ มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของภรรยาและบุตรสาวอีกสองคนที่ท่านไม่ต้องการ ทิ้งให้มารดาของเธอต้องชอกช้ำใจ เธอซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตจมอยู่กับน้ำตาและความโศกเศร้าของมารดา นานวันเข้าญาตาวีก็โอบอุ้มความรู้สึกของมารดามาเป็นของตนเอง
เมื่อเธอโตพอที่จะดูแลตนเองได้ เธอก็เปลี่ยนนามสกุลจาก ‘วณิชพิพัฒน์’ ของบิดา ไปใช้นามสกุล ‘เสน่ห์จันทน์’ ของมารดา หญิงสาวใช้หลังมือเช็ดหยาดน้ำตาก่อนจะขับรถออกไป มุ่งหน้าไปหาญานีน แต่ดูเหมือนนักข่าวจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดไปอย่างง่ายดาย เพราะมีนักข่าวอยู่กลุ่มหนึ่งกระหายข่าวเสียจนมาดักรอเธอที่หน้าบ้านญานีน หญิงสาวจึงตัดสินใจขับรถไปหายายที่เรือนเสน่ห์จันทน์...
****************
อ่านเรื่องย่อได้โดยกดปุ่ม “อ่านเรื่องย่อ” ด้านบนสุด
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ย. 2563, 09:38:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ย. 2563, 09:41:17 น.
จำนวนการเข้าชม : 498
บทที่ 1 -100% >> |