ม่านมนตกานต์: รางนาก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ญาตาวี เสน่ห์จันทน์’ ดาราเจ้าบทบาทแถวหน้าของเมืองไทย
เธอประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน
แต่! กลับล้มเหลวในชีวิตรักอย่างยับเยิน
เธอหอบร่างกายบอบช้ำและหัวใจที่แหลกสลายกลับมายัง ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’
ที่นี่เธอได้พบกับ ‘นางฟ้าน้อย’ พรายกุมารที่คอยช่วยเหลือ และปลอบโยนเธอจากความเศร้า
หัวใจของเธอได้รับการเยียวยาจนได้พบกับ ‘สารวัตรเขมินทร์’
ผู้ชายที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของหญิงสาวไปตลอดกาล
ทว่า...เงื่อนงำในเรือนเสน่ห์จันทน์ยังคงเป็นปริศนา!!!
ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รอวันร่วงหล่นลงขุม ‘อวิชชา’ เลวร้าย
เธอและเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือไม่...
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย รางนาก(สะมะเรีย) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ เล่มจบของซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ค่ะ เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก, ร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อม่านมนตกานต์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ม่านมนตกานต์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(ม่านมนตกานต์ เป็นเรื่องราวของหนึ่งในหลานสาวบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
เธอประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน
แต่! กลับล้มเหลวในชีวิตรักอย่างยับเยิน
เธอหอบร่างกายบอบช้ำและหัวใจที่แหลกสลายกลับมายัง ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’
ที่นี่เธอได้พบกับ ‘นางฟ้าน้อย’ พรายกุมารที่คอยช่วยเหลือ และปลอบโยนเธอจากความเศร้า
หัวใจของเธอได้รับการเยียวยาจนได้พบกับ ‘สารวัตรเขมินทร์’
ผู้ชายที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของหญิงสาวไปตลอดกาล
ทว่า...เงื่อนงำในเรือนเสน่ห์จันทน์ยังคงเป็นปริศนา!!!
ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รอวันร่วงหล่นลงขุม ‘อวิชชา’ เลวร้าย
เธอและเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือไม่...
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย รางนาก(สะมะเรีย) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ เล่มจบของซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ค่ะ เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก, ร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อม่านมนตกานต์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ม่านมนตกานต์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(ม่านมนตกานต์ เป็นเรื่องราวของหนึ่งในหลานสาวบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 5 -100%
เมื่อน้ำเมาครอบงำ สติสัมปชัญญะของญาตาวีก็ขาดวิ่น หญิงสาวเริ่มเต้นด้วยท่วงท่ายักย้ายส่ายสะโพก ดวงตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม เผยอริมฝีปากน้อยๆ ส่งผลให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ถึงกับใจสั่นไปตามๆ กัน นิรุชคอยยืนข้างๆ กันท่าไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาใกล้เธอ
เพราะเขาหมายมั่นว่าจะลากนางเอกสาวขึ้นเตียงให้จงได้ ผู้หญิงที่เพิ่งถูกผัวทิ้ง คงจะเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง ถ้ามีอกอุ่นๆ ให้ซบ อ้อมกอดแข็งแกร่งตระกองกอด ขี้คร้านจะโผเข้าหาอย่างไม่ลังเล ยิ่งผู้หญิงที่มีสามีมาแล้วถึงสองคนอย่างดาราสาว คงหิ้วกลับได้ไม่ยาก การที่เจ้าหล่อนทำเป็นเล่นตัวไม่แยแสก็คงเป็นกลเม็ดเพื่อกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของผู้ชายให้ตื่นขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่ามันได้ผล จากที่คิดว่าจะลองจีบเล่นๆ เพราะเธอสวยหยาดเยิ้มเป็นถึงนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย ตอนนี้นิรุชเปลี่ยนใจแล้ว เขาอาจควงเธอสักสามเดือนหรือจนกว่าเขาจะเบื่อรสรักจากเธอ
ผู้หญิงอย่างญาตาวีผ่านการแต่งงานมาถึงสองครั้ง มีข่าวเสียหายก็ตั้งมากมาย ไม่มีผู้ชายสติดีคนไหนยอมยกเธอขึ้นเป็นเมียตบเมียแต่งหรอก อย่างมากก็แค่คู่นอนชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
นิรุชหยักยิ้มที่มุมปาก ผู้ชายมีเงินอย่างเขาแค่เพียงกระดิกปลายนิ้วก็มีผู้หญิงยอมทอดกายถวายตัวบนเตียง และญาตาวีก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้น คนอย่างเขาอยากได้อะไรต้องได้!
ดาราสาวยืนโงนเงนบนส้นสูง จู่ๆ เธอก็หยุดเต้นแล้วเดินออกไปโดยมีนิรุชเดินตามมาติดๆ เขาคว้ามือเธอเอาไว้อย่างถือวิสาสะ
“ปล่อยฉัน!” ญาตาวีสะบัดมืออีกฝ่ายทิ้ง ดวงตาเขียวขุ่นไม่พอใจ
“คุณจะไปไหน ผมจะไปส่ง” นิรุชพยายามแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษ
ญาตาวีเหลือบมองชายหน้าตี๋ด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ถึงเธอจะเมาจนแทบพยุงตัวเองให้ยืนตรงๆ ไม่อยู่ แต่เธอก็ยังมีสติพอจะรู้ว่านิรุชยืนเกาะแกะอยู่ข้างเธอไม่ยอมออกห่าง พยายามทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของตัวเธอทั้งที่เธอไม่สนใจ
ไอ้พวกผู้ชายเฮงซวย หน้าหม้อเหมือนกันหมด
ดาราสาวได้แต่ก่นด่าในใจ ไม่ได้พูดออกไปอย่างที่ใจคิด เธอยังต้องทำงานในวงการบันเทิงอีกนาน สร้างมิตรย่อมดีกว่าสร้างศัตรู เธอเองก็ไปเดินแบบที่ห้างสรรพสินค้าของนายนิรุชบ่อยๆ
“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
“อ้อ...ครับ เชิญ” นิรุชอึ้งไปหลายอึดใจก่อนจะยอมปล่อยเธอเดินไปลำพังแต่โดยดี เมื่อร่างบางลับตาไปแล้ว เขาก็ถึงกับสบถคล้ายจะหมดความอดทนอยู่ในที
“เล่นตัวฉิบหาย อย่าให้กูได้มึงนะ กูจะทิ้งมึงอย่างไม่ไยดีเลยคอยดู” นิรุชกัดฟันกรอดจนกรามเกร็งเป็นสันนูน
ญาตาวีรู้สึกว่าระยะทางไปห้องน้ำมันช่างไกลเสียเหลือเกิน เธอเดินมาได้สักพักแล้วแต่ก็ไม่ถึงสักที หญิงสาวเดินเซราวกับแม่ปู ก่อนจะชนเข้ากับอกกว้างของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่
“ว้าย!”
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ญาตาวีเงยหน้าขึ้นสบตาชายคนนั้นด้วยความมึนงงก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ ขณะที่เขากำลังช่วยประคองเธอให้ยืนตรงๆ ก็มีชายร่างท้วมวิ่งมาด้วยความเร็วสูง
“เฮ้ย! เกะกะถอยไป!” เจ้าของร่างท้วมผลักทั้งคู่จนล้มลง ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งผ่านไปราวกับหนีสิ่งที่น่าหวาดกลัวก็ไม่ปาน
แล้วสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวก็วิ่งตามมาติดๆ พร้อมถ้อยคำหยาบคาย
“ไอ้แก่ มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นเรอะ! หน็อย บอกกูว่ามาประชุม ประชุมพ่อมึงเหรอมานั่งกอดสาวอยู่ที่นี่ ถ้าวันนี้กูไม่ได้เอาเลือดหัวมึงออก อย่าเรียกกูว่าคุณหญิงพันแสง!”
“กลัวแล้วจ้ะเมียจ๋า อย่าทำอะไรผัวเลยนะจ๊ะ” สามีซึ่งเป็นนายทหารมียศสูง ถึงกับโอดครวญร้องขอความเมตตาจากศรีภรรยา
“ถ้ามึงกลัวจริงอย่างที่ปากพูด มึงจะกล้าโกหกกูไหม!”
เสียงเอะอะจางหายไป ทว่าหญิงชายที่ถูกผลักจนไปกระแทกผนังอีกฝั่งกลับยังยืนนิ่ง ราวกับมิได้รับรู้วินาทีความเป็นความตายของชายร่างท้วมเลยแม้แต่น้อย
เขมินทร์มองร่างบางในอ้อมกอดด้วยความรู้สึกประหลาด หัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่เมื่อตั้งใจพิศมองใบหน้าของหญิงสาว เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น ‘ญาตาวี เสน่ห์จันทน์’ เป้าหมายที่ทำให้เขาเดินทางมาที่ผับคืนนี้ ไม่แปลกใจเลยที่จะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาสนิทสนมใกล้ชิดเธอ ขนาดเขาเองซึ่งไม่ค่อยจะสนใจเรื่องผู้หญิงนัก วูบหนึ่งหัวใจยังเต้นผิดจังหวะหลงใหลไปกับรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ และเสน่ห์เย้ายวนที่อบอวลอยู่รอบเรือนกายเธอราวกับเวทมนตร์
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ ท่าทางพะอืดพะอมคล้ายจะอาเจียน เพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอด ก่อนจะเดินเซไปทางซ้ายทีขวาทีจน ถึงห้องน้ำ โดยไม่สนใจสารวัตรหนุ่มที่ได้แต่ยืนมองเธอไปจนลับสายตา
“ยินดีที่ได้พบกันครับคุณญาตาวี...” เจ้าของดวงตาคมมุ่งมั่น ก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ทว่ากลับไม่ยอมแตะต้องสุราเมรัยเลยแม้แต่หยดเดียว เขาสั่งน้ำอัดลมมาดื่ม ขณะที่สายตายังกวาดมองไปรอบๆ ผับ เพื่อมองหาเป้าหมายของเขาในคืนนี้
เพราะเขาหมายมั่นว่าจะลากนางเอกสาวขึ้นเตียงให้จงได้ ผู้หญิงที่เพิ่งถูกผัวทิ้ง คงจะเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง ถ้ามีอกอุ่นๆ ให้ซบ อ้อมกอดแข็งแกร่งตระกองกอด ขี้คร้านจะโผเข้าหาอย่างไม่ลังเล ยิ่งผู้หญิงที่มีสามีมาแล้วถึงสองคนอย่างดาราสาว คงหิ้วกลับได้ไม่ยาก การที่เจ้าหล่อนทำเป็นเล่นตัวไม่แยแสก็คงเป็นกลเม็ดเพื่อกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของผู้ชายให้ตื่นขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่ามันได้ผล จากที่คิดว่าจะลองจีบเล่นๆ เพราะเธอสวยหยาดเยิ้มเป็นถึงนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย ตอนนี้นิรุชเปลี่ยนใจแล้ว เขาอาจควงเธอสักสามเดือนหรือจนกว่าเขาจะเบื่อรสรักจากเธอ
ผู้หญิงอย่างญาตาวีผ่านการแต่งงานมาถึงสองครั้ง มีข่าวเสียหายก็ตั้งมากมาย ไม่มีผู้ชายสติดีคนไหนยอมยกเธอขึ้นเป็นเมียตบเมียแต่งหรอก อย่างมากก็แค่คู่นอนชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
นิรุชหยักยิ้มที่มุมปาก ผู้ชายมีเงินอย่างเขาแค่เพียงกระดิกปลายนิ้วก็มีผู้หญิงยอมทอดกายถวายตัวบนเตียง และญาตาวีก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้น คนอย่างเขาอยากได้อะไรต้องได้!
ดาราสาวยืนโงนเงนบนส้นสูง จู่ๆ เธอก็หยุดเต้นแล้วเดินออกไปโดยมีนิรุชเดินตามมาติดๆ เขาคว้ามือเธอเอาไว้อย่างถือวิสาสะ
“ปล่อยฉัน!” ญาตาวีสะบัดมืออีกฝ่ายทิ้ง ดวงตาเขียวขุ่นไม่พอใจ
“คุณจะไปไหน ผมจะไปส่ง” นิรุชพยายามแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษ
ญาตาวีเหลือบมองชายหน้าตี๋ด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ถึงเธอจะเมาจนแทบพยุงตัวเองให้ยืนตรงๆ ไม่อยู่ แต่เธอก็ยังมีสติพอจะรู้ว่านิรุชยืนเกาะแกะอยู่ข้างเธอไม่ยอมออกห่าง พยายามทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของตัวเธอทั้งที่เธอไม่สนใจ
ไอ้พวกผู้ชายเฮงซวย หน้าหม้อเหมือนกันหมด
ดาราสาวได้แต่ก่นด่าในใจ ไม่ได้พูดออกไปอย่างที่ใจคิด เธอยังต้องทำงานในวงการบันเทิงอีกนาน สร้างมิตรย่อมดีกว่าสร้างศัตรู เธอเองก็ไปเดินแบบที่ห้างสรรพสินค้าของนายนิรุชบ่อยๆ
“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
“อ้อ...ครับ เชิญ” นิรุชอึ้งไปหลายอึดใจก่อนจะยอมปล่อยเธอเดินไปลำพังแต่โดยดี เมื่อร่างบางลับตาไปแล้ว เขาก็ถึงกับสบถคล้ายจะหมดความอดทนอยู่ในที
“เล่นตัวฉิบหาย อย่าให้กูได้มึงนะ กูจะทิ้งมึงอย่างไม่ไยดีเลยคอยดู” นิรุชกัดฟันกรอดจนกรามเกร็งเป็นสันนูน
ญาตาวีรู้สึกว่าระยะทางไปห้องน้ำมันช่างไกลเสียเหลือเกิน เธอเดินมาได้สักพักแล้วแต่ก็ไม่ถึงสักที หญิงสาวเดินเซราวกับแม่ปู ก่อนจะชนเข้ากับอกกว้างของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่
“ว้าย!”
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ญาตาวีเงยหน้าขึ้นสบตาชายคนนั้นด้วยความมึนงงก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ ขณะที่เขากำลังช่วยประคองเธอให้ยืนตรงๆ ก็มีชายร่างท้วมวิ่งมาด้วยความเร็วสูง
“เฮ้ย! เกะกะถอยไป!” เจ้าของร่างท้วมผลักทั้งคู่จนล้มลง ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งผ่านไปราวกับหนีสิ่งที่น่าหวาดกลัวก็ไม่ปาน
แล้วสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวก็วิ่งตามมาติดๆ พร้อมถ้อยคำหยาบคาย
“ไอ้แก่ มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นเรอะ! หน็อย บอกกูว่ามาประชุม ประชุมพ่อมึงเหรอมานั่งกอดสาวอยู่ที่นี่ ถ้าวันนี้กูไม่ได้เอาเลือดหัวมึงออก อย่าเรียกกูว่าคุณหญิงพันแสง!”
“กลัวแล้วจ้ะเมียจ๋า อย่าทำอะไรผัวเลยนะจ๊ะ” สามีซึ่งเป็นนายทหารมียศสูง ถึงกับโอดครวญร้องขอความเมตตาจากศรีภรรยา
“ถ้ามึงกลัวจริงอย่างที่ปากพูด มึงจะกล้าโกหกกูไหม!”
เสียงเอะอะจางหายไป ทว่าหญิงชายที่ถูกผลักจนไปกระแทกผนังอีกฝั่งกลับยังยืนนิ่ง ราวกับมิได้รับรู้วินาทีความเป็นความตายของชายร่างท้วมเลยแม้แต่น้อย
เขมินทร์มองร่างบางในอ้อมกอดด้วยความรู้สึกประหลาด หัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่เมื่อตั้งใจพิศมองใบหน้าของหญิงสาว เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น ‘ญาตาวี เสน่ห์จันทน์’ เป้าหมายที่ทำให้เขาเดินทางมาที่ผับคืนนี้ ไม่แปลกใจเลยที่จะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาสนิทสนมใกล้ชิดเธอ ขนาดเขาเองซึ่งไม่ค่อยจะสนใจเรื่องผู้หญิงนัก วูบหนึ่งหัวใจยังเต้นผิดจังหวะหลงใหลไปกับรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ และเสน่ห์เย้ายวนที่อบอวลอยู่รอบเรือนกายเธอราวกับเวทมนตร์
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ ท่าทางพะอืดพะอมคล้ายจะอาเจียน เพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอด ก่อนจะเดินเซไปทางซ้ายทีขวาทีจน ถึงห้องน้ำ โดยไม่สนใจสารวัตรหนุ่มที่ได้แต่ยืนมองเธอไปจนลับสายตา
“ยินดีที่ได้พบกันครับคุณญาตาวี...” เจ้าของดวงตาคมมุ่งมั่น ก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ทว่ากลับไม่ยอมแตะต้องสุราเมรัยเลยแม้แต่หยดเดียว เขาสั่งน้ำอัดลมมาดื่ม ขณะที่สายตายังกวาดมองไปรอบๆ ผับ เพื่อมองหาเป้าหมายของเขาในคืนนี้
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 พ.ย. 2563, 16:07:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ย. 2563, 16:07:20 น.
จำนวนการเข้าชม : 370
<< บทที่ 5 -65% | บทที่ 6 -30% >> |