แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 18 -100%
ดูละครฉากล่าสุดจบวรีวาฏิกาก็ได้แต่ถอนหายใจเหมือนเห็นตัวเองในร่างเมทิยาก็ไม่ปาน ทั้งโดนเดินหนี ทั้งโดนห้ามเรียกชื่อ พอกลายมาเป็นคนดูแบบนี้เธอเริ่มจะสงสารคนถูกกระทำอย่างเมทิยายังไงชอบกล ทีนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงหลังๆ มีแต่คนมองเธอด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ ก็ในเมื่อเมทิยาโดนไม่ถึงกระผีกริ้นที่เธอโดนยังดูน่าสงสารขนาดนี้ แล้วคนที่โดนเข้าไปตั้งหลายดอกแถมยังไม่เคยเป็นศัตรูกับใครอย่างเธอจะน่าสงสารขนาดไหน
นี่เธอเริ่มจะสมเพชตัวเองเพิ่มทีละนิดแล้วนะ
หลังจากเหตุการณ์สุดระทึกผ่านไป วรีวาฏิกาก็เดินกลับไปทำงานที่แผนกต่ออย่างใจลอย โดยมีมะลิที่เดินมาส่งที่แผนกคอยถาม
“นี่วา ถ้าคุณพาร์คบอกให้แกกลับไปช่วยทำตำแหน่งเลขาระหว่างที่เขายังหาคนไม่ได้ แกจะไปปะ”
“ไม่ไป! รอบนี้ถ้าโดนบังคับให้ไปเป็นเลขาเขาอีก ฉันจะลาออก!’
“เฮ้ย!” คนลองเลียบๆ เคียงๆ ถามดูตกใจเสียเอง ไม่คิดว่าเพื่อนจะโมโหใส่ “ถึงกับลาออกเลยเหรอยะ ก่อนหน้านี้แกก็ทำหน้าที่ได้ดีนี่ ฉันเห็นแกโดนเขาจิกใช้งานตั้งเยอะตั้งแยะแต่ก็ยังสู้ตาย”
“ตอนนั้นฉันเป็นเด็กใหม่ไฟแรงแล้วก็ไม่อยากโดนแม่เลี้ยงเยาะเย้ยว่าทำงานได้ไม่กี่เดือนก็โดนให้ออก ฉันเลยต้องพยายามสุดฤทธิ์ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ถึงลาออกฉันก็ทำงานได้ครบปีแล้ว ไปหางานที่อื่นก็ได้ ไม่ต้องทนโดนใครโขกสับแล้ว แล้วก็ไม่โง่ให้เขาโขกสับเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วด้วย! "
เมื่อเห็นเพื่อนเริ่มจะหงุดหงิดเป็นอย่างมาก มะลิเลยรีบคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการบอกความจริงว่า
“ใจเย็นๆ แก ไม่ต้องถึงขนาดลาออกหรอก เพราะคุณพาร์คเขาก็ไม่เอาแกแล้วเหมือนกัน นี่เขาได้เลขาคนใหม่แล้ว เป็นผู้ชาย จะเริ่มงานเดือนหน้านี่แหละ”
“ก็แล้วไป”
พูดจบวรีวาฏิกาก็เดินกลับไปทำงานต่อทันที
แต่ทว่าตลอดบ่ายนั้น...ยังไงเธอก็ยังอดไม่ได้ ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องที่โดนภควัตน์กระทำมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง จนยิ่งคิดทบทวนก็ยิ่งโมโห
นี่ที่ผ่านมาเธอทนโดนเขาชั่วร้ายใส่ขนาดนั้นได้ยังไงนะ นี่มันแรงงานทาสหรือจำเลยรักกันแน่!
***************
หลังจากเดินกะเผลกมาเป็นเดือนๆ กระดูกข้อเท้าที่ร้าวของวรีวาฏิกาก็เริ่มจะบรรเทา มาวันนี้เธอก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ค้ำช่วยพยุงอีกต่อไป ถึงแม้จะเคลื่อนไหวได้ไม่ดีเท่าปกติแต่ก็ถือว่าอาการของเธอนั้นดีขึ้นมากแล้ว เย็นวันนี้เธอจึงยอมรับนัดไปกินข้าวเย็นกับมะลิ ไมเคิล และสตีเฟนที่ร้านอาหารสุดฮิปที่ซ่อนตัวอยู่ย่านเก่าแก่อย่างเจริญกรุง
ประมาณหกโมงครึ่ง ไมเคิลผู้บอกว่าจะมาหาสองสาวถึงออฟฟิศก็แชตมาในกรุ๊ป ‘อยู่เพื่อกิน Live to Eat’ ว่าเขามาถึงแล้ว วรีวาฏิกาเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะเดินกะเผลกๆ ลงลิฟต์ไปยังชั้นล่างเพื่อไปอยู่คุยเป็นเพื่อนไมเคิลและมะลิก่อน ระหว่างที่ต้องรอให้สตีเฟนเลิกประชุมอันแสนยาวนานที่ลากมาตั้งแต่บ่ายยันค่ำ
พอลงมาถึงชั้นล่าง หญิงสาวก็โบกไม้โบกมือให้ไมเคิลที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ ก่อนจะเร่งเดินไปหา ถ้าไม่ชนเข้ากับแผ่นอกของชายคนหนึ่งที่อยู่ดีๆ ก็เดินมาขวางทางพอดิบพอดี! วรีวาฏิกาชนเขาเต็มแรงจนล้มลงไปกองกับพื้น ความปวดร้าวที่ข้อเท้าที่ยังไม่หายดีก็ปวดปรี๊ดขึ้นมาอีกรอบทำเอาคนเจ็บถึงกับน้ำตาไหลพรากกลางบริษัท เพราะรอบนี้มันเจ็บจนเธอทนไม่ไหว พอมองขึ้นไปสบตากับหนุ่มที่ชนเธอ หญิงสาวก็แทบชะงัก ก่อนจะรีบชิงเบือนหน้าหนีก่อนที่เขาจะเมินเธอเหมือนที่แล้วๆ มา
ถ้าเดาไม่ผิดอีกประเดี๋ยวภควัตน์ก็คงจะเดินผละจากไปอย่างไม่ไยดีอีกเช่นเคย วรีวาฏิกาเลยรีบใช้ท่อนแขนเช็ดน้ำตาลวกๆ หันใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาไปอีกทาง ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเสีย พร้อมกับตะโกนขอความช่วย เหลือจากไมเคิลที่กำลังรีบวิ่งเข้ามา
“ไมค์ช่วยพยุงวาหน่อยค่ะ กระดูกวาน่าจะร้าวอีกรอบแน่ๆ มันเจ็บจี๊ดเลย”
คนเจ็บพูดไปหยุดสะอื้นไป ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมแขนไปพาดไว้ที่บ่าของเพื่อนหนุ่ม แต่พอเขาพยายามพยุงเธอขึ้น วรีวาฏิกาก็ร้องโอ๊ยเสียงดังลั่น น้ำตาไหลลงมาอีกรอบเพราะรู้สึกจี๊ดขึ้นมาผ่านแนวกระดูก คนมาช่วยเลยตัดสินใจว่า
“เดี๋ยวผมอุ้มวาดีกว่า เจ็บขนาดนี้อาจจะหักก็ได้ วาเดินไม่ไหวหรอก ถ้าวากลัวตกก็กอดคอผมไว้นะครับ”
คนเจ็บได้แต่พยักหน้า แล้วเอื้อมมือไปกอดคอเขาไว้ตามคำแนะนำ แต่ไมเคิลยังไม่ทันออกแรงอุ้มเธอขึ้นมา จู่ๆ วรีวาฏิกาก็โดนอุ้มจากอีกด้านหนึ่งโดยฉับพลันจนเธอต้องปล่อยมือจากคอไมเคิลแทบไม่ทัน
พอหันไปมองว่าเป็นใครที่ดึงเธอออกมาได้อย่างไร้มารยาทขนาดนี้ วรีวาฏิกาก็แทบอ้าปากค้าง เพราะคนคนนั้นเป็นภควัตน์ที่ไม่พูดไม่จากับเธอมาเป็นเดือนๆ แล้ว แถมเขายังบอกกับเพื่อนสนิทอย่างไมเคิลที่ยังยืนงงด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อีกว่า
“ห้ามแตะ! เดี๋ยวฉันไปส่งวาที่โรงพยาบาลเอง”
นี่เธอเริ่มจะสมเพชตัวเองเพิ่มทีละนิดแล้วนะ
หลังจากเหตุการณ์สุดระทึกผ่านไป วรีวาฏิกาก็เดินกลับไปทำงานที่แผนกต่ออย่างใจลอย โดยมีมะลิที่เดินมาส่งที่แผนกคอยถาม
“นี่วา ถ้าคุณพาร์คบอกให้แกกลับไปช่วยทำตำแหน่งเลขาระหว่างที่เขายังหาคนไม่ได้ แกจะไปปะ”
“ไม่ไป! รอบนี้ถ้าโดนบังคับให้ไปเป็นเลขาเขาอีก ฉันจะลาออก!’
“เฮ้ย!” คนลองเลียบๆ เคียงๆ ถามดูตกใจเสียเอง ไม่คิดว่าเพื่อนจะโมโหใส่ “ถึงกับลาออกเลยเหรอยะ ก่อนหน้านี้แกก็ทำหน้าที่ได้ดีนี่ ฉันเห็นแกโดนเขาจิกใช้งานตั้งเยอะตั้งแยะแต่ก็ยังสู้ตาย”
“ตอนนั้นฉันเป็นเด็กใหม่ไฟแรงแล้วก็ไม่อยากโดนแม่เลี้ยงเยาะเย้ยว่าทำงานได้ไม่กี่เดือนก็โดนให้ออก ฉันเลยต้องพยายามสุดฤทธิ์ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ถึงลาออกฉันก็ทำงานได้ครบปีแล้ว ไปหางานที่อื่นก็ได้ ไม่ต้องทนโดนใครโขกสับแล้ว แล้วก็ไม่โง่ให้เขาโขกสับเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วด้วย! "
เมื่อเห็นเพื่อนเริ่มจะหงุดหงิดเป็นอย่างมาก มะลิเลยรีบคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการบอกความจริงว่า
“ใจเย็นๆ แก ไม่ต้องถึงขนาดลาออกหรอก เพราะคุณพาร์คเขาก็ไม่เอาแกแล้วเหมือนกัน นี่เขาได้เลขาคนใหม่แล้ว เป็นผู้ชาย จะเริ่มงานเดือนหน้านี่แหละ”
“ก็แล้วไป”
พูดจบวรีวาฏิกาก็เดินกลับไปทำงานต่อทันที
แต่ทว่าตลอดบ่ายนั้น...ยังไงเธอก็ยังอดไม่ได้ ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องที่โดนภควัตน์กระทำมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง จนยิ่งคิดทบทวนก็ยิ่งโมโห
นี่ที่ผ่านมาเธอทนโดนเขาชั่วร้ายใส่ขนาดนั้นได้ยังไงนะ นี่มันแรงงานทาสหรือจำเลยรักกันแน่!
***************
หลังจากเดินกะเผลกมาเป็นเดือนๆ กระดูกข้อเท้าที่ร้าวของวรีวาฏิกาก็เริ่มจะบรรเทา มาวันนี้เธอก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ค้ำช่วยพยุงอีกต่อไป ถึงแม้จะเคลื่อนไหวได้ไม่ดีเท่าปกติแต่ก็ถือว่าอาการของเธอนั้นดีขึ้นมากแล้ว เย็นวันนี้เธอจึงยอมรับนัดไปกินข้าวเย็นกับมะลิ ไมเคิล และสตีเฟนที่ร้านอาหารสุดฮิปที่ซ่อนตัวอยู่ย่านเก่าแก่อย่างเจริญกรุง
ประมาณหกโมงครึ่ง ไมเคิลผู้บอกว่าจะมาหาสองสาวถึงออฟฟิศก็แชตมาในกรุ๊ป ‘อยู่เพื่อกิน Live to Eat’ ว่าเขามาถึงแล้ว วรีวาฏิกาเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะเดินกะเผลกๆ ลงลิฟต์ไปยังชั้นล่างเพื่อไปอยู่คุยเป็นเพื่อนไมเคิลและมะลิก่อน ระหว่างที่ต้องรอให้สตีเฟนเลิกประชุมอันแสนยาวนานที่ลากมาตั้งแต่บ่ายยันค่ำ
พอลงมาถึงชั้นล่าง หญิงสาวก็โบกไม้โบกมือให้ไมเคิลที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ ก่อนจะเร่งเดินไปหา ถ้าไม่ชนเข้ากับแผ่นอกของชายคนหนึ่งที่อยู่ดีๆ ก็เดินมาขวางทางพอดิบพอดี! วรีวาฏิกาชนเขาเต็มแรงจนล้มลงไปกองกับพื้น ความปวดร้าวที่ข้อเท้าที่ยังไม่หายดีก็ปวดปรี๊ดขึ้นมาอีกรอบทำเอาคนเจ็บถึงกับน้ำตาไหลพรากกลางบริษัท เพราะรอบนี้มันเจ็บจนเธอทนไม่ไหว พอมองขึ้นไปสบตากับหนุ่มที่ชนเธอ หญิงสาวก็แทบชะงัก ก่อนจะรีบชิงเบือนหน้าหนีก่อนที่เขาจะเมินเธอเหมือนที่แล้วๆ มา
ถ้าเดาไม่ผิดอีกประเดี๋ยวภควัตน์ก็คงจะเดินผละจากไปอย่างไม่ไยดีอีกเช่นเคย วรีวาฏิกาเลยรีบใช้ท่อนแขนเช็ดน้ำตาลวกๆ หันใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาไปอีกทาง ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเสีย พร้อมกับตะโกนขอความช่วย เหลือจากไมเคิลที่กำลังรีบวิ่งเข้ามา
“ไมค์ช่วยพยุงวาหน่อยค่ะ กระดูกวาน่าจะร้าวอีกรอบแน่ๆ มันเจ็บจี๊ดเลย”
คนเจ็บพูดไปหยุดสะอื้นไป ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมแขนไปพาดไว้ที่บ่าของเพื่อนหนุ่ม แต่พอเขาพยายามพยุงเธอขึ้น วรีวาฏิกาก็ร้องโอ๊ยเสียงดังลั่น น้ำตาไหลลงมาอีกรอบเพราะรู้สึกจี๊ดขึ้นมาผ่านแนวกระดูก คนมาช่วยเลยตัดสินใจว่า
“เดี๋ยวผมอุ้มวาดีกว่า เจ็บขนาดนี้อาจจะหักก็ได้ วาเดินไม่ไหวหรอก ถ้าวากลัวตกก็กอดคอผมไว้นะครับ”
คนเจ็บได้แต่พยักหน้า แล้วเอื้อมมือไปกอดคอเขาไว้ตามคำแนะนำ แต่ไมเคิลยังไม่ทันออกแรงอุ้มเธอขึ้นมา จู่ๆ วรีวาฏิกาก็โดนอุ้มจากอีกด้านหนึ่งโดยฉับพลันจนเธอต้องปล่อยมือจากคอไมเคิลแทบไม่ทัน
พอหันไปมองว่าเป็นใครที่ดึงเธอออกมาได้อย่างไร้มารยาทขนาดนี้ วรีวาฏิกาก็แทบอ้าปากค้าง เพราะคนคนนั้นเป็นภควัตน์ที่ไม่พูดไม่จากับเธอมาเป็นเดือนๆ แล้ว แถมเขายังบอกกับเพื่อนสนิทอย่างไมเคิลที่ยังยืนงงด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อีกว่า
“ห้ามแตะ! เดี๋ยวฉันไปส่งวาที่โรงพยาบาลเอง”
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.พ. 2564, 16:49:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.พ. 2564, 16:49:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 341
<< บทที่ 18 -60% | บทที่ 19 -25% >> |